สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ตั้งแต่เจเก้น คล็อปป์เสียคูตี้ play makerเบอร์1 ของทีมไป คล็อปป์เลยสร้างกองกลางเพรสซิ่งชุดใหม่ขึ้นมา โดยใช้กองกลางตัวทำลายเกม3คน ลงพร้อมกัน โดยกองกลางตัวทำลายเกม3คนตัวจริงคือ ฟาบิญโย่ยืนต่ำสุดเป็นตัวรับตัดเกม ส่วนไวนัลดุม เฮนโด้ยืนเท่ากันคือ CM หรือ Box to Box คอยวิ่งไล่กวาดและเชื่อมเกม
เราจึงเห็นกองกลางลิเวอร์พูลไม่เน้นทำเกมรุก แต่เน้นเพรสซิ่งวิ่งไล่บี้เฮฟวี่เมทัลเอาบอลจากคู่ต่อสู้มากกว่า
ส่วนการทำเกมรุกของหงส์แดงลิเวอร์พูล มีดังนี้
1. ใช้แผงกองหลังอย่างฟานไดจ์ มาติปดันขึ้นสูงคอยโยนบอลตักข้ามไปที่สามประสาน มาติปพร้อมที่จะเป็นตัวทะลุทะลวงเติมขึ้นไป
2. ใช้เทคนิค จินตนาการสร้างสรรค์ของฟีร์มิโนเป็นจุดศูนย์กลางทำเกมรุกให้2ตัวป่วนอย่างซาลาห์และมาเน่
3. ใช้แบ็คสองข้างจรวดความเร็วสูงอย่างเทรนต์ อาโนลด์ ร๊อบโบ้เติมขึ้นมาครอสโยนบอลมาที่กองหน้าอย่างแม่นยำ
4. ใช้ฟานไดจ์ มาติปพร้อมที่จะขึ้นมาโขกลูกเซ็ทพีท ลูกตั้งเตะ ลูกเตะมุม 2เซ็นเตอร์ยักษ์เป็นเจ้าเวหาลูกกลางอากาศอยู่แล้ว (จริงๆแล้วลิเวอร์พูล
เหมือนจะใช้ฟานไดจ์ขึ้นมาล่อดึงตัวประกบ แล้วใช้มาติปเป็นตัวโขกหลายนัดแล้ว)
5. ใช้ทีเด็ดฟรีคิกของเทรนต์อาโนลด์
6. หากเกมตื้อๆ ตันๆ คิดอะไรไม่ออก ก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของซาลาห์ มาเน่เลี้ยงเข้าไปยิง
7. ใช้อลิสซง เบกเกอร์ในการเล่นลูกบนพื้น โยนบอลลูกโต้สวนกลับ
8. หากยังเจาะไม่เข้า ยิงประตูไม่ได้ ลิเวอร์พูลพร้อมจะส่งชากีรี่ เกอิต้าลงมาเป็นตัวทีเด็ดทะลุทะลวง
เราจึงเห็นว่าเจเก้น คล็อปป์ไม่เคยสนใจที่จะซื้อกองกลางตัวรุกทำเกมหรือดึงคูตี้กลับมาเลย เพราะคล็อปป์ได้สร้างทีมก้าวข้ามโดยการไม่มีplay makerทำเกมรุก ผลงานคือ ถ้วยแชมป์ UCL รับประกัน
การโจมตีทำเกมรุกของลิเวอร์พูลไม่ได้เน้นเคาะต่อบอลสวยงามเหมือนบาร์ซ่าหรือแมนซิตี้ แต่เน้นการเข้าทำให้รวดเร็วที่สุด ชิ่ง1-2 จบให้เร็วที่สุด เพราะต้องประหยัดพลังงานไว้ใช้สำหรับวิ่งเพรสซิ่งทั้งเกมส์ให้มากที่สุด แต่ถ้าเจอทีมที่คู่ต่อสู้มาเล่นรถบัส ลิเวอร์พูลจะเน้นเคาะบอลช้าๆ เนิบๆนาบๆ ประหยัดพลังงานร่างกายรอจังหวะฉวยโอกาสแล้วเข้าจู่โจมแบบรวดเร็ว
เราจึงเห็นกองกลางลิเวอร์พูลไม่เน้นทำเกมรุก แต่เน้นเพรสซิ่งวิ่งไล่บี้เฮฟวี่เมทัลเอาบอลจากคู่ต่อสู้มากกว่า
ส่วนการทำเกมรุกของหงส์แดงลิเวอร์พูล มีดังนี้
1. ใช้แผงกองหลังอย่างฟานไดจ์ มาติปดันขึ้นสูงคอยโยนบอลตักข้ามไปที่สามประสาน มาติปพร้อมที่จะเป็นตัวทะลุทะลวงเติมขึ้นไป
2. ใช้เทคนิค จินตนาการสร้างสรรค์ของฟีร์มิโนเป็นจุดศูนย์กลางทำเกมรุกให้2ตัวป่วนอย่างซาลาห์และมาเน่
3. ใช้แบ็คสองข้างจรวดความเร็วสูงอย่างเทรนต์ อาโนลด์ ร๊อบโบ้เติมขึ้นมาครอสโยนบอลมาที่กองหน้าอย่างแม่นยำ
4. ใช้ฟานไดจ์ มาติปพร้อมที่จะขึ้นมาโขกลูกเซ็ทพีท ลูกตั้งเตะ ลูกเตะมุม 2เซ็นเตอร์ยักษ์เป็นเจ้าเวหาลูกกลางอากาศอยู่แล้ว (จริงๆแล้วลิเวอร์พูล
เหมือนจะใช้ฟานไดจ์ขึ้นมาล่อดึงตัวประกบ แล้วใช้มาติปเป็นตัวโขกหลายนัดแล้ว)
5. ใช้ทีเด็ดฟรีคิกของเทรนต์อาโนลด์
6. หากเกมตื้อๆ ตันๆ คิดอะไรไม่ออก ก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของซาลาห์ มาเน่เลี้ยงเข้าไปยิง
7. ใช้อลิสซง เบกเกอร์ในการเล่นลูกบนพื้น โยนบอลลูกโต้สวนกลับ
8. หากยังเจาะไม่เข้า ยิงประตูไม่ได้ ลิเวอร์พูลพร้อมจะส่งชากีรี่ เกอิต้าลงมาเป็นตัวทีเด็ดทะลุทะลวง
เราจึงเห็นว่าเจเก้น คล็อปป์ไม่เคยสนใจที่จะซื้อกองกลางตัวรุกทำเกมหรือดึงคูตี้กลับมาเลย เพราะคล็อปป์ได้สร้างทีมก้าวข้ามโดยการไม่มีplay makerทำเกมรุก ผลงานคือ ถ้วยแชมป์ UCL รับประกัน
การโจมตีทำเกมรุกของลิเวอร์พูลไม่ได้เน้นเคาะต่อบอลสวยงามเหมือนบาร์ซ่าหรือแมนซิตี้ แต่เน้นการเข้าทำให้รวดเร็วที่สุด ชิ่ง1-2 จบให้เร็วที่สุด เพราะต้องประหยัดพลังงานไว้ใช้สำหรับวิ่งเพรสซิ่งทั้งเกมส์ให้มากที่สุด แต่ถ้าเจอทีมที่คู่ต่อสู้มาเล่นรถบัส ลิเวอร์พูลจะเน้นเคาะบอลช้าๆ เนิบๆนาบๆ ประหยัดพลังงานร่างกายรอจังหวะฉวยโอกาสแล้วเข้าจู่โจมแบบรวดเร็ว
แสดงความคิดเห็น
ลิ เวอพูล ยุคนี้ เล่นเเบบไม่ใช้ play maker เเปลว่าอะไรครับ