นักกีฬาฟุตบอลเป็นอาชีพที่มีจังหวะขึ้นลงเป็นวัฎจักร แม้หลายต่อหลายคนจะไม่สามารถก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จในระดับสูงได้แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่สามารถยืนระยะบนเวทีระดับโลกได้เป็นเวลานาน
นักเตะระดับตำนานบางส่วนยังมีโอกาสแขวนสตั๊ดทั้งที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้งได้สำเร็จ และต่อไปนี้คือ 9 นักเตะชื่อก้องที่บอกลาผืนหญ้าบนเวทีฟุตบอลระดับท็อป
เดวิด เบ็คแฮม
ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนสุดท้ายของเส้นทางอาชีพค้าแข้งระยะเวลายาว 21 ปี เดวิด เบ็คแฮม คว้าแชมป์ เอ็มแอลเส คัพ กับ แอลเอ กาแล็กซี ประดับเกียรติยศในการลงเล่นที่ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะโยกไปปิดฉากกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยแชมป์ ลีกเอิง ฤดูกาล 2012/13 ซึ่งเป็นแชมป์แรกของ เปแอสเช ในรอบ 19 ปี อดีตกัปตันทีมชาติ อังกฤษ รายนี้ยังบริจาคค่าเหนื่อยตลอดระยะเวลาที่ลงเล่นให้กับ ปารีสฯ ให้กับองค์กรการกุศลสำหรับเด็กท้องถิ่นอีกด้วย ก่อนที่ เบ็คแฮม จะทิ้งทวนเกมสุดท้ายด้วยการแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูเอาชนะคู่แข่งไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 และถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยน้ำตา
ชาบี อลอนโซ
มิดฟิลด์ดีกรีแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัยอย่าง ชาบี อลอนโซ ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2017 ยุติเส้นทางค้าแข้งที่มีถ้วยรางวัลประดับตู้โชว์ถึง 17 โทรฟีเมื่อรวมผลงานทั้งในระดับสโมสรและในนามทีมชาติ เจ้าตัวช่วย เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลา เดซิมา (ยูซีแอล สมัยที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร) ก่อนย้ายมาทิ้งทวนกับ บาเยิร์น มิวนิต ด้วยถาดแชมป์ บุนเดสลีกา อีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
เดิร์ค เคาท์
เดิร์ค เคาท์ คัลท์ฮีโร่แห่ง สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ปิดฉากอาชีพค้าแข้งของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อย้อนรอยกลับไปร่วมงานกับอดีตสโมสรที่ตัวเองสร้างชื่อขึ้นมาอย่าง เฟเยนูร์ด พาทีมเถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์ เคเอ็นวีบี คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ตามด้วยการซิวแชมป์ เอเรดิวิซี เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีของสโมสรในฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัว แถมด้วยการซัลโวแฮตทริคในเกมสุดท้ายพาทีมเอาชนะ เฮราเติลส์ อัลเมโล 3-1
ปาทริค วิเอรา
ปาทริค วิเอรา ลงเล่นนัดสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งในเกม เอฟเอ คัพ 2011 นัดชิงชนะเลิศ ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และพา เรือใบสีฟ้า ซิวเมเจอร์โทรฟีแรกในรอบ 35 ปีและเป็นการเริมต้นยุคสมัยครองความยิ่งใหญ่ของพลพรรค ซิตีเซนส์ ในเวลาต่อมา แม้ว่ามิดฟิลด์ชาว ฝรั่งเศส จะไม่ได้เป็นตัวเลือกหลักใน พรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในศึก เอฟเอ คัพ ให้กับทีมในซีซันดังกล่าว ซึ่งการซิวแชมป์ฟุตบอลถ้วยดังกล่าวนับเป็นสมัยที่ 4 ของ วิเอราและเป็นโทรฟีในตู้โชว์ลำดับที่ 19 ของเขา
แอ็บบี้ วอมบัค
ตำนานกองหน้าทีมชาติหญิง สหรัฐอเมริกา แอนดี้ วอมบัค ยุติเส้นทางค้าแข้งในระดับสโมสรในปี 2014 เพื่อที่จะโฟกัสกับการพาทัพ มะกัน ลุยศึก ฟุตบอลโลกหญิง 2015 ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายที่จะซิวถ้วยรางวัลระดับเมเจอร์มาครองหลังจากคว้าเหรียญทองในศึก โอลิมปิค ได้ 2 สมัยมาก่อนหน้านี้พร้อมกับสถิติโลกยิงประตูสูงสุดในเกมระดับชาติและปิดฉากการไล่หวดลูกหนังด้วยการชูถ้วยแชมป์โลกด้วยชัยชนะ 5-2 เหนือ ญี่ปุ่น
ฟิลิปป์ ลาห์ม
ตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติ เยอรมนี แขวนสตั๊ดด้วยวัย 33 ปีในฤดูกาล 2016/17 ให้หลังการลงเล่นนัดที่ 500 ให้กับ เสือใต้ เพียง 3 วันโดย ลาห์ม จบซีซันด้วยการพา บาเยิร์น ซิวถาดแชมป์ บุนเดสลีกา เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน แถมยังเป็นการทิ้งห่างรองแชมป์ถึง 25 แต้ม ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยยังบอกลาทัพ อินทรีเหล็ก ให้หลังเพียงแค่ 5 วันจากที่พาทีมคว้าแชมป์โลกมาครองได้
พอล สโคลส์
ตำนานแห่ง สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง พอล สโคลส์ ได้ประกาศแขวนสตั๊ดถึง 2 รอบซึ่งทั้ง 2 ครั้งล้วนแต่เป็นการยุติเส้นทางค้าแข้งในฟุตบอลระดับสูงทั้งหมด มิดฟิลด์ชาว อังกฤษ สร้างชื่อกับ ปีศาจแดง โดยเป็นหนึ่งในแข้งยุค เฟอร์กี้เฟล็ดจ์ลิงส์ ราวปี 90 ซึ่งการแขวนสตั๊ดรอบแรกของ สโคลส์ เกิดขึ้นในซัมเมอร์ 2011 เมื่อพาพลพรรค เร้ดเดวิลส์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 19 ทำสถิติเหนือ ลิเวอร์พูล สำเร็จ ทว่าหลังจากนั้นเพียง 6 เดือนเจ้าตัวก็กลับมาสวมสตั๊ดหวดลูกหนังอีกครั้งเพื่อช่วยทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นสมัยที่ 20 ในซีซัน 2012/13
เอริค คันโตนา
เอริค คันโตนา เป็นนักเตะอันเป็นที่รักของแฟนบอล แมนสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงทุกวันนี้หลังจากเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญพา ปีศาจแดง ครองความสำเร็จในทศวรรษที่ 90 รวมทั้งยังเป็นแข้งที่มีเอกลักษณ์และบุคลิกที่น่าจดจำ เจ้าตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างกะทันหันในปี 1997 เมื่อมีอายุได้เพียง 30 ปีเท่านั้นหลังจากซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุดในเวลาดังกล่าว
โยฮัน ครัฟฟ์
ฤดูกาลสุดท้ายของ โยฮัน ครัฟฟ์ ในฐานะนักเตะเจ้าตัวเลือกที่จะปิดฉากด้วยการค้าแข้งกับ เฟเยนูร์ด อริตัวฉกาจของ อาแจ็กซ์ ในปี 1983 ซึ่งเป็นสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชนแต่พวกเขาไม่ได้ยื่นต่อสัญญากับ ครัฟฟ์ ในวัย 36 ปีหลังเจ้าตัวพาทีมซิวแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัยจาก 5 ฤดูกาลหลัง แต่แข้งเจ้าของฉายา นักเตะเทวดา ยังสามารถพิสูจน์ได้กับ เฟเยนูร์ด กับสถิติ 11 ประตูและพาพวกเขาคว้าแชมป์ เอเรดิวิซี สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในรอบทศวรรษอีกด้วย
credit : www.90min.com/th
ที่สุดของ 9 นักเตะในตำนานที่แขวนสตั๊ดบนจุดสูงสุดของวงการฟุตบอล
นักเตะระดับตำนานบางส่วนยังมีโอกาสแขวนสตั๊ดทั้งที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้งได้สำเร็จ และต่อไปนี้คือ 9 นักเตะชื่อก้องที่บอกลาผืนหญ้าบนเวทีฟุตบอลระดับท็อป
เดวิด เบ็คแฮม
ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนสุดท้ายของเส้นทางอาชีพค้าแข้งระยะเวลายาว 21 ปี เดวิด เบ็คแฮม คว้าแชมป์ เอ็มแอลเส คัพ กับ แอลเอ กาแล็กซี ประดับเกียรติยศในการลงเล่นที่ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะโยกไปปิดฉากกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยแชมป์ ลีกเอิง ฤดูกาล 2012/13 ซึ่งเป็นแชมป์แรกของ เปแอสเช ในรอบ 19 ปี อดีตกัปตันทีมชาติ อังกฤษ รายนี้ยังบริจาคค่าเหนื่อยตลอดระยะเวลาที่ลงเล่นให้กับ ปารีสฯ ให้กับองค์กรการกุศลสำหรับเด็กท้องถิ่นอีกด้วย ก่อนที่ เบ็คแฮม จะทิ้งทวนเกมสุดท้ายด้วยการแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูเอาชนะคู่แข่งไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 และถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยน้ำตา
ชาบี อลอนโซ
มิดฟิลด์ดีกรีแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัยอย่าง ชาบี อลอนโซ ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2017 ยุติเส้นทางค้าแข้งที่มีถ้วยรางวัลประดับตู้โชว์ถึง 17 โทรฟีเมื่อรวมผลงานทั้งในระดับสโมสรและในนามทีมชาติ เจ้าตัวช่วย เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลา เดซิมา (ยูซีแอล สมัยที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร) ก่อนย้ายมาทิ้งทวนกับ บาเยิร์น มิวนิต ด้วยถาดแชมป์ บุนเดสลีกา อีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
เดิร์ค เคาท์
เดิร์ค เคาท์ คัลท์ฮีโร่แห่ง สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ปิดฉากอาชีพค้าแข้งของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อย้อนรอยกลับไปร่วมงานกับอดีตสโมสรที่ตัวเองสร้างชื่อขึ้นมาอย่าง เฟเยนูร์ด พาทีมเถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์ เคเอ็นวีบี คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ตามด้วยการซิวแชมป์ เอเรดิวิซี เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีของสโมสรในฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัว แถมด้วยการซัลโวแฮตทริคในเกมสุดท้ายพาทีมเอาชนะ เฮราเติลส์ อัลเมโล 3-1
ปาทริค วิเอรา
ปาทริค วิเอรา ลงเล่นนัดสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งในเกม เอฟเอ คัพ 2011 นัดชิงชนะเลิศ ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และพา เรือใบสีฟ้า ซิวเมเจอร์โทรฟีแรกในรอบ 35 ปีและเป็นการเริมต้นยุคสมัยครองความยิ่งใหญ่ของพลพรรค ซิตีเซนส์ ในเวลาต่อมา แม้ว่ามิดฟิลด์ชาว ฝรั่งเศส จะไม่ได้เป็นตัวเลือกหลักใน พรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในศึก เอฟเอ คัพ ให้กับทีมในซีซันดังกล่าว ซึ่งการซิวแชมป์ฟุตบอลถ้วยดังกล่าวนับเป็นสมัยที่ 4 ของ วิเอราและเป็นโทรฟีในตู้โชว์ลำดับที่ 19 ของเขา
แอ็บบี้ วอมบัค
ตำนานกองหน้าทีมชาติหญิง สหรัฐอเมริกา แอนดี้ วอมบัค ยุติเส้นทางค้าแข้งในระดับสโมสรในปี 2014 เพื่อที่จะโฟกัสกับการพาทัพ มะกัน ลุยศึก ฟุตบอลโลกหญิง 2015 ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายที่จะซิวถ้วยรางวัลระดับเมเจอร์มาครองหลังจากคว้าเหรียญทองในศึก โอลิมปิค ได้ 2 สมัยมาก่อนหน้านี้พร้อมกับสถิติโลกยิงประตูสูงสุดในเกมระดับชาติและปิดฉากการไล่หวดลูกหนังด้วยการชูถ้วยแชมป์โลกด้วยชัยชนะ 5-2 เหนือ ญี่ปุ่น
ฟิลิปป์ ลาห์ม
ตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติ เยอรมนี แขวนสตั๊ดด้วยวัย 33 ปีในฤดูกาล 2016/17 ให้หลังการลงเล่นนัดที่ 500 ให้กับ เสือใต้ เพียง 3 วันโดย ลาห์ม จบซีซันด้วยการพา บาเยิร์น ซิวถาดแชมป์ บุนเดสลีกา เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน แถมยังเป็นการทิ้งห่างรองแชมป์ถึง 25 แต้ม ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยยังบอกลาทัพ อินทรีเหล็ก ให้หลังเพียงแค่ 5 วันจากที่พาทีมคว้าแชมป์โลกมาครองได้
พอล สโคลส์
ตำนานแห่ง สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง พอล สโคลส์ ได้ประกาศแขวนสตั๊ดถึง 2 รอบซึ่งทั้ง 2 ครั้งล้วนแต่เป็นการยุติเส้นทางค้าแข้งในฟุตบอลระดับสูงทั้งหมด มิดฟิลด์ชาว อังกฤษ สร้างชื่อกับ ปีศาจแดง โดยเป็นหนึ่งในแข้งยุค เฟอร์กี้เฟล็ดจ์ลิงส์ ราวปี 90 ซึ่งการแขวนสตั๊ดรอบแรกของ สโคลส์ เกิดขึ้นในซัมเมอร์ 2011 เมื่อพาพลพรรค เร้ดเดวิลส์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 19 ทำสถิติเหนือ ลิเวอร์พูล สำเร็จ ทว่าหลังจากนั้นเพียง 6 เดือนเจ้าตัวก็กลับมาสวมสตั๊ดหวดลูกหนังอีกครั้งเพื่อช่วยทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นสมัยที่ 20 ในซีซัน 2012/13
เอริค คันโตนา
เอริค คันโตนา เป็นนักเตะอันเป็นที่รักของแฟนบอล แมนสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงทุกวันนี้หลังจากเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญพา ปีศาจแดง ครองความสำเร็จในทศวรรษที่ 90 รวมทั้งยังเป็นแข้งที่มีเอกลักษณ์และบุคลิกที่น่าจดจำ เจ้าตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างกะทันหันในปี 1997 เมื่อมีอายุได้เพียง 30 ปีเท่านั้นหลังจากซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุดในเวลาดังกล่าว
โยฮัน ครัฟฟ์
ฤดูกาลสุดท้ายของ โยฮัน ครัฟฟ์ ในฐานะนักเตะเจ้าตัวเลือกที่จะปิดฉากด้วยการค้าแข้งกับ เฟเยนูร์ด อริตัวฉกาจของ อาแจ็กซ์ ในปี 1983 ซึ่งเป็นสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชนแต่พวกเขาไม่ได้ยื่นต่อสัญญากับ ครัฟฟ์ ในวัย 36 ปีหลังเจ้าตัวพาทีมซิวแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัยจาก 5 ฤดูกาลหลัง แต่แข้งเจ้าของฉายา นักเตะเทวดา ยังสามารถพิสูจน์ได้กับ เฟเยนูร์ด กับสถิติ 11 ประตูและพาพวกเขาคว้าแชมป์ เอเรดิวิซี สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในรอบทศวรรษอีกด้วย
credit : www.90min.com/th