สวัสดีครับ ชาว Pantip ทุกท่านครับ

เริ่มแรกจากผมไปเห็นรูป แคนย่อน นึงซึ่งสวยมากๆ เลยลองค้นหาดู ก็พบว่าอยู่ที่ประเทศแห่งนี้ครับ

"คาซัคสถาน"

ประเทศนี้ไม่มีพื้นที่ติดทะเลเลย หรือเรียกว่าประเทศ Land Lock ที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วยครับ
มีประชากรแค่ประมาณ 18.5 ล้านคน แต่เป็นประเทศแห่งนี้มีขนาดใหญ่อันดับ 9 ของโลกครับ
ผมจะพาไปชมความงดงามของประเทศนี้กันครับ

**กระทู้นี้ภาพถ่ายทั้งหมดจะมาจาก Sony A7Rii / FE1635 / FE2470 / FE70200F4 และโดรน เป็นหลักนะครับ
และมีรูปจากมือถือประปรายครับ**

1. การเดินทาง

ผมเลือกเดินทางด้วยสายการบิน Air Astana เป็นสายการบินแห่งชาติของ คาซัคสถาน ครับ บินตรงไปเมืองอัลมาตี้
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6.5 ชั่วโมง เอาจริงๆ มาถึงก่อนเวลาตามตารางบินเกือบ 40 นาทีได้ครับ 
ปล. ผมชอบพรีเซนแนะนำความปลอดภัยบนเครื่องบินของสายการบินมากๆครับ มันดูครีเอทดี

สำหรับการเดินทางในประเทศ รอบนี้ใช้ Land Cruiser prado ตลอดทริปเลยครับ 
เพราะต้องลุยในหลายๆสถานที่ นี่ต้องขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้

การเดินทางที่นี่ถ้ามาเองยากมากๆครับ

ถนนแทบไม่มีป้ายที่เป็นภาษาอังกฤษเลย และหลายๆสถานที่ คือไม่มีป้ายบอก 

ใช้ความชำนานของคนขับรถทางนี้เท่านั้นเลย

2. อาหารการกิน

ส่วนตัวผมชอบอาหารที่นี่ครับ รถชาติกำลังดี ผมได้กินเนื้อม้าที่นี่ ทำมาอร่อยมากครับ

เนื่องจากที่นี่ติดกับจีนทาง ซินเจียง ทำให้ได้รับอิทธิพลจากอาหารจีนด้วยครับ

ทำให้มีอาหารที่หลากหลาย ทั้งอาหารลักษณะแบบอาหารจีน รวมถึงอาหารคาซัคสถานท้องถิ่น

และยังมีบาร์บีคิวที่หลากหลายมากๆ ทั้งเนื้อแพะ แกะ วัว หมู ไก่ ก็กินบาร์บีคิวกันเพลินตลอดทริปเลยฮะ

3. คนคาซัคสถาน

คนที่นี่ ค่อนข้างมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากๆครับ มีทั้งเชื้อชาติรัสเซีย จีน และคาซัคสถาน

ประเทศนี้นับถือศาสนาอิสลามครับ ร้อยละ 75 ของคนที่นี่คือชาวมุสลิม แต่หน้าตาจะดูไม่เหมือนทางตะวันออกกลางนะครับ

ที่นี่ คนพูดภาษาอังกฤษได้ น้อยมากๆครับ จะมีแต่นักศึกษา (ซึ่งก็แค่บางส่วน) ที่พอพูดได้ครับ
อย่างน้องๆในรูป มีพูดภาษาอังกฤษได้คนเดียวเองครับ
สำหรับภาษาท้องถิ่นของเค้าจะเป็น ภาษารัสเซีย และภาษาคาซัคสถานครับ

4. ที่พัก

สถานที่พักในเมืองเป็นโรงแรมดีๆเลยครับ ผมว่าระดับ 3.5 - 4.5 ดาวเลย กว้างใหญ่ หลับสบาย (จนไม่อยากตื่นนนนเลยยย)

ส่วนนอกเมืองเป็นเกสท์เฮ้า สะอาดสะอ้าน มีห้องน้ำในตัว 

แต่จะมีบางคืนที่ผมได้เปิดประสบการณ์ใหม่ นอนเต๊นท์ และนอนกระโจมแบบมองโกลครับ ในกระโจมอุ่นแบบไม่น่าเชื่อเลยฮะ

ตอนนี้แนะนำข้อมูลพื้นฐานของประเทศนี้ไปพอสมควรนะครับ ต่อไปจะเป็นรูปสถานที่เที่ยวรัวๆแล้วน้าา

Kok Tobe Hill

"โก้กโตเบ" เป็นสวนสนุกที่อยู่บนเขาที่สูงที่สุดของเมืองอัลมาตี้ครับ

ผมขึ้นเคเบิลคาร์ขึ้นมาเพื่อมารอพระอาทิตย์ตกที่นี่ครับ ที่นี่มีคนมาเที่ยวเยอะมากก

ทั้งเล่นเครื่องเล่นต่างๆมากมายฮะ และมีหลายๆคนมากินอาหารที่ภัตรคารบนเขาแห่งนี้ด้วย

เย็นนั้นเป็นฟ้าที่สวยที่สุดของตลอดทริปแล้ว

อยากได้ฟ้าสีนี้ในทุกๆวันจัง

Big Almaty Lake

เช้าวันต่อมาเดินทางมาที่ บิ้กอัลมาตี้เลค ครับ เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ไม่ไกลจากกรุงอัลมาตี้

ตลอดข้างทาง จะเป็นถนนที่มีต้นไม้เต็มไปหมด โดยเค้าว่ากันว่า สมัยก่อน

ด้วยความที่บริเวณนี้แห้งแล้ง ไม่มีพื้นที่สีเขียวมากนัก

รัฐบาลจึงมีนโยบายว่า ถ้าใครจะแต่งงานกัน ต้องปลูกต้นไม้จำนวน 10 ต้นก่อน ถึงจะอนุญาตให้แต่งงานได้

เมืองแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยสีเขียวครับ

หลังจากชมทะเลสาบแล้ว ได้เวลา Hiking สู่ยอด บิ้กอัลมาตี้ พีค

เป็นการเดินจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2500 เมตร ไปจบที่ 3500 เมตรครับ

แน่นอนครับ เดินไม่ไหว จอดที่ 2850 เมตร ตรงที่เค้าตั้งแคมป์กัน 

เห็นแดดแรงแบบนี้ หลังจากนี้ 4 วันอากาศแปรปรวน บริเวณที่ผมนั่งตรงนี้ หิมะท่วมเลยครับ

หิมะตกในหน้าร้อน คือ อเมซิ่งมากๆ

The singing sand dune

เนินทรายแห่งนี้อยู่ในอุทยาน Alntyn Emel เป็นเนินทรายขนาดใหญ่ สูงประมาณ 150 เมตรครับ

ซึ่งจะสูงขึ้นทุกๆ 2 ปี ประมาณ 1 - 2 เซนติเมตร ฮะ

มีประมาณ 3 กองทรายขนาดใหญ่ เสียดายที่ผมไปถึงช้าไปนิดหน่อย ทำให้ปีนได้ไม่ทั่วเลยครับ

(จริงๆ คือการเดินขึ้นยอดกองทรายกินพลังงานมากครับ ถึงมีเวลาก็คงปีนต่อไม่ไหว 555)

ที่เรียกว่า Singing Dune เพราะว่า เมื่อเราไถลตัวลงมา จะเกิดเสียงเสียดสีของเม็ดทราย

ทำให้เหมือนเนินทรายแห่งนี้ร้องเพลงได้ครับ 

Lava Rock: Katutau HIlls

หินสีแดง ทรงแปลกประหลาดมีมากมายที่นี่ครับ

ผมใช้เวลาเดินอยู่ที่นี่มากกว่า 2 ชม. ท่ามกลางอากาศร้อน

สถานที่นี่ เราแวะก่อนเดินทางไปอีก 1 ไฮไลท์ของทริปนี้ครับ

Aktau Mountains

ภูเขาหลากสี เป็นอีกสถานที่นึงที่ผมอยากมาชมมากๆครับ เนื่องด้วยบริเวณนี้ติดกับจีน
ทำให้มีลักษณะภูเขาที่คล้าย กับภูเขาสีรุ้งจางเย่ อยู่ด้วย

ผมใช้เวลาแคมป์ปิ้งที่นี่ เพื่อรอเก็บแสงเย็น และแสงเช้า

ที่นี่ผมเจอชาวคาซัค ที่เป็นคนจีนอุยกูร์ คือแค่ผมขึ้นไปประมาณไม่ถึงกลางเขา ก็ชัน และไต่ขึ้นไปยากมากแล้ว 

แต่คนจีนกลุ่มนี้ ปีนขึ้นยอดเขาด้วยมือเปล่า และปีนเร็วมาก ผมได้แต่ทึ่ง ว่าทำได้ยังงัย

ถ้าขึ้นไปบนยอดได้ จะได้มุมถ่ายภาพที่สวยมากครับ (ผมเคยเห็นจากช่างภาพท้องถิ่นที่ถ่ายมา) มันสวยมากๆเลย

 

Moon Canyon

ธรรมชาติสุดแสนยิ่งใหญ่ เราตัวเล็กไปเลยครับ ผมชอบความดิบและสวยของสถานที่นี้มากๆ

เป็นสถานที่ ที่เราแวะก่อนเดินทางไป เชอรีนแคนย่อน นางเอกของทริปนี้ครับ

Charyn Canyon

เป้าหมายหลักที่ทำให้ผมเดินทางมายังประเทศแห่งนี้ครับ คือมันสวย สวยจริงๆ 

ผมนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ จนพระจันทร์เต็มดวง

หลังจากนั้น เดินลงไป เพื่อพักที่กระโจม ใจกลางแคนย่อนแห่งนี้ครับ

ระหว่างทางมาแคนย่อนแห่งนี้ ก็มีจุดให้แวะถ่ายรูปตลอดทางครับ