บทความตามใจฉัน “เล่า World war Z เทียบกับฉบับภาพยนตร์” Part 7 End

“Goodbye”

Part นี้จะเป็น Part เพื่อเก็บตกโดยเน้นไปที่การเอาตัวรอดของแต่ละประเทศและสถานะปัจจุบัน,

สภาพหลังสงครามและปิดท้าย โดยมาเริ่มที่ประเทศที่รับมือกับซอมบี้ได้ด้วยวิธีที่ตรงข้ามกับอเมริกาอย่างสิ้นเชิงกัน

นั้นคือประเทศญี่ปุ่น


ในตอนที่เชื้อซอมบี้เริ่มระบาดที่ญี่ปุ่น โทโมนากะ อิจิโร่ อดีตทหารตาบอดยุค ww2 ซึ่งเป็นคนทำสวนของโรงแรมหรูที่ซัปโปโรได้หนีไปภูเขา

Hidaka เพราะเค้าไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อรึไม่ ถ้าติดเชื้อก็จะไปฝังตัวเองในถ้ำให้ทำร้ายใครไม่ได้

ที่นั้นเค้าได้บังเอิญเจอกับซอมบี้และเป็นครั้งแรกที่เค้าฆ่าซอมบี้ด้วย Ikupasuy แท่งไม้เล็ก ๆ ไว้สำหรับเคาะนำทางที่ติดตัวมา

เค้าอาศัยอยู่ที่นั้นเกือบ 2 ปีเจอและสังหารซอมบี้เป็นจำนวนมาก ภูมิความรู้ในการรับมือซอมบี้เพิ่มพูนสูงสุด

วันหนึ่งตอนที่เค้านอนอยู่บนต้นไม้เค้าได้ยินเสียงคนเป็นก้าวเดินมา

นั้นคือ กอนโด ทาสุมิ โอตาคุที่หนีภัยซอมบี้จากในเมืองกำลังเดินทางไปยังท่าเรือเพื่ออพยพ

อิจิโร่ได้พบกอนโดและได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นทั้งหมด เค้าจึงชวน ทาสุมิ กลับไปกำจัดซอมบี้ กอบกู้ประเทศชาติ

ต่อมาทั้งสองได้ก่อตั้ง Tatenokai แปลว่า Shield Society เป็นกองกำลังนักรบไม่ติดอาวุธปืนเพื่อกวาดล้างซอมบี้ในญี่ปุ่น

กองกำลังนี้ได้ถูกรับเข้าเป็นสาขาหนึ่งของกองกำลังป้องกันตนเองและมีผู้คนมากมายมาสมัครเข้า

และได้มีการแลกเปลี่ยนทักษะการต่อสู้ซอมบี้กับประเทศอื่น ๆ ด้วย

ทาสุมิในตอนนี้หัวโกนเกลี้ยง,ผิวคร่ำแดด, ร่างกายกำยำ, พระนักรบเต็มตัว เป็นที่นับถือจากชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก


ต่อมาคือรัสเซีย

ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ได้ใช้ข้อมูลการศึกที่โฮปเลยในการต่อต้านซอมบี้เพราะการใช้อาวุธยุคสงครามเย็นที่มีอยู่มหาศาลในคลังนั้น

สะดวกกว่าการผลิตอาวุธตามแบบที่ใช้ในโฮป อีกทั้งพวกเค้ามีสหายที่คอยช่วยเหลือพวกเค้าเสมอยามมีภัย

สหายคนนั้นชื่อ “นายพลฤดูหนาว” ที่ช่วยแช่แข็งซอมบี้จนเป็นเป้านึ่ง

แม้กระนั้นรัสเซียก็มีทหารจำนวนมากที่ถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายเพราะโดนกัดซึ่งบั่นทอนขวัญกำลังใจของทหารอย่างร้ายแรง

เพราะความเชื่อทางศาสนาที่ว่าฆ่าตัวตายคือบาปหนักและไม่มีเพื่อนทหารหรือนายทหารคนไหนกล้าฆ่าเพื่อนร่วมรบของตนเพราะเป็นบาปเช่นกัน

ต่อมามีนักบวชคนหนึ่งที่ทนเห็นเหล่าทหารต้องทำบาปอย่างไม่มีทางเหลือไม่ได้จึงยอมแบกรับบาปยิงสังหารทหารที่ถูกกัดเอง

วิธีนี้แพร่หลายไปทั่วรัสเซียและมีส่วนทำให้รัสเซียต่อมากลายเป็นรัฐศาสนา


อังกฤษ

เนื่องจากมีปราสาทจำนวนมากอยู่ในประเทศทำให้ปราสาทและกำแพงของปราสาทถูกใช้เป็น Isolation Zone ควบแนวหน้าในการรบกับซอมบี้

ส่วนอาวุธมีการเอาอาวุธยุคกลางที่ถูกเก็บตามพิพิธภัณฑ์มาใช้ซึ่งได้ผลดีมาก

โดยในช่วงอาการอบอุ่นจะหลบอยู่ในปราสาทและช่วงอาการหนาวจนซอมบี้ขยับไม่ได้จะออกมารวบรวม

ปัจจัยต่าง ๆ , ขยายพื้นที่ยึดครองรวมถึงกวาดล้างซอมบี้

ในฉบับภาพยนตร์มีฉากหนึ่งที่ผู้คนเอาอาวุธยุคกลางมาสู้ซอมบี้ ฉากนั้นอ้างอิงจากเนื้อหาส่วนนี้เอง

Isolation Zone ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่พระราชวังวินซอโดยมีราชินีอลิซาเบธที่2 ประทับอยู่เพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนด้วยพระองค์เอง

และเพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นขวัญทหารในการขยายพื้นที่ยึดครองจึงมีการประกาศว่าใครหรือกลุ่มใด

ที่สามารถบุกเบิกและยึดครองพื้นที่หรือปราสาทที่เป็นทรัพย์สินของราชวงศ์ได้ พระองค์จะทรงยกพื้นที่และปราสาทนั้นให้

หลังสงครามระบอบการปกครองเดิมในประเทศต่าง ๆ ล่มสลายหรือเปลี่ยนแปลงไป

แต่อังกฤษเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังคงระบอบการปกครองเดิมไว้ได้


คิวบา เป็นหนึ่งในประเทศที่รู้ตัวล่วงหน้าและมีการเตรียมรับมือซอมบี้อย่างจริงจัง

และโชคดีว่าด้วยการเมืองในยุคก่อนสงครามที่ทำให้คนจากจีนและอเมริกาเข้าประเทศไม่ได้

อัตราของผู้ติดเชื้อที่เข้าประเทศมาได้จึงน้อยบวกกับการรับมืออย่างจริงจังจึงทำให้คิวบารอดจากการระบาดของซอมบี้มาได้

อีกทั้งด้วยภูมิประเทศแบบเกาะทำให้รับมือได้ง่ายทั้งการควบคุมการเข้าออกของประชาชนและการรับมือจากการบุกของซอมบี้ทั้งที่เดินใต้น้ำมา,

ลอยน้ำมา,มากับเรือที่ลอยมารวมถึงผู้ติดเชื้อที่พยายามจะหนีเข้าประเทศ

ในระหว่างสงคราม คิวบากลายเป็นประเทศปลอดภัยและมีความสำคัญมาก คิวบาเป็นทั้งสถานที่ฝึกกำลังพลโลก,

โรงงานโลก, Hub ในการเดินทางระหว่างอเมริกาเหนือกับใต้, อู่แห้งโลก บรา ๆ ๆ

ด้วยเหตุนี้หลังจบสงครามคิวบาจึงกลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งที่สุดในโลกและมีการเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย


ถ้าคิวบาเป็นตัวอย่างของประเทศเกาะที่ประสบความสำเร็จ

Iceland คือตัวอย่างของประเทศที่ล้มเหลวในการรับมือกับซอมบี้

สาเหตุหลักคือการที่ Iceland ไม่มีกองทัพประจำการถาวรโดย Iceland จะระดมคนตั้งกองทัพเมื่อจำเป็น

ในยามปกติกองทัพจะถูกยุบให้เล็กที่สุดจนเรียกได้ว่าเป็นแค่หน่วยเฝ้าระวังและอาศัยการคุ้มครองของอเมริกาที่มาตั้งฐานที่ Iceland

เมื่อกองทัพอเมริกาถอนตัวไป Iceland ก็ไม่สามารถต้านฝูงผู้อพยพจากยุโรปและรัสเซียตะวันตกได้

ทำให้มีผู้ติดเชื้อเข้าประเทศมาจำนวนมาก

หลังจบสงคราม Iceland อยู่ในสถานะสิ้นชาติและเป็นเขตพื้นที่ที่มีซอมบี้อาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง


ฝรั่งเศสหลังจบสงครามแม้จะเคลียร์พื้นที่บนดินได้แล้วแต่ยังมีพื้นที่ได้ดินที่ต้องเคลียร์ต่อ

ในช่วงซอมบี้ระบาดมีผู้คนจำนวนมากหนีไปอยู่ในอุโมงและสุสานใต้ดินที่มีอยู่ทั่วเมืองทำให้มีซอมบี้อยู่ใต้เมืองด้วย

จะระเบิดทำลายก็ไม่ได้เพราะใต้ดินนั้นเต็มไปด้วยโบราณสถานล้ำค่า,สายไฟฟ้า,ท่อแก๊ส ทำให้ต้องส่งทหารราบลงไป

ใช้ปืนก็ไม่ได้เพราะสะเกิดไฟอาจจะทำให้แก๊สระเบิด

พื้นที่แคบจนเหวี่ยงอาวุธไม่ได้ต้องใช้อาวุธแทงขนาดเล็กเช่นหอกสั้น

การสื่อสารแบบไร้สายใช้ไม่ได้ต้องลากสายโทรศัพท์เอา

แผนที่ใช้ไม่ได้เส้นทางถูกดัดแปลงจนกลายเป็นเขาวงกต

กล้องมองกลางคืนขาดแคลนหนักจนทำให้ทหารหนึ่งหมู่มีกล้องใช้แค่คนเดียว

อาวุธยิงที่ใช้ได้คือปืนอัดลมแรงสูงที่มีแรงพอยิงกระสุนลูกเหล็กได้เพียง 5 ถึง 7 นัด

“คนที่พูดว่ารบในเมืองน่ากลัวที่สุดน่ะ อ๋อหรือ มาลองรบใต้เมืองดูสิ”


เกาหลีเหนือ

ในภาพยนตร์จะเล่าว่าใช้วิธีถอนฟันคนทั้งประเทศทำให้คนที่เป็นซอมบี้กัดไม่ได้

แต่ในฉบับนิยายจะเล่าว่าประชาชนเกาหลีเหนือจู่ ๆ ก็หายไปหมดในคืนเดียว คาดว่าอาจจะมีการเตรียมเมืองใต้ดินไว้หลบภัยในกรณีฉุกเฉิน

ถ้าพวกเค้าปลอดภัยก็ดีไปแต่ในกรณีแย่ที่สุดคือจะมีซอมบี้ราว ๆ 25 ล้านตัวอยู่ใต้ดินรอวันที่จะออกมาบนโลก

ไม่พบว่ามีสัญญาณติดต่อหรือพบเห็นผู้คนชาวเกาหลีเหนืออีกเลยแม้หลังจบสงคราม


ประเทศที่เสียหายมากที่สุดในโลกจากสงครามนี้คือ จีน จากการบริหารและกลยุทธ์ที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง

โดยเหล่าผู้นำจีนปฏิเสธที่จะใช้แผนของรีดีเกอร์และเลือกที่จะรบกับซอมบี้ด้วยกลยุทธ์คลื่นมนุษย์

ในการสู้กับซอมบี้ คนที่ถูกซอมบี้ฆ่าจะเป็นซอมบี้ ซอมบี้ที่ถูกคนฆ่าจะกลายเป็นศพ

กลยุทธ์คลื่นมนุษย์นอกจากจะไม่ช่วยลดจำนวนซอมบี้แล้วยังทำให้จำนวนซอมบี้เท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำขณะที่ฝ่ายคนจำนวนลดลงไปเรื่อย ๆ

ประชาชนก็เริ่มไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

ฟางเส้นสุดท้ายคือตอนที่เขื่อนซานเสียต้าป้าหรือเขื่อนสามหุบเขาแตก

จากการที่รัฐปล่อยให้ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปประจำเพื่อระบายน้ำที่กักไว้ทั้งที่เขื่อนนี้ยังปลอดภัยอยู่ในความคุ้มครองของกองทัพ

มวลน้ำขนาดมหึมาราวกับมังกรขาวกลืนกินอาคารบ้านเรือนที่อยู่ตามทางไปพร้อม ๆ

กับคนที่อยู่ในนั้น ไม่มีใครทราบจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัดแต่รู้ได้ว่ามหาศาล

รัฐบาลจีนพยายามจะบอกประชาชนว่ามันเป็นอุบัติเหตุน่าเศร้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ประชาชนไม่เชื่อ

ผลคือการปฏิวัติและสงครามกลางเมือง

เรื่องที่เกิดขึ้นรู้ถึงกัปตันชานที่ขโมยเรือดำน้ำนิวเคลียร์บรรทุกขีปนาวุธนิวเคลียร์หนีออกมาพร้อมครอบครัวของตัวเองและของลูกเรือก่อนหน้านี้นานแล้ว

เค้ารู้ดีว่าเหล่าผู้นำจะไม่มีวันลงจากตำแหน่งและจะทำให้จีนต้องสิ้นชาติ

เค้าจึงตัดสินใจจบสงครามให้เร็วที่สุดโดยยิงหัวรบนิวเคลียร์ใส่บังเกอร์ของเหล่าผู้นำ ปิดฉากสงครามกลางเมือง

กัปตันชานตรอมใจตายในอีกไม่กี่วันต่อมา

หลังจากที่รัฐบาลใหม่ถูกตั้งอย่างเร่งด่วนก็ได้นำแผนของรีดีเกอร์มาใช้

สร้าง Safe Zone ที่ทางเหนือและซ่อมกำแพงเมืองจีนเพื่อใช้เป็นแนวป้องกัน เมื่อตั้งหลักได้ก็ค่อย ๆ โต้กลับซอมบี้จนได้ชัยชนะ

แต่ผลจากความผิดพลาดของรัฐบาลก่อนหน้าก็ทำให้หลังสงครามจีนกลายเป็นประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก

ขณะที่ทิเบตกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก (ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากอินเดีย)


สภาพของโลกหลังจบสงครามถือว่าเลวร้ายมาก ไม่ว่าจะเป็นมลพิษมหาศาลที่อยู่ในดิน,น้ำ,อากาศ

กัมมันตภาพรังสีที่ยังหลงเหลืออยู่จากการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ที่น่าขันคืออาวุธนิวเคลียร์ไม่เคยถูกใช้กับซอมบี้เลย

สัตว์หลายชนิดสูญพันธ์ทั้งด้วยฝีมือซอมบี้และด้วยน้ำมือมนุษย์

และแม้ว่ามนุษย์จะชนะสงครามแต่ไม่ได้หมายความว่าซอมบี้ได้หมดไปจากโลกแล้ว

ยังคงมีซอมบี้หลงเหลืออยู่ตามที่ที่เข้าถึงยากอยู่ทั่วโลก เช่น ใต้ท้องทะเล,

หุบเหว, ป่าทึบ, ในอุโมงใต้ดิน,ใต้หิมะ ฯลฯ ซึ่งไม่มีใครคาดได้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการค้นหาและทำลายซอมบี้ทุกตัว

สงครามอาจจบลงแล้วแต่การดิ้นร้นเพื่อเอาชีวิตรอดของมนุษย์ในโลกที่เละตุ้มเปะนี้พึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึง Part สุดท้ายของการเล่า World war Z นี้

โดยผู้เขียนจะขอปิดด้วยบทสัมภาษณ์สุดท้ายในหนังสือ

เป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายระหว่าง Max กับเวเนียก่อนจากกัน เป็นการพูดคุยที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยอารมณ์
(ย้ายไปอยู่ใน คห1 เพราะจำนวนอักษรเกิน)


ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”

โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น

ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ https://www.facebook.com/uptomejournal/

 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่