ทริปเที่ยวอุตรดิตถ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเพราะความ ‘หลง’ ลับแล ใช่แล้วค่ะ เรากับเพื่อนอยากไปกินหลงลับแลกัน แต่กว่าจะรวมตัวกันได้ก็ปาเข้าไปท้ายฤดูของทุเรียนอุตรดิตถ์แล้ว คุยกันคืนวันศุกร์ วันเสาร์ขับรถไปกันเลย ไม่ได้จอง ไม่ได้แพลนอะไรทั้งนั้น เป้าหมายหลักคือ
ไปกินทุเรียน ต้องได้กินทุเรียนทุกวัน!
ปีนี้เราตัวคนเดียวกินซื้อทุเรียนมากินก็น่าจะเกือบ 100 โลแล้วมั้งนี่ กินเยอะจนมีเพื่อนเรียกว่า
‘เจ้าหญิงแห่งวงการทุเรียน’ รีวิวเกี่ยวกับความคลั่งไคล้ในทุเรียนของเราเดี๋ยวว่าง ๆ จะเขียนออกมาเป็นรีวิวให้อ่านกันจนได้กลิ่นทุเรียนเลย
มาดูกันดีกว่าว่าทริป
หลง(รัก)ลับแล หลง(รัก)อุตรดิตถ์ นี้เราได้ไปที่ไหนกันมาบ้าง
วันแรก
แวะเพิ่มพลังด้วยเครื่องดื่มที่ Fresh Me สาขางามวงศ์วาน เป็นร้านเครื่องดื่มที่เปิดเช้ามาก มีท้อปปิ้งแปลก ๆ เช่น มุกลาเวนเดอร์ มุกมิ้นท์ วันนี้เราสั่งดาร์กช็อกโกแลตเข้ม ๆ มาคู่กับไข่มุกมิ้นท์
กินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ก๋วยเตี๋ยวเรือเสือร้องไห้ ไม่คิดว่าน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือจะเข้มข้นได้ขนาดนี้ เนื้อชิ้นโต คุ้มค่ามาก
แวะรายทางจนถึงอุตรดิตถ์ตอนเย็นแวะเม้ามอยหอยกาบกับมิตรสหายที่อุตรดิตถ์ พร้อมจกทุเรียนหมอนทองอุตรดิตถ์ที่เค้าว่าเด็ด ไม่เหมือนที่อื่น…ไม่เหมือนจริงด้วย และไปต่อด้วยทุเรียนหลงลับแลอันเลื่องชื่อที่ตลาดหัวรถจักร เหมือนกับพรหมลิขิตร้านที่มีคนแนะนำวันนี้ไม่เปิดทั้งสองร้าน เราเลยได้มาซื้อที่ร้านลุงกับป้าซึ่งเราเคยซื้อที่นี่เมื่อสักสองสามปีก่อนที่เคยกินทุเรียนหลงลับแลครั้งแรกที่นี่ ตอนนั้นรสชาติทุเรียนดีมาก ซื้อแล้วแกะกินท่ามกลางกลิ่นหอมอวลภายในร้าน แต่พอมาปีนี้ดูท่าลุงกับป้าจะรีบขายไปหน่อยทุเรียนยังไม่ทันสุกดีก็รีบแกะขาย รสชาติเลยด้อยลงไปเยอะเลย แต่พวกเราด้วยความอยากกินอยู่เป็นทุนเดิมเลยจัดไปสองลูก (ทั้ง ๆ ที่ทุเรียนยังไม่สุกดีเลย T_T)
หัวค่ำแวะเข้าที่พัก และออกไปเดินตรงถนนวันวาน (ซึ่งวันวานคงเคยคึกคัก) แล้วเดินไปพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล ที่ดูลึกลับสมชื่อแถมไม่มีคนเดินขึ้นไปบนเรือนเลยนอกจากพวกเราสองคน ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน การแต่งกาย และประวัติเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะกับการเป็นจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยวเมืองอุตรดิตถ์ แต่บางมุมมันชวนขนลุกยังไงก็ไม่รู้ ไม่กล้าถ่ายรูปมาเลย ลองไปชมกันดูนะคะ ถ้ากลัวว่าจะหลอนเกินไป ไปชมกันตอนกลางวันก็ได้ เปิดให้เข้าชมเหมือนกันค่ะ
กว่าจะดูพิพิธภัณฑ์เมืองลับแลจบ ก็ได้เวลาดึก (ของต่างจังหวัด) แล้ว ร้านที่เล็งไว้ว่าจะไปกินคงไม่ทัน เลยแวะซื้อไส้กรอกวุ้นเส้นย่างหน้าซุ้มเมืองลับแล ตลาดแถวศึกษาภัณฑ์
และปิดท้ายด้วยกันการกินผัดไทยหน้าห้างฟรายเดย์ เส้นเล็กหนุบหนับสู้ฟันดีมาก
หลง(รัก)ลับแล หลง(รัก)อุตรดิตถ์
ปีนี้เราตัวคนเดียวกินซื้อทุเรียนมากินก็น่าจะเกือบ 100 โลแล้วมั้งนี่ กินเยอะจนมีเพื่อนเรียกว่า ‘เจ้าหญิงแห่งวงการทุเรียน’ รีวิวเกี่ยวกับความคลั่งไคล้ในทุเรียนของเราเดี๋ยวว่าง ๆ จะเขียนออกมาเป็นรีวิวให้อ่านกันจนได้กลิ่นทุเรียนเลย
มาดูกันดีกว่าว่าทริป หลง(รัก)ลับแล หลง(รัก)อุตรดิตถ์ นี้เราได้ไปที่ไหนกันมาบ้าง