**เจ้าของกระทู้เป็นคนเชียงใหม่ค่ะ หากใครไม่เข้าใจหัวข้อว่าทำไมต้องเป็นจากเชียงใหม่ ไปทัวร์ กทม.
หลังจากที่ไปมาเอง เที่ยวเอง รีวิวเอง ตอนนี้จะหันมาขายเองแล้วค่ะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า ว่าทริป Unseen bangkok จะสนุกแค่ไหน (ต้องขอออกตัวก่อนว่าเราไม่เคยมาเที่ยว กทม.เลย นี่เป็นการไปเที่ยวครั้งแรก ผิดถูกประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)
เริ่มกันเลยค่ะ ทริปนี้เราจะเดินทางด้วย Mini bus ค่ะ รูปร่างน่ารักๆ เป็นบัสน้อยๆ แบบในรูป
เริ่มทริปกันเลย โดยจะมีการนัดหมายมาเจอที่สถานีเดินรถ นครชัยแอร์ ตอน 8.00 นะค่ะ บนรถแจกอาหารเช้า ชมเมืองไป กินข้าวไป เพลินดีอีกแบบนึง
ระหว่างทางไกด์ก็จะเริ่มบรรยายถึงความสำคัญ ประวัติ ของสถานที่ ที่รถขับผ่าน
เค้าแจกหนังสือให้อ่านด้วย แต่เปิดอ่านได้นิดเดียว มัวแต่กินหมูปิ้ง ระหว่างทางไกด์ก็บอกถึงราชนิกูลต่างๆ ก็เพิ่งรู้นี่แหล่ะ ว่าฮิวโก้ น้าแน็ค สืบเชื่อพระวงค์มาตั้งแต่สมัยไหน (แต่จำไม่ได้แล้วนะ ซับซ้อนเกินรอยหยักแห่งการอยากไปเที่ยวจะรับได้)
วัดอรุน
เราใช้กล้อง 360 องศา ถ่ายมา
https://poly.google.com/view/ey_AKFupgjN มันไม่ค่อยชัดเพราะส่งไฟล์ไปๆมาๆ คุณภาพเลยหายหมด ยังมีภาพอื่นๆ อีกนะคะ เดี๋ยวจะพยายามลงรูป 360 องศาให้ดู
อันนี้เป็นรูปที่ไม่ได้ทำ 360 องศามา แต่เป็นแบบพาโนมาร่า ก็ดูฟินไปอีกแบบ แว๊บแรกที่เห็นวัดนี้ เรา งง งง ค่ะ ทำไมมีรูปปั้นจีนรวมกับพระพุทธรูปด้วย ไกด์เค้าก็อธิบายความเป็นมา ความเกี่ยวดองของชาวไทยและจีน ในใจตอนนั้นก็คิด ไม่น่าเชื่อออออ มันมาอยู่ด้วยกันได้ไง
ที่จริงมันก็ฟินๆ ไปอีกอารมณ์นึงนะคะ แต่ที่รู้สึกได้คือ ชาวพุทธเชื้อสายจีนนี่คงฟินสุด
อากาศวันนี้ร้อนค่ะ ดันนัดกันใส่เสื้อยีนส์มาอีกเยี่ยง girl group แห่งคาบสมุทอินโดจีนเลยทีเดียว
สภาพคือเครื่องสำอางค์ที่โบ๊ะมา ไหลออกมากับเหงื่อค่ะ ตอนนี้ไกด์เค้าพาคนอื่นชมวัด แต่นี่ขออนุญาตไกด์เกเรออกมาหาอะไรเย็นๆ ดื่ม
รอดตายเพราะกาแฟวัดแจ้ง รสชาติใช้ได้นะคะ 75 บาท แต่ที่ได้มากกว่านั้นคือบรรยากาศเย็นๆ มีอาหารด้วยนะคะ เห็นโต๊ะข้างๆกิน แต่เราไม่กินค่ะ รอกินที่ทัวร์เค้าจัดให้ เค้าบอกเป็นอาหารโปรตุเกสโบราณ ไม่รู้ว่า งก หรือ เห็นแก่กินนะคะ
พอมีแรงและเห็นไกด์เค้าพาลูกทัวร์คนอื่นๆ มาลิบๆ เราเลยไปรวมกับกลุ่มค่ะ เดี๋ยวมาดูมุมอื่นของวัดกันนะคะ ตรงนี้เป็นมุมฝั่งที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มี
https://poly.google.com/view/8dPrE2cq4MC <<360 องศาให้ดูด้วย (ไม่ HD อีกแล้ว เดี๋ยวงานหน้าแก้ตัวใหม่)
มาถึงตรงทางเข้า คนไทยเข้าฟรีค่ะ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าชม 50 บาท เค้าแนะนำให้สะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้าค่ะ ป้องกันคนล้วงกระเป๋า (แนะนำนะคะ กาแฟกินหมดแล้วรีบทิ้งเถอะ น้ำแข็งละลายเร็วมาก กล้องเอย กระเป๋าเอย ไหนจะขึ้นบันไดตรงพระปรางค์อีก อีรุงตุงนังไปหมด)
มาดูพระปรางค์วัดอรุณฯ กันค่ะ สวยมาก ใหญ่มากด้วย และบันไดก็ชันมากด้วยเช่นกัน ดูพระปรางค์แบบ 360 องศา>>
https://poly.google.com/view/bkKtg8Wfqnm
มาดูความชันของบันไดกัน แทบจะต้องปีนขึ้นไป (หรือเราแก่แล้วหว่า)
รูปนี้เราให้ชื่อว่า "มุมมองนางฟ้า" เป็นมุมมองจากบนฟ้า ที่มองได้ 360 องศา จากจุดจุดนึง มองภาพแล้วอยากจะบินได้
อีกสิ่งนึงที่คนต่างจังหวัดได้ยินบ่อยๆ คือ ยักษ์วัดแจ้ง ได้เห็นตัวเป็นๆก็คราวนี้อ่ะ วันนี้คนก็มาถ่ายรูปคู่กับยักษ์เยอะอยู่นะคะ
https://poly.google.com/view/amrpOIYeMyI <<360 องศา
มีเห็นคนแต่งชุดไทยเดินไปเดินมาด้วย ทำให้นึกถึงตัวเองตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วใส่กิโมโนเลย เลยขอเข้าไปถ่ายรูปคู่ด้วยซะหน่อย ทีแรกนึกว่าเป็นนักท่องเที่ยวไทยเหมือนเรา แต่ป่าว จีนค่ะ มันก็เลยรู้สึกมึนงงนิดหน่อย คนไทย ไปขอถ่ายรูปคนจีน แต่คนจีนใส่ชุดไทย แถมยกมือไหว้ด้วย เอออออ มันได้
ไกด์เค้าเรียกขึ้นเรือแล้วค่ะ เราก็ไปรวมกับกลุ่มทัวร์ แต่ข่าวร้ายสำหรับเรามาถึงแล้ว เค้าให้ขึ้นเรือไปไปรอบๆ แล้วไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือวัดกัลยาณมิตร เอิ่มมมม ว่ายน้ำไม่เป็น กลัวสิคะ นั่งเรือ ก็เลยถามไปว่านั่งรถไปรอได้ไหม ไกด์บอกว่าช้าไปเสียแล้ว รถไปรออีกด้านนึงของแม่น้ำเรียบร้อยแล้ว ในใจตอนนั้นก็คิด ควรใส่ชูชีพไหม? เพราะเบื้องหน้าเคว้างคว้างเหลือเกิน ท้องฟ้ามันมืดมัว พอๆกับความกลัวของเราตอนนั้นเลย มาดู 360 องศากัน ว่ามันเคว้งแค่ไหน
https://poly.google.com/view/96dfHtnfRk5
พอขึ้นเรือก็หายกลัวได้นิดนึง แต่มีสิ่งนึงที่ฉุกคิดได้กับประสบการณ์ขึ้นเรือครั้งแรกในชีวิตที่กรุงเทพฯ คือ ถ้าออกเดท ห้ามพากันมาทางเรือเด็ดขาด!! ลมพัด เหม่งเปิดเป็นคนในราชวงค์แมนจูเลยทีเดียว ไกด์ก็บรรยายไปด้วยว่า จะพาไปดูมุมที่สวยที่สุดของวัด มันเป็นมุมที่อยู่ด้านหลังเหรียญ 10 บาท เราก็หาเหรียญ 10 มาถ่ายรูปคู่ด้วยค่ะ แต่สรุปคือ พัง!!!! พังยังไงมาดูกัน
กล้องโทรศัพท์น้อยๆ ของเราเบลอหลังให้พร้อม แต่ที่พังกว่านั้นคือ
มีเรือสินค้าผ่านพอดี เค้าก็เลยต้องอ้อมไกลๆ ฮือ รุนแรงถึงขั้นทำลายความฝันกันเลยทีเดียว จากนั้น ไกด์ก็พาข้ามฟากวัดกัลยาณมิตร ระหว่างทางไกด์ก็บรรยายถึงประวัติศาสตร์ต่างๆ วัดกัลยาณมิตรเหมือนทางนครชัยแอร์ไม่ได้เอามาเป็นไฮไลท์ของทัวร์ แต่มันดีกับเรามาก คือ เพื่อนเราบอกว่าอยากพามาวัดนี้ เพราะ "ถ้าได้ลอดซุ้มประตูวัดกัลยาณมิตร เราก็จะเป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป" เง้อววววว รักเพื่อนขึ้นอีกทีนี้ ซึ้งใจน้ำตาจิไหลในวัดกันเลยทีเดียว แต่ซุ้มนี้ลอดเข้าแล้ว เพื่อนบอกห้ามลอดกลับ ให้เดินอ้อมแทน
ภาพ 360 องศาภายในวัดแบบมัวๆ >>
https://poly.google.com/view/9fKudwNhAto
มาไหว้หลวงโตหรือเรียกตามแบบจีนว่า “ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง”ที่วัดนี้กันค่ะ 360 องศา>>
https://poly.google.com/view/fZv5PQGsNMi
จากนั้นก็ไกด์จะพาเดินเลาะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังชุมชน ‘กุฎีจีน’ แต่ระหว่างทางเราได้แวะที่ศาลเจ้าเกียนอันเกงก่อน ณ เวลานี้ประมาณ 11.30 น. ร้อนมากค่ะ แนะนำพกร่มมาด้วยได้เลย อีกอย่าง เสื้อยีนส์ไม่เหมาะกับทริปนี้ค่ะ พังมาก555
ไกด์เค้าพาเข้าไปในศาลเจ้า แต่เค้าห้ามถ่ายรูป ก็เลยไม่มีรูปภายในศาลเจ้ามาให้ดู
https://poly.google.com/view/aFHYYJ_BacL <<360 องศา นี่เป็นรูปศาลเจ้าเกียนอันเกง ในมุมมองนางฟ้า ก็สวยไปอีกแบบนึงนะคะ
จากนั้นไกด์ก็พาไปกินข้าวที่ พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เค้าเสิร์ฟหมูตุ๋นสูตรโปรตุเกสดั้งเดิม พี่เจ้าของบ้านเค้าก็มาอธิบายว่าทำยังไงบ้าง แต่เสียงพี่เค้าเบาไปนิด (หรือหูเราตึง) ก็เลยได้ยินไม่ชัดว่าทำยังไงบ้าง และก็จะมี “ขนมฝรั่งกุฎีจีน” แถมมาด้วย รสชาติเหมือนขนมไข่ (รู้จักขนมไข่กันไหมอ่า มันเรียกเหมือนกับที่เชียงใหม่ป่าว) คือข้างนอกจะกรอบๆหน่อย ข้างในก็ไม่ได้นุ่มมากเท่าไหร่ โอยยย บรรยายไม่ถูก เอางี้หลังจากกินข้าวเสร็จก็ไปดู พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน กันต่อ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เราง่วง เพราะอิ่มมาก
ไกด์พามาดูที่เค้าทำขนมฝรั่งกุฎีจีน ระหว่างทางก็มีลูกทัวร์แวะซื้อขนมอื่นๆ กัน เราไม่ได้ซื้อเพราะเพื่อนบอกว่า เดี๋ยวเราจะไป ICON SIAM ไปหาอะไรกินแถวนั้นดีกว่า ด้วยความที่ ง่วง ร้อน ขี้เกียจหิ้ว ก็เลยไม่ได้ซื้อค่ะ นี่คือรูปขนมที่เค้าทำกัน เค้าอบอยู่ในเตา ด้านบนโรยน้ำตาลไว้ จากใช้ฝาปิด แล้ววางถ่านไว้ด้านบน ให้น้ำตาลละลายและหน้ากรอบ
พิมพ์จนเมื่อยละ ทริปไปได้ครึ่งเดียวเอง ไปค่ะ ไปกันต่อที่วัดประยุรวงศาวาส ก็เดินไปไหว้หลวงพ่อพระพุทธนาคกัน ไกด์เค้าก็อธิบายถึงตระกูลบุนนาคที่สร้างวัดนี้ ในใจก็คิดตาม ตระกูลนี้เกี่ยวข้องกับ อนันต์ บุนนาครึป่าวหนออออ
https://poly.google.com/view/dpqUA4_RjrS 360 องศา
อิ่มบุญกันไป แต่นี่ยังไม่ไฮไลท์สุดของวัดนี้ วัดนี้ไกด์เค้าบอกว่าได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 (Award of Excellence) ให้โครงการบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์ ของยูเนสโก้ด้วย
[CR] รีวิว จากเชียงใหม่ไปทัวร์กรุงเทพครั้งแรก ประสบการณ์ดีๆที่อยากแชร์ต่อ
หลังจากที่ไปมาเอง เที่ยวเอง รีวิวเอง ตอนนี้จะหันมาขายเองแล้วค่ะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า ว่าทริป Unseen bangkok จะสนุกแค่ไหน (ต้องขอออกตัวก่อนว่าเราไม่เคยมาเที่ยว กทม.เลย นี่เป็นการไปเที่ยวครั้งแรก ผิดถูกประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)
เริ่มกันเลยค่ะ ทริปนี้เราจะเดินทางด้วย Mini bus ค่ะ รูปร่างน่ารักๆ เป็นบัสน้อยๆ แบบในรูป
เริ่มทริปกันเลย โดยจะมีการนัดหมายมาเจอที่สถานีเดินรถ นครชัยแอร์ ตอน 8.00 นะค่ะ บนรถแจกอาหารเช้า ชมเมืองไป กินข้าวไป เพลินดีอีกแบบนึง
ระหว่างทางไกด์ก็จะเริ่มบรรยายถึงความสำคัญ ประวัติ ของสถานที่ ที่รถขับผ่าน
เค้าแจกหนังสือให้อ่านด้วย แต่เปิดอ่านได้นิดเดียว มัวแต่กินหมูปิ้ง ระหว่างทางไกด์ก็บอกถึงราชนิกูลต่างๆ ก็เพิ่งรู้นี่แหล่ะ ว่าฮิวโก้ น้าแน็ค สืบเชื่อพระวงค์มาตั้งแต่สมัยไหน (แต่จำไม่ได้แล้วนะ ซับซ้อนเกินรอยหยักแห่งการอยากไปเที่ยวจะรับได้)
วัดอรุน
เราใช้กล้อง 360 องศา ถ่ายมา https://poly.google.com/view/ey_AKFupgjN มันไม่ค่อยชัดเพราะส่งไฟล์ไปๆมาๆ คุณภาพเลยหายหมด ยังมีภาพอื่นๆ อีกนะคะ เดี๋ยวจะพยายามลงรูป 360 องศาให้ดู
อันนี้เป็นรูปที่ไม่ได้ทำ 360 องศามา แต่เป็นแบบพาโนมาร่า ก็ดูฟินไปอีกแบบ แว๊บแรกที่เห็นวัดนี้ เรา งง งง ค่ะ ทำไมมีรูปปั้นจีนรวมกับพระพุทธรูปด้วย ไกด์เค้าก็อธิบายความเป็นมา ความเกี่ยวดองของชาวไทยและจีน ในใจตอนนั้นก็คิด ไม่น่าเชื่อออออ มันมาอยู่ด้วยกันได้ไง
ที่จริงมันก็ฟินๆ ไปอีกอารมณ์นึงนะคะ แต่ที่รู้สึกได้คือ ชาวพุทธเชื้อสายจีนนี่คงฟินสุด
อากาศวันนี้ร้อนค่ะ ดันนัดกันใส่เสื้อยีนส์มาอีกเยี่ยง girl group แห่งคาบสมุทอินโดจีนเลยทีเดียว
สภาพคือเครื่องสำอางค์ที่โบ๊ะมา ไหลออกมากับเหงื่อค่ะ ตอนนี้ไกด์เค้าพาคนอื่นชมวัด แต่นี่ขออนุญาตไกด์เกเรออกมาหาอะไรเย็นๆ ดื่ม
รอดตายเพราะกาแฟวัดแจ้ง รสชาติใช้ได้นะคะ 75 บาท แต่ที่ได้มากกว่านั้นคือบรรยากาศเย็นๆ มีอาหารด้วยนะคะ เห็นโต๊ะข้างๆกิน แต่เราไม่กินค่ะ รอกินที่ทัวร์เค้าจัดให้ เค้าบอกเป็นอาหารโปรตุเกสโบราณ ไม่รู้ว่า งก หรือ เห็นแก่กินนะคะ
พอมีแรงและเห็นไกด์เค้าพาลูกทัวร์คนอื่นๆ มาลิบๆ เราเลยไปรวมกับกลุ่มค่ะ เดี๋ยวมาดูมุมอื่นของวัดกันนะคะ ตรงนี้เป็นมุมฝั่งที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มี https://poly.google.com/view/8dPrE2cq4MC <<360 องศาให้ดูด้วย (ไม่ HD อีกแล้ว เดี๋ยวงานหน้าแก้ตัวใหม่)
มาถึงตรงทางเข้า คนไทยเข้าฟรีค่ะ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าชม 50 บาท เค้าแนะนำให้สะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้าค่ะ ป้องกันคนล้วงกระเป๋า (แนะนำนะคะ กาแฟกินหมดแล้วรีบทิ้งเถอะ น้ำแข็งละลายเร็วมาก กล้องเอย กระเป๋าเอย ไหนจะขึ้นบันไดตรงพระปรางค์อีก อีรุงตุงนังไปหมด)
มาดูพระปรางค์วัดอรุณฯ กันค่ะ สวยมาก ใหญ่มากด้วย และบันไดก็ชันมากด้วยเช่นกัน ดูพระปรางค์แบบ 360 องศา>> https://poly.google.com/view/bkKtg8Wfqnm
มาดูความชันของบันไดกัน แทบจะต้องปีนขึ้นไป (หรือเราแก่แล้วหว่า)
รูปนี้เราให้ชื่อว่า "มุมมองนางฟ้า" เป็นมุมมองจากบนฟ้า ที่มองได้ 360 องศา จากจุดจุดนึง มองภาพแล้วอยากจะบินได้
อีกสิ่งนึงที่คนต่างจังหวัดได้ยินบ่อยๆ คือ ยักษ์วัดแจ้ง ได้เห็นตัวเป็นๆก็คราวนี้อ่ะ วันนี้คนก็มาถ่ายรูปคู่กับยักษ์เยอะอยู่นะคะ https://poly.google.com/view/amrpOIYeMyI <<360 องศา
มีเห็นคนแต่งชุดไทยเดินไปเดินมาด้วย ทำให้นึกถึงตัวเองตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วใส่กิโมโนเลย เลยขอเข้าไปถ่ายรูปคู่ด้วยซะหน่อย ทีแรกนึกว่าเป็นนักท่องเที่ยวไทยเหมือนเรา แต่ป่าว จีนค่ะ มันก็เลยรู้สึกมึนงงนิดหน่อย คนไทย ไปขอถ่ายรูปคนจีน แต่คนจีนใส่ชุดไทย แถมยกมือไหว้ด้วย เอออออ มันได้
ไกด์เค้าเรียกขึ้นเรือแล้วค่ะ เราก็ไปรวมกับกลุ่มทัวร์ แต่ข่าวร้ายสำหรับเรามาถึงแล้ว เค้าให้ขึ้นเรือไปไปรอบๆ แล้วไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือวัดกัลยาณมิตร เอิ่มมมม ว่ายน้ำไม่เป็น กลัวสิคะ นั่งเรือ ก็เลยถามไปว่านั่งรถไปรอได้ไหม ไกด์บอกว่าช้าไปเสียแล้ว รถไปรออีกด้านนึงของแม่น้ำเรียบร้อยแล้ว ในใจตอนนั้นก็คิด ควรใส่ชูชีพไหม? เพราะเบื้องหน้าเคว้างคว้างเหลือเกิน ท้องฟ้ามันมืดมัว พอๆกับความกลัวของเราตอนนั้นเลย มาดู 360 องศากัน ว่ามันเคว้งแค่ไหน https://poly.google.com/view/96dfHtnfRk5
พอขึ้นเรือก็หายกลัวได้นิดนึง แต่มีสิ่งนึงที่ฉุกคิดได้กับประสบการณ์ขึ้นเรือครั้งแรกในชีวิตที่กรุงเทพฯ คือ ถ้าออกเดท ห้ามพากันมาทางเรือเด็ดขาด!! ลมพัด เหม่งเปิดเป็นคนในราชวงค์แมนจูเลยทีเดียว ไกด์ก็บรรยายไปด้วยว่า จะพาไปดูมุมที่สวยที่สุดของวัด มันเป็นมุมที่อยู่ด้านหลังเหรียญ 10 บาท เราก็หาเหรียญ 10 มาถ่ายรูปคู่ด้วยค่ะ แต่สรุปคือ พัง!!!! พังยังไงมาดูกัน
กล้องโทรศัพท์น้อยๆ ของเราเบลอหลังให้พร้อม แต่ที่พังกว่านั้นคือ
มีเรือสินค้าผ่านพอดี เค้าก็เลยต้องอ้อมไกลๆ ฮือ รุนแรงถึงขั้นทำลายความฝันกันเลยทีเดียว จากนั้น ไกด์ก็พาข้ามฟากวัดกัลยาณมิตร ระหว่างทางไกด์ก็บรรยายถึงประวัติศาสตร์ต่างๆ วัดกัลยาณมิตรเหมือนทางนครชัยแอร์ไม่ได้เอามาเป็นไฮไลท์ของทัวร์ แต่มันดีกับเรามาก คือ เพื่อนเราบอกว่าอยากพามาวัดนี้ เพราะ "ถ้าได้ลอดซุ้มประตูวัดกัลยาณมิตร เราก็จะเป็นมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป" เง้อววววว รักเพื่อนขึ้นอีกทีนี้ ซึ้งใจน้ำตาจิไหลในวัดกันเลยทีเดียว แต่ซุ้มนี้ลอดเข้าแล้ว เพื่อนบอกห้ามลอดกลับ ให้เดินอ้อมแทน
ภาพ 360 องศาภายในวัดแบบมัวๆ >>https://poly.google.com/view/9fKudwNhAto
มาไหว้หลวงโตหรือเรียกตามแบบจีนว่า “ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง”ที่วัดนี้กันค่ะ 360 องศา>>https://poly.google.com/view/fZv5PQGsNMi
จากนั้นก็ไกด์จะพาเดินเลาะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังชุมชน ‘กุฎีจีน’ แต่ระหว่างทางเราได้แวะที่ศาลเจ้าเกียนอันเกงก่อน ณ เวลานี้ประมาณ 11.30 น. ร้อนมากค่ะ แนะนำพกร่มมาด้วยได้เลย อีกอย่าง เสื้อยีนส์ไม่เหมาะกับทริปนี้ค่ะ พังมาก555 ไกด์เค้าพาเข้าไปในศาลเจ้า แต่เค้าห้ามถ่ายรูป ก็เลยไม่มีรูปภายในศาลเจ้ามาให้ดู https://poly.google.com/view/aFHYYJ_BacL <<360 องศา นี่เป็นรูปศาลเจ้าเกียนอันเกง ในมุมมองนางฟ้า ก็สวยไปอีกแบบนึงนะคะ
จากนั้นไกด์ก็พาไปกินข้าวที่ พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เค้าเสิร์ฟหมูตุ๋นสูตรโปรตุเกสดั้งเดิม พี่เจ้าของบ้านเค้าก็มาอธิบายว่าทำยังไงบ้าง แต่เสียงพี่เค้าเบาไปนิด (หรือหูเราตึง) ก็เลยได้ยินไม่ชัดว่าทำยังไงบ้าง และก็จะมี “ขนมฝรั่งกุฎีจีน” แถมมาด้วย รสชาติเหมือนขนมไข่ (รู้จักขนมไข่กันไหมอ่า มันเรียกเหมือนกับที่เชียงใหม่ป่าว) คือข้างนอกจะกรอบๆหน่อย ข้างในก็ไม่ได้นุ่มมากเท่าไหร่ โอยยย บรรยายไม่ถูก เอางี้หลังจากกินข้าวเสร็จก็ไปดู พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน กันต่อ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เราง่วง เพราะอิ่มมาก
ไกด์พามาดูที่เค้าทำขนมฝรั่งกุฎีจีน ระหว่างทางก็มีลูกทัวร์แวะซื้อขนมอื่นๆ กัน เราไม่ได้ซื้อเพราะเพื่อนบอกว่า เดี๋ยวเราจะไป ICON SIAM ไปหาอะไรกินแถวนั้นดีกว่า ด้วยความที่ ง่วง ร้อน ขี้เกียจหิ้ว ก็เลยไม่ได้ซื้อค่ะ นี่คือรูปขนมที่เค้าทำกัน เค้าอบอยู่ในเตา ด้านบนโรยน้ำตาลไว้ จากใช้ฝาปิด แล้ววางถ่านไว้ด้านบน ให้น้ำตาลละลายและหน้ากรอบ
พิมพ์จนเมื่อยละ ทริปไปได้ครึ่งเดียวเอง ไปค่ะ ไปกันต่อที่วัดประยุรวงศาวาส ก็เดินไปไหว้หลวงพ่อพระพุทธนาคกัน ไกด์เค้าก็อธิบายถึงตระกูลบุนนาคที่สร้างวัดนี้ ในใจก็คิดตาม ตระกูลนี้เกี่ยวข้องกับ อนันต์ บุนนาครึป่าวหนออออ https://poly.google.com/view/dpqUA4_RjrS 360 องศา
อิ่มบุญกันไป แต่นี่ยังไม่ไฮไลท์สุดของวัดนี้ วัดนี้ไกด์เค้าบอกว่าได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 (Award of Excellence) ให้โครงการบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์ ของยูเนสโก้ด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น