จุดธูป-เทียน และถวายเครื่องบูชา ทำไม?
การจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์ิสิทธิ์ เป็นรหัส เราจะสื่ออะไรต้องมีรหัส หรือมีรูป เหมือนกันคนจีนเห็นอั่งเปา (红包) ก็มีความรู้สึกดี เป็นสัญลักษณ์ในความโชคดี เป็นมงคล เช่นเดียวกันกับการมีพระพุทธรูป ก็เป็นสัญลักษณ์ (Symbol) รหัส (password) เป็นรูปหมายให้เราจับ สื่อถึงความหมายแห่งพระพุทธเจ้าได้
ถ้าอย่างนี้พระอรหันต์ต่างๆ ท่านมีการบูชาพระธรรมไหม?
ท่านจะทำยังไงก็สุดแท้แต่จริตของแต่ละท่าน เช่น สมัยพุทธกาลมีการจุดธูปเทียนเช่นเดียวกัน แต่เป็นคนละแบบ คนละลักษณะ เช่น เขาจะจุดประทีป ส่วนใหญ่ตั้งแต่โบราณกาลจะจุดประทีป ส่วนเทียนจะมาทีหลัง การจุดประทีปจะใช้น้ำมัน ส่วนขี้เทียนนั้นเขาจะไม่ใช้เป็นเล่ม
การจุดเทียนก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความสว่าง แห่งการบูชา ระลึกถึงความเป็นปัญญาของท่าน
การบูชาด้วยเทียน เป็นสัญลักษณ์แห่งความแสงสว่าง แห่งความมีปัญญา
ส่วนการบูชาด้วยธูป จะมีควันล่องลอยไปมาขึ้นสู่เบื้องสูง เป็นสื่อในการไปสู่เบื้องบน เราหรือคนทั่วไปจะมีความเข้าใจว่าเป็นนิมิตหมายว่าสิ่งดีๆ จะอยู่เบื้องบน พอสิ่งดีๆ อยู่เบื้องบน พอเราไหว้เราก็ต้องการสื่อไปให้ถึงท่าน
ส่วนการบูชาจุดธูป เป็นการบูชาสื่อถึง พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือเป็นการบูชาพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ก็สุดแล้วแต่ใครเขาจะกำหนด
สมมติว่าเรามีเจตนาที่จะไหว้พระ เราก็ไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
การจุดธูป ควันลอยขึ้น ก็เป็นนิมิตหมายให้ภูมิของเราสูงขึ้น ถ้าเราภูมิสูงขึ้น มีความเข้าใจมากขึ้น ความเป็นสัญลักษณ์ก็ไม่จำเป็น เหมือนกับเราเดินขึ้นบันได ก็ไม่จำเป็นต้องมีราวจับ แต่ตรงนี้เราต้องมีราวให้เขาจับ เพราะว่าภูมิของเขาไม่ถึง
ถ้าคนภูมิถึง ก็ไม่จำเป็นต้องจุดธูปเทียนบูชา แม้ว่ายกมือไหว้ก็ยังไม่ต้องเลย ถ้าเราภูมิสูงอย่างนั้น ท่านจะใช้จิตกำหนด ก็จะเป็นภพเป็นขั้นภูมิไป
ถ้าหากว่าผู้ที่ภูมิสูงแล้ว ไม่จุดธูปเทียนบูชา แล้วท่านจะได้บุญกุศลอยู่ไหม?
บุคคลนั้นภูมิสูงแล้วท่านก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะท่านไม่ยึดติดในบุญกุศล และท่านถึงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยธูปเทียน แต่สิ่งที่เราต้องอาศัยการจุดธูปเทียนบูชา ก็เพื่ออาศัยสิ่งนี้นำพาเราไปให้ถึง เราต้องระลึกถึง เราต้องเข้าใจภูมินี้
บางคนบอกว่าไม่จำเป็นๆ แต่ภูมินั้นเขาจำเป็น บางคนก็บอกว่า ถวายดอกไม้มากๆ ก็บอกว่าสิ้นเปลือง อะไรอย่างนี้ ก็เป็นเพราะว่าเขาไม่เข้าใจ คือ เป็นผู้เอาแต่ภูมิตนเอง เช่น หลวงพ่อบางท่านก็บอกว่าไม่ต้องทำก็ได้ อย่างนี้ไม่ได้
อย่างเช่น ที่วัดพระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่ มีคนมาถวายดอกมะลิ บางคนก็บอกว่าสิ้นเปลืองเงินทองเปล่าๆ แต่ที่จริงไม่ใช่ เพราะว่ามันเป็นทางด้านจิตใจเป็นภูมิของเขาที่จะต้องมีอย่างนี้ ไม่มีไม่ได้
แล้วทำอย่างนี้จะก่อเกิดอานิสงส์ หรือประโยชน์หรือไม่? แต่เรามีภูมิปัญญาที่จะเข้าใจสิ่งนั้นให้ก่อเกิดทางปัญญาคิดต่อหรือไม่? ถ้าเราไม่ปัญญาคิดต่อก็แค่นั้น แต่ถ้าเรามีปัญญาคิดต่อก็จะเยอะ
ถ้าคนที่ภูมิสูงเป็นเห็นเช่นนั้น ก็จะมีปัญญาคิดต่อมากกว่านั้นเยอะเลย เช่น ทำให้คนมีงานทำไม่ต้องไปเป็นโจรลักขโมย ทำให้คนเกิดการงาน คนที่ปลูก และคนที่มาซื้อไปขาย จะเกิดธุรกิจการงานมากเพียงใด เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนพวง ลองคิดดูว่า ก่อเกิดให้คนมีงานทำมากน้อยเพียงใด เกษตรกรก็อยู่ได้ ชาวบ้านก็อยู่ได้ มีรายได้หาเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวได้
ถ้าคิดสูงกว่านี้ เป็นการสอนให้คนพวกนี้หันมาทางดีหรือไม่? ก็มาทางดีได้แน่นอน เช่น คนที่ปลูกดอกมะลิ คนขาย เราก็มาสอนไปในทางดี ในเมื่อเขาหากินมาทางนี้ เราก็สามารถปลูกฝังธรรมะ สั่งสอนเขาได้ แต่เราได้ทำหรือเปล่าเท่านั้นเอง คิดเพียงแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
สรุป ๑. ให้เขามีการงาน ไม่ต้องประพฤติทางที่ไม่ดี
๒. เราก็จะจูงเขาหันมาทำดีได้
เราลองมาคิดดูว่า เราสร้างโบสถ์หลังหนึ่งต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการจะสร้างให้คนเป็นคนดี แต่นี่ใช้เงินเพียงเท่านี้ก็ทำให้เขาเป็นคนดีได้ แต่ไปยังไปสอนเขาได้อีก เช่น ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์อะไร อันนั้นเป็นสัญลักษณ์อะไร ก็จะเกิดภูมิธรรม
ถ้าเป็นดอกไม้ พวงมาลัยมาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความหมายว่า เพราะเป็นนิมิตหมายตัวแทนสิ่งดีๆ มีความหอม มองดูแล้วชื่นใจ มองดูแล้วสดใส เป็นสิ่งดีๆ หมด เรียกว่า เป็นสิ่งมงคล ในเมื่อเป็นสิ่งเป็นมงคล แล้วสิ่งนี้จะนำพาจิตเราไปทางไหน ก็นำพาจิตเราไปในทางมงคล แล้วจะไปทำสิ่งที่เป็นอัปมงคลไหม? ก็ไม่ทำ
แม้แต่ผู้หญิงทำไมต้องใช้เครื่องสำอางค์ ใช้เครื่องประดับ เพราะทำให้โลกสดใส เราใช้เครื่องสำอางค์ก็ดี แต่ต้องใช้ให้พอควรแก่เหตุ
แต่ถ้าเราจุดธูป ๑ ดอก ๓ ดอก หรือกี่ดอกก็แล้วแต่ นั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งการนัดหมายกัน ให้เข้าใจกัน ตกลงกัน เช่น ๑ ดอก ให้ถือว่าเป็นการไหว้ผี ๓ ดอกไว้พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ฯลฯ บางสำนักก็จะไม่เหมือนกัน ก็สุดแล้วแต่เจตนาไม่เหมือนกัน ไม่มีความผิด
ศาสนาคริสต์ไม่จุดธูป แต่ทางเขาก็ยังจุดกำยาน แม้แต่อิสลาม ก็จะมีสัญลักษณ์ของเขา แม้ไม่ใช่ธูปแต่ก็มีความหมายเดียวกัน สิ่งการณ์ต่างๆ หนีไม่พ้นธรรมชาติ ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมต้นไม้ต้องมีสีเขียว สีเหลือง สีแดง ฯลฯ ก็เป็นนิมิตหมาย
ถ้าเราถวายมะพร้าว หรือขวดน้ำ แล้วเราไม่เปิดฝา อย่างนี้จะได้ไหม?
แม้เราไม่ได้เปิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ได้ไม่มีมือ ไม่มีเท้านี่ ท่านเสกเก่งกว่าเรานี่ บางคนถือว่าอย่างนี้ไม่เรียบร้อย บางคนก็จะต้องเปิดฝาให้ท่าน อย่างนี้ก็ไม่เป็นไร แม้แต่บางคนถวายผลไม้ก็ยังต้องปลอกเปลือกให้
เพราะอะไรเราต้องถวายผลไม้แด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ?
เราต้องมาถามว่า เราอยู่ในภูมิอะไร? ภูมิเราตรงนี้ต้องมี เราจะรู้สึกว่ามั่นคง เรามีของให้ท่าน เราก็จะมีความรู้สึกว่าท่านต้องเอ็นดูเราแล้ว แต่ถ้าบางคนภูมิสูงเขาก็จะยึดถือการปฏิบัติ สูงกว่านั้น ก็จะถือเอาความเข้าใจ ปรัชญา จะเป็นขั้นๆ ไป
แล้วทำไมคนที่ภูมิสูงก็ยังต้องซื้อผลไม้ อาหารคาวหวานถวายท่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ?
ท่านก็ต้องการทำให้คนดู
อย่างเช่น พระพุทธเจ้าต้อง "แสดงกรรม เพื่อให้เป็นการเจริญธรรม"
ก็เหมือนกัน คนที่ภูมิสูงก็เพื่อแสดงกรรม เพื่อให้เจริญธรรม คนจะได้เจริญตามแบบ "แสดงกรรม เพื่อให้เจริญธรรม"
เจริญธรรม ก็คือว่า เรามีสิ่งอะไรเราต้องบำรุงรักษา ถ้าเราขาดการบำรุงรักษาสิ่งนั้นจะดียังไงก็เสื่อม นี่แหละ แสดงกรรมเพื่อเจริญธรรม
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง
ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
จุดธูป-เทียน และถวายเครื่องบูชา ทำไม?
การจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์ิสิทธิ์ เป็นรหัส เราจะสื่ออะไรต้องมีรหัส หรือมีรูป เหมือนกันคนจีนเห็นอั่งเปา (红包) ก็มีความรู้สึกดี เป็นสัญลักษณ์ในความโชคดี เป็นมงคล เช่นเดียวกันกับการมีพระพุทธรูป ก็เป็นสัญลักษณ์ (Symbol) รหัส (password) เป็นรูปหมายให้เราจับ สื่อถึงความหมายแห่งพระพุทธเจ้าได้
ถ้าอย่างนี้พระอรหันต์ต่างๆ ท่านมีการบูชาพระธรรมไหม?
ท่านจะทำยังไงก็สุดแท้แต่จริตของแต่ละท่าน เช่น สมัยพุทธกาลมีการจุดธูปเทียนเช่นเดียวกัน แต่เป็นคนละแบบ คนละลักษณะ เช่น เขาจะจุดประทีป ส่วนใหญ่ตั้งแต่โบราณกาลจะจุดประทีป ส่วนเทียนจะมาทีหลัง การจุดประทีปจะใช้น้ำมัน ส่วนขี้เทียนนั้นเขาจะไม่ใช้เป็นเล่ม
การจุดเทียนก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความสว่าง แห่งการบูชา ระลึกถึงความเป็นปัญญาของท่าน
การบูชาด้วยเทียน เป็นสัญลักษณ์แห่งความแสงสว่าง แห่งความมีปัญญา
ส่วนการบูชาด้วยธูป จะมีควันล่องลอยไปมาขึ้นสู่เบื้องสูง เป็นสื่อในการไปสู่เบื้องบน เราหรือคนทั่วไปจะมีความเข้าใจว่าเป็นนิมิตหมายว่าสิ่งดีๆ จะอยู่เบื้องบน พอสิ่งดีๆ อยู่เบื้องบน พอเราไหว้เราก็ต้องการสื่อไปให้ถึงท่าน
ส่วนการบูชาจุดธูป เป็นการบูชาสื่อถึง พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือเป็นการบูชาพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ก็สุดแล้วแต่ใครเขาจะกำหนด
สมมติว่าเรามีเจตนาที่จะไหว้พระ เราก็ไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
การจุดธูป ควันลอยขึ้น ก็เป็นนิมิตหมายให้ภูมิของเราสูงขึ้น ถ้าเราภูมิสูงขึ้น มีความเข้าใจมากขึ้น ความเป็นสัญลักษณ์ก็ไม่จำเป็น เหมือนกับเราเดินขึ้นบันได ก็ไม่จำเป็นต้องมีราวจับ แต่ตรงนี้เราต้องมีราวให้เขาจับ เพราะว่าภูมิของเขาไม่ถึง
ถ้าคนภูมิถึง ก็ไม่จำเป็นต้องจุดธูปเทียนบูชา แม้ว่ายกมือไหว้ก็ยังไม่ต้องเลย ถ้าเราภูมิสูงอย่างนั้น ท่านจะใช้จิตกำหนด ก็จะเป็นภพเป็นขั้นภูมิไป
ถ้าหากว่าผู้ที่ภูมิสูงแล้ว ไม่จุดธูปเทียนบูชา แล้วท่านจะได้บุญกุศลอยู่ไหม?
บุคคลนั้นภูมิสูงแล้วท่านก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะท่านไม่ยึดติดในบุญกุศล และท่านถึงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยธูปเทียน แต่สิ่งที่เราต้องอาศัยการจุดธูปเทียนบูชา ก็เพื่ออาศัยสิ่งนี้นำพาเราไปให้ถึง เราต้องระลึกถึง เราต้องเข้าใจภูมินี้
บางคนบอกว่าไม่จำเป็นๆ แต่ภูมินั้นเขาจำเป็น บางคนก็บอกว่า ถวายดอกไม้มากๆ ก็บอกว่าสิ้นเปลือง อะไรอย่างนี้ ก็เป็นเพราะว่าเขาไม่เข้าใจ คือ เป็นผู้เอาแต่ภูมิตนเอง เช่น หลวงพ่อบางท่านก็บอกว่าไม่ต้องทำก็ได้ อย่างนี้ไม่ได้
อย่างเช่น ที่วัดพระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่ มีคนมาถวายดอกมะลิ บางคนก็บอกว่าสิ้นเปลืองเงินทองเปล่าๆ แต่ที่จริงไม่ใช่ เพราะว่ามันเป็นทางด้านจิตใจเป็นภูมิของเขาที่จะต้องมีอย่างนี้ ไม่มีไม่ได้
แล้วทำอย่างนี้จะก่อเกิดอานิสงส์ หรือประโยชน์หรือไม่? แต่เรามีภูมิปัญญาที่จะเข้าใจสิ่งนั้นให้ก่อเกิดทางปัญญาคิดต่อหรือไม่? ถ้าเราไม่ปัญญาคิดต่อก็แค่นั้น แต่ถ้าเรามีปัญญาคิดต่อก็จะเยอะ
ถ้าคนที่ภูมิสูงเป็นเห็นเช่นนั้น ก็จะมีปัญญาคิดต่อมากกว่านั้นเยอะเลย เช่น ทำให้คนมีงานทำไม่ต้องไปเป็นโจรลักขโมย ทำให้คนเกิดการงาน คนที่ปลูก และคนที่มาซื้อไปขาย จะเกิดธุรกิจการงานมากเพียงใด เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนพวง ลองคิดดูว่า ก่อเกิดให้คนมีงานทำมากน้อยเพียงใด เกษตรกรก็อยู่ได้ ชาวบ้านก็อยู่ได้ มีรายได้หาเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวได้
ถ้าคิดสูงกว่านี้ เป็นการสอนให้คนพวกนี้หันมาทางดีหรือไม่? ก็มาทางดีได้แน่นอน เช่น คนที่ปลูกดอกมะลิ คนขาย เราก็มาสอนไปในทางดี ในเมื่อเขาหากินมาทางนี้ เราก็สามารถปลูกฝังธรรมะ สั่งสอนเขาได้ แต่เราได้ทำหรือเปล่าเท่านั้นเอง คิดเพียงแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
สรุป ๑. ให้เขามีการงาน ไม่ต้องประพฤติทางที่ไม่ดี
๒. เราก็จะจูงเขาหันมาทำดีได้
เราลองมาคิดดูว่า เราสร้างโบสถ์หลังหนึ่งต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการจะสร้างให้คนเป็นคนดี แต่นี่ใช้เงินเพียงเท่านี้ก็ทำให้เขาเป็นคนดีได้ แต่ไปยังไปสอนเขาได้อีก เช่น ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์อะไร อันนั้นเป็นสัญลักษณ์อะไร ก็จะเกิดภูมิธรรม
ถ้าเป็นดอกไม้ พวงมาลัยมาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความหมายว่า เพราะเป็นนิมิตหมายตัวแทนสิ่งดีๆ มีความหอม มองดูแล้วชื่นใจ มองดูแล้วสดใส เป็นสิ่งดีๆ หมด เรียกว่า เป็นสิ่งมงคล ในเมื่อเป็นสิ่งเป็นมงคล แล้วสิ่งนี้จะนำพาจิตเราไปทางไหน ก็นำพาจิตเราไปในทางมงคล แล้วจะไปทำสิ่งที่เป็นอัปมงคลไหม? ก็ไม่ทำ
แม้แต่ผู้หญิงทำไมต้องใช้เครื่องสำอางค์ ใช้เครื่องประดับ เพราะทำให้โลกสดใส เราใช้เครื่องสำอางค์ก็ดี แต่ต้องใช้ให้พอควรแก่เหตุ
แต่ถ้าเราจุดธูป ๑ ดอก ๓ ดอก หรือกี่ดอกก็แล้วแต่ นั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งการนัดหมายกัน ให้เข้าใจกัน ตกลงกัน เช่น ๑ ดอก ให้ถือว่าเป็นการไหว้ผี ๓ ดอกไว้พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ฯลฯ บางสำนักก็จะไม่เหมือนกัน ก็สุดแล้วแต่เจตนาไม่เหมือนกัน ไม่มีความผิด
ศาสนาคริสต์ไม่จุดธูป แต่ทางเขาก็ยังจุดกำยาน แม้แต่อิสลาม ก็จะมีสัญลักษณ์ของเขา แม้ไม่ใช่ธูปแต่ก็มีความหมายเดียวกัน สิ่งการณ์ต่างๆ หนีไม่พ้นธรรมชาติ ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมต้นไม้ต้องมีสีเขียว สีเหลือง สีแดง ฯลฯ ก็เป็นนิมิตหมาย
ถ้าเราถวายมะพร้าว หรือขวดน้ำ แล้วเราไม่เปิดฝา อย่างนี้จะได้ไหม?
แม้เราไม่ได้เปิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ได้ไม่มีมือ ไม่มีเท้านี่ ท่านเสกเก่งกว่าเรานี่ บางคนถือว่าอย่างนี้ไม่เรียบร้อย บางคนก็จะต้องเปิดฝาให้ท่าน อย่างนี้ก็ไม่เป็นไร แม้แต่บางคนถวายผลไม้ก็ยังต้องปลอกเปลือกให้
เพราะอะไรเราต้องถวายผลไม้แด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ?
เราต้องมาถามว่า เราอยู่ในภูมิอะไร? ภูมิเราตรงนี้ต้องมี เราจะรู้สึกว่ามั่นคง เรามีของให้ท่าน เราก็จะมีความรู้สึกว่าท่านต้องเอ็นดูเราแล้ว แต่ถ้าบางคนภูมิสูงเขาก็จะยึดถือการปฏิบัติ สูงกว่านั้น ก็จะถือเอาความเข้าใจ ปรัชญา จะเป็นขั้นๆ ไป
แล้วทำไมคนที่ภูมิสูงก็ยังต้องซื้อผลไม้ อาหารคาวหวานถวายท่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ?
ท่านก็ต้องการทำให้คนดู
อย่างเช่น พระพุทธเจ้าต้อง "แสดงกรรม เพื่อให้เป็นการเจริญธรรม"
ก็เหมือนกัน คนที่ภูมิสูงก็เพื่อแสดงกรรม เพื่อให้เจริญธรรม คนจะได้เจริญตามแบบ "แสดงกรรม เพื่อให้เจริญธรรม"
เจริญธรรม ก็คือว่า เรามีสิ่งอะไรเราต้องบำรุงรักษา ถ้าเราขาดการบำรุงรักษาสิ่งนั้นจะดียังไงก็เสื่อม นี่แหละ แสดงกรรมเพื่อเจริญธรรม
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง
ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต