ความจริงแล้ว สำหรับทริปนี้เคยเขียนแยกเป็นวันๆ ไว้ รอบนี้อยากมาเขียนเป็นเมือง แยกเป็น 3 part คือ ตามหาแลนด์มาร์ดใน Osaka - Kyoto - Koda ในฤดูร้อน (ฝน) เป็นครั้งแรกในการเที่ยวญี่ปุ่น และเที่ยวเองแบบ Chill คิดว่านะครับ เนื่องจากไปจองตั๋วต่างๆ ไว้หลายเดือน เลยแอบกล้วพายุเข้ามา แอบดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าทุกวัน 555+

วันแรกครับ // 

รอบนี้บินแบบ Full service กับหางม่วง สายการบินแห่งชาติครับ #การบินไทย

- เวลา 21.00 น. Checkin ที่ เคาเตอร์ B ของการบินไทย (มีเคาเตอร์สำหรับ ญี่ปุ่น – เกาหลี) พนักงานบอกว่า เครื่องดีเลย์ 1 ชม. นะคะ

เพราะรอเที่ยวบินขาเข้า อืม..  Checkin พร้อมโหลดกระเป๋าเสร็จ ได้ บอร์ดดิ้งพาส มาแล้ว ไปตม.กัน

-       01.30 น. การบินไทย TG622 โดยวันนี้เราได้นั่งพี่ใหญ่ของการบินไทย คือ  A380 (HS-TUB, ชื่อเครื่อง มัญจาคีรี) ได้ที่นั่ง 70K ที่นั่งมีสองชั้น ผมได้ชั้นแรกแถวหลัง ที่นั่งจัดแบบ 3-4-3

- ภายในเครื่องพี่ A380 ครับ

-       บนเครื่องก็จะมี ผ้าห่ม/หม่อน/หูฟัง/เครื่องดื่ม/และอาหารว่าง (แซนด์วิช) ให้รองท้องก่อนครับ

-       พอประมาณตี 5 แสงจากพระอาทิตเริมส่องมาทางเรา ที่นะคือเหตุผมที่ทำไหนผมชอบนั่งท้ายเครื่อง

-  สักพักแอร์ ก็เริ่มแจกอาหารเช้า วันนั้นมีสองอย่างให้เลือก คือ แกงเขียวหวาน กับ อุด้งทะเลผมเลือกอย่างหลังครับ

-  พออิ่มก็เขียนใบขอเข้าประเทศ กับ ใบของศุลกากร ของญี่ปุ่น

-       เวลา ประมาณ 09.00 น พี่ A380 ก็มาเรามาถึง Kansai Airport โดยเราใช้เวลาในพิธีการเข้าเมือง + ศุลกากร ประมาณ 30 นาที ได้

-       จากนั้นผมไปฝากกระเป๋าจากสนามบินไปโรงแรมเพราะสะดวกดี เดินตัวเบาไปเลย วิธีฝากประเป๋าง่ายครับ ผ่าน ตม. มาเจอเลย มีหลายเจ้า เลือกเอาได้เลย **ถามโรงแรมที่เราพักก่อนละ ว่าเขามีบริการไหม

วันที่ 1 Osaka,Kyoto,Koba) Kifune Jinja Shrine/Arashiyama/สะพานโทเง็ตสึเคียว/Koba port

-       จากนั้นเราก็มองหา JR Ticket Office บริเวณชั้น 2 ของ Kansai-airport เพื่อ แลก JR Rail Pass ที่ซื้อมาจาก KKday ราคา 8,030 บาท จากเมืองไทย แล้วไปรับ Exchange Order ไปรับที่ BTS อโศก

ได้แล้วก็ไปรอ รถไฟ Haruka ไปลงสถานี Shin-Ōsaka

-       ขึ้นรถฟ้าเข้าเมือง JR Limited Express “Haruka 8” สถานี Kansai-Airport (ปลายทาง Kyoto  51 min (2 stops)) ลงสถานี Shin-Osaka Station โดยผมมีแผนจะนั่ง SHINKANSEN ไป Hiroshima แต่ด้วยช่วงที่ไปลืมหาข้อมูลว่าเป็นช่วงที่คนญี่ปุ่นหยุดยาว เขาออกต่างจังหวัดกัน ผมที่ได้คือ ***เต็ม*** เลยต้องเปลี่ยนแผนเป็นนั่ง Shinkansen ไป เกียวโต แทน

-       พอถึง เกียวโต ก็จะ งง หน่อย เพราะมันนอกแผนที่วางไว้ ไม่รู้จะไปไหนดี แล้วก็นึกถึง ศาลเจ้าคิฟุเนะ จินจะ (Kifune Jinja Shrine)

การเดินทางก็ริ่มจาก สถานี Kyoto โดยนั่งรถไฟ Subway_Karasuma Line ไปลงสถานี Kokusai Kaikan  ราคา 290 เยน ต่อรถบัส สาย 52 ไปลงป้าย

Kibune Guchi ราคา 280 เยน จากนั้นเดินข้ามสะพานไปที่ป้าย Kibune Guchi Eki-mae ต่อรถบัส สาย 33 ไปลงป้าย Kibune ราคา 160 เยน แล้วเดินต่ออีกนิด ก็ยังแล้วครับ ฟังเหมือนยากนะ แต่ใช้ Google map จบ

- จากสิ้นสายรถบัส 33 ก็ต้องเดินอีกหน่อย ระหว้างทาง ก็จะมีร้านอาหารแบบนั่งชมน้ำ ชมไม้เต็มไปหมด แต่ผมไม่ได้ลอง เพราะรอคิวนาน

-       ศาลเจ้าคิฟุเนะ จินจะ (Kifune Jinja Shrine)

ใช้วิธีกลับไปยัง สถานี Kyoto แบบมาทุกประการ

- เวลาต่อนั้นปรมาณ 13.00 น. เรานั่ง รถไฟ JR สาย San-In Line ( ใช้ JR Pass ) (ทางที่จะไป Sonobe) ลงสถานี Saga-Arashiyama Station เพื่อไปยัง Arashiyama (อาราซิยามา ) ป่าไผ่ + สะพานโทเง็ตสึเคียว + แม่น้ำโฮสุ เดินตามแผนที่เลยครับ

- ก่อนเดิน จัดไป

- เดินเข้าป่าเลยครับ

- เดินตามทางมาทะถุอีกที่ คือ แม่น้ำโฮสุ ต้นไม้ข้างหลังถ้าเป็นฤดูใบไม่เปลี่ยนสี คงสวยมาก

- สะพานโทเง็ตสึเคียว + แม่น้ำโฮสุ

- จากแม่น้ำ แม่น้ำโฮสุ เพื่อเดินกลับ สถานี Saga-Arashiyama

-       ประมาณ 17.00 น เราก็กลับโดยวิธีเดิม มาลงที่สถานี สถานี Kyoto แล้วนั่ง รถไฟ JR สาย Tokaido-Sanyo Line ไปลงสถานี Kobe 7 Stops (ปลายทาง Himeji) ใช้เวลา 1 ชม. ไปยัง Kobe Port Tower and Mosaic Big Ferris Wheel

- แถวนี้จะมีร้านอาหาร / ร้านกาแฟ / ร้านนั่ง Chill อยู่เยอะเลย วันนี้เราฝากอาหารเย็นไว้กะร้าน

-       ประมาณ  22.00 น. เราก็นั่งรถไฟ Hamakaze จากสถานี Kobe (ทางไป Osaka ) ไปลงสถานี Osaka แล้วเปลี่ยนไปขึ้น รถไฟสาย Osaka Loop Line ไปลงสถานี Shin-Imamiya แล้วเดินอีกนิดหนึ่งก็ถึง โรงแรม Taiyo

วันที่ 2 Kyoto # Japan (Fushimi Inari/Kiyomizu-dera/Ninenzaka/Ishibei-koji light street/Hanamikoji Dori/Gion/Kinkaku-Ji/ Dotonbori) 

- 06.00 น. นั่งรถไฟจากสถานี Shin-Imamiya ลงสถานี Osaka เปลี่ยนไป) ไปสถานี Shin-Ōsaka นั่ง Shinkansen ไปสถานี Kyoto ก็ได้  

จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ JR สาย Nara Line จากสถานี Kyoto Station (ทางไป各停Joyo 5 min (2 stops ) ลงสถานี  Inari  การเดินทางทั้งหมดใช้ JR Pass ได้

- ลงแล้วเดินไปยัง Fushimi Inari Taisha ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

เราเดินหาอุโมงเสาโทริอิ ในตำนาน แลนด์มาร์ด ที่ คนไทย ต้องไปให้ได้ 555+

เริ่มจากเสาใหญ่ๆ ก่อน 

เพื่อชมอุโมงค์โทริอิ (ตามคนเยอะไปนะละ) ความจริงคนเยอะนะ แต่ก็พอมีจังหวะ ที่ไม่มีคนให้พอเก็บภาพสวยอยู่

จากนั้น พอได้รูปจน พอใจแล้ว ก็ไปต่อ โดยเรากลับโดยนั่งรถไฟ JR มาลง สถานี Kyoto Station โดยมีแผนว่าจะไป Kiyomizu-dera วัดคิโยะมิซุ 

- ภาพจากสถานี JR Kyoto การจะเดินทางไป วัดคิโยมิสึเดระ(วัดน้ำใส) แต่วัดนั้นต้องขึ้นรถ Bus ไป เพราะไม่มี รถไฟ JR วิ่งถึง วิธีเดินทางที่คุ้มค่าที่สุด คือ ซื้อบัตร Kyoto Bus One-Day Pass ราคา 500 เยน Cr : http://www.emagtravel.com/archive/kyoto-city-bus.html เอาง่าย ถ้าขึ้นรถ 3 รอบขึ้น คุ้มครับ เดินออกจากสถานี Kyoto มองด้านขาวก็จะเจอ Bus

- ซื้อได้จากที่นี้เลย พอได้บัตรแล้วก็ไปรอรถตามป้ายที่มีเบอร์รถอยู่ได้เลย หาง่ายมากครับ

           - จากสถานี Kyoto มองป้าย Bus ไม่ยากขึ้นรถเมล์สาย 100 หรือ 206 

ลงป้าย Kiyomizu-michi เพื่อเที่ยวย่าน Ninenzaka (ซานเน็นซะกะ นิเน็นซะกะ) และ Kiyomizu-dera วัดคิโยมิสึเดระ(วัดน้ำใส)

* เดินตามได้เลย