สวัสดีค่ะทุกคนนนนนน 🙏🏻🙏🏻

Yingbest เม้าส์มอย เองนะคะ

วันนี้จะมาเม้าส์มอยถึง เซรั่มบำรุงผิวหน้า 3ตัวดัง เป็นตัวดังที่หลายคนกำลังวอแว เลือกไม่ถูก ว่าจะเลือกใช้ตัวไหนดี กับเซรั่มที่ช่วยในเรื่อง Anti Aging ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยต่างๆ

ซึ่งสภาพผิวของเบสท์เป็นคนที่ผิวหน้าค่อนข้างแห้ง มีริ้วรอยร่องแก้ม หางตา ใต้ตา ซึ่งความแห้งก็เป็นบ่อเกิดที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย เบสท์จึงได้ลองเซรั่ม กลุ่มนี้อยู่หลายตัวเหมือนกันค่ะ

วันนี้เบสท์ก็หยิบมาด้วยกัน 3 ตัวดัง มาทำการเปรียบเทียบ ว่าตัวไหนดีตัวไหนเด็ด เผื่อใครที่กำลังลังเล เลือกซื้อไม่ถูก ลองอ่านให้จบนะคะ เผื่อว่าจะช่วยในการตัดสินใจได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ


**เบสท์จะรีวิวตามความรู้สึกจริงที่อยากจะมาบอกกล่าวให้ทุกคนได้รับทราบนะคะ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ กระทู้นี้ไม่มีสปอนเซอร์ใดใดนะจ๊ะ**

**เบสท์ทำคลิปใว้ด้วยนะคะ หรือใครไม่สะดวกดูเบสท์ก็เขียนใว้ให้อ่านกันอย่างละเอียดเลยค่ะ ขออภัยหากรูปไม่ค่อยชัดนะคะเบสท์แคปมาจากวิดิโออีกทีนึงอ่ะจ้า**
https://youtu.be/WTgtJwUOjrc

เซรั่มตัวแรก คือตัวนี้เลย 

1. ESTEE LAUDER Advanced Night Repair (ANR) 50ml (ราคา 3,390บาท)

เนื้อผลิตภัณฑ์

เนื้อเซรั่มเขาดีมาก เขาไม่เหนียวเหนอะหนะเลย พาทาปุ๊ปก็จะซึมทันทีเพราะเนื้อเขาเป็นแบบนี้


เนื้อเซรั่มเหลวๆ ใสๆ ก็ใช้ไม่ต้องเยอะใช้แค่1จุ๊บ แล้วก็ทาทั่วหน้า มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เบสใช้เฉพาะตอนกลางคืน เพราะเขาจะช่วยฟื้นฟุผิวเราตอนกลางคนได้ดีค่ะ

ผลลัพธ์ที่ได้

ใช้แล้วคือดีเลย ใครที่ลองใช้ครั้งแรก จะรู้สึกว้าววววมากกกกก พอตื่นเช้ามาผิวจะนุ่มขึ้น ผิวฟูอิ่มน้ำขึ้น ผิวเปร่งปรั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย แต่คือพอใช้ไปเรื่อยๆแล้วผิวเราจะแน่น กระชับขึ้น ผิวจะดูไม่โทรม ตัวนี้เหมือนเขาทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและทำให้เกิดริ้วรอยช้าลงด้วย

ขอนอกเรื่องนิดนะคะ อยากเล่าถึงสาเหตุที่ชอบซักหน่อยค่ะ

สาเหตุที่ชอบมากๆเลยเพราะมีอยู่ช่วงนึง ขวดเก่าหมด เบสท์กะว่าจะเว้นระยะสักพัก ลองเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นดูบ้าง แต่พอหยุดใช้ ตื่นเช้ามา รู้สึกผิวหน้าหยาบกระด้าง ผิวไม่นุ่มเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ เลยลองหนุดดูสัก2-3วัน พอแน่ใจว่าใช่แล้ว เป็นเพราะตัวนี้ชัวๆ ก็เลยต้องกลับมาตายลัง คือยกให้เป็นเซรั่มตลอดกาลจริงๆค่ะตัวนี้

เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ ตัวนี้เบสท์ให้สามีลองใช้ตอนแรกเขาก็กลัวจะแพ้ เพราะสามีเป็นคนผิวแพ้ง่าย มีสิวขึ้นง่ายมาก แต่พอได้ลองเท่านั้นแหระติดใจเลยจ้า แล้วก็บอกเบสท์อยู่ตลอดว่าไม่น่าเชื่อว่าครีมจะทำให้ผิวหน้าดีขึ้นได้ (คำคอนเฟิร์มจากสามีอีกเสียงค่ะ)

น่าจะเหมาะกับ
สาวๆที่อายุ25เป็นต้นไป ที่อยากเริ่มบำรุงผิวหน้า อยากฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน แบบใช้ครั้งแรกเห็นผลเลยประมาณนี้ค่ะ แนะนำลองตัวนี้ดูค่ะ

ข้อแนะนำ

เบสแนะนำว่าถ้าใครที่รู้สึกว่าใช้แล้วไม่เห็นผล ลองนะคะ ถ้าหมดขวดแรกแล้ว ลองหยุดใช้ดูค่ะ แล้วจะเห็นความแตกต่างค่ะ

ถ้าเพื่อนๆอยากลองใช้ แนะนำให้ไปซื้อขนาดทดลองมาลองดูก่อนนะคะ ขนาด7ml ราคาประมาณไม่เกิน500นะ ลองเทสดูก่อนว่าชอบเนื้อสัมผัสไหมนะคะ เพราะผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ

ตัวต่อไป คือ

2. Clarins Double Serum ขนาด50ml (ราคา 3,390 บาทค่ะ)

เนื้อผลิตภัณฑ์

ตัวนี้จะเป็นเนื้อเซรั่มผสมกับออย แพคเกจจะทำเป็นหัวปั้ม2ขนาดคือ ขนาดเล็กกับใหญ่ เลือกตามการใช้งาน ปรับโดยการหมุน อันเล็กอันใหญ่ สำหรับเบสท์ก็ใช้1ปั้มเล็กค่ะ เนื้อเซรั่มจะเป็นแบบนี้ค่ะ


คือเนื้อเซรั่มจะเป็นมีความเป็นออยผสมอยู่ บางคนเห็นว่าเป็นออยกลัวว่าสิวจะอุดตันหรือเปล่า สำหรับเบสท์ใช้แล้วไม่เกิดสิวอุดตันนะคะ หลังจากที่ทาแล้วจะต้องรอประมาณ1-2นาทีก็จะซึมลงหน้าหมดนะคะ เรารู้สึกว่าทาแล้ว จะรู้สึก “มัน” กว่าตัวเอสเต้นิดหน่อย แต่ตัวคาแรงก็ถือว่าเป็นเนื้อออยที่ซึมไวนะ ถ้าเทียบกับออยตัวอื่นที่เบสท์เคยใช้ กลิ่นหอมละมุนดีค่ะ เบสท์ใช้ทั้งเช้าทั้งกลางคืนค่ะตัวนี้

ผลลัพท์ที่ได้

ก็ใช้แล้วรู้สึกผิวเด้ง ผิวนุ่มลื่น ผิวละเอียดดี ให้ความชุ่มชื้นดีมาก กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ทาแล้วรู้สึกเหมือนผิวลื่นอยู่แต่ว่าไม่มัน ริ้วรอยบางๆดูจางลงด้วยนะ พวกริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยหางตาเล็กๆ ก็จางลง

วันไหนที่ไม่ได้ใช้ตัวนี้จะรู้สึกว่าผิวไม่ชุ่มชื้นเท่าที่ควร รู้สึกว่าตัวนี้ช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก ที่ชอบอีกอย่างคือใช้ทาตอนเช้าแล้วเมคอัฟไม่เป็นคราบด้วยค่ะ

น่าจะเหมาะกับ

เบสท์แนะนำเลยคนผิวแห้ง หรือผิวผสมน่าจะชอบ คนผิวมันมากๆอาจจะรู้สึกว่ามันเกินไป สำหรับสาวที่มีอายุแล้วแบบวัย30ขึ้นไป ควรไปตำนะคะ เพราะช่วยเรื่องริ้วรอยได้ดีในระยะยาวค่ะ

ข้อแนะนำ

ตัวนี้แนะนำให้ซื้อขนาดทดลองดูก่อนนะคะ เพราะมีเพื่อนๆเบสท์บางคนก็บอกว่าแพ้ (ส่วนใหญ่คนที่แพ้เป็นคนผิวมันซะเป็นส่วนมากค่ะ) ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ ลองซื้อแบบซองขนาดทดลองดูก่อนนะคะ แต่คือเราใช้แล้ว ไม่แพ้ แถมใช้ดีด้วยเลยอยากมาแชร์ค่ะ

ตัวสุดท้าย กับ


3. The History of Whoo
Self-Generating Anti-Aging Essence

50ml ราคาประมาณ5000-7000บาท
อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจราคานะคะ เพราะสามีซื้อมาให้ค่ะตัวนี้ อิอิ

เนื้อผลิตภัณฑ์



เนื้อเซรั่มจะเป็นเซรั่มเหนียวหนืดๆ

พอทาลงผิวแล้วจะรู้สึกนุ่มละมุน เบสท์จะปั้มใส่มือประมาณ2ปั้ม แล้วตบๆนิดนึง เซรั่มจะมีความยืดๆ แล้วทาทั่วหน้า เบสท์ชอบกลิ่นเขามาก กลิ่นหอมแบบหรูๆ คุณหนู ผู้ดีมาก กลิ่นละมุนตุ้นมากกกกก

ผลลัพท์ที่ได้
ใช้แล้วรู้สึกผิวตึงกระชับ ผิวแน่นมาก นุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่ทาเลย คือพอทาลงบนหน้าจะรู้สึกถึงความนุ่มละมุนของเนื้อเอสเซ้นสัมผัสกับผิวหน้า ถ้าใครที่หย่อนคล้อยกังวลเรื่องริ้วรอย อยากให้ผิวแน่นขึ้น ผิวตึงขึ้น เบสท์ว่าน่าจะชอบตัวนี้นะ เหมือนช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วยนะ

แต่ตัวนี้ถ้าใครที่กำลังมีสิวเห่ออยู่ เบสท์ไม่แนะนำนะคะ เพราะเนื้อเขาเข้มข้นมากอาจทำให้อุดตันได้ รอให้สิวหายก่อนแล้วค่อยใช้ก็น่าจะดีกว่าค่ะ

ข้อเสีย อย่างเดียวเลยคือราคาสูงมาก

ข้อแนะนำ

ถ้าใครที่มีงบ แล้วอยากจะลงทุนกับสกินแคร์ราคาสูงๆ ก็ลองไปตำดูค่ะ เบสท์ว่าเพื่อนๆน่าจะชอบ แนะนำให้ลองซื้อแบบเซททดลองตามร้านพรีออเดอร์ดูก่อนนะคะ เผื่อชอบไม่ชอบยังไงจะได้ไม่ต้องเสียดายเงินกันจ้า

***********************************************
สรุปความเห็นส่วนตัวของเบสท์นะคะ

-ESTEE LAUDER ANR เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ต้องการผิวฟู ผิวอิ่มน้ำ

-Clarins Double Serum เหมาะกับคนผิวแห้งที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น ต้องการผิวเด้ง ผิวนุ่มลื่น

-The History of Whoo Self-Generating Anti-Aging Essence เหมาะกับคนที่อยากได้ผิวที่แน่น ผิวตึงกระชับ

ถ้าให้เบสท์เลือกทั้ง3ตัวนี้เบสท์ชอบทั้ง3ตัวเลยนะ แต่ถ้าที่สุดจริงๆ ขาดไม่ได้จริงๆก็ต้องยกให้ ESTEE LAUDER ANR ค่ะ ตัวนี้คือ The Best รักมากกกกกกกกก

หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนที่กำลังมองหาเซรั่มที่ช่วยลดริ้วรอยกันอยู่นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนจบนะ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ เบสท์สัญญาว่าจะมีกระทู้ดีดีมาฝากอีกแน่นอนค่ะ บ้ายยยยย บายยยย

Yingbest เม้าส์มอย
Yingbestzyyy