Yesterday (Danny Boyle, 2019) คะแนน B (8/10)
"ถ้าโลกมีผมคนเดียวที่รู้จักเดอะบีเทิลส์" สิ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือพล็อตเรื่อง ชีวิตนักดนตรีตกอับกับผู้จัดการสาวน่ารัก ความตกอับของอาชีพดนตรีฉายภาพชัดเจนจนกระทั่งวันหนึ่ง นักดนตรีผู้นี้ได้ประสบอุบัติเหตุ เมื่อเขาตื่นมาในเช้าวันใหม่กลับพบว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่จำเนื้อร้องทำนองเพลงของดอะบีเทิลส์วงดนตรีป๊อประดับตำนาน การสวมรอยและปล่อยผลงานเพลงของเดอะบีเทิลส์ในโลกที่ไม่มีใครรูจักเดอะบีเทิลส์จึงเกิดขึ้น ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลกจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ชีวิตจากไม่มีงานกลายเป็นศิลปินอัจฉริยะสังกัดค่ายเพลงและเตรียมปล่อยอัลบั้ม แน่นอนว่า ความโด่งดังและชื่อเสียงย่อมแลกมาด้วยความสัมพันธ์ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้ แต่ประเด็นที่แทรกอยู่ระหว่างความดราม่าผสมคอมเมดี้คือ คำถามต่อการเป็นศิลปินผู้โด่งดังกับความสุขของชีวิต ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายที่คนเรามักจะตอบว่าขอเลือกเส้นทางความสุขในชีวิต แต่ใครจะรู้ว่าตอนที่เรามีโอกาสโด่งดัง เราจะไม่ดื่มยาพิษเพื่อแลกกับชื่อเสียง?
งานกำกับของ แดนนี บอยล์ และบทภาพยนตร์ทำได้ค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับดีที่สุดจนซึ้งกินใจ ถ้าใครเป็นแฟนคลับหรือเกิดมาในยุคเดอะบีเทิลส์คงจะอินกับไดอะล็อกต่าง ๆ ได้ไม่น้อย และน่าจะได้เห็นมุมมองที่ตัวผู้กำกับและคนเขียนบทต้องการสื่อสารถึงสภาวการณ์ของความเป็นคนดังและอิสรภาพในการใช้ชีวิต จนไปถึงการมีชีวิตอยู่เพื่อได้ใช้ชีวิต สำคัญคือตัวหนังเคารพผลงานเพลงของเดอะบีเทิลส์มาก ๆ เพลงของเดอะบีเทิลส์หลาย ๆ เพลงถูกพูดถึงและหยิบมานำเสนอให้คนยุคใหม่ได้สัมผัสซึมซับกับเนื้อร้องและที่มาที่ไปของแต่ละเพลงเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ความสำเร็จคือเราดูหนังจบก็ต้องกลับมาเปิดเพลงฟังต่อ ช่วงเวลาหนึ่งของหนังจึงเป็นการพาคนดูไปย้อนรอยสถานที่ในอดีตเพื่อพาตัวละครเข้าใจที่มาที่ไปของเนื้อเพลงเหล่านั้น และตัวหนังยังมีสิ่งเซอร์ไพรส์ไว้เอาใจแฟนคลับเดอะบีเทิลส์ซึ่งเป็นจุดที่ไม่คาดคิดว่าหนังจะเลือกประเด็นนี้มาเซอร์ไพรส์แบบนี้
นักแสดงนำ ฮิเมช เพเทล สามารถแสดงให้เรารู้สึกเอ็นดูตัวละครและไม่รู้สึกว่าตัวละครกำลังเอาเปรียบขโมยผลงานคนอื่นอยู่ เพราะตลอดเวลาของหนังตัวละครค่อนข้างสำนึกผิดในสิ่งที่ทำพอสมควรและพยายามแก้ไขเรื่องราวในเมื่อวานอยู่ตลอดเวลา ทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วย หนังจึงพาโทนเรื่องไปในทิศทางที่ดีและไม่เลวร้ายให้คนดูต้องจิตตกเพราะตัวละครไม่ได้คิดเพลงขึ้นมาเองและต้องรับผลกรรมเลวร้ายอะไรทำนองนั้น ส่วน ลิลี่ เจมส์ เป็นนักแสดงสาวที่มีเสน่ห์มาก ๆ อยู่แล้วทำให้ตัวละครไม่มีปัญหาอะไรและรอยยิ้มของเธอก็ทำให้เราหลงรักและอยากให้เธอสมหวัง นักแสดงสมทบนักร้องดัง เอ็ด ชีแรน ก็มาสร้างสีสันให้หนังได้ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวหนังเองจะมีความอารมณ์ดีตลอดทั้งเรื่อง แต่ความอารมณ์ดีของหนังจนเกินไปทำให้เนื้อหาในเรื่องไม่เข้มข้น และหนังก็เลือกแนวทางในมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างทางเลือกที่คน ๆ หนึ่งต้องตัดสินใจ มุมหนึ่งหนังก็เล่นง่ายเกินไปและนำเสนอทุกสิ่งอย่างง่ายจนเป็นสูตรสำเร็จที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำหรือมีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ จนทำให้ตัวหนังเองเป็นงานที่ไม่มีอะไรเด่นชัด แต่ข้อคิดต่าง ๆ ในคอนเซ็ปต์ของ 'วันนี้' และ 'เมื่อวาน' ผสนเพลงเดอะบีเทิลส์ก็เพียงพอที่จะทำให้เรารู้สึกชอบและรู้สึกดีได้พอสมควร...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Yesterday (Danny Boyle, 2019) รีวิวโดย MDC
"ถ้าโลกมีผมคนเดียวที่รู้จักเดอะบีเทิลส์" สิ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือพล็อตเรื่อง ชีวิตนักดนตรีตกอับกับผู้จัดการสาวน่ารัก ความตกอับของอาชีพดนตรีฉายภาพชัดเจนจนกระทั่งวันหนึ่ง นักดนตรีผู้นี้ได้ประสบอุบัติเหตุ เมื่อเขาตื่นมาในเช้าวันใหม่กลับพบว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่จำเนื้อร้องทำนองเพลงของดอะบีเทิลส์วงดนตรีป๊อประดับตำนาน การสวมรอยและปล่อยผลงานเพลงของเดอะบีเทิลส์ในโลกที่ไม่มีใครรูจักเดอะบีเทิลส์จึงเกิดขึ้น ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลกจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ชีวิตจากไม่มีงานกลายเป็นศิลปินอัจฉริยะสังกัดค่ายเพลงและเตรียมปล่อยอัลบั้ม แน่นอนว่า ความโด่งดังและชื่อเสียงย่อมแลกมาด้วยความสัมพันธ์ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้ แต่ประเด็นที่แทรกอยู่ระหว่างความดราม่าผสมคอมเมดี้คือ คำถามต่อการเป็นศิลปินผู้โด่งดังกับความสุขของชีวิต ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายที่คนเรามักจะตอบว่าขอเลือกเส้นทางความสุขในชีวิต แต่ใครจะรู้ว่าตอนที่เรามีโอกาสโด่งดัง เราจะไม่ดื่มยาพิษเพื่อแลกกับชื่อเสียง?
งานกำกับของ แดนนี บอยล์ และบทภาพยนตร์ทำได้ค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับดีที่สุดจนซึ้งกินใจ ถ้าใครเป็นแฟนคลับหรือเกิดมาในยุคเดอะบีเทิลส์คงจะอินกับไดอะล็อกต่าง ๆ ได้ไม่น้อย และน่าจะได้เห็นมุมมองที่ตัวผู้กำกับและคนเขียนบทต้องการสื่อสารถึงสภาวการณ์ของความเป็นคนดังและอิสรภาพในการใช้ชีวิต จนไปถึงการมีชีวิตอยู่เพื่อได้ใช้ชีวิต สำคัญคือตัวหนังเคารพผลงานเพลงของเดอะบีเทิลส์มาก ๆ เพลงของเดอะบีเทิลส์หลาย ๆ เพลงถูกพูดถึงและหยิบมานำเสนอให้คนยุคใหม่ได้สัมผัสซึมซับกับเนื้อร้องและที่มาที่ไปของแต่ละเพลงเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ความสำเร็จคือเราดูหนังจบก็ต้องกลับมาเปิดเพลงฟังต่อ ช่วงเวลาหนึ่งของหนังจึงเป็นการพาคนดูไปย้อนรอยสถานที่ในอดีตเพื่อพาตัวละครเข้าใจที่มาที่ไปของเนื้อเพลงเหล่านั้น และตัวหนังยังมีสิ่งเซอร์ไพรส์ไว้เอาใจแฟนคลับเดอะบีเทิลส์ซึ่งเป็นจุดที่ไม่คาดคิดว่าหนังจะเลือกประเด็นนี้มาเซอร์ไพรส์แบบนี้
นักแสดงนำ ฮิเมช เพเทล สามารถแสดงให้เรารู้สึกเอ็นดูตัวละครและไม่รู้สึกว่าตัวละครกำลังเอาเปรียบขโมยผลงานคนอื่นอยู่ เพราะตลอดเวลาของหนังตัวละครค่อนข้างสำนึกผิดในสิ่งที่ทำพอสมควรและพยายามแก้ไขเรื่องราวในเมื่อวานอยู่ตลอดเวลา ทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วย หนังจึงพาโทนเรื่องไปในทิศทางที่ดีและไม่เลวร้ายให้คนดูต้องจิตตกเพราะตัวละครไม่ได้คิดเพลงขึ้นมาเองและต้องรับผลกรรมเลวร้ายอะไรทำนองนั้น ส่วน ลิลี่ เจมส์ เป็นนักแสดงสาวที่มีเสน่ห์มาก ๆ อยู่แล้วทำให้ตัวละครไม่มีปัญหาอะไรและรอยยิ้มของเธอก็ทำให้เราหลงรักและอยากให้เธอสมหวัง นักแสดงสมทบนักร้องดัง เอ็ด ชีแรน ก็มาสร้างสีสันให้หนังได้ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวหนังเองจะมีความอารมณ์ดีตลอดทั้งเรื่อง แต่ความอารมณ์ดีของหนังจนเกินไปทำให้เนื้อหาในเรื่องไม่เข้มข้น และหนังก็เลือกแนวทางในมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างทางเลือกที่คน ๆ หนึ่งต้องตัดสินใจ มุมหนึ่งหนังก็เล่นง่ายเกินไปและนำเสนอทุกสิ่งอย่างง่ายจนเป็นสูตรสำเร็จที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำหรือมีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ จนทำให้ตัวหนังเองเป็นงานที่ไม่มีอะไรเด่นชัด แต่ข้อคิดต่าง ๆ ในคอนเซ็ปต์ของ 'วันนี้' และ 'เมื่อวาน' ผสนเพลงเดอะบีเทิลส์ก็เพียงพอที่จะทำให้เรารู้สึกชอบและรู้สึกดีได้พอสมควร...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/