ใครที่ได้ดูดราก้อนบอล super มาแล้วก็คงจะดูทะแม้งๆที่ชาวไซย่าจักรวาลที่ 6 สามารถเป็น ซูเปอร์ไซย่าได้ง่าย ผิดกับจักวาลที่ 7 ที่ฝึกแทบตาย

เราจะมาดูกันที่ละจุด

เริ่มพลังพื้นฐานของ ไซย่าในจักรวาลที่ 6 นั้นนะจะสูงอยู่พอควร

สังเกตุจากการต่อสู้ของคาเบะเละเบจีต้า คาเบะตอนนั้นน่าจะอายุน้อยกว่าเบจีต้าซักประมานวัยรุ่นได้กับมีพลังพื้นฐานที่มากพอจะรับมือกับเบจีต้าในวัยนี้ที่พลังพื้นฐานในตอนนี้ก็น่าจะมากอยู่ และด้วยนิสับเบจีต้าที่เราจะรู้กันอยู่ว่าเวลาต่อสู้เขาไม่เคยคิดจะออมมือเป็นแน่ๆ

การเทียบลำดับพลังของพวกพ้องในจักรวาลที่ 6

เพราะดูเหมือนการเทียบลำดับพลังของพวกชาวไซย่าในจักรวาลที่ 6 ดูจะเป็นขั้นเป็นตอนมากกว่าอนิเมะ

จากการที่คาเบะปะทะกับคาลีฟา คาลีฟาเป็นโจร ประมาณโรบินฮูดปล้นคนรวยให้คนจน ขณาดกองทัพดาวซาละดะยังเอานางไม่ลง

พอมาเจอกับคาเบะ กับชนะคาเบะในร่างปกคิ ที่มีพลังพอรับมือกับเบจีต้าในร่างปกติได้ แสดงว่าพลังพื้นฐานของนางต้องสูงกว่าคาเบะ อาจสู้กว่าเบจีต้าในร่างปกติ แต่คงไม่มากเท่าไหร่

แต่พอเป็น ซูเปอร์ไซย่าคาลีฟาก็สู้คาเบะไม่ได้

ในศึกประลองพลัง ในมังงะเราจะไม่เห็นเวทีพังง่ายๆเลยนะครับ พอคาลีฟาแปลงร่างเป็นซูเปอรืไซย่าปล่อยพลังใส่ฟริส ที่เวทีกระจาย

แสดงถึงความแรงของพลังคลาลีฟา นี้แค่ซุปเปอรืไซย่าร่างแรกนะ

และจากคำพูดของฟริสเซอร์ที่ยังยอมรับในตัวคาลีฟาเลยครับว่า ซูเปอร์ไซย่าคนแรกที่เขาสู้ด้วยไม่ได้แกร่งขณาดนี้ ซูเปอร์ไซย่าที่ฟริสสู้คนแรกคือโกคู แสดงว่าพลังของคาลีฟาในตอนนี้สูงกว่าโกคูในคราวตอนเป็นซูเปอร์ไซย่าในตอนนั้ด้วยสินะ

เป็นการยีนยันเป็นอย่างดีถึงพลังพื้นฐานที่สูงอยู่แล้วของจักรวาลที่ 6 ซูเปอร์ไซย่าเป็นช่วยคูณพลัง ถ้าพลังพื้นฐานดี การคูณพลังมันก็จะสูงขึ้นไปด้วย

อีกกรณีหรึ่งเคลเป็นพลังของชาวไซย่าในตำนาน ที่พลังพื้นฐานสูงปรืด แตกต่างกับชาวไซย่าปกติ

เคลในมังงะแตกต่างจากอนิเมะเป็นคนเงียบ แต่ก็ต่อสู้เป็น สายซุ่ม  หลักฐานที่พลังพื้นฐานของเคลสูงกว่าซูเปอรืไซย่าร่างปกติ

เคลสมารถขโมยของจากคาเบะทั้งๆทีเป็นซูเปอร์ไซย่าโดยใช้ร่างธรรมดา เท่านนั้นยังไม่พอ เธอใช้ร่างธรรมดานี้แหละ ลอบโจมตีฟริสเซอร์จากข้างหลังได้โดยที่ฟริสร่างทองไม่สึกถึงเคลเลย แสดงว่าของเคลนี้ต้องสูงน่าสดู เหมือนเป็นการใบ้ถึงบ่งบอกสเกลพลังพื้นฐานของโบรี่ในภาคมูฟวีไปในตัว่า แค่ร่างพื้นของเคลกับโบรี่นี้พลังมากว่า ซูเปอร์ไซย่าไปแล้ว

อีกสำคัญที่บ่งบอกถึงพลังพื้นฐานที่สูงของเคล นั้นคือการโจมตีของเคล จากคำพูดของฟริส

นั้นเป็นบ่งบอกถึงพลังพื้นฐานร่างต้นที่สูงของชาวไซย่าในจักรวาลที่ 6 นั้นเอก   ผมว่าอีกประการหนึ่งที่ชาวไซย่าในจักรวาลที่ 6 นอกจากจะมีพื้นฐานสูงและแปลงร่างได้ซูเปอรืไซย่าได้ง่าย นั้นคือเซล์ s ที่มากกว่าจักรวาลที่ 6

อ้างอิง: นิตยสาร Saikyō Jump: ถามตอบกับโทริยามะเรื่องชาวไซย่า

อ.โทริยามะ ตอบว่า
"ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ผ่านการฝึกฝนและความโกรธ เงื่อนไขในการเป็นซูเปอร์ไซย่า
ในร่างกายของคนๆนั้นจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่าเซลล์ S"

ชาวไซย่าส่วนใหญ่จะมีเซลล์ S อยู่ในตัว แม้จะไม่ได้มีมากนักก็ตาม มันเป็นปัจจัยทางชีวภาพที่จำเป็นต่อการแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า
นักรบที่จะแปลงเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ต้องมีเซลล์ S ในร่างกายมากพอซะก่อน และเมื่อมีตัวจุดชนวนคือ 'ความรู้สึก' อย่างเช่น ความโกรธ ความเศร้า
หรือความรู้สึกที่หลัง [บริเวณใต้คอ] มากระตุ้นก็เหมือนไฟติด ทำให้แปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า

การจะเพิ่มจำนวนเซลล์ S ในตัว

วิธีที่ดีที่สุดคือการมีจิตใจที่สงบบริสุทธิ์ละเมียดละไม [ด้วยเหตุนี้ แม้ชาวไซย่าจะมีเซลล์ S มากแต่ก็ยากจะแปลงได้ เพราะส่วนใหญ่เลือดร้อน
ป่าเถื่อน และจิตใจไม่สงบ ดังนั้นซูเปอร์ไซย่าจึงเป็นเพียงตำนานเล่าขานกัน เพราะไม่ได้เห็นกันมานมนานแล้ว]
นอกจากนี้การมีพลังต่อสู้ที่สูงมากพอก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างนึง

อนุมาได้ว่า

ซึ่งซาวไซย่าในจักรวลที่  6 นั้นแตกต่างจากจักรวาลที่ 7 โดยชาวไซย่าในจักรวาลที่ 6 นั้นจะจะไม่รุกรานดาวอื่น เป็นผู้พิกทักษ์จักรวาล ไม่โหดร้ายป่าเถือ่น เหมือนจักรวาลที่ 7 ที่รุกรานดาวอื่น แถมสภาพของดาวซาละในจักรวาลที่ 6 ก็ดูสงบสุขคล้ายโลก จึงเหมาะสมและเอื้อต่อการเพิ่มเซลล์ s และน่าจะผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้วด้วย  แต่แค่พวกเขาก็ยังไม่รู้วิธีแปลงร่างนั้นเอง เพราะการแปลงร่างจะต้องมีตัวจุดชนวน

คือ 'ความรู้สึก' อย่างเช่น ความโกรธ ความเศร้า
หรือความรู้สึกที่หลัง [บริเวณใต้คอ] มากระตุ้นก็เหมือนไฟติด ทำให้แปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า

นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวไซย่าของจักรวาลที่ 6 ถึงเป็นซูปเปอร์ไซย่าได้ง่าย นั้นเอง