ผมกับแฟนเคยคบกันมาสองครั้งครับครั้งแรกคบกันได้แค่4วัน ครั้งที่สองกำลังคบกัน ได้เข้าเดือนที่8ครับผม
แรกๆเลยนะครับผม ผมเสียใจกับเขามากตอนเลิกครั้งแรก เพราะปัญหาที่ว่าเขายังไม่พร้อมมีใคร จนกระทั่งได้มีการทำงานนวัตกรรมของโรงเรียนเกิดขิ้น ซึ่งมันทำให้ผมมีบทบาทในชีวิตแฟนคนนี้อีกครั้ง ผมอยู่คนล่ะปีกันนะครับ แต่ว่าช่วยเหลือกัน ช่วยปริ้นงาน ไปรับไปส่งตอนเขามีปัญหา จนซื้อใจกันเรื่อยๆมา
จนกระทั่งผมกลายเป็นคนนึงที่พิเศษสำหรับเขาไม่ว่าจะเป็นที่ว่าเขาไม่มีแรงปวดท้องประจำเดือนผมก็นั่งโหนสองแถวเป็นชัวโมงไปเพื่อดูแลเขาซื้อของให้เขาซื้อผ้าอนามัยให้เขาซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นของรักครั้งนี้เลยครับ
ตอนแรก ผมได้คบกับเขาอย่างเปิดเผย โดยมีการขิ้นสถานะใน Facebook ได้ทำให้พ่อแม่แฟนและฝ่ายญาติผมรู้จัก ได้คบกันอย่างเปิดเผย ผมเริ่มต้นด้วยการเป็นที่พึ่งเขาได้ เขาฝึกงานครับ เขาทำผลัดเช้า 6.00น.ผมต้องขับรถไปทุกเช้าวันละ 20กิโลไปกลับตก10-15นาทีทุกวัน จากบางพลี-ไปสำโรง ผมออกบ้านตั้งแต่ ตี4 ครับ เพราะผมไม่เหนื่อยตอนนั้นเพราะผมต้องไปเรียนแถวนั้นด้วย ผมทำแบบนี้มาตลอดไม่ว่าเขาจะอยู้พลัดไหนถ้ามีโอกาสจะไปรับไปส่งแบบนั้นตลอดครับ ผมทำกับข้าวให้เขากินทุกเช้า เอาเงินให้อาทิตย์ล่ะ300 เพราะผมเองได้เงินไปโรงเรียนแค่400/อาทิตย์เองครับ ยอมกินมาม่าทุกวันเพื่อให้เขานั้นมีความสุข เพราะอยากให้เขารู้ว่าเราต้องการดูแลเขาจริงๆ จนกระทั่งถึงรอบที่ผมต้องฝึกงาน ซึ่งผมมีปัญหากับทางที่ทำงานผมเลยไม่ได้ไปฝึกงานแต่กลับมาอยู่กับเขามาไปรับไปส่งเขา จนที่บ้านผมเองมองว่า ผมเห็นครอบครัวคนอื่นดีกว่าคนที่บ้านครับ จนเขาได้ให้ผมออกจากบ้านไปอยู่กับแฟนเลย ผมได้คุยกับคนที่บ้านแฟนเขาให้อยู่ได้ครับแต่ต้องช่วยค่าใข้จ่ายเล็กน้อยๆ เราก็โอเคครับ แฟนผมมักจะว่าผมว่าทำไมไม่ได้ไปฝึกงานจะมีเงินมาใช้ไหม (ช่วงที่ผมโดนให้ออกจากบ้าน เป็นช่วงที่ผมไม่มีอะไร ไม่มีอะไรที่สามารถช่วยเขาได้ ไม่มีเงิน จากที่เขาได้ของเขาก็ไม่ได้ จนกระทั่งเริ่มมีปากเสียงกันตลอดมา
เรามักเก็บมาคิดทุกครั้งที่ทะเลาะเสมอว่า ทำไมตอนที่เขาลำบากหรือเขาอะไรทำไมเราช่วยเขาโดยที่ไม่ได้หวังอะไรเลย แต่ทำไมตอนที่เราตกต่ำทำไมเขาถึงต้องพูดกับเราแบบนั้น แต่ผมก็ไม่ท้อถอยนะครับ ผมก็ยังทำทุกอย่างเพื่อเขาเหมือนเดิม อยู่บ้านเขาไม่ได้นิ่งดูดายครับ ผมทำงานบ้าน ฝึกซักผ้า ฝึกกวาดบ้าน ที่งที่แต่ก่อนไม่เคยทำเลย จนตอนนี้ผมทำทุกอย่างให้เขาและบ้างทีให้ในครอบครัวด้วยครับ จนกระทั่งเดือนนี้ ที่เพื่อนๆเริ่มฝึกงานกันรอบใหม่ 20สิงหา แต่ผมทำเหมือนเดิมครับคือไม่ได้ไป ณ วันนี้ก็วันที่ 29 เข้าไปแล้ว แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมมีเหตุผลของผมอยู่ คือ ตอนนี้เป็นเวลาสิ้นเดือนครับ ซึ่งเขาบ่นกับผมตั้งแต่วันที่18แล้วว่าเงินเขากำลังหมด แล้วพ่อเขาได้ขอความช่วยเหลือจากเขา เขาเลยเอาเงินที่เหก็บไว้ให้พ่อไปใช้ก่อน เขาร้องไห้ เขาทั้งบอกเขาไม่มีค่าจะอยู่ต่อ ผมคอยอยู่ข้างๆเขาตลอดในทุกๆเรื่อง มีปัญหาอะไรเราคอยให้กำลังใจปรึกษากันมาตลอด ผมเลยต้องโกหกเขาครับ บอกเขาว่าตัวเองไปฝึกงาน แต่ตัวเองเข้ามาร้านเกม เพื่อเล่นเกมแล้วขายไอดีเกมได้เงินไม่มาก 5-6ร้อย มาเพื่อให้เขาเป็นทุนในการกำเนิดชีวิตของเราสองคน ซึ่งพอทางเขารู้ความจริงว่าเราไม่ได้ไปทำงานในการฝึกงานดังกล่าวมา เขาได้โกรธผม อยากเลิกกับผม ไม่รักผมแล้ว เขาพูดแบบนั้น ไล่ผมออกจากบ้านเขา โดยที่เขาไม่สนใจเลยครับ ว่าเหตุผลทำไมผมถึงยังไม่ไปทำงาน เพราะผมหาเงินมาให้เขาใช้ไม่ใช่หรอครับ คือผมเล่ามาถึงปัจจุบันแล้วครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ถามว่าผมรักเขาไหม ทุกอย่างทำไมผมถึงยังอยู่ ทำไมผมถึงรักคนนี้ เพราะว่าผมตั้งใจครับ ผมอาจจะมีข้อที่ผิดพลาดในการทำงาน แต่ว่าผมก็อยากจะปรับตัว แต่เขาไม่ให้โอกาสกันเลยครับ ซึ่งตะก่อนคบกันแรกๆ เราไว้ใจกันให้ดูแชทดูอะไรได้ แต่พอมาวันนี้ ผมไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลยครับ มันเป็นเพราะอะไรหรอครับ เพราะว่าผมยังไม่ดีพอ หรือเขายังไม่พอครับ (เขาไม่เคยนอกใจเรานะครับ) แต่การที่มีคนทำทุกอย่างเพื่อเขาขนาดนี้ ใส่ใจจนเขาบอกว่าเขาอึดอัด จากที่เขาสูบบุหรี่ผมก็เป็นคนห้ามเขาอะไรเขา เขาก็มาบอกตอนนี้ว่าเขาอึดอัด ผมทำทุกอย่างเพื่อเขาแล้วนะครับ ไม่ว่าจะคุยแบบด้วยเหตุผลหรืออะไรแต่สุดท้าย ''เขาไม่เคยมองดูสิ่งที่ผมทำเลย มองแต่อดีตที่ผมไม่ได้ไปทำงาน โดยไม่สนใจอนาคตเลยว่า ผมสามารถปรับตัวได้ ผมสามารถทำตามที่ผมพูดได้ครับ'' เขาอยากได้ทอง 1 สลึง ผมก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า 10เดือนผมจะซื่อให้ได้ แต่พอตอนนี้เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเรื่องนี้ซักแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่เห็นคุณค่ากับสิ่งที่เรากำลังจะทำเลยครับ
คุณคิดว่าผมควรทำยังไง
แรกๆเลยนะครับผม ผมเสียใจกับเขามากตอนเลิกครั้งแรก เพราะปัญหาที่ว่าเขายังไม่พร้อมมีใคร จนกระทั่งได้มีการทำงานนวัตกรรมของโรงเรียนเกิดขิ้น ซึ่งมันทำให้ผมมีบทบาทในชีวิตแฟนคนนี้อีกครั้ง ผมอยู่คนล่ะปีกันนะครับ แต่ว่าช่วยเหลือกัน ช่วยปริ้นงาน ไปรับไปส่งตอนเขามีปัญหา จนซื้อใจกันเรื่อยๆมา
จนกระทั่งผมกลายเป็นคนนึงที่พิเศษสำหรับเขาไม่ว่าจะเป็นที่ว่าเขาไม่มีแรงปวดท้องประจำเดือนผมก็นั่งโหนสองแถวเป็นชัวโมงไปเพื่อดูแลเขาซื้อของให้เขาซื้อผ้าอนามัยให้เขาซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นของรักครั้งนี้เลยครับ
ตอนแรก ผมได้คบกับเขาอย่างเปิดเผย โดยมีการขิ้นสถานะใน Facebook ได้ทำให้พ่อแม่แฟนและฝ่ายญาติผมรู้จัก ได้คบกันอย่างเปิดเผย ผมเริ่มต้นด้วยการเป็นที่พึ่งเขาได้ เขาฝึกงานครับ เขาทำผลัดเช้า 6.00น.ผมต้องขับรถไปทุกเช้าวันละ 20กิโลไปกลับตก10-15นาทีทุกวัน จากบางพลี-ไปสำโรง ผมออกบ้านตั้งแต่ ตี4 ครับ เพราะผมไม่เหนื่อยตอนนั้นเพราะผมต้องไปเรียนแถวนั้นด้วย ผมทำแบบนี้มาตลอดไม่ว่าเขาจะอยู้พลัดไหนถ้ามีโอกาสจะไปรับไปส่งแบบนั้นตลอดครับ ผมทำกับข้าวให้เขากินทุกเช้า เอาเงินให้อาทิตย์ล่ะ300 เพราะผมเองได้เงินไปโรงเรียนแค่400/อาทิตย์เองครับ ยอมกินมาม่าทุกวันเพื่อให้เขานั้นมีความสุข เพราะอยากให้เขารู้ว่าเราต้องการดูแลเขาจริงๆ จนกระทั่งถึงรอบที่ผมต้องฝึกงาน ซึ่งผมมีปัญหากับทางที่ทำงานผมเลยไม่ได้ไปฝึกงานแต่กลับมาอยู่กับเขามาไปรับไปส่งเขา จนที่บ้านผมเองมองว่า ผมเห็นครอบครัวคนอื่นดีกว่าคนที่บ้านครับ จนเขาได้ให้ผมออกจากบ้านไปอยู่กับแฟนเลย ผมได้คุยกับคนที่บ้านแฟนเขาให้อยู่ได้ครับแต่ต้องช่วยค่าใข้จ่ายเล็กน้อยๆ เราก็โอเคครับ แฟนผมมักจะว่าผมว่าทำไมไม่ได้ไปฝึกงานจะมีเงินมาใช้ไหม (ช่วงที่ผมโดนให้ออกจากบ้าน เป็นช่วงที่ผมไม่มีอะไร ไม่มีอะไรที่สามารถช่วยเขาได้ ไม่มีเงิน จากที่เขาได้ของเขาก็ไม่ได้ จนกระทั่งเริ่มมีปากเสียงกันตลอดมา
เรามักเก็บมาคิดทุกครั้งที่ทะเลาะเสมอว่า ทำไมตอนที่เขาลำบากหรือเขาอะไรทำไมเราช่วยเขาโดยที่ไม่ได้หวังอะไรเลย แต่ทำไมตอนที่เราตกต่ำทำไมเขาถึงต้องพูดกับเราแบบนั้น แต่ผมก็ไม่ท้อถอยนะครับ ผมก็ยังทำทุกอย่างเพื่อเขาเหมือนเดิม อยู่บ้านเขาไม่ได้นิ่งดูดายครับ ผมทำงานบ้าน ฝึกซักผ้า ฝึกกวาดบ้าน ที่งที่แต่ก่อนไม่เคยทำเลย จนตอนนี้ผมทำทุกอย่างให้เขาและบ้างทีให้ในครอบครัวด้วยครับ จนกระทั่งเดือนนี้ ที่เพื่อนๆเริ่มฝึกงานกันรอบใหม่ 20สิงหา แต่ผมทำเหมือนเดิมครับคือไม่ได้ไป ณ วันนี้ก็วันที่ 29 เข้าไปแล้ว แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมมีเหตุผลของผมอยู่ คือ ตอนนี้เป็นเวลาสิ้นเดือนครับ ซึ่งเขาบ่นกับผมตั้งแต่วันที่18แล้วว่าเงินเขากำลังหมด แล้วพ่อเขาได้ขอความช่วยเหลือจากเขา เขาเลยเอาเงินที่เหก็บไว้ให้พ่อไปใช้ก่อน เขาร้องไห้ เขาทั้งบอกเขาไม่มีค่าจะอยู่ต่อ ผมคอยอยู่ข้างๆเขาตลอดในทุกๆเรื่อง มีปัญหาอะไรเราคอยให้กำลังใจปรึกษากันมาตลอด ผมเลยต้องโกหกเขาครับ บอกเขาว่าตัวเองไปฝึกงาน แต่ตัวเองเข้ามาร้านเกม เพื่อเล่นเกมแล้วขายไอดีเกมได้เงินไม่มาก 5-6ร้อย มาเพื่อให้เขาเป็นทุนในการกำเนิดชีวิตของเราสองคน ซึ่งพอทางเขารู้ความจริงว่าเราไม่ได้ไปทำงานในการฝึกงานดังกล่าวมา เขาได้โกรธผม อยากเลิกกับผม ไม่รักผมแล้ว เขาพูดแบบนั้น ไล่ผมออกจากบ้านเขา โดยที่เขาไม่สนใจเลยครับ ว่าเหตุผลทำไมผมถึงยังไม่ไปทำงาน เพราะผมหาเงินมาให้เขาใช้ไม่ใช่หรอครับ คือผมเล่ามาถึงปัจจุบันแล้วครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ถามว่าผมรักเขาไหม ทุกอย่างทำไมผมถึงยังอยู่ ทำไมผมถึงรักคนนี้ เพราะว่าผมตั้งใจครับ ผมอาจจะมีข้อที่ผิดพลาดในการทำงาน แต่ว่าผมก็อยากจะปรับตัว แต่เขาไม่ให้โอกาสกันเลยครับ ซึ่งตะก่อนคบกันแรกๆ เราไว้ใจกันให้ดูแชทดูอะไรได้ แต่พอมาวันนี้ ผมไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลยครับ มันเป็นเพราะอะไรหรอครับ เพราะว่าผมยังไม่ดีพอ หรือเขายังไม่พอครับ (เขาไม่เคยนอกใจเรานะครับ) แต่การที่มีคนทำทุกอย่างเพื่อเขาขนาดนี้ ใส่ใจจนเขาบอกว่าเขาอึดอัด จากที่เขาสูบบุหรี่ผมก็เป็นคนห้ามเขาอะไรเขา เขาก็มาบอกตอนนี้ว่าเขาอึดอัด ผมทำทุกอย่างเพื่อเขาแล้วนะครับ ไม่ว่าจะคุยแบบด้วยเหตุผลหรืออะไรแต่สุดท้าย ''เขาไม่เคยมองดูสิ่งที่ผมทำเลย มองแต่อดีตที่ผมไม่ได้ไปทำงาน โดยไม่สนใจอนาคตเลยว่า ผมสามารถปรับตัวได้ ผมสามารถทำตามที่ผมพูดได้ครับ'' เขาอยากได้ทอง 1 สลึง ผมก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า 10เดือนผมจะซื่อให้ได้ แต่พอตอนนี้เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเรื่องนี้ซักแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่เห็นคุณค่ากับสิ่งที่เรากำลังจะทำเลยครับ