สวัสดีค่ะทุกคนก็วันนี้กลับมาเจอกันกับมินอีกแล้วนะคะ
ครั้งนี้เราก็อยากจะมาอัพเดทสกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องของการรักษาสิวกันบ้าง
ช่วงก่อนหน้านี้เป็นช่วงที่มินมีปัญหาเรื่องสิวค่อนข้างเยอะ  เพราะว่าเป็นคนนอนดึกด้วย เรื่องของฮอร์โมนด้วย 
ทำให้มีรอยสิวรอยดำรอยแดงที่สันกรามจนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ  
เราก็เลยหันมาสนใจในเรื่องของการดูแลตัวเองและผิวที่เป็นสิวมากขึ้น 
ก็เลยทำรีวิวนี้ออกมาแชร์ให้เพื่อนๆคนไหน ที่มีปัญหาเหมือนกันนะคะ 
ว่าแต่จะเป็นยังไงเรามาดูกันเลย 

เริ่มที่ตัวแรกกับ Bifesta Acne Care Cleansing Lotion

อย่างที่รู้กันนะถ้าเราแต่งหน้าแล้วล้างไม่สะอาด สิ่งสกปรกและเชื้อโรคจะทำให้เกิดสิวได้
ดังนั้นการเช็ดเครื่องสำอางเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  Bifesta Cleansing Lotion เป็น เคลนซิ่ง วอเตอร์ จากญี่ปุ่น 
ามารถล้างเครื่องสำอาง ลบสะอาดหมดจด แม้แต่งหน้าจัดเต็ม หรือเมคอัพกันน้ำ
 แถมเช็ดแล้วไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ และทำความสะอาดได้ล้ำลึก ผลที่ได้ คือ ลบเมคอัพหายเกลี้ยง
 ลบเมคอัพสะอาด พร้อมบำรุงผิวด้วย หน้าสะอาดใส ไม่แห้งตึง

ปริมาณ 300ml. ราคา 390.-

จุดเด่นของสูตรนี้คือมีสารบำรุง Hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
ปราศจากน้ำมัน  Oil-free แอลกอฮอล์ น้ำหอม สี และสารกันเสียชนิดพาราเบน
และที่สำคัญคือมี สารฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว พร้อมสารลดการอักเสบ
ทำให้เหมาะมากๆกับคนที่มีปัญหาเรื่องของสิว 

ถัดมาที่สบู่ล้างหน้า Acne-Aid Liquid Cleanser

ไซส์ 50 ml. ราคา 89.-

แน่นอนว่าขั้นตอนที่สำคัญมากๆในการดูแลเรื่องของสิวก็คือการล้างหน้า
มินเลือกใช้สบู่ล้างหน้าที่มีส่วนช่วยในการรักษาสิวโดยตรง 
กับ Acne-Aid เพราะอ่านรีวิวมาค่อนข้างเยอะ แล้วก็เห็นคนบอกว่าใช้ดี ที่สำคัญคือตัวนี้ปราศจากสาร SLS 

ตัวสบู่มีลักษณะ เป็นสีขาวขุ่น ตีเป็นฟองได้เล็กน้อย 
จะมีกลิ่นออกยาๆนิดนึง พอล้างแล้วทำให้ผิวหน้าสะอาดแต่ไม่เอี๊ยดค่ะ
ลดความมันบนผิวได้ดีเลย เหมาะสำหรับช่วงที่เป็นสิวนะคะ

หลังจากล้างหน้าเราก็จะมาต่อกันด้วย โทนเนอร์เช็ดสิวกับ Niki Anti Acne Toner Essence

ปริมาณ 150 ml ราคา 690.- (มินได้ตอนช่วงโปร 490.-ค่ะ)

จุดเด่นของโทนเนอร์สูตรนี้ก็คือมีสารสกัดที่ช่วยในการลดการอักเสบและลดการเกิดสิว 
เช่น Salicylic Acid/ Witch Hazel / สารสกัดจากใบบัวบก แล้วก็พวกน้ำแร่ฝรั่งเศสและอัลฟ่า อาบูติน
แล้วก็มีสารสกัดที่ปลอบประโลมผิวและช่วยสมานแผลด้วย 
เวลาเช็ดตัวนี้ผิวไม่แห้งตึงนะคะ แต่รู้สึกว่าผิวสะอาด 
เป็นไอเทมที่ เราใช้ทุกวันเลยค่ะเพราะเค้าอ่อนโยนมากๆ และช่วยกระชับรูขุมขนด้วย
คือใช้สำลีชุบโทนเนอร์แล้วโปะทิ้งไว้ สิวก็จะค่อยๆแห้งแล้วก็หายไปค่ะ ทำให้สิวเกิดใหม่น้อยลง 
เหมือนเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมนั่นเอง  หรือใครที่มีปัญหาเรื่องของสิวเสี้ยนหรือรูขุมขนไม่กระชับ 
ใช้ตัวนี้เช็ดผิวแล้วสิวเสี้ยนกับรูขุมขนจะค่อยๆดีขึ้นค่ะ

คือหลังใช้เป็นประจำผิวจะลื่นมากกกๆ หน้าสะอาด ไม่มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนเลย

ตัวนี้ก็ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน น้ำหอม น้ำมันและสีสังเคราะห์นะคะ
ทำให้คนผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ 


ถัดมาที่ขั้นตอนสุดท้ายคือการแต้มหัวสิวด้วยยาแต้มสิว Smooth E Acne Hydrogel Plus

ตัวนี้เป็นเจลแต้มสิวสูตรใหม่ล่าสุดจาก Smooth-E 
หลอดสีขาวที่เอาไว้ใช้รักษาสำหรับสิวที่มีหัว (สิวไม่มีหัวใช้หลอดสีเขียว)
ตัวนี้มาด้วยสูตร  Hydrogel Maximum Strength Plus Formula 
ผสาน Active Phytosterols และสารสกัดธรรมชาติ ที่ช่วยลดสิวอักเสบ
  พร้อมลดรอยแดงของสิว โดยไม่เกิดรอยดำหลังสิวหาย 

ไซส์ 10 g. 305 บาท  ลักษณะ texture มาในรูปแบบเนื้อครีมสีขาวขุ่นๆ แอบเหลวๆ

เกลี่ยง่ายซึมไว มีกลิ่นนิดๆ พอทาแล้วเราจะรู้สึกยิบๆนิดนึง
แต่รู้สึกได้ว่าสิวแห้งลงจริงค่ะ
 *แนะนำให้ใช้เฉพาะเวลาที่เป็นสิวจริงๆเท่านั้นนะคะ เพราะตัวยาค่อนข้างแรง*

ถ้าเป็นปกติมินจะไม่ค่อยทาเจลแต้มสิวเท่าไหร่ ใช้โทนเนอร์ Niki กับสบู่ Acne-Aid ก็พอค่ะ

ไอเทมทั้งหมดที่มินรีวิวมาเป็นไอเทมที่ช่วยรักษาสิวของมินไว้ได้มาก
เพราะนอกจากจะช่วยให้สิวยุบลงแล้ว ยังช่วยยับยั้งการเกิดของสิวด้วย
ทำให้สิวของมินเกิดขึ้นน้อยลง และรอยสิวค่อยๆแห้ง และจางลงด้วย
แต่ยังไงก็ตามการรักษาสิวนะคะ สิ่งที่สำคัญก็คือ การดูแลรักษาและบำรุงอย่างสม่ำเสมอ 
เพราะการผลัดเซลล์ผิวต้องใช้เวลา ที่สำคัญก็คือเราไม่ควรจะไปบีบหรือแกะสิว
 เพราะจะทำให้กลายเป็นแผลและรักษายากขึ้นค่ะ

ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ 
บ๊ายบาย