ลองมาแชร์กันครับ ตอบความเป็นจริงนะ เอาในระยะกี่ปีก็ได้เท่าที่ตัวเองนึกออก
1. รองเท้าสตรีท 30 คู่ คู่ละ 4,000บาท = 120,000บาท
ขยายความ: สองปีที่ผ่านมา รองเท้า NMD, NIKE Jordan, YZY, VANS ฮิตมาก เป็นช่วงขาขึ้นสตรีทแวร์ในประเทศไทย สำหรับผม ผมเสียดายเงินตรงนี้มากที่สุดเพราะเพิ่งมีสมองคิดได้ว่าฐานะตัวเองไม่คู่ควรกับการมีรองเท้าหลายๆคู่ และตัวรองเท้าเองยิ่งเก็บยิ่งเสื่อม ตัวที่ซื้อมาใช้เองก็หลายคู่ทำให้ขายต่อยากและไม่ได้ราคา ทั้งหมดนี้มันเกินความจำเป็น รองเท้าสตรีทเต็มที่มีสักสองสามคู่ก็เต็มที่แล้วครับ เพราะผมคิดได้ว่าถ้าเป็นคนรักรองเท้าจริงๆ แนะนำว่าควรเอาเงินไปลงทุนกับรองเท้าที่หลากหลายกว่าแค่รองเท้าสตรีท เช่น รองเท้าแตะดีๆ รองเท้าหนังดีๆไว้ใส่ไปสัมภาษณ์งานหรือไปงานแต่ง งานทางการต่างๆ รองเท้าออกกำลังกายดีๆ เป็นต้น
2. การพนันออนไลน์ในรูปแบบเกมส์ออนไลน์ 50,000บาท
ขยายความ: ปีกว่าๆครับ ติด Ragnarok Online / ROV บ้าเติมของในเกมส์จนมาสำนึกได้ว่า ยิ่งเติมยิ่งจน บริษัทยิ่งรวย แต่ตัวละครในเกมเองก็ไม่มีทางเก่งหรือชนะคนที่เค้าเติมหนักกว่าเรา (ในแร็คมีคน เติมเงินเป็นแสนจนถึงล้านเพื่อประมูลแย่งแรร์ไอเท็ม กันทุกสัปดาห์)
3. Playstation4 ในราคา 16,000บาท
ขยายความ: สองปีก่อน ผมซื้อมือหนึ่งมา เพราะเพื่อนชวน แต่เอาจริงๆได้เล่นน้อยมากครับ ตอนแรกตั้งใจจะซื้อมาเล่นเกม กลายเป็นว่าตอนนี้ PS4 เอาไว้แค่ดูเน็ตฟลิก ซึ่งปัจจุบันมองว่าเสียดายเงินมากเพราะผมก็มี device อันอื่นไว้ดูเนตฟลิกอยู่แล้ว และ TV ที่บ้านก็มี in-app ซัพพอร์ตอยู่แล้ว
4. เสียค่าจองบ้านเดี่ยวฟรีๆ 50,000 บาท
ขยายความ: สามปีก่อน เห่อครับ เพิ่งทำงานได้สองปี อยากมีบ้านเดี่ยวแถวนนทบุรีเพราะคิดว่าตัวเองมาจากเชียงใหม่ เข้ามาทำงานกรุงเทพ ก็อยากมีบ้านอยู่ ไม่อยากเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่แล้ว ไปดูบ้านเดี่ยวโครงการนึง ชอบมาก หน้ามืดเซ็นจองซื้อบ้านครับ ปรากฎว่าแม่รู้ แฟนรู้ ได้มานั่งคุยกันก็ได้ข้อสรุปว่ามันเสี่ยงไป เพราะนอกจากเดินทางลำบาก เรายังไม่มีรถยนต์ (ซึ่งถ้ามีรถยนต์มันก็จะมีค่าใช้จ่ายอีกบานตามมาอีก) แถมทำเลนี่ไม่ได้จะมีพวกขนส่งมวลชนใกล้ๆในระยะห้ากิโลเมตรรัศมีเลย ด้วยราคาบ้านเกือบห้าล้านบาท สุดท้ายปรึกษากันว่าจะไปยกเลิกการจอง ปรากฎว่าทางโครงการไม่ยินยอม ก็เลยคอตกเสียเงินค่าจองไปฟรีๆครับ (ยอมรับว่าทั้งเด็กมาก และโง่มากในตอนนั้น)
อันนี้คือหลักของๆผมเท่าที่นึกออกกับการสูญเงินไปอย่างฟรีๆ รวมแล้วก็ 236,000 บาท!!!! (และยังมีการใช้จ่ายจุกจิกที่ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไร สะสมไว้ในบ้าน เป็นต้น)
ถามว่าได้วิเคราะห์ตัวเองว่าเราเสียเงินไปกับอะไรมากสุด ในสี่ข้อนี้มีจุดร่วมเหมือนกันอย่างนึงนั่นก็คือ...อารมณ์ครับ อารมณ์ล้วนๆ ที่เราไม่ได้คิดให้ละเอียดหรือกล้าหักห้ามใจ หรือไปปรึกษาคนอื่นก่อน
เห้อ..เสียดายเงินจริงๆครับ
มาแชร์กันครับว่าในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปี คุณเสียเงินไปกับอะไรที่มาคิดได้ตอนนี้แล้วรู้สึกว่า ไร้สาระจังว่ะ ไม่น่าเสียเงินตรงนี้ไปเลย
ป.ล. ถ้าดอยหุ้น ผมก็มีเหมือนกันนะครับ 555+
มนุษย์เงินเดือนจ๋า...สิ่งของอะไรที่เคยเผลอจ่ายเงินซื้อมาด้วยอารมณ์ แล้วตอนนี้มานั่งเสียใจว่าไม่น่าซื้อมาเลย
1. รองเท้าสตรีท 30 คู่ คู่ละ 4,000บาท = 120,000บาท
ขยายความ: สองปีที่ผ่านมา รองเท้า NMD, NIKE Jordan, YZY, VANS ฮิตมาก เป็นช่วงขาขึ้นสตรีทแวร์ในประเทศไทย สำหรับผม ผมเสียดายเงินตรงนี้มากที่สุดเพราะเพิ่งมีสมองคิดได้ว่าฐานะตัวเองไม่คู่ควรกับการมีรองเท้าหลายๆคู่ และตัวรองเท้าเองยิ่งเก็บยิ่งเสื่อม ตัวที่ซื้อมาใช้เองก็หลายคู่ทำให้ขายต่อยากและไม่ได้ราคา ทั้งหมดนี้มันเกินความจำเป็น รองเท้าสตรีทเต็มที่มีสักสองสามคู่ก็เต็มที่แล้วครับ เพราะผมคิดได้ว่าถ้าเป็นคนรักรองเท้าจริงๆ แนะนำว่าควรเอาเงินไปลงทุนกับรองเท้าที่หลากหลายกว่าแค่รองเท้าสตรีท เช่น รองเท้าแตะดีๆ รองเท้าหนังดีๆไว้ใส่ไปสัมภาษณ์งานหรือไปงานแต่ง งานทางการต่างๆ รองเท้าออกกำลังกายดีๆ เป็นต้น
2. การพนันออนไลน์ในรูปแบบเกมส์ออนไลน์ 50,000บาท
ขยายความ: ปีกว่าๆครับ ติด Ragnarok Online / ROV บ้าเติมของในเกมส์จนมาสำนึกได้ว่า ยิ่งเติมยิ่งจน บริษัทยิ่งรวย แต่ตัวละครในเกมเองก็ไม่มีทางเก่งหรือชนะคนที่เค้าเติมหนักกว่าเรา (ในแร็คมีคน เติมเงินเป็นแสนจนถึงล้านเพื่อประมูลแย่งแรร์ไอเท็ม กันทุกสัปดาห์)
3. Playstation4 ในราคา 16,000บาท
ขยายความ: สองปีก่อน ผมซื้อมือหนึ่งมา เพราะเพื่อนชวน แต่เอาจริงๆได้เล่นน้อยมากครับ ตอนแรกตั้งใจจะซื้อมาเล่นเกม กลายเป็นว่าตอนนี้ PS4 เอาไว้แค่ดูเน็ตฟลิก ซึ่งปัจจุบันมองว่าเสียดายเงินมากเพราะผมก็มี device อันอื่นไว้ดูเนตฟลิกอยู่แล้ว และ TV ที่บ้านก็มี in-app ซัพพอร์ตอยู่แล้ว
4. เสียค่าจองบ้านเดี่ยวฟรีๆ 50,000 บาท
ขยายความ: สามปีก่อน เห่อครับ เพิ่งทำงานได้สองปี อยากมีบ้านเดี่ยวแถวนนทบุรีเพราะคิดว่าตัวเองมาจากเชียงใหม่ เข้ามาทำงานกรุงเทพ ก็อยากมีบ้านอยู่ ไม่อยากเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่แล้ว ไปดูบ้านเดี่ยวโครงการนึง ชอบมาก หน้ามืดเซ็นจองซื้อบ้านครับ ปรากฎว่าแม่รู้ แฟนรู้ ได้มานั่งคุยกันก็ได้ข้อสรุปว่ามันเสี่ยงไป เพราะนอกจากเดินทางลำบาก เรายังไม่มีรถยนต์ (ซึ่งถ้ามีรถยนต์มันก็จะมีค่าใช้จ่ายอีกบานตามมาอีก) แถมทำเลนี่ไม่ได้จะมีพวกขนส่งมวลชนใกล้ๆในระยะห้ากิโลเมตรรัศมีเลย ด้วยราคาบ้านเกือบห้าล้านบาท สุดท้ายปรึกษากันว่าจะไปยกเลิกการจอง ปรากฎว่าทางโครงการไม่ยินยอม ก็เลยคอตกเสียเงินค่าจองไปฟรีๆครับ (ยอมรับว่าทั้งเด็กมาก และโง่มากในตอนนั้น)
อันนี้คือหลักของๆผมเท่าที่นึกออกกับการสูญเงินไปอย่างฟรีๆ รวมแล้วก็ 236,000 บาท!!!! (และยังมีการใช้จ่ายจุกจิกที่ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไร สะสมไว้ในบ้าน เป็นต้น)
ถามว่าได้วิเคราะห์ตัวเองว่าเราเสียเงินไปกับอะไรมากสุด ในสี่ข้อนี้มีจุดร่วมเหมือนกันอย่างนึงนั่นก็คือ...อารมณ์ครับ อารมณ์ล้วนๆ ที่เราไม่ได้คิดให้ละเอียดหรือกล้าหักห้ามใจ หรือไปปรึกษาคนอื่นก่อน
เห้อ..เสียดายเงินจริงๆครับ
มาแชร์กันครับว่าในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปี คุณเสียเงินไปกับอะไรที่มาคิดได้ตอนนี้แล้วรู้สึกว่า ไร้สาระจังว่ะ ไม่น่าเสียเงินตรงนี้ไปเลย
ป.ล. ถ้าดอยหุ้น ผมก็มีเหมือนกันนะครับ 555+