ก่อนปี 2014 ทีมชาติไทยตกต่ำมากๆ ถึงแม้ปี 2013 จะได้แชมป์ซีเกมส์ แต่ก็แทบลากเลือดบนแผ่นดินเมียร์นมา จุดเปลี่ยนที่ทำให้แฟนบอลไทยเริ่มมีความหวังกับทีมชาติ คือ ปี 2014 ที่บอลลีกบูมสุดๆ จนมาพลุแตกตอน เอเชี่ยนเกมส์ที่เกาหลีใต้ นัดแรกๆก็ยังทรงๆ จนกระทั่งนัดถล่มอินโด ที่ท๊อปฟอร์มทั้งทีม ตั้งแต่กวินเวอชั่นร่างกายแข็งแรง เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่มีใครมีอาการบาดเจ็บรบกวน ผลงานผ่านถึงรอบรอง และแพ้เจ้าภาพ หลังจากกลับมาเสียงชื่นชมเยอะมากว่านี่คือ ผลงานที่เกินเป้าหมาย และ aff 2014 ทีมชาติมีความจำเป็นที่ต้องใช้ผู้เล่นเอเชี่ยนเกมส์เป็นแกน ตอนนั้นไม่มีทั้ง ธีรศิลป์ และธีรธร ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในขณะนั้นร่วมทีมด้วย พอมาปี 2015 ความต่อยอดรอบคัดเลือกบอลโลก การเอาผู้เล่นมาประกอบร่างกันเริ่มมีขึ้นมา ทั้งผู้เล่นฟอร์มแรงอย่าง กรวิช ปกเปล้า จอมเก๋าอย่างธนา รวมถึงธีรธร ธีรศิลป์ จนช่วยกันผ่านไปรอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดเลือกฟุตบอลโลก
ความร่วงโรยของทีมชาติไทย เริ่มมาจากการเจออความแข็งแกร่งที่แท้จริงในรอบ 12 ทีม โค้ชเริ่มเอาไม่อยู่ แฟนบอลเริ่มตบะแตก นายกเริ่มอาย จนโค้ชต้องจากไปด้วยทั้งผลงานในสนามและเรื่องนอกสนาม ถึงแม้จะได้แชมป์ aff 2016 จากฮีโร่ ปีโป้ แต่ฟอร์มโดยรวมก็ไม่ได้ดีนัก หลังจากเปลี่ยนโค้ช เอานายพรานมาก็เล่นดีอยู่พักนึง และคิดว่าโค้ชคนนี้จะมาทำทีมเพื่อเอเชี่ยนคัพ และเริ่มมีการแยกชุด u23 ออกจากชุดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ทว่าไม่รู้ด้วยดวงหรือประการใด ตั้งแต่มีการเปลี่ยนผู้สนับสนุนเสื้อแข่ง เปลี่ยน โลโก้ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ u23 ไม่เคยได้แชมป์ในระดับอาเซี่ยนเลย จะมีก็ซีเกมส์ก็ยังเป็นของเจ้าเดิม ตัดเรื่องดวงทิ้งไป การที่ก่อนนั้นได้แชมป์อาเซี่ยนทั้ง u23 ชุดใหญ่ หลายๆทีมในอาเซี่ยนเริ่มพัฒนาตัวเอง ทั้งการวางระบบเยาวชน การถ่ายเลือดใหม่ ฟิลิปินส์เริ่มใช้ลูกครึ่ง มาเลย์เริ่มเน้นเยาวชน เวียดนาม คลื่นลูกใหม่จาก u19 ชุดไปบอลโลก กับu19 ในตำนานเริ่มผลิดอกเบ่งบาน กลับกลายเป็นไทยที่เคยมั่นใจว่า ชนะอาเซี่ยนได้ ก้าวข้ามอาเซี่ยนได้ ลืมมองอะไรไปหลายอย่าง
นักเตะไทยฟอร์มดี ไม่สามารถรักษามาตรฐานได้ หลายๆคนเจออาการเจ็บ ป่วย อย่าง สารัช ธนบูรณ์ กรวิช หลายๆคนเริ่มฟอร์มตก นฤบดิน ปกเกล้า พีรพัฒน์ อดิศักดิ์ หลายคนเริ่มอายุมากอย่างมุ้ย หลายคนลาทีมชาติอย่างพี่ตี๋ จ่าเย็น ส่วนคนที่ขึ้นมาทดแทนก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองในระดับทีมชาติว่าตัวเองพร้อมที่จะเป็นตัวความหวัง ทั้งศุภชัยที่ใจร้อน บดินที่เล่นทีมชาติหายเงียบ ชนานันท์ที่ทีมชาติก็ฟอร์มไม่ดี
นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ว่า นักเตะไทย ไม่สามารถรักษามาตรฐานในการเล่นอย่างต่อเนื่องได้ ทั้งในลีกเอง และทีมชาติ กลายเป็นทีมชาติไทยเริ่มไม่รู้แล้วว่าใครจะเป็นแกนหลัก ที่ยืนแน่ๆ มี แบคซ้าย กลางรุก กลาง box to box สามคนที่เล่นเจลีกเท่านั้น ที่เล่นได้ตามมาตรฐานต่อเนื่องตลอดสองปีที่ผ่านมา อาจนับศิวลักษณ์ไว้ด้วย (แฟนบอลยี้ลูกหดมือนัดอินโด จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนฝันดีใน aff) ที่เหลือตำแหน่งอื่นก็แล้วแต่ฟอร์มช่วงนั้นแต่ละคน การไม่มีผู้เล่นที่ฟอร์มคงเส้นคงวานี่แหละ ทำให้มีการถกเถียงกันเยอะว่าใครควรติดไม่ควรติด และการที่เปลี่ยนทีมบ่อยๆ ทั้งกองหน้า กองกลาง กองหลัง ประตู เรียกว่าทีมชาติตลอดสองสามปีหลัง ถึงเหมือนจะเรียกตัวเดิมๆ แต่ดูรายละเอียดสิ ไม่เหมือนเดิมแทบจะตลอด นั่นอาจเป็นจุดไม่มั่นใจของแฟนบอลไทย และยิ่งเพื่อนบ้านพัฒนาขึ้น ไทยเริ่มแพ้อาเซี่ยน ทั้งเจอมาเลเขี่ยนตกรอบ aff แพ้เวียดนามคาบ้าน ยิ่งทำให้แฟนบอลกังวลใจ จนตอนนี้แม้แต่การเรียกตัวยังบ่นซึ่งก็ไม่แปลก เพราะทุกตนไม่มั่นใจ
สิ่งที่สมาคมควรทำเลย คือ ทำอย่างไรให้ทีมชาติกลับมาอยู่ในที่ๆแฟนบอลมั่นใจ มั่นหน้าเหมือนนัดไปอัดเวียดนามคาบ้าน 3 เม็ดถ้วน ความหวังตอนนี้อยู่ที่นิชิโนะ ผู้ข้ามทะเลมาจาก เจแปน แล้วว่าจะทำอย่างไรให้ช้างตัวนี้กลับมาตกมันอีกครั้ง
อะไรที่ทำให้ ความมั่นใจ ของแฟนบอลไทยที่มีต่อทีมชาติหายไป
ความร่วงโรยของทีมชาติไทย เริ่มมาจากการเจออความแข็งแกร่งที่แท้จริงในรอบ 12 ทีม โค้ชเริ่มเอาไม่อยู่ แฟนบอลเริ่มตบะแตก นายกเริ่มอาย จนโค้ชต้องจากไปด้วยทั้งผลงานในสนามและเรื่องนอกสนาม ถึงแม้จะได้แชมป์ aff 2016 จากฮีโร่ ปีโป้ แต่ฟอร์มโดยรวมก็ไม่ได้ดีนัก หลังจากเปลี่ยนโค้ช เอานายพรานมาก็เล่นดีอยู่พักนึง และคิดว่าโค้ชคนนี้จะมาทำทีมเพื่อเอเชี่ยนคัพ และเริ่มมีการแยกชุด u23 ออกจากชุดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ทว่าไม่รู้ด้วยดวงหรือประการใด ตั้งแต่มีการเปลี่ยนผู้สนับสนุนเสื้อแข่ง เปลี่ยน โลโก้ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ u23 ไม่เคยได้แชมป์ในระดับอาเซี่ยนเลย จะมีก็ซีเกมส์ก็ยังเป็นของเจ้าเดิม ตัดเรื่องดวงทิ้งไป การที่ก่อนนั้นได้แชมป์อาเซี่ยนทั้ง u23 ชุดใหญ่ หลายๆทีมในอาเซี่ยนเริ่มพัฒนาตัวเอง ทั้งการวางระบบเยาวชน การถ่ายเลือดใหม่ ฟิลิปินส์เริ่มใช้ลูกครึ่ง มาเลย์เริ่มเน้นเยาวชน เวียดนาม คลื่นลูกใหม่จาก u19 ชุดไปบอลโลก กับu19 ในตำนานเริ่มผลิดอกเบ่งบาน กลับกลายเป็นไทยที่เคยมั่นใจว่า ชนะอาเซี่ยนได้ ก้าวข้ามอาเซี่ยนได้ ลืมมองอะไรไปหลายอย่าง
นักเตะไทยฟอร์มดี ไม่สามารถรักษามาตรฐานได้ หลายๆคนเจออาการเจ็บ ป่วย อย่าง สารัช ธนบูรณ์ กรวิช หลายๆคนเริ่มฟอร์มตก นฤบดิน ปกเกล้า พีรพัฒน์ อดิศักดิ์ หลายคนเริ่มอายุมากอย่างมุ้ย หลายคนลาทีมชาติอย่างพี่ตี๋ จ่าเย็น ส่วนคนที่ขึ้นมาทดแทนก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองในระดับทีมชาติว่าตัวเองพร้อมที่จะเป็นตัวความหวัง ทั้งศุภชัยที่ใจร้อน บดินที่เล่นทีมชาติหายเงียบ ชนานันท์ที่ทีมชาติก็ฟอร์มไม่ดี
นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ว่า นักเตะไทย ไม่สามารถรักษามาตรฐานในการเล่นอย่างต่อเนื่องได้ ทั้งในลีกเอง และทีมชาติ กลายเป็นทีมชาติไทยเริ่มไม่รู้แล้วว่าใครจะเป็นแกนหลัก ที่ยืนแน่ๆ มี แบคซ้าย กลางรุก กลาง box to box สามคนที่เล่นเจลีกเท่านั้น ที่เล่นได้ตามมาตรฐานต่อเนื่องตลอดสองปีที่ผ่านมา อาจนับศิวลักษณ์ไว้ด้วย (แฟนบอลยี้ลูกหดมือนัดอินโด จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนฝันดีใน aff) ที่เหลือตำแหน่งอื่นก็แล้วแต่ฟอร์มช่วงนั้นแต่ละคน การไม่มีผู้เล่นที่ฟอร์มคงเส้นคงวานี่แหละ ทำให้มีการถกเถียงกันเยอะว่าใครควรติดไม่ควรติด และการที่เปลี่ยนทีมบ่อยๆ ทั้งกองหน้า กองกลาง กองหลัง ประตู เรียกว่าทีมชาติตลอดสองสามปีหลัง ถึงเหมือนจะเรียกตัวเดิมๆ แต่ดูรายละเอียดสิ ไม่เหมือนเดิมแทบจะตลอด นั่นอาจเป็นจุดไม่มั่นใจของแฟนบอลไทย และยิ่งเพื่อนบ้านพัฒนาขึ้น ไทยเริ่มแพ้อาเซี่ยน ทั้งเจอมาเลเขี่ยนตกรอบ aff แพ้เวียดนามคาบ้าน ยิ่งทำให้แฟนบอลกังวลใจ จนตอนนี้แม้แต่การเรียกตัวยังบ่นซึ่งก็ไม่แปลก เพราะทุกตนไม่มั่นใจ
สิ่งที่สมาคมควรทำเลย คือ ทำอย่างไรให้ทีมชาติกลับมาอยู่ในที่ๆแฟนบอลมั่นใจ มั่นหน้าเหมือนนัดไปอัดเวียดนามคาบ้าน 3 เม็ดถ้วน ความหวังตอนนี้อยู่ที่นิชิโนะ ผู้ข้ามทะเลมาจาก เจแปน แล้วว่าจะทำอย่างไรให้ช้างตัวนี้กลับมาตกมันอีกครั้ง