### กระทู้นี้คัดลอกมาจากเพจ ศาลาผี https://www.facebook.com/salaphee/ ซึ่งแอดมินเป็นอดีตสมาชิกพันทิปท่านนึง ผมได้ทำการขออนุญาตแอดมินเพจแล้วในการคัดลอกเอามาลงยังพันทิปนี้ ###
### จุดประสงค์คือเนื่องจากหลัง ๆ ผมไม่ค่อยเห็นกระทู้วิเคราะห์หลังเกมของแมนฯยูฯสักเท่าไร จะเขียนเองก็ไม่สามารถ เลยอยากจะให้มีกระทู้แบบนี้ขึ้นมาให้พูดคุยวิเคราะห์กัน ###
### ผมคัดลอกข้อความมาจากเพจเกือบ 100% มีแก้ไขบ้างบางคำที่ผมเห็นว่าอาจจะเป็นการสะกดผิด รวมทั้งเลี่ยงบางคำพันทิปกรองคำหยาบไว้ ###
### เนื่องจากเนื้อหาคอนเท้นท์และแนวทางของเพจเป็นเพจของแฟนแมนฯยูฯอย่างแท้จริง จึงอาจมีไบแอสกับทีมและเนื้อหากระทบกับทีมอื่นบ้าง ถ้าแฟนทีมอื่นหลงเข้ามาอ่านและตะหงิดใจก็เข้าใจตรงนี้นิดนึง แต่ถ้ามาร่วมพูดคุยวิเคราะห์เกมกันก็ยินดีมากครับ ###
### ถ้าชอบเนื้อหาของเพจที่ผมเอามาลงก็ไปกดติดตามเพจกันได้ ผมเอามาลงแค่การวิเคราะห์หลังเกมเท่านั้นแต่ปกติแอดมินมีคอนเท้นท์และบทความถึงทีมในแง่มุมอื่นเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าติดตามทางเพจจะเร็วกว่าด้วยเพราะส่วนใหญ่น่าจะเขียนหลังเกมจริง ๆ กว่าผมจะเอามาลงพันทิปอย่างเร็วก็วันจันทร์ ###
### เนื้อหาจะค่อนข้างยาวมากกกกก ซึ่งเป็นสไตล์ของแอดมินเพจศาลาผี อาจจะต้องทำใจก่อนอ่าน 555 ทำให้เกินจำนวนคำต่อโพสต์ของพันทิปด้วย ผมจึงต้องไปต่อที่ช่องแสดงคคห. ใครเจอกระทู้เร็วรบกวนอย่าเพิ่งปาดนะครับ ###
https://www.facebook.com/1154730827912575/posts/2551647814887529/
#ทิงเจอร์ราดแผลยี่ห้อหมาป่า 12 ตัว
FT : Wolverhampton 1 - 1 Manchester United
หลังจากที่ทิ้งเวลาให้ผ่านช่วงไปหนึ่งวัน ตัดอารมณ์ความรู้สึกออกไปได้บ้างบางส่วนจากการระบายช่วงระหว่างเกมไปแล้ว ก็ถึงเวลาเขียนรีวิวถึงแมตช์เมื่อวานที่อดตาหลับขับตานอนดู สุดท้ายก็เป็นการต้องตาค้างนอนไม่หลับจนถึงเช้า แต่ถึงขนาดเสียเวลานอนไหม ก็คงไม่ขนาดนั้น เพราะถือว่าเราได้อยู่เป็นส่วนหนึ่งของ "ความผิดพลาด" ที่แท้จริง ที่แมนยูไนเต็ดชุดนี้แสดงให้เราเห็น
ผมมองในแง่ดีกับนัดเช่นนี้ว่า เออการที่เราได้ดูสด มันก็จะได้เห็นจริงๆจัง ๆ ว่าเรายังขาดอะไรได้ชัดเจนกว่าเดิม จากที่ผ่านมาเราอาจจะมองมันสวยหรูเกินไปหน่อย เพราะ "เชื่อ" (ตามสโลแกน #BELIVE นั่นแหละ ผมเชียร์แมนยูไนเต็ดด้วยความเชื่อมั่นเสมอ) แต่บางครั้งความเชื่อก็อาจจะต้องมาจากพื้นฐานความเป็นจริงที่มากขึ้นกว่าเดิมหน่อย
ซึ่งจริงๆแล้วผมเชื่อว่าคนที่ติดตามเพจผมกันมาตลอดก็คงจะเห็นว่า เราหยิบยกนำเอาปัญหา ข้อบกพร่อง จุดอ่อนของทีม มาพูดถึงกันอยู่เป็นประจำ ดังนั้นจะบอกว่าเราอวยแมนยูมากกว่าปกติก็คงไม่ใช่ เพราะนี่ทุกวันนี้ชวนแต่วิเคราะห์ปัญหาแมนยูทุกวัน จนกลัวคนติดตามจะเบื่อว่า ทำไมมองโลกแต่ด้านลบ
แต่ไอ้ครั้นเมื่อไหร่ที่เขียนอวยชื่นชมแมนยูไนเต็ด มันเหมือนผมไปเจิมจุดอ่อนยังไงก็ไม่รู้ แล้วก็ได้เรื่องเลยทันทีเมื่อวาน
ไล่ตั้งแต่ บทความที่เพิ่งเขียนชื่นชมการจับคู่กันของเบอร์ 5 กับเบอร์ 2 บทความหลังจากแมตช์เอาชนะเชลซีอันนั้น พอเขียนออกไปปุ๊บ นัดถัดมา พี่เลิฟคนดีของศาลาผี ก็โชว์เหวอช่วงครึ่งแรกรัวๆด้วยร่างอัลติเมท "ลินเดอล่ก" ที่ห่างหายไปนาน ก็สำแดงเดชให้เห็นเหมือนอยากจะตอกหน้าไอ้คนเขียนยังไงก็ไม่รู้ เขียนชมปุ๊บเหมือนเจิมปั๊บ พี่แกเล่นเหวอโชว์เลย
จังหวะนรกที่ว่านี้เกิดขึ้นระหว่างเกม พอลินเดอเลิฟที่ผมเพิ่งจะอวยไปเล่นผิดพลาดให้เห็นหลายครั้งเข้า ผมก็ได้ยินเสียงเย็นยะเยือก ลอยมาตามลมเบา ๆ จากด้านหลังของผม มันคือเสียงของผู้หญิงที่ฟังแล้วไม่เหมือนเสียงของมนุษย์ เสียงนั้นกล่าวอย่างสยดสยองลอยมาว่า
"การเข้ามาของแมกไกวร์ ทำให้..........."
เสียงของแอดมินเงาแซว-ดันแอดมานั่นเอง!!!!
ก่อนที่ผมจะหันไปบอกให้หยุดพูด (เลยสาดดดด) ยิ้มเจื่อนๆแก้เขิน แล้วผินหน้าไปด่าอีเลิฟหน้าจอทีวีแทนว่า "เมิงนะเมิงงงง พอเขียนชมปุ๊บ เมิงเล่นแบบนี้เลยเหรออออออออ กูโดนเลยเป็นไง"
เท่านั้นยังไม่พอ หัวค่ำของวันเดียวกันนั้นหากใครจะย้อนไปอ่านข้างล่าง น่าจะเห็นว่า ผมก็เพิ่งจะอัปบทความอีกอันสด ๆ ร้อน ๆ เพิ่งจะพูดถึง "จิตวิทยาและโมเมนตัมของทีม" ไปแบบหยก ๆ หมาด ๆ เพิ่งอัพสด ๆ กะให้แฟนผีอ่านรอระหว่างบอลจะมากันแบบฟิน ๆ
เขียนปุ๊บ โมเมนตัมแมร่งหยุดนัดนี้ทันที!!!!
หรือว่าผมเป็นนักเขียนอาถรรพ์ หรือเป็นหนึ่งในแก๊งค์นักเจิมในตำนาน ไม่ก็ "ราชันย์แห่งชาวสวน" (ตั้งฉายาให้ตัวเองก็เอา) พูดอะไร ทายอะไร หลัง ๆ นี่ชักจะเริ่มตรงข้ามบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนพอเห็น ศลผ มั่นใจนัดไหนหนัก ๆ เม้นต์ตรงข้ามไว้ได้เลย ถูกชัวร์!
ผมเชื่อว่าคงไม่ได้มีแต่ผมที่จะมั่นใจในนัดนี้ หลังจากที่เราเพิ่งโชว์ฟอร์มสวยหรูขยี้เชลซีมาซะ 4 - 0 ซึ่งเอาจริง ๆ สกอร์มันก็ไม่ตรงกับรูปเกมที่เป็นจริงสักเท่าไหร่ ก็อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กัน แต่นั่นก็ทำให้จุดอ่อนที่มียังไม่โผล่ออกมาเท่าไหร่นักเพราะเรายิงได้และเอาชนะมาอย่างสวยงาม
แต่ในวันที่เราเผชิญหน้ากับความผิดหวังเช่นนี้แหละ คือวันดีที่จะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ได้คุยกับตัวเองมากขึ้น และรู้จากภายในจริง ๆ ว่า อะไรคือสิ่งที่เราขาด และผิดพลาดอะไร จุดอ่อนยังเหลืออะไรอยู่บ้าง
วูล์ฟเป็นเหมือนทิงเจอร์ราดแผลของเราให้มันรู้สึกแสบขึ้นมา และได้รู้ว่า แผลไหนแสบมาก แสบน้อย ถึงแม้จะแค้นและยังรอจะเอาคืนต่อไปในนัดหน้า แต่ยังไงก็ขอขอบคุณวูล์ฟที่มาช่วยเปิดแผลที่แท้จริงให้กับเราอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นฤดูกาล เผื่อจะทำให้อะไรดี ๆ ขึ้น
อย่างเช่นการทำให้ใครบางคนตาสว่าง และดร็อปใครบางคนออกไปได้เร็วกว่าเดิม
ประเด็นต่าง ๆ ที่เห็นกันนั้นมีสำคัญ ๆ หลายจุดที่น่าสนใจ และเรื่องพวกนี้เรามองต่างกัน คิดเห็นต่างกันได้ไม่แปลก ดังนั้นไม่ต้องซีเรียส ใส่คอมเม้นต์กันได้เต็มที่ที่คิด เพราะความเห็นแฟนผีด้วยกันยังแตกกันเลย ดังนั้นที่แอดเขียน มันก็ไม่ได้ถูกที่สุดหรอก แต่มันก็คือมุมมองของผมเท่านั้นเอง และเท่าที่ดู เคสเมื่อวานนี้ส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นมุมมองที่ถูกทั้งคู่ แต่มองกันคนละด้านเท่านั้น
เมื่อวานเห็นอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. ผมเห็นเกมรุกสุดห่วยของเรา
เหมือนเดิมครับ ปัญหาเดิมๆอย่างที่บ่นมาตลอดตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นว่า เกมรุกของเรามันช่างไม่มีอะไรดีขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงเลย เป็นแบบเดิม ๆ ปีที่แล้วเป๊ะไม่แตกต่างอะไรกันเลย
แม้จะมีแดเนียล เจมส์เข้ามาแล้วก็ตามที แต่น้องก็ยังไม่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนอะไรที่ Impact มาก ๆ ได้นักเนื่องจากยังเป็นดาวรุ่งที่รอวันเก่งอยู่ในอนาคต ดังนั้นเราจะไม่คาดหวังกับเจมส์เกินที่ความเป็นจริง
แรชฟอร์ดยังคงเล่นได้ห่วยมากในฐานะเป็นตัวรุกสายสนับสนุน ทั้งการครอส การลากเลื้อยจากริมเส้น มันไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนเลย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จะเห็นได้ว่าลูกดี ๆ ก็มีอย่างที่มันล็อคหลังหักจนเปิดเข้าไปได้นั้น แต่นอกจากนั้นก็ยังไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การเล่นตัวรุกด้านข้างที่มีประสิทธิภาพได้
แรชฟอร์ดไม่สมควรเป็นตัวรุกประเภทอยู่ต่อรองลงมาเพื่อซัพพอร์ตใครแบบนี้ ไอ้แรชมีหน้าที่เป็นเพชรฆาตจังหวะสุดท้ายเท่านั้น
ความคิดนี้ผมยืนยันคำเดิม แม้จะเห็นต่างกับหลายคน แต่ยังไงแรชยืนหน้าเป้า มันดีกว่าเอาหมากไปยืนหน้าเป้า พูดง่ายๆคือเอาไปยืนตัวรองลงมามันเสียของมากสำหรับแรชที่ควรมีหน้าที่ยิงประตูเป็นหลัก แม้ว่าหมากจะมีการเปลี่ยนเป็นสกอร์เมื่อเทียบกับการยิงสูงกว่าก็จริง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว ยังไงผมยืนยันคำเดิมว่า แรชควรยืนเป้าจะดีกว่าหมากยืนเป้า
ถ้าโอเล่ยังยืนยันจะใช้ตัวรุกลักษณะนี้คือ หมาก - แรช มีทางเดียวที่จะรอดได้นั่นก็คือ การเปลี่ยนมาเล่นแผนหน้าคู่เท่านั้นถึงจะดีที่สุด และทั้งคุ่จะปลดปล่อยความสามารถคู่กันได้มากกว่านี้
สุดท้ายนอกจากหมากแรชเจมส์แล้ว คนที่ต้องพูดถึง แม้จะไม่อยากพูดก็คือ ลินการ์ด ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นหนึ่งในตัวรุกหลักของทีม .. ผมเขียนโดยตัดอคติ เหมือนทุกๆครั้งนะ และก็คงจะต้องบอกว่า ผลงานของลินการ์ดมันฟ้องด้วยตัวมันเองอยู่แล้วว่า เขาไม่ดีพอจะเล่นให้แมนยู ถ้าสโมสรต้องการผลการแข่งขันที่ดี แต่คุณจะยังทู่ซี้ใช้ตัวรุกที่ไม่มีผลงานอะไรให้ทีมได้เลย ทั้งแอสซิสต์ หรือยิงประตู
คุณยังจะส่งตัวกระจอก ๆ แบบนี้ลงไปเล่นให้สโมสรพังทลายไปเรื่อย ๆ งั้นหรือโอเล่ ..?
เชื่อเถอะว่า ถ้ารอยคีนอยู่ ลินการ์ดมันจะโดนด่าเละคาห้องแต่งตัวมากกว่านี้แน่ ข้อหา ระดับชั้นห่วยแตกไม่คู่ควรกับการเล่นให้แมนยูไนเต็ด
สิ่งที่ลินการ์ดทำได้ดีในช่วงต้นๆพักเดียวก็คือ การรับบอลต่อบอลตรงกลางสนามต่อจากมิดฟิลด์ และก็มีลากเลื้อยบ้าง แต่มันก็มีแค่นั้นนั่นแหละ เขาทำได้เพียงแค่ลาก ๆ ไปมาครอสขวางสนาม จากนั้นก็ป้ายให้เพื่อนแบบ "ง่าย ๆ" ไม่มีจินตนาการ ไม่มีการสร้างสรรค์
"ไม่มีห่าอะไรเลยสักอย่าง"
ขออภัยที่ต้องพูดคำหยาบ ๆ แต่เพื่อให้เห็นภาพนะครับหวังว่าจะเข้าใจ คือโอเค ถ้าให้ชมมันก็ชมได้ว่า มันเชื่อมเกม แต่หากพิจารณาจริงๆ การเชื่อมเกมของเขา ไม่ได้ก่อให้เกิดประโชน์ให้ทีมเลยนอกจากการ เพิ่มความนานของ possessions % ให้มากขึ้นอีกนิดเดียวเท่านั้น ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยกับเกมรุก
นั่นแหละคือเหตุผลที่แท้จริงอีกอย่างว่า ทำไมเกมรุกเราถึงโคตรกระจอกงอกง่อยขนาดนี้ เพราะมีกลางรุกไร้น้ำยาแบบนี้ไง
เอาแค่นี้ก็ถือว่าทุเรศพอตัวแล้ว สถิติมันฟ้องอยู่เห็นๆ ยังไม่ต้องนับรวมไปถึงการเล่นกาก ๆ พลาดแบบโง่ ๆง่ าย ๆ จากลูกจั๋ง ๆ สองดอก ที่ AWB ควรจะได้รับแอสซิสต์ประตูไปแล้วถึง 2 ลูก แต่ความห่วยของนักเตะตัวนี้ก็ทำลายสิ่งดีๆที่ทีมปั้นมาให้ลงอย่างไม่มีชิ้นดี
และดูท่าทางจะไม่สำนึกอะไรด้วยว่าตัวเองเล่นได้ชั่วร้ายขนาดไหน
ยังคงพลาดอย่างต่อเนื่อง และไม่สร้างอะไรให้กับทีมได้เลย แต่กลับได้อยู่ในสนามถึงนาที 81 ทั้งที่จริง ๆ เขาควรจะอยู่แต่บนม้านั่งสำรองตั้งแต่นาทีแรกแล้ว
เรื่องเปลี่ยนตัวค่อยว่ากันทีหลัง เรื่องทรัพยากรในมือค่อยว่ากันทีหลัง
การมีตัวรุกทำตัวไม่มีประโยชน์ เปิดสกิล windwalk รัว ๆ ทุกนัดแบบนี้ ถามจริง ๆ จะเอาสกอร์มาจากไหน
เสียโควตาเปล่า ๆ ถ้าจะลงแล้วทำได้แค่นี้ ไปลากตัวอังเคล โกเมส มาเล่นแทนได้แล้ว ดีกว่าเยอะ
ข้อนี้คนทั้งโลกเห็น แต่ผู้จัดการทีมไม่เห็น...
2. ผมเห็นความคุ้มค่าของสองนักเตะใหม่
แมกไกวร์กับวานบิสซาก้า คือนักเตะที่เข้ามายกระดับแผงหลังให้เราอย่างแท้จริง ถ้าไม่เช่นนั้นเกมนี้ก็อาจจะเป็นการย้ำแค้น 2 - 1 เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันให้กับเราเลยก็ได้ เพราะมีทรงจะโดนแบบนั้นไม่น้อย แต่แมกไกวร์ และบิสซาก้า แสดงให้เห็นถึงคลาสที่แตกต่างไปจากที่เราเคยเป็นมาตลอด
นั่นแปลว่า ถ้าหากมีการเสริมทีมในจุดอื่น ๆ ที่เราขาดได้อย่างตรงเผงและถูกตัวเช่นนี้ มันจะพลิกโฉมหน้าทีมให้แกร่งขึ้นมาทันตาอย่างแน่นอน
แต่ปัญหาก็อยู่ที่เดิม คือเรื่องของบอร์ดบริหาร งบประมาณซื้อนักเตะ และการเลือกซื้อตัวเข้ามานี่แหละที่ยังคงมีปัญหาอยู่อย่างต่อเนื่อง และคงอีกหลายมหากาพย์ก็จะยังแก้ไม่ได้หรอกถ้ายังเสริมทีมในลักษณะ ซัมเมอร์ละตัวสองตัวเพื่อเซฟเงินเอาหน้ารอดไปวัน ๆ แบบนี้
แมกไกวร์มีความนิ่ง เชื่อถือได้ในการเล่นเกมรับ และลูกหัวที่เอาชนะได้หมดจริงๆ ส่วน AWB บางคนบอกนี่คือเวอร์กิลแบ็คขวา ที่จะไม่ยอมให้ใครผ่านได้ง่าย ๆ .. มันจะไม่เป็นเช่นนั้นได้ไง ขนาดล้มเสียหลักไปแล้ว พี่แกยังยื่นขามาเกะกะเตะ ๆ ปาดออกไปได้ ลูกนั้นผมเชื่อเลยว่าแกของจริงแน่ ๆ
ตัวอีดิตของแมนยูในปีนี้ เว่อร์มากจริง ๆ AWB
(มีต่อ)
[ศาลาผี] #ทิงเจอร์ราดแผลยี่ห้อหมาป่า 12 ตัว FT : Wolverhampton 1 - 1 Manchester United
### จุดประสงค์คือเนื่องจากหลัง ๆ ผมไม่ค่อยเห็นกระทู้วิเคราะห์หลังเกมของแมนฯยูฯสักเท่าไร จะเขียนเองก็ไม่สามารถ เลยอยากจะให้มีกระทู้แบบนี้ขึ้นมาให้พูดคุยวิเคราะห์กัน ###
### ผมคัดลอกข้อความมาจากเพจเกือบ 100% มีแก้ไขบ้างบางคำที่ผมเห็นว่าอาจจะเป็นการสะกดผิด รวมทั้งเลี่ยงบางคำพันทิปกรองคำหยาบไว้ ###
### เนื่องจากเนื้อหาคอนเท้นท์และแนวทางของเพจเป็นเพจของแฟนแมนฯยูฯอย่างแท้จริง จึงอาจมีไบแอสกับทีมและเนื้อหากระทบกับทีมอื่นบ้าง ถ้าแฟนทีมอื่นหลงเข้ามาอ่านและตะหงิดใจก็เข้าใจตรงนี้นิดนึง แต่ถ้ามาร่วมพูดคุยวิเคราะห์เกมกันก็ยินดีมากครับ ###
### ถ้าชอบเนื้อหาของเพจที่ผมเอามาลงก็ไปกดติดตามเพจกันได้ ผมเอามาลงแค่การวิเคราะห์หลังเกมเท่านั้นแต่ปกติแอดมินมีคอนเท้นท์และบทความถึงทีมในแง่มุมอื่นเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าติดตามทางเพจจะเร็วกว่าด้วยเพราะส่วนใหญ่น่าจะเขียนหลังเกมจริง ๆ กว่าผมจะเอามาลงพันทิปอย่างเร็วก็วันจันทร์ ###
### เนื้อหาจะค่อนข้างยาวมากกกกก ซึ่งเป็นสไตล์ของแอดมินเพจศาลาผี อาจจะต้องทำใจก่อนอ่าน 555 ทำให้เกินจำนวนคำต่อโพสต์ของพันทิปด้วย ผมจึงต้องไปต่อที่ช่องแสดงคคห. ใครเจอกระทู้เร็วรบกวนอย่าเพิ่งปาดนะครับ ###
https://www.facebook.com/1154730827912575/posts/2551647814887529/
#ทิงเจอร์ราดแผลยี่ห้อหมาป่า 12 ตัว
FT : Wolverhampton 1 - 1 Manchester United
หลังจากที่ทิ้งเวลาให้ผ่านช่วงไปหนึ่งวัน ตัดอารมณ์ความรู้สึกออกไปได้บ้างบางส่วนจากการระบายช่วงระหว่างเกมไปแล้ว ก็ถึงเวลาเขียนรีวิวถึงแมตช์เมื่อวานที่อดตาหลับขับตานอนดู สุดท้ายก็เป็นการต้องตาค้างนอนไม่หลับจนถึงเช้า แต่ถึงขนาดเสียเวลานอนไหม ก็คงไม่ขนาดนั้น เพราะถือว่าเราได้อยู่เป็นส่วนหนึ่งของ "ความผิดพลาด" ที่แท้จริง ที่แมนยูไนเต็ดชุดนี้แสดงให้เราเห็น
ผมมองในแง่ดีกับนัดเช่นนี้ว่า เออการที่เราได้ดูสด มันก็จะได้เห็นจริงๆจัง ๆ ว่าเรายังขาดอะไรได้ชัดเจนกว่าเดิม จากที่ผ่านมาเราอาจจะมองมันสวยหรูเกินไปหน่อย เพราะ "เชื่อ" (ตามสโลแกน #BELIVE นั่นแหละ ผมเชียร์แมนยูไนเต็ดด้วยความเชื่อมั่นเสมอ) แต่บางครั้งความเชื่อก็อาจจะต้องมาจากพื้นฐานความเป็นจริงที่มากขึ้นกว่าเดิมหน่อย
ซึ่งจริงๆแล้วผมเชื่อว่าคนที่ติดตามเพจผมกันมาตลอดก็คงจะเห็นว่า เราหยิบยกนำเอาปัญหา ข้อบกพร่อง จุดอ่อนของทีม มาพูดถึงกันอยู่เป็นประจำ ดังนั้นจะบอกว่าเราอวยแมนยูมากกว่าปกติก็คงไม่ใช่ เพราะนี่ทุกวันนี้ชวนแต่วิเคราะห์ปัญหาแมนยูทุกวัน จนกลัวคนติดตามจะเบื่อว่า ทำไมมองโลกแต่ด้านลบ
แต่ไอ้ครั้นเมื่อไหร่ที่เขียนอวยชื่นชมแมนยูไนเต็ด มันเหมือนผมไปเจิมจุดอ่อนยังไงก็ไม่รู้ แล้วก็ได้เรื่องเลยทันทีเมื่อวาน
ไล่ตั้งแต่ บทความที่เพิ่งเขียนชื่นชมการจับคู่กันของเบอร์ 5 กับเบอร์ 2 บทความหลังจากแมตช์เอาชนะเชลซีอันนั้น พอเขียนออกไปปุ๊บ นัดถัดมา พี่เลิฟคนดีของศาลาผี ก็โชว์เหวอช่วงครึ่งแรกรัวๆด้วยร่างอัลติเมท "ลินเดอล่ก" ที่ห่างหายไปนาน ก็สำแดงเดชให้เห็นเหมือนอยากจะตอกหน้าไอ้คนเขียนยังไงก็ไม่รู้ เขียนชมปุ๊บเหมือนเจิมปั๊บ พี่แกเล่นเหวอโชว์เลย
จังหวะนรกที่ว่านี้เกิดขึ้นระหว่างเกม พอลินเดอเลิฟที่ผมเพิ่งจะอวยไปเล่นผิดพลาดให้เห็นหลายครั้งเข้า ผมก็ได้ยินเสียงเย็นยะเยือก ลอยมาตามลมเบา ๆ จากด้านหลังของผม มันคือเสียงของผู้หญิงที่ฟังแล้วไม่เหมือนเสียงของมนุษย์ เสียงนั้นกล่าวอย่างสยดสยองลอยมาว่า
"การเข้ามาของแมกไกวร์ ทำให้..........."
เสียงของแอดมินเงาแซว-ดันแอดมานั่นเอง!!!!
ก่อนที่ผมจะหันไปบอกให้หยุดพูด (เลยสาดดดด) ยิ้มเจื่อนๆแก้เขิน แล้วผินหน้าไปด่าอีเลิฟหน้าจอทีวีแทนว่า "เมิงนะเมิงงงง พอเขียนชมปุ๊บ เมิงเล่นแบบนี้เลยเหรออออออออ กูโดนเลยเป็นไง"
เท่านั้นยังไม่พอ หัวค่ำของวันเดียวกันนั้นหากใครจะย้อนไปอ่านข้างล่าง น่าจะเห็นว่า ผมก็เพิ่งจะอัปบทความอีกอันสด ๆ ร้อน ๆ เพิ่งจะพูดถึง "จิตวิทยาและโมเมนตัมของทีม" ไปแบบหยก ๆ หมาด ๆ เพิ่งอัพสด ๆ กะให้แฟนผีอ่านรอระหว่างบอลจะมากันแบบฟิน ๆ
เขียนปุ๊บ โมเมนตัมแมร่งหยุดนัดนี้ทันที!!!!
หรือว่าผมเป็นนักเขียนอาถรรพ์ หรือเป็นหนึ่งในแก๊งค์นักเจิมในตำนาน ไม่ก็ "ราชันย์แห่งชาวสวน" (ตั้งฉายาให้ตัวเองก็เอา) พูดอะไร ทายอะไร หลัง ๆ นี่ชักจะเริ่มตรงข้ามบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนพอเห็น ศลผ มั่นใจนัดไหนหนัก ๆ เม้นต์ตรงข้ามไว้ได้เลย ถูกชัวร์!
ผมเชื่อว่าคงไม่ได้มีแต่ผมที่จะมั่นใจในนัดนี้ หลังจากที่เราเพิ่งโชว์ฟอร์มสวยหรูขยี้เชลซีมาซะ 4 - 0 ซึ่งเอาจริง ๆ สกอร์มันก็ไม่ตรงกับรูปเกมที่เป็นจริงสักเท่าไหร่ ก็อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กัน แต่นั่นก็ทำให้จุดอ่อนที่มียังไม่โผล่ออกมาเท่าไหร่นักเพราะเรายิงได้และเอาชนะมาอย่างสวยงาม
แต่ในวันที่เราเผชิญหน้ากับความผิดหวังเช่นนี้แหละ คือวันดีที่จะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ได้คุยกับตัวเองมากขึ้น และรู้จากภายในจริง ๆ ว่า อะไรคือสิ่งที่เราขาด และผิดพลาดอะไร จุดอ่อนยังเหลืออะไรอยู่บ้าง
วูล์ฟเป็นเหมือนทิงเจอร์ราดแผลของเราให้มันรู้สึกแสบขึ้นมา และได้รู้ว่า แผลไหนแสบมาก แสบน้อย ถึงแม้จะแค้นและยังรอจะเอาคืนต่อไปในนัดหน้า แต่ยังไงก็ขอขอบคุณวูล์ฟที่มาช่วยเปิดแผลที่แท้จริงให้กับเราอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นฤดูกาล เผื่อจะทำให้อะไรดี ๆ ขึ้น
อย่างเช่นการทำให้ใครบางคนตาสว่าง และดร็อปใครบางคนออกไปได้เร็วกว่าเดิม
ประเด็นต่าง ๆ ที่เห็นกันนั้นมีสำคัญ ๆ หลายจุดที่น่าสนใจ และเรื่องพวกนี้เรามองต่างกัน คิดเห็นต่างกันได้ไม่แปลก ดังนั้นไม่ต้องซีเรียส ใส่คอมเม้นต์กันได้เต็มที่ที่คิด เพราะความเห็นแฟนผีด้วยกันยังแตกกันเลย ดังนั้นที่แอดเขียน มันก็ไม่ได้ถูกที่สุดหรอก แต่มันก็คือมุมมองของผมเท่านั้นเอง และเท่าที่ดู เคสเมื่อวานนี้ส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นมุมมองที่ถูกทั้งคู่ แต่มองกันคนละด้านเท่านั้น
เมื่อวานเห็นอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. ผมเห็นเกมรุกสุดห่วยของเรา
เหมือนเดิมครับ ปัญหาเดิมๆอย่างที่บ่นมาตลอดตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นว่า เกมรุกของเรามันช่างไม่มีอะไรดีขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงเลย เป็นแบบเดิม ๆ ปีที่แล้วเป๊ะไม่แตกต่างอะไรกันเลย
แม้จะมีแดเนียล เจมส์เข้ามาแล้วก็ตามที แต่น้องก็ยังไม่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนอะไรที่ Impact มาก ๆ ได้นักเนื่องจากยังเป็นดาวรุ่งที่รอวันเก่งอยู่ในอนาคต ดังนั้นเราจะไม่คาดหวังกับเจมส์เกินที่ความเป็นจริง
แรชฟอร์ดยังคงเล่นได้ห่วยมากในฐานะเป็นตัวรุกสายสนับสนุน ทั้งการครอส การลากเลื้อยจากริมเส้น มันไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนเลย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จะเห็นได้ว่าลูกดี ๆ ก็มีอย่างที่มันล็อคหลังหักจนเปิดเข้าไปได้นั้น แต่นอกจากนั้นก็ยังไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การเล่นตัวรุกด้านข้างที่มีประสิทธิภาพได้
แรชฟอร์ดไม่สมควรเป็นตัวรุกประเภทอยู่ต่อรองลงมาเพื่อซัพพอร์ตใครแบบนี้ ไอ้แรชมีหน้าที่เป็นเพชรฆาตจังหวะสุดท้ายเท่านั้น
ความคิดนี้ผมยืนยันคำเดิม แม้จะเห็นต่างกับหลายคน แต่ยังไงแรชยืนหน้าเป้า มันดีกว่าเอาหมากไปยืนหน้าเป้า พูดง่ายๆคือเอาไปยืนตัวรองลงมามันเสียของมากสำหรับแรชที่ควรมีหน้าที่ยิงประตูเป็นหลัก แม้ว่าหมากจะมีการเปลี่ยนเป็นสกอร์เมื่อเทียบกับการยิงสูงกว่าก็จริง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว ยังไงผมยืนยันคำเดิมว่า แรชควรยืนเป้าจะดีกว่าหมากยืนเป้า
ถ้าโอเล่ยังยืนยันจะใช้ตัวรุกลักษณะนี้คือ หมาก - แรช มีทางเดียวที่จะรอดได้นั่นก็คือ การเปลี่ยนมาเล่นแผนหน้าคู่เท่านั้นถึงจะดีที่สุด และทั้งคุ่จะปลดปล่อยความสามารถคู่กันได้มากกว่านี้
สุดท้ายนอกจากหมากแรชเจมส์แล้ว คนที่ต้องพูดถึง แม้จะไม่อยากพูดก็คือ ลินการ์ด ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นหนึ่งในตัวรุกหลักของทีม .. ผมเขียนโดยตัดอคติ เหมือนทุกๆครั้งนะ และก็คงจะต้องบอกว่า ผลงานของลินการ์ดมันฟ้องด้วยตัวมันเองอยู่แล้วว่า เขาไม่ดีพอจะเล่นให้แมนยู ถ้าสโมสรต้องการผลการแข่งขันที่ดี แต่คุณจะยังทู่ซี้ใช้ตัวรุกที่ไม่มีผลงานอะไรให้ทีมได้เลย ทั้งแอสซิสต์ หรือยิงประตู
คุณยังจะส่งตัวกระจอก ๆ แบบนี้ลงไปเล่นให้สโมสรพังทลายไปเรื่อย ๆ งั้นหรือโอเล่ ..?
เชื่อเถอะว่า ถ้ารอยคีนอยู่ ลินการ์ดมันจะโดนด่าเละคาห้องแต่งตัวมากกว่านี้แน่ ข้อหา ระดับชั้นห่วยแตกไม่คู่ควรกับการเล่นให้แมนยูไนเต็ด
สิ่งที่ลินการ์ดทำได้ดีในช่วงต้นๆพักเดียวก็คือ การรับบอลต่อบอลตรงกลางสนามต่อจากมิดฟิลด์ และก็มีลากเลื้อยบ้าง แต่มันก็มีแค่นั้นนั่นแหละ เขาทำได้เพียงแค่ลาก ๆ ไปมาครอสขวางสนาม จากนั้นก็ป้ายให้เพื่อนแบบ "ง่าย ๆ" ไม่มีจินตนาการ ไม่มีการสร้างสรรค์
"ไม่มีห่าอะไรเลยสักอย่าง"
ขออภัยที่ต้องพูดคำหยาบ ๆ แต่เพื่อให้เห็นภาพนะครับหวังว่าจะเข้าใจ คือโอเค ถ้าให้ชมมันก็ชมได้ว่า มันเชื่อมเกม แต่หากพิจารณาจริงๆ การเชื่อมเกมของเขา ไม่ได้ก่อให้เกิดประโชน์ให้ทีมเลยนอกจากการ เพิ่มความนานของ possessions % ให้มากขึ้นอีกนิดเดียวเท่านั้น ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยกับเกมรุก
นั่นแหละคือเหตุผลที่แท้จริงอีกอย่างว่า ทำไมเกมรุกเราถึงโคตรกระจอกงอกง่อยขนาดนี้ เพราะมีกลางรุกไร้น้ำยาแบบนี้ไง
เอาแค่นี้ก็ถือว่าทุเรศพอตัวแล้ว สถิติมันฟ้องอยู่เห็นๆ ยังไม่ต้องนับรวมไปถึงการเล่นกาก ๆ พลาดแบบโง่ ๆง่ าย ๆ จากลูกจั๋ง ๆ สองดอก ที่ AWB ควรจะได้รับแอสซิสต์ประตูไปแล้วถึง 2 ลูก แต่ความห่วยของนักเตะตัวนี้ก็ทำลายสิ่งดีๆที่ทีมปั้นมาให้ลงอย่างไม่มีชิ้นดี
และดูท่าทางจะไม่สำนึกอะไรด้วยว่าตัวเองเล่นได้ชั่วร้ายขนาดไหน
ยังคงพลาดอย่างต่อเนื่อง และไม่สร้างอะไรให้กับทีมได้เลย แต่กลับได้อยู่ในสนามถึงนาที 81 ทั้งที่จริง ๆ เขาควรจะอยู่แต่บนม้านั่งสำรองตั้งแต่นาทีแรกแล้ว
เรื่องเปลี่ยนตัวค่อยว่ากันทีหลัง เรื่องทรัพยากรในมือค่อยว่ากันทีหลัง
การมีตัวรุกทำตัวไม่มีประโยชน์ เปิดสกิล windwalk รัว ๆ ทุกนัดแบบนี้ ถามจริง ๆ จะเอาสกอร์มาจากไหน
เสียโควตาเปล่า ๆ ถ้าจะลงแล้วทำได้แค่นี้ ไปลากตัวอังเคล โกเมส มาเล่นแทนได้แล้ว ดีกว่าเยอะ
ข้อนี้คนทั้งโลกเห็น แต่ผู้จัดการทีมไม่เห็น...
2. ผมเห็นความคุ้มค่าของสองนักเตะใหม่
แมกไกวร์กับวานบิสซาก้า คือนักเตะที่เข้ามายกระดับแผงหลังให้เราอย่างแท้จริง ถ้าไม่เช่นนั้นเกมนี้ก็อาจจะเป็นการย้ำแค้น 2 - 1 เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันให้กับเราเลยก็ได้ เพราะมีทรงจะโดนแบบนั้นไม่น้อย แต่แมกไกวร์ และบิสซาก้า แสดงให้เห็นถึงคลาสที่แตกต่างไปจากที่เราเคยเป็นมาตลอด
นั่นแปลว่า ถ้าหากมีการเสริมทีมในจุดอื่น ๆ ที่เราขาดได้อย่างตรงเผงและถูกตัวเช่นนี้ มันจะพลิกโฉมหน้าทีมให้แกร่งขึ้นมาทันตาอย่างแน่นอน
แต่ปัญหาก็อยู่ที่เดิม คือเรื่องของบอร์ดบริหาร งบประมาณซื้อนักเตะ และการเลือกซื้อตัวเข้ามานี่แหละที่ยังคงมีปัญหาอยู่อย่างต่อเนื่อง และคงอีกหลายมหากาพย์ก็จะยังแก้ไม่ได้หรอกถ้ายังเสริมทีมในลักษณะ ซัมเมอร์ละตัวสองตัวเพื่อเซฟเงินเอาหน้ารอดไปวัน ๆ แบบนี้
แมกไกวร์มีความนิ่ง เชื่อถือได้ในการเล่นเกมรับ และลูกหัวที่เอาชนะได้หมดจริงๆ ส่วน AWB บางคนบอกนี่คือเวอร์กิลแบ็คขวา ที่จะไม่ยอมให้ใครผ่านได้ง่าย ๆ .. มันจะไม่เป็นเช่นนั้นได้ไง ขนาดล้มเสียหลักไปแล้ว พี่แกยังยื่นขามาเกะกะเตะ ๆ ปาดออกไปได้ ลูกนั้นผมเชื่อเลยว่าแกของจริงแน่ ๆ
ตัวอีดิตของแมนยูในปีนี้ เว่อร์มากจริง ๆ AWB
(มีต่อ)