ไม่ซื่อสัตย์วิวาห์เก่าพัง หมู ดิลก ร่ำไห้ เมียไม่มีต้นทุน ทำรู้จักรักแท้

ภรรยาปัจจุบันนางงามสู้ชีวิตกันมา 27 ปี หลังวิวาห์แรกพังพินาศเพราะความไม่ซื่อสัตย์ – หมู ดิลกเปิดใจเรื่องความรัก ใน club friday show ยุคเป็นพระเอกเนื้อหอมทำให้เคยใช้ชีวิตเปลี่ยน หลายคน หลายความรัก ไม่เคยให้ความมั่นใจกับใคร ยอมรับมีคบซ้อน สร้างเรื่องโกหกมากมาย เรียกชื่อผิดก็มี มักใช้คำอ้างว่าค้นหาตัวเองตั้งแต่ตอนเรียนจนเข้าวงการแต่ละครั้งจบความสัมพันธ์ไม่ดี ผู้หญิงก็ขอหยุด บางกรณีตัวเองก็สูญเสีย บางกรณีก็สบายใจที่ไปได้

คนที่เลือกแต่งงาน เราคิดว่าคนนี้ดีที่สุด วันหนึ่งเราเลือกคนหนึ่งมาแต่งงาน มองย้อนในมุมอดีตภรรยา เราคงทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย มีการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญคือความซื่อสัตย์ ไว้วางใจ ตามประสาผู้ชายก็มีผู้หญิงอื่นซึ่งวันนั้นเราไม่รู้สึกอะไร ขณะที่อดีตภรรยาก็รักเรามากจนใช้คำว่า พี่ไปมีคนอื่นได้ถ้าไม่เป็นตัวเป็นตน จนวันหนึ่งอดีตภรรยาก็ไม่ไหว เขาตัดสินใจขอแยกทาง หมู ดิลกเผยว่าไม่มีสัญญาณมาก่อนเพราะเรามองข้าม เราจัดลำดับความสำคัญเรื่องความซื่อสัตย์ไว้ท้ายๆ เราแค่ดูแลเขาไปจนเวลาผ่านไปเพิ่งได้รู้ว่าการใช้ชีวิตคู่ต้องซื่อสัตย์ตลอดเวลา ไม่ใช่บางเวลา

“ผมก็พยายามเหนี่ยวรั้ง เล่าตรงๆ และยุติธรรมกับฝ่ายหญิง ทรัพย์สินจากการทำงานตั้งแต่ก่อนแต่งงานตัดสินใจยกให้ผู้หญิง  เขาไม่ผิดที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมด เรามีชื่อเสียงแต่ต้องออกมาจากบ้าน เราต้องเริ่มต้นใหม่ เขาบอกว่าวันหนึ่งอาจจะคืนบ้านให้ พูดในมุมที่ดีสำหรับผม เขาก็ยังให้เราอยู่ในบ้านจนกว่าเราจะมีที่ยืน ตอนนั้นสถานการณ์ชีวิตซับซ้อนจากปัญหาชีวิตคู่ เสียใจเวลาอยู่ในบ้านหลังนั้นคนเดียวจะถามทำไมๆ ต้องเกิดขึ้น”

การหย่าร้างไม่มีมีคนไม่ดีหรอก ไม่มีใครอยากทำร้ายกันแต่ความเจ็บปวด การไม่ปรับตัวของเราที่ทำร้ายเราเอง ตอนแต่งงานดังแล้ว แต่งเงียบๆ ที่บ้านของผู้หญิงที่ต่างจังหวัด ตลกมากในละครเรารวย มีบ้านหลังใหญ่ มีรถแต่ชีวิตจริงมาจากครอบครัวไม่มีแบ็กกราวด์มีทรัพย์สินเลยมาทำงานแสดงเป็นคนแรกที่เก็บเงินทองได้ มีชื่อเสียง บทพระเอกในวงการของตัวเองก็กำลังจะจบลง มองไปข้างหลัง พ่อแม่ก็ยังลำบาก ยังหาตัวเองไม่เจอ บำบัดตัวเอง ร้องไห้กับตัวเองพอแล้ว ดูหนังผีเท่าไหร่ก็ไม่กลัว ปัญหาชีวิต ไม่มีงาน ไม่มีเงินหนักกว่ามาก ปัญหาชีวิตน่ากลัวกว่าผี จนประมาณปีหนึ่งไปทำงานพิธีกรเสร็จแล้วมีคนชวนไปงานเลี้ยงวันเกิดนางงาม ตอนแรกไม่ไปแต่มีเหตุให้ต้องไป ลืมความทุกข์ไปชั่วขณะ ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ปิ๊ง สวย ตอนนั้นยังสิ้นหวัง บ้านก็ไม่มีจะอยู่แล้ว บ้านแม่ต่างจังหวัดก็เช่าเขา ช่วงวัยไม่มีใครจ้าง ไม่มีบทที่เหมาะคิดว่าไม่น่าหาเงินได้มากอีกแล้ว

มาเจอเขา (เกรซ ภรรยาคนปัจจุบัน) อีกครั้งสองครั้ง จากนั้นครั้งที่ 4 แล้วเขาหายไปเลยเนื่องจากเราแต่งงานครั้งแรกก็เงียบ หย่าก็เงียบ เขาไม่แน่ใจว่าเราหย่าแล้ว ไปดักรอปากซอยบ้านเขาก็ไม่เจอหายไปเกือบปี ผ่านไปอีกปีหนึ่ง ไปเป็นพิธีกรประกวดนางงามมาเจอในงาน เธอเป็นตัวแทนไปประกวดมิสฮ่องกงกลับมาร่วมงานด้วย

ก่อนหน้านั้นเราพิสูจน์ตัวเองทำตัวแบดบอย one night stand ก็ยิ่งสูญเสียความนับถือตัวเอง พอมาเจออีกครั้งมาคุยกันใหม่ Grace เป็นนางงามมาจากครอบครัวธรรมดา เราก็ทรัพยากรร่อยหรอพอๆ กันชวนกันไปขายประกัน งานแสดงยังมีแต่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าทำอย่างอื่นได้ไหมแทบไม่รับงานวงการบันเทิง ทุ่มเทงานขาย อยู่ห้องเช่า 3,500 บาท ห้องน้ำแคบเท่าตัวเราจนมาขายประกันจะซื้อบ้านอยู่ร่วมกับคู่ชีวิตสู้กันวันต่อวัน เกรซ ภรรยาคิดว่าเราเป็นนักแสดงน่าจะมีเงินเยอะต้องวางเงินซื้อบ้าน 1 แสน

“ผมมี 4 หมื่น เธอวาง 6 หมื่น เหลือ 27 บาทในบัญชี เงินจะจ่ายค่าบ้านเดือนหน้ายังไม่มี ต่อสู้กันมา 27 ปี ขายประกัน 9 ปีจนจ่ายค่าบ้านหมด
จนเริ่มไม่มีภาระเลยมีลูกและกลับมาเล่นละคร เราดูแลความรักทีละวัน อย่าประมาท อย่าคิดว่าความเจ็บช้ำจะไม่กลับมาอีก หากไม่ดูแลเขา เราต้องหาความหมายตัวเองให้เจอ

รักปัจจุบันไม่เคยแยกจากกัน เห็นผู้หญิงสวยๆ น่ารักก็มีชอบแต่ต้องซื่อสัตย์ เราไม่เคยมีงานแต่ง เธอไม่คิดเรื่องแต่งงาน ไม่เอาของแบรนด์เนม อยากเก็บเงินให้ลูกเพราะเคยผ่านจุดอยู่ห้องเช่า เหลือเงิน 27 บาท ไม่มีเงินจะผ่อนบ้าน

หมู ดิลกถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เผยว่า ช่วง 27 ปี อยากบอกรักกับภรรยาและลูกทุกวัน ประหลาดใจเคยคิดว่า อยากหาผู้หญิงมีการศึกษา ร่ำรวยมาร่วมชีวิต แต่ไม่คิดว่าภรรยาที่อดีตไม่มีต้นทุน ทำงานขายตามห้างเป็นแรงบันดาลใจให้เราเรียนรู้ถึงคนที่รักเราจริง การให้กับลูกและภรรยาเป็นการให้ที่ไม่หวังผลกำไร อยากให้คนที่อยากทำอะไร คิดให้ดี อย่าต้องมานั่งเสียดายทีหลัง

Credit: Khaosod

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่