สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
เลือดข้นฯ มาแบบไม่ใช่ละคร เรียวกว่า
มีจุดของความไม่สมจริงอยู่บ้าง เป็นบางมุม
แต่นักแสดงระดับเทพ ใช้ความสามารถทางการแสดง ทำให้เดาทางผิดกันเยอะมาก
ดูจากการเดาบทละครจากคนดัง และคนดู
เรียกว่าพอเฉลยหน้าแตกกันเป็นแถว
เลือดข้นฯ คือการร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับตัวละคร มากกว่าคลี่คลายปมว่าใครเป็นฆาตกร
เพราะไม่ถึงกลางเรื่องก็เฉลยแล้วว่าใครคือฆาตกร อันนี้แหละที่แปลกแหวกแนวของ เลือดข้นคนจาง เป็นหมัดเด็ดของเลือดข้น ที่ละครแนวนี้ไม่เคยทำ แล้วที่เด็ดกว่านั้น รู้ว่าใครเป็นฆาตกรแล้ว แต่กระแสความสนใจว่าทำไมถึงฆ่ามีมากกว่า นี่คือจุดที่เลือดข้นฯ ไม่เหมือนละครฆาตกรรมเรื่องอื่น
มีจุดของความไม่สมจริงอยู่บ้าง เป็นบางมุม
แต่นักแสดงระดับเทพ ใช้ความสามารถทางการแสดง ทำให้เดาทางผิดกันเยอะมาก
ดูจากการเดาบทละครจากคนดัง และคนดู
เรียกว่าพอเฉลยหน้าแตกกันเป็นแถว
เลือดข้นฯ คือการร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับตัวละคร มากกว่าคลี่คลายปมว่าใครเป็นฆาตกร
เพราะไม่ถึงกลางเรื่องก็เฉลยแล้วว่าใครคือฆาตกร อันนี้แหละที่แปลกแหวกแนวของ เลือดข้นคนจาง เป็นหมัดเด็ดของเลือดข้น ที่ละครแนวนี้ไม่เคยทำ แล้วที่เด็ดกว่านั้น รู้ว่าใครเป็นฆาตกรแล้ว แต่กระแสความสนใจว่าทำไมถึงฆ่ามีมากกว่า นี่คือจุดที่เลือดข้นฯ ไม่เหมือนละครฆาตกรรมเรื่องอื่น
แสดงความคิดเห็น
💢 ความต่างของ รอยอาฆาต & เลือดข้นคนจาง | การไต่ระดับปริศนาได้ตามที่คิดไว้ กับการดูแล้วชวนสืบสวนคดีของละครเรื่องนี้ 💢
ซึ่งยังไม่ได้ทำความรู้จักกับนักแสดง จะบอกว่ามันเดินเรื่องได้ค่อนข้าง งง แต่ยังคงความน่าติดตามของละครอยู่ จนกระทั่งตอนที่ 2 และ 3 พบว่า
จริงๆแล้ว การตายของเจ้าสัวไพศาล มีมุมมองของทุกคนในตระกูลจิรการพาณิชย์ที่ไม่ได้อบอุ่นเหมือนอย่างที่เห็นๆกัน แล้วชวนสืบค้นใครคือฆาตกรตัวจริง!!!
มันต่างจากละครเลือดข้นคนจาง ตรงที่ว่า เรื่องนั้น มีการแอบทิ้งปมอดีตในภาพวาด แต่เรื่องนี้คือไม่ได้ทิ้งปมอะไรให้เลย และไม่รู้ว่าจะหาข้อสงสัยนั้นจากอะไร
ยกเว้นตัวละครที่ทุกคนน่าสงสัยไปหมด ถือว่าเดินเรื่องได้มีชั้นเชิง และ สร้างสรรค์ขึ้นมาก ๆ