สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการให้ลูกสาวลองทานวิตามินอาหารเสริมสำหรับเด็กดูค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ ลูกสาวคนเล็กเป็นเด็กที่ถือว่าตัวค่อนข้างเล็กกว่าเกณฑ์
ตอนนี้น้องอายุ 3ขวบ แต่หนักแค่ 11โล นิดๆเองค่ะ วันไหนดีหน่อยก็ชั่งได้ 11.9โล ซึ่งเมื่อเทียบกับพี่สาวคือ พอครบ 1ขวบก็หนัก 12โลแล้ว 😱😱😱
เมื่อเดือนก่อนพา 2สาวไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เลยได้ปรึกษาคุณหมอเรื่องน้ำหนักตัวน้อง เพราะน้องเคทถือว่าน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่ยังไม่ถึงกับขั้นวิกฤตนะคะ
คุณหมอเลยแนะนำให้กินวิตามินอาหารเสริมที่มี Lysine (ไลซีน) เป็นส่วนผสม พอดีตอนนั้นเห็นของยี่ห้อ Mamarine เลยเอาให้คุณหมอดูว่าทานได้ไหม เลยเป็นจุดเริ่มของการรีวิวนี้ค่ะ
ก่อนอื่นอยากจะขอพูดถึง Lysine (ไลซีน) กันก่อน เนื่องจากเป็นศัพท์ใหม่ที่เราเพิ่งเคยได้ยินมา
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆคงเคยได้ยินพวก Omega, DHA, Iron (เหล็ก), Calcium (แคลเซียม), Vitamin C กันมาบ้างว่าวิตามินเหล่านี้มีประโยชน์อะไร
แล้วLysine (ไลซีน) มันคืออะไร?
Lysine (ไลซีน) เป็นหนึ่งในกรดอะมิโนที่จำเป็นและสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายจะได้รับจากการรับประทานเท่านั้น ว่าง่ายๆก็คือ ร่างกายเราไม่สามารถสร้างกรดอะมิโนตัวนี้ได้
แล้วมันมีประโยชน์ยังไงล่ะ
อย่างแรกเลย คือ ช่วยให้เจริญอาหารค่ะ ไลซีนจะมีส่วนช่วยในการสร้างเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญและสร้างพลังงานในร่างกาย
อีกอย่างคือ ช่วยในการเจริญเติบโต เพราะไลซีนเป็นส่วนประกอบของโปรตีน และยังทำงานร่วมกับกรดอะมิโนอื่น เพื่อเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
แต่รีวิวนี้จะมีวิตามินหลายตัวมาให้ดูกันนะคะ
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยค่ะ
ขอนำเสนอ Bain Syrup เป็นตัวแรกค่ะ
ตัวนี้จะเน้นไปที่ DHA 70% - Omega 3ดูจากรูปจะเห็นค่อนข้างชัดเจนว่าเค้าเน้นที่ตัวนี้ ตรงกล่องก็มีเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน
ส่วนผสมหลักๆจะเป็นน้ำมันปลาทูน่า (Tuna Fish Oil) ที่มี DHA 70%
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของน้ำมันปลาทูน่าที่มี DHA 70%อยู่ประมาณ 83มก.
ตัวยาจะเป็นรสผลไม้รวม มีความหอมกลิ่นผลไม้ รสชาติหวานๆไม่เปรี้ยว แต่ตัวยาจะข้นๆหนืดๆหน่อย สีออกส้มๆจะมีกลิ่นน้ำมันปลานิดๆค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 250บาท ในปริมาณ 150 มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนโต๊ะ หรือ 3ช้อนช้า (15 ml) หลังอาหารนะคะ
ข้อควรระวัง เนื่องจากBain Syrup มีส่วนผสมของ DHA ดังนั้นเด็กที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลาทานไม่ได้นะคะ แล้วก็ข้างกล่องมีเขียนว่าผลิตภัณฑ์มาจากถั่วเหลือง เพราะฉะนั้นใครแพ้ถั่วเหลืองก็ห้ามทานเช่นกันนะคะ
มาต่อที่ตัวที่ 2กันเลย
Mamarineขวดสีน้ำเงิน หรือ Mamarine Omega-3 plus L-Lysine คือที่ต้องเรียกแบบนี้เพราะเค้ามีวิตามินอาหารเสริมที่หน้าตาคล้ายกันอยู่3ตัว ซึ่งแต่ละตัวจะเน้นต่างกัน เลยให้สังเกตจากสีของกล่องเป็นหลักนะคะ
ตัวนี้จะเน้นไปที่ Lysine (ไลซีน) และ Omega 3ค่ะ สำหรับยี่ห้อนี้ให้สังเกตจากสีของกล่องก่อนนะคะ ถ้าดูตรงกล่องจะมีเขียนว่า OMEGA-3 PLUS L-LYSINE ตามในภาพนะคะ
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของLysine (ไลซีน)อยู่ประมาณ 208มก. และOmega 3อยู่ประมาณ 167มก.
ตัวยาจะเป็นรสส้ม ออกรสหวานๆไม่เปรี้ยวมากค่ะ ตัวยาจะไม่ขุ่นมากออกไปทางใสๆ สีออกเหลืองๆ จะมีกลิ่นน้ำมันปลานิดๆค่ะ ที่สำคัญ คือ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แลคโตส และกลูเตนค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 199บาท ในปริมาณ 120มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนโต๊ะ หรือ 3ช้อนชา (15 ml) หลังอาหารนะคะ
ข้อควรระวัง มีส่วนผสมของน้ำมันปลา เพราะฉะนั้นใครที่แพ้อาหารทะเลก็ทานไม่ได้นะคะ
ตัว Mamarine กล่องสีน้ำเงินตัวนี้ เป็นตัวที่เราเริ่มลองให้น้องทานเป็นครั้งแรกจากการแนะนำของหมอ เลยเป็นที่มาของการไล่หาข้อมูลมาทั้งหมดนี้แหล่ะค่ะ
มาที่ตัวต่อไปกันเลยค่ะ
ตัวที่ 3ขอนำเสนอ Seven Seas Multivitamin Syrup with Lysine ค่ะ
*ตัวนี้จริงๆในกล่องไม่มีถ้วยยาให้นะคะ ยืมของยี่ห้ออื่นมาใส่ให้เห็นตัวยาชัดๆค่ะ*
ตัวนี้จะเน้นไปที่ Lysine ดูจากรูปจะเห็นค่อนข้างชัดเจนว่าเค้าเน้นที่ตัวนี้ ตรงกล่องก็มีเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของไลซีนอยู่ประมาณ 375มก.
ตัวยาจะเป็นรสผลไม้รวม รสออกหวานๆไม่เปรี้ยว ตัวยาจะมีสีเหลืองใสๆค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 159บาท ในปริมาณ 100 มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนช้า หรือ 5 ml ก่อนอาหารประมาณครึ่งถึง 1ชั่วโมงนะคะ
ข้อควรระวัง ยานี้อาจเกิดการสะสมในร่างกายจนทำให้เกิดอันตรายได้ จึงไม่ควรใช้ยาเกินขนาดที่เค้ากำหนดไว้ และไม่ควรใช่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน นอกจากแพทย์สั่งค่ะ
มาดูตัวสุดท้ายนะคะ จะเป็น Nutroplex Oligo Plus ค่ะ
*ตัวนี้เค้าให้มาเป็นช้อนยาค่ะ*
ตัวนี้จะเน้นไปที่ Oligo (โอลิโก) เป็นหลักค่ะ แต่ก็จะมีส่วนผสมของ Iron (เหล็ก)และLysine (ไลซีน) ด้วยนะคะ ดูตรงกล่องจะมีรูปภาพเขียนว่ามีวิตามิน 3ตัวนี้ไว้ค่อนข้างชัดเจน
ตัวOligo (โอลิโก) มันก็คือใยอาหารนั่นเองค่ะ เหมาะสำหรับน้องที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย หรือท้องผูกอยู่บ่อยๆ เพราะโอลิโกจะช่วยเพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหาร เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่ายค่ะ
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของโอลิโกอยู่ 250มก. ไลซีน 100มก. และเฟอร์ริก 55มก.
ตัวยาจะเป็นรสส้ม รสออกเปรี้ยวๆอมหวาน น้ำไม่ขุ่นมากออกไปทางใสๆ สีออกเหลืองอมส้มนิดๆรสชาติเหมือนพวกน้ำส้มที่ผสมหัวเชื้อแล้วหวานๆหน่อยอ่ะค่ะ ที่สำคัญ คือ ปราศจากน้ำตาล หรือ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลนั่นเองค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 250บาท ในปริมาณ 100มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนช้า หรือ 5 ml พร้อมมื้ออาหารนะคะ
ข้อควรระวัง มีผลิตภัณฑ์จากนม เพราะฉะนั้นใครที่แพ้นมก็ทานไม่ได้นะคะ
ซึ่งในบรรดาวิตามินอาหารเสริมทั้ง 4ชนิดนี้ดีหมด แต่ขึ้นอยู่กับว่าอะไรตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่มากที่สุด หรือว่าง่ายๆคือคุณพ่อคุณแม่อยากเติมตรงไหนที่น้องยังขาดอยู่ก็เลือกเอาจากวิตามินที่ต้องการเสริมให้น้องได้เลยนะคะ
ส่วนตัวที่ทานตัวMamarineนี้ เพราะอย่างที่บอกว่าน้องมีน้ำหนักตัวที่ค่อยข้างน้อยเราเลยไปเน้นที่Lysineเป็นหลักนะคะ แล้วก็อยากเติม Omega 3เพราะช่วยในเรื่องของการเจริญอาหารที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโต และบำรุงสมองไปพร้อมๆกันค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือ ควรให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5หมู่นะคะ วิตามินอาหารเสริมเป็นเพียงตัวช่วยสำหรับคนที่อาจจะไม่มีเวลาเตรียมอาหารให้ลูกได้ครบถ้วนทั้งหมดค่ะ
อย่างไรก็แล้วแต่ ควรจะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้งนะคะ
รอบนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ แม่ๆคนไหนเคยให้ลูกน้อยทานวิตามินอาหารเสริมกันบ้างค่ะมียี่ห้อไหนดี น่าสนใจก็เอามาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะคะ
[CR] รวม 4 วิตามินอาหารเสริมสำหรับเด็กอายุ 1-6 ขวบ ที่คุณแม่ควรมีติดบ้าน
เรื่องของเรื่องคือ ลูกสาวคนเล็กเป็นเด็กที่ถือว่าตัวค่อนข้างเล็กกว่าเกณฑ์
ตอนนี้น้องอายุ 3ขวบ แต่หนักแค่ 11โล นิดๆเองค่ะ วันไหนดีหน่อยก็ชั่งได้ 11.9โล ซึ่งเมื่อเทียบกับพี่สาวคือ พอครบ 1ขวบก็หนัก 12โลแล้ว 😱😱😱
เมื่อเดือนก่อนพา 2สาวไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เลยได้ปรึกษาคุณหมอเรื่องน้ำหนักตัวน้อง เพราะน้องเคทถือว่าน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่ยังไม่ถึงกับขั้นวิกฤตนะคะ
คุณหมอเลยแนะนำให้กินวิตามินอาหารเสริมที่มี Lysine (ไลซีน) เป็นส่วนผสม พอดีตอนนั้นเห็นของยี่ห้อ Mamarine เลยเอาให้คุณหมอดูว่าทานได้ไหม เลยเป็นจุดเริ่มของการรีวิวนี้ค่ะ
ก่อนอื่นอยากจะขอพูดถึง Lysine (ไลซีน) กันก่อน เนื่องจากเป็นศัพท์ใหม่ที่เราเพิ่งเคยได้ยินมา
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆคงเคยได้ยินพวก Omega, DHA, Iron (เหล็ก), Calcium (แคลเซียม), Vitamin C กันมาบ้างว่าวิตามินเหล่านี้มีประโยชน์อะไร
แล้วLysine (ไลซีน) มันคืออะไร?
Lysine (ไลซีน) เป็นหนึ่งในกรดอะมิโนที่จำเป็นและสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายจะได้รับจากการรับประทานเท่านั้น ว่าง่ายๆก็คือ ร่างกายเราไม่สามารถสร้างกรดอะมิโนตัวนี้ได้
แล้วมันมีประโยชน์ยังไงล่ะ
อย่างแรกเลย คือ ช่วยให้เจริญอาหารค่ะ ไลซีนจะมีส่วนช่วยในการสร้างเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญและสร้างพลังงานในร่างกาย
อีกอย่างคือ ช่วยในการเจริญเติบโต เพราะไลซีนเป็นส่วนประกอบของโปรตีน และยังทำงานร่วมกับกรดอะมิโนอื่น เพื่อเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
แต่รีวิวนี้จะมีวิตามินหลายตัวมาให้ดูกันนะคะ
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยค่ะ
ขอนำเสนอ Bain Syrup เป็นตัวแรกค่ะ
ตัวนี้จะเน้นไปที่ DHA 70% - Omega 3ดูจากรูปจะเห็นค่อนข้างชัดเจนว่าเค้าเน้นที่ตัวนี้ ตรงกล่องก็มีเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน
ส่วนผสมหลักๆจะเป็นน้ำมันปลาทูน่า (Tuna Fish Oil) ที่มี DHA 70%
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของน้ำมันปลาทูน่าที่มี DHA 70%อยู่ประมาณ 83มก.
ตัวยาจะเป็นรสผลไม้รวม มีความหอมกลิ่นผลไม้ รสชาติหวานๆไม่เปรี้ยว แต่ตัวยาจะข้นๆหนืดๆหน่อย สีออกส้มๆจะมีกลิ่นน้ำมันปลานิดๆค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 250บาท ในปริมาณ 150 มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนโต๊ะ หรือ 3ช้อนช้า (15 ml) หลังอาหารนะคะ
ข้อควรระวัง เนื่องจากBain Syrup มีส่วนผสมของ DHA ดังนั้นเด็กที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลาทานไม่ได้นะคะ แล้วก็ข้างกล่องมีเขียนว่าผลิตภัณฑ์มาจากถั่วเหลือง เพราะฉะนั้นใครแพ้ถั่วเหลืองก็ห้ามทานเช่นกันนะคะ
มาต่อที่ตัวที่ 2กันเลย
Mamarineขวดสีน้ำเงิน หรือ Mamarine Omega-3 plus L-Lysine คือที่ต้องเรียกแบบนี้เพราะเค้ามีวิตามินอาหารเสริมที่หน้าตาคล้ายกันอยู่3ตัว ซึ่งแต่ละตัวจะเน้นต่างกัน เลยให้สังเกตจากสีของกล่องเป็นหลักนะคะ
ตัวนี้จะเน้นไปที่ Lysine (ไลซีน) และ Omega 3ค่ะ สำหรับยี่ห้อนี้ให้สังเกตจากสีของกล่องก่อนนะคะ ถ้าดูตรงกล่องจะมีเขียนว่า OMEGA-3 PLUS L-LYSINE ตามในภาพนะคะ
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของLysine (ไลซีน)อยู่ประมาณ 208มก. และOmega 3อยู่ประมาณ 167มก.
ตัวยาจะเป็นรสส้ม ออกรสหวานๆไม่เปรี้ยวมากค่ะ ตัวยาจะไม่ขุ่นมากออกไปทางใสๆ สีออกเหลืองๆ จะมีกลิ่นน้ำมันปลานิดๆค่ะ ที่สำคัญ คือ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แลคโตส และกลูเตนค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 199บาท ในปริมาณ 120มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนโต๊ะ หรือ 3ช้อนชา (15 ml) หลังอาหารนะคะ
ข้อควรระวัง มีส่วนผสมของน้ำมันปลา เพราะฉะนั้นใครที่แพ้อาหารทะเลก็ทานไม่ได้นะคะ
ตัว Mamarine กล่องสีน้ำเงินตัวนี้ เป็นตัวที่เราเริ่มลองให้น้องทานเป็นครั้งแรกจากการแนะนำของหมอ เลยเป็นที่มาของการไล่หาข้อมูลมาทั้งหมดนี้แหล่ะค่ะ
มาที่ตัวต่อไปกันเลยค่ะ
ตัวที่ 3ขอนำเสนอ Seven Seas Multivitamin Syrup with Lysine ค่ะ
*ตัวนี้จริงๆในกล่องไม่มีถ้วยยาให้นะคะ ยืมของยี่ห้ออื่นมาใส่ให้เห็นตัวยาชัดๆค่ะ*
ตัวนี้จะเน้นไปที่ Lysine ดูจากรูปจะเห็นค่อนข้างชัดเจนว่าเค้าเน้นที่ตัวนี้ ตรงกล่องก็มีเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของไลซีนอยู่ประมาณ 375มก.
ตัวยาจะเป็นรสผลไม้รวม รสออกหวานๆไม่เปรี้ยว ตัวยาจะมีสีเหลืองใสๆค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 159บาท ในปริมาณ 100 มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนช้า หรือ 5 ml ก่อนอาหารประมาณครึ่งถึง 1ชั่วโมงนะคะ
ข้อควรระวัง ยานี้อาจเกิดการสะสมในร่างกายจนทำให้เกิดอันตรายได้ จึงไม่ควรใช้ยาเกินขนาดที่เค้ากำหนดไว้ และไม่ควรใช่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน นอกจากแพทย์สั่งค่ะ
มาดูตัวสุดท้ายนะคะ จะเป็น Nutroplex Oligo Plus ค่ะ
*ตัวนี้เค้าให้มาเป็นช้อนยาค่ะ*
ตัวนี้จะเน้นไปที่ Oligo (โอลิโก) เป็นหลักค่ะ แต่ก็จะมีส่วนผสมของ Iron (เหล็ก)และLysine (ไลซีน) ด้วยนะคะ ดูตรงกล่องจะมีรูปภาพเขียนว่ามีวิตามิน 3ตัวนี้ไว้ค่อนข้างชัดเจน
ตัวOligo (โอลิโก) มันก็คือใยอาหารนั่นเองค่ะ เหมาะสำหรับน้องที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย หรือท้องผูกอยู่บ่อยๆ เพราะโอลิโกจะช่วยเพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหาร เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่ายค่ะ
ใน 1ช้อนชาจะมีส่วนผสมของโอลิโกอยู่ 250มก. ไลซีน 100มก. และเฟอร์ริก 55มก.
ตัวยาจะเป็นรสส้ม รสออกเปรี้ยวๆอมหวาน น้ำไม่ขุ่นมากออกไปทางใสๆ สีออกเหลืองอมส้มนิดๆรสชาติเหมือนพวกน้ำส้มที่ผสมหัวเชื้อแล้วหวานๆหน่อยอ่ะค่ะ ที่สำคัญ คือ ปราศจากน้ำตาล หรือ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลนั่นเองค่ะ
ราคาข้างกล่องอยู่ที่ 250บาท ในปริมาณ 100มล.
โดยทานวันละ 1ช้อนช้า หรือ 5 ml พร้อมมื้ออาหารนะคะ
ข้อควรระวัง มีผลิตภัณฑ์จากนม เพราะฉะนั้นใครที่แพ้นมก็ทานไม่ได้นะคะ
ซึ่งในบรรดาวิตามินอาหารเสริมทั้ง 4ชนิดนี้ดีหมด แต่ขึ้นอยู่กับว่าอะไรตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่มากที่สุด หรือว่าง่ายๆคือคุณพ่อคุณแม่อยากเติมตรงไหนที่น้องยังขาดอยู่ก็เลือกเอาจากวิตามินที่ต้องการเสริมให้น้องได้เลยนะคะ
ส่วนตัวที่ทานตัวMamarineนี้ เพราะอย่างที่บอกว่าน้องมีน้ำหนักตัวที่ค่อยข้างน้อยเราเลยไปเน้นที่Lysineเป็นหลักนะคะ แล้วก็อยากเติม Omega 3เพราะช่วยในเรื่องของการเจริญอาหารที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโต และบำรุงสมองไปพร้อมๆกันค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือ ควรให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5หมู่นะคะ วิตามินอาหารเสริมเป็นเพียงตัวช่วยสำหรับคนที่อาจจะไม่มีเวลาเตรียมอาหารให้ลูกได้ครบถ้วนทั้งหมดค่ะ
อย่างไรก็แล้วแต่ ควรจะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้งนะคะ
รอบนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ แม่ๆคนไหนเคยให้ลูกน้อยทานวิตามินอาหารเสริมกันบ้างค่ะมียี่ห้อไหนดี น่าสนใจก็เอามาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้