พอดีได้ดูละครดอกแก้ว เลยนึกถึงละครพีเรียดเรื่องอื่นๆที่ท่านเจ้าพระยามีเมียหลายๆคน
ในทุกเรื่องที่ดูมา เหล่าบรรดาเมียของท่านมักจะอิจฉาริษยากัน ใส่ร้ายป้ายสีกันถึงขนาดสร้างหลักฐานเท็จมาทำร้ายกัน แถมยังฆ่ากันได้ง่ายๆเลย
บวกกับโดยส่วนตัวเคยฝันแนวๆนี้เหมือนกันในฝัน เราเป็นเมียรองๆของท่านเจ้าพระยา ไม่มีลูกหรือมีเป็นลูกสาว ไม่แน่ใจ แล้วเราไปอิจฉาเมียเอก ด้วยความคิดที่ว่า เป็นเมียเอกอยู่แล้ว ยังได้ลูกชายอีก พอเมียเอกคลอดลูก เราก็เอาลูกของเขาไปทิ้งไว้และทำให้คนอื่นๆในบ้านเข้าใจว่าเด็กเสียแล้ว
พอตื่นมาก็คิดเล่นๆว่า สมมติ นั่นคือเราในอดีตชาติ เราไม่เข้าใจตัวเองว่าเราจะทำแบบนั้นได้จริงๆเหรอ เราเป็นคนขี้อิจฉาริษยาถึงขนาดเอาเด็กทารกที่รู้เรื่องอะไรไปทิ้งไว้จริๆเหรอ เราเป็นคนที่มีนิสัยเหมือนพวกเมียร้ายๆของท่านเจ้าพระยาจริงๆเหรอ อย่างเราเนี่ยนะ จะทำแบบนั้น เป็นไปไม่ได้ อะไรแบบนี้
ทีนี้ก็เลยเกิดความสงสัยว่า ในสมัยก่อน มีจริงๆไหมคะ ที่บรรดาเมียๆทั้งหลายขิงท่านเจ้าพระยา อิจฉาริษยาจนถึงขนาดใส่ความกัน ฆ่ากันได้ลงคอขนาดนั้น
เมียท่านเจ้าพระยาสมัยก่อนสามารถใส่ร้ายป้ายสี ฆ่ากันได้ง่ายๆเหมือนในละครไหมคะ
ในทุกเรื่องที่ดูมา เหล่าบรรดาเมียของท่านมักจะอิจฉาริษยากัน ใส่ร้ายป้ายสีกันถึงขนาดสร้างหลักฐานเท็จมาทำร้ายกัน แถมยังฆ่ากันได้ง่ายๆเลย
บวกกับโดยส่วนตัวเคยฝันแนวๆนี้เหมือนกันในฝัน เราเป็นเมียรองๆของท่านเจ้าพระยา ไม่มีลูกหรือมีเป็นลูกสาว ไม่แน่ใจ แล้วเราไปอิจฉาเมียเอก ด้วยความคิดที่ว่า เป็นเมียเอกอยู่แล้ว ยังได้ลูกชายอีก พอเมียเอกคลอดลูก เราก็เอาลูกของเขาไปทิ้งไว้และทำให้คนอื่นๆในบ้านเข้าใจว่าเด็กเสียแล้ว
พอตื่นมาก็คิดเล่นๆว่า สมมติ นั่นคือเราในอดีตชาติ เราไม่เข้าใจตัวเองว่าเราจะทำแบบนั้นได้จริงๆเหรอ เราเป็นคนขี้อิจฉาริษยาถึงขนาดเอาเด็กทารกที่รู้เรื่องอะไรไปทิ้งไว้จริๆเหรอ เราเป็นคนที่มีนิสัยเหมือนพวกเมียร้ายๆของท่านเจ้าพระยาจริงๆเหรอ อย่างเราเนี่ยนะ จะทำแบบนั้น เป็นไปไม่ได้ อะไรแบบนี้
ทีนี้ก็เลยเกิดความสงสัยว่า ในสมัยก่อน มีจริงๆไหมคะ ที่บรรดาเมียๆทั้งหลายขิงท่านเจ้าพระยา อิจฉาริษยาจนถึงขนาดใส่ความกัน ฆ่ากันได้ลงคอขนาดนั้น