สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปอีกรอบค่า
โดยเฉพาะสาวๆที่มีแพลนกำลังจะแต่งงานกับคนสิงคโปร์
รอบนี้แพรมารีวิวขั้นตอนการขอ LTVP ตั้งแต่ต้นจนจบ
หลังจากที่รอจนรากงอกมา 4-5 เดือน
ปล. แพรตั้งใจมาแชร์ประสบการ์และข้อมูลน้าา
ไม่ได้มีเจตนามาอวดรู้ อวดฉลาดแต่อย่างใดเน่ออออ
มา เข้าเรื่องกันดีว่า
ที่จริงก่อนที่จะสมัคร LTVP
ไม่สิ ก่อนที่จะแต่งกับคนสิงคโปร์เลยอ่ะค่ะ
คือถ้ามั่นใจแล้วว่าเราจะแต่งกับคนนี้ แต่ยังไม่ได้แต่ง
เราสามารถสมัคร Pre-Marriage LTVP Assessment (PMLA)
เพื่อให้เขาตรวจสอบคุณสมบัติของเราก่อนว่า ถ้าแต่งแล้วจะมีคุณสมบัติที่จะสมัคร LTVP ได้มั้ย
คือบับ เอิ่มมม คิดในใจ ถ้าคุณสมบัตืไม่ผ่าน นี่เราต้องเลิกกันใช่มั้ย 555555
ฉะนั้น ตัวนี้เราข้ามมันไปเลยค่ะ เพราะเราแต่งไปแล้ว ยังไงก็ยื่นตัวนี้ไม่ได้แล้ว
ข้อดีของการยื่นขอ PMLA ไปก็คือ
เราจะได้ LTVP เร็วขึ้นค่ะ
คือต้องรอแค่ 4-6 อาทิตย์เท่านั้น
แต่ถ้าไม่ยื่น ดุ่มๆไปขอ LTVP เหมือนแพรเลย
ก็ต้องรอ 4-6 เดือนแบบแพรนี่แหละค่ะ เหอๆ
เคสของแพรจะเป็น สามีทำงานบริษัท ไม่ได้ทำธุรกิจนะคะ
ฉะนั้นเอกสารอาจมีแตกต่างกันออกไปบ้างน้า
แพรให้ข้อมูลจากประสบการณ์ตัวเองเท่านั้นละกันนะคะ
นอกเหนือจากนี้แพรไม่แน่ใจในข้อมูล และไม่สามารถบอกได้นะคะ
แนะนำให้สอบถามโดยตรงกับเจ้าหน่าที่ทางเว็บไซต์ ICA เลยจะดีกว่าค่ะ
เอ้อ และเหมือนเค้าจะมีคอร์สอบรมการขอวีซ่าทุกอย่างอยู่ มีพี่ที่สิงเค้าบอกมาอีกที
อาจจะหาคอร์สอบรมเพื่อความชัวร์ด้วยก็ได้ค่ะ
โอเค มาต่อกันที่เรื่องเอกสาร
เอกสาร มี 3 พาร์ท:
1.) ของคู่สมรสต่างชาติ
1.1 พาสปอร์ต ตัวจริง (อาจจะเอาสำเนาไปเผื่อด้วยก็ได้ค่ะ)
1.2 บัตรการ์ด ต.ม. 6 หรือ Disembarkation/Embarkation (D/E) card
1.3 รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต (ถ่ายไม่เกินสามเดือน แต่เอาจริงๆถ้าหน้าไม่เปลี่ยนขนาดนั้น จะเกินสามเดือนก็ได้ค่ะ ของแพรก็เกินสามเดือน อิอิ)
2.) ของคู่สมรสสิงคโปร์
2.1 บัตร ID ตัวจริง (อาจจะเอาสำเนาไปเผื่อด้วยก็ได้ค่ะ)
2.2 รายการภาษีเงินได้ 3 ปีย้อนหลัง และ CPF statement 12 เดือนย้อนหลัง
(ในส่วนนี้แพรไม่รู้รายละเอียดมากนักเพราะแฟนแพรเป็นคนจัดการทั้งหมดเองเลยค่ะ)
2.3 ใบแสดงการจ้างงานจากบริษัท (ต้องระบุถึงวันเริ่มงาน และ รวมถึงเงินเดือนค่ะ)
3.) ของทั้งสามีภรรยา
3.1 ใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาระดับสูงสุด
3.2 ใบสมรส (ถ้าจดที่ไทยให้เอาไปแปลที่สถานกงสุล เพื่อให้กระทรวงต่างประเทศรับรอง และแพรก็เอาไปให้สถานทูตสิงคโปร์ในไทยรับรองอีกทีด้วยค่ะ กันเหนียวสุดๆ)
3.3 ใบหย่า เอกสารการหย่าทั้งหมด (ถ้ามี)
3.4 จดหมาย Letter of Long-Term Visit Pass Eligibility (LLE) ( สำหรับใครที่ยื่นขอ PMLA ก่อนแต่งนะคะ ส่วนแพรไม่มี ข้ามจ้า)
พอวุ่นวายกับการเตรียมเอกสารทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาก็จะเป็นการยื่นเอกสารสมัคร LTVP ค่ะ
ยื่นเอกสารรอบแรก
รอบแรกสุดๆจะเป็นการสมัครขั้นต้นทางออนไลน์นะคะ
เราจะสมัครผ่านทาเว็บไซต์ก็ได้
หรือจะไปด้วยตัวเองที่ ICA ชั้น 1 ก็ได้ค่ะ
เค้าจะมีตู้ Kiosk ให้เรากรอกข้อมูลและเครื่องสแกนรูปถ่ายให้ด้วย
เราก็กรอกข้อมูลและสแกนรูปตามขั้นตอนที่เค้าบอกเข้าไปค่ะ
กรอกทุกอย่างเสร็จเป็นอันจบ
กลับไปนอนตีพุงที่บ้านรออีเมลล์เลยค่ะ
และหลังจากนั้นไม่กี่วันเค้าก็จะส่งอีเมลล์มาบอกว่า
ให้ไปยื่นเอกสารทั้งหมดข้างต้นที่ ICA ชั้น 4 ค่ะ
ก็ไปตามนั้น เอาคิวที่ Information Counter
พอได้คิวก็ยื่นเอกสารทุกอย่าง
เป็นอันจบรอบแรก
ที่นี้ก็รอยาวๆไปค่า
ช่วงที่รอ
ระหว่างที่รอการอนุมัติ LTVP
เราจะรออยู่ที่ไทย หรือเข้าๆออกๆสิงคโปร์
หรือจะรออยู่ที่สิงคโปร์ยาวๆแบบแพรเลยก็ได้หมดค่ะ
อันนี้แพรก็เพิ่งรู้ เพราะมีพี่ๆบอกมาเหมือนกัน
ตอนแรกเห็นแฟนบอกว่าไม่ควรออก เพราะมันจะดูไม่ดี
แบบว่ามีจุดประสงค์อย่างอื่นแอบแฝงรึเปล่างี้
พอไปบอกแฟนว่าที่จริงก็ออกได้ แฟนก็บอก ก็ใช่ไง ที่จริงก็ออกได้
เรานี่แบบ อ้าววววว หลอกดาววววววว
พอรอครบหนึ่งเดือนแรก
แพรไม่รู้ว่าได้ทุกคนรึเปล่านะคะ
แต่ของแพรคือทาง ICA จะส่งอีเมลล์มาบอกว่า
เค้าต่อพาสปอร์ตให้เราอัติโนมัติ เราไม่ต้องไป ICA เพื่อต่อพาสปอร์ตในเดือนนี้แล้ว
เราก็แค่ต้องปริ๊นอีเมลล์ตัวนี้มาพับแนบใส่ไว้ในพาสปอร์ตของเราค่ะ
ส่วนเดือนถัดๆไป ในเคสแพรคือรอยาวๆที่สิงคโปร์
แพรก็จะไปต่อพาสปอร์ตที่ ICA ทุกเดือน
โดยต้องกรอกแบบฟอร์มการขออยู่ต่อ (FORM 14)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.ica.gov.sg/docs/default-source/ica/forms/form14a.pdf
และเอาพาสปิร์ตตัวจริงของเรา เอาคุณสามี+ICของคุณสามี เอาใบสมรสตัวจริง ไปด้วยทุกครั้งค่ะ
เอา 4 อย่างนี้ไปเข้าคิวกับเราตรง Information Counter ICA ชั้น 4
เค้าก็จะเช็คข้อมูล ถึงจะให้บัตรคิวเรามาค่ะ
พอถึงคิวก็ยื่นทุกอย่าง รวมถึงพาสปอร์ตเราเอง
เนี่ยแหละค่ะ ก็ต่อวนๆไปอย่างนี้จนครบ 4 เดือน
และในที่สุดเค้าก็ส่งอีเมลล์มาบอกว่า approved จ้าาาา เฮ่ออออออ ปาดเหงื่อ
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นขอรับบัตร
โอเค พอได้มาปุ๊ป เราก็ต้องรีบไปจองคิวออนไลน์ เพื่อรับบัตรทันทีค่ะ
เพราะคิวยาวมาก ลากข้ามเดือนกันเลยทีเดียว
โชคดีที่มีพี่ที่สิงทักมาบอก ไม่งั้นรอยาวกว่านี้แน่ๆ
พอจองคิวเสร็จก็ค่อยไปตรวจสุขภาพค่ะ
ค่าตรวจของแพรอยู่ที่ s$56 รอสองวันได้ค่ะ
จากนั้นก็ปริ๊นทุกอย่างตามที่อีเมลล์บอก
เอกสารอันที่มีบาร์โค้ดต้องปริ๊น 2 ชุดนะคะ
เพราะอันนึงให้คลินิคตอนตรวจสุขภาพ อีกอันให้ ica ตอนรับบัตรค่ะ
เตรียมเอกสารตามที่เอกสารที่มีบาร์โค้ดอันนี้ระบุไว้
กรอกรายละเอียดในเอกสารที่ปริ๊นออกมา และเซนต์ให้เรียบร้อย
แล้วก็รอวันรับบัตรค่ะ
พอถึงวันนัดก็ไปที่ ICA ชั้น 4 เหมือนเดิมค่ะ
แต่ไม่ต้องไปเข้าคิวเพื่อรับบัตรคิว
ให้ไปที่ตู้ Kiosk กดเลข ID ที่อยู่บนหน้านัดหมายเข้าไป
รอแปป แล้วมันก็จะออกบัตรคิวมาให้
และทั้งหมดมีสามรอบในการรับบัตรค่ะ
รอบแรก รอคิว ได้คิว ยื่นเอกสาร รอเรียกสแกนนิ้วมือ
รอบสอง รอเรียก ได้คิว สแกนนิ้วหัวแม่มือทั้งสอง และรอเรียกรับบัตร
รอบสาม รอเรียก (เกือบชั่วโมง คนเยอะมวากกก) ได้คิว สแกนหัวแม่มือข้างขวาอีกรอบ รับบัตร เช็คความถูกต้องของบัตร
และก็ Mission completed จ้าาาาา โอยยยย ซักทีนะ ปาดเหงื่ออีกรอบ
เพื่อนๆพี่ๆเข้าไปเช็คข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บของ ICA ตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยนะคะ
https://www.ica.gov.sg/pass/LTVP/pass_LTVP_apply_ssc
ข้อมูลขาดตกบกพร่องตรงไหน ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยน้าาาา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เหมือนเดิม ใครขี้เกียจอ่าน แพรก็ทำเป็นคลิปไว้ด้วยค่ะ (โปรโมทช่องเบาๆ แหะๆๆๆๆ)
คนอ่าน: แพร กูอ่านจบแล้วมั้ย -*-
https://youtu.be/pvKw7xj-RN8
รีวิวขั้นตอนการขอ Long Term Visit Pass สิงคโปร์ (Spouse of a Singapore Citizen (SC)) ต้นจนจบ
โดยเฉพาะสาวๆที่มีแพลนกำลังจะแต่งงานกับคนสิงคโปร์
รอบนี้แพรมารีวิวขั้นตอนการขอ LTVP ตั้งแต่ต้นจนจบ
หลังจากที่รอจนรากงอกมา 4-5 เดือน
ปล. แพรตั้งใจมาแชร์ประสบการ์และข้อมูลน้าา
ไม่ได้มีเจตนามาอวดรู้ อวดฉลาดแต่อย่างใดเน่ออออ
มา เข้าเรื่องกันดีว่า
ที่จริงก่อนที่จะสมัคร LTVP
ไม่สิ ก่อนที่จะแต่งกับคนสิงคโปร์เลยอ่ะค่ะ
คือถ้ามั่นใจแล้วว่าเราจะแต่งกับคนนี้ แต่ยังไม่ได้แต่ง
เราสามารถสมัคร Pre-Marriage LTVP Assessment (PMLA)
เพื่อให้เขาตรวจสอบคุณสมบัติของเราก่อนว่า ถ้าแต่งแล้วจะมีคุณสมบัติที่จะสมัคร LTVP ได้มั้ย
คือบับ เอิ่มมม คิดในใจ ถ้าคุณสมบัตืไม่ผ่าน นี่เราต้องเลิกกันใช่มั้ย 555555
ฉะนั้น ตัวนี้เราข้ามมันไปเลยค่ะ เพราะเราแต่งไปแล้ว ยังไงก็ยื่นตัวนี้ไม่ได้แล้ว
ข้อดีของการยื่นขอ PMLA ไปก็คือ
เราจะได้ LTVP เร็วขึ้นค่ะ
คือต้องรอแค่ 4-6 อาทิตย์เท่านั้น
แต่ถ้าไม่ยื่น ดุ่มๆไปขอ LTVP เหมือนแพรเลย
ก็ต้องรอ 4-6 เดือนแบบแพรนี่แหละค่ะ เหอๆ
เคสของแพรจะเป็น สามีทำงานบริษัท ไม่ได้ทำธุรกิจนะคะ
ฉะนั้นเอกสารอาจมีแตกต่างกันออกไปบ้างน้า
แพรให้ข้อมูลจากประสบการณ์ตัวเองเท่านั้นละกันนะคะ
นอกเหนือจากนี้แพรไม่แน่ใจในข้อมูล และไม่สามารถบอกได้นะคะ
แนะนำให้สอบถามโดยตรงกับเจ้าหน่าที่ทางเว็บไซต์ ICA เลยจะดีกว่าค่ะ
เอ้อ และเหมือนเค้าจะมีคอร์สอบรมการขอวีซ่าทุกอย่างอยู่ มีพี่ที่สิงเค้าบอกมาอีกที
อาจจะหาคอร์สอบรมเพื่อความชัวร์ด้วยก็ได้ค่ะ
โอเค มาต่อกันที่เรื่องเอกสาร
เอกสาร มี 3 พาร์ท:
1.) ของคู่สมรสต่างชาติ
1.1 พาสปอร์ต ตัวจริง (อาจจะเอาสำเนาไปเผื่อด้วยก็ได้ค่ะ)
1.2 บัตรการ์ด ต.ม. 6 หรือ Disembarkation/Embarkation (D/E) card
1.3 รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต (ถ่ายไม่เกินสามเดือน แต่เอาจริงๆถ้าหน้าไม่เปลี่ยนขนาดนั้น จะเกินสามเดือนก็ได้ค่ะ ของแพรก็เกินสามเดือน อิอิ)
2.) ของคู่สมรสสิงคโปร์
2.1 บัตร ID ตัวจริง (อาจจะเอาสำเนาไปเผื่อด้วยก็ได้ค่ะ)
2.2 รายการภาษีเงินได้ 3 ปีย้อนหลัง และ CPF statement 12 เดือนย้อนหลัง
(ในส่วนนี้แพรไม่รู้รายละเอียดมากนักเพราะแฟนแพรเป็นคนจัดการทั้งหมดเองเลยค่ะ)
2.3 ใบแสดงการจ้างงานจากบริษัท (ต้องระบุถึงวันเริ่มงาน และ รวมถึงเงินเดือนค่ะ)
3.) ของทั้งสามีภรรยา
3.1 ใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาระดับสูงสุด
3.2 ใบสมรส (ถ้าจดที่ไทยให้เอาไปแปลที่สถานกงสุล เพื่อให้กระทรวงต่างประเทศรับรอง และแพรก็เอาไปให้สถานทูตสิงคโปร์ในไทยรับรองอีกทีด้วยค่ะ กันเหนียวสุดๆ)
3.3 ใบหย่า เอกสารการหย่าทั้งหมด (ถ้ามี)
3.4 จดหมาย Letter of Long-Term Visit Pass Eligibility (LLE) ( สำหรับใครที่ยื่นขอ PMLA ก่อนแต่งนะคะ ส่วนแพรไม่มี ข้ามจ้า)
พอวุ่นวายกับการเตรียมเอกสารทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาก็จะเป็นการยื่นเอกสารสมัคร LTVP ค่ะ
ยื่นเอกสารรอบแรก
รอบแรกสุดๆจะเป็นการสมัครขั้นต้นทางออนไลน์นะคะ
เราจะสมัครผ่านทาเว็บไซต์ก็ได้
หรือจะไปด้วยตัวเองที่ ICA ชั้น 1 ก็ได้ค่ะ
เค้าจะมีตู้ Kiosk ให้เรากรอกข้อมูลและเครื่องสแกนรูปถ่ายให้ด้วย
เราก็กรอกข้อมูลและสแกนรูปตามขั้นตอนที่เค้าบอกเข้าไปค่ะ
กรอกทุกอย่างเสร็จเป็นอันจบ
กลับไปนอนตีพุงที่บ้านรออีเมลล์เลยค่ะ
และหลังจากนั้นไม่กี่วันเค้าก็จะส่งอีเมลล์มาบอกว่า
ให้ไปยื่นเอกสารทั้งหมดข้างต้นที่ ICA ชั้น 4 ค่ะ
ก็ไปตามนั้น เอาคิวที่ Information Counter
พอได้คิวก็ยื่นเอกสารทุกอย่าง
เป็นอันจบรอบแรก
ที่นี้ก็รอยาวๆไปค่า
ช่วงที่รอ
ระหว่างที่รอการอนุมัติ LTVP
เราจะรออยู่ที่ไทย หรือเข้าๆออกๆสิงคโปร์
หรือจะรออยู่ที่สิงคโปร์ยาวๆแบบแพรเลยก็ได้หมดค่ะ
อันนี้แพรก็เพิ่งรู้ เพราะมีพี่ๆบอกมาเหมือนกัน
ตอนแรกเห็นแฟนบอกว่าไม่ควรออก เพราะมันจะดูไม่ดี
แบบว่ามีจุดประสงค์อย่างอื่นแอบแฝงรึเปล่างี้
พอไปบอกแฟนว่าที่จริงก็ออกได้ แฟนก็บอก ก็ใช่ไง ที่จริงก็ออกได้
เรานี่แบบ อ้าววววว หลอกดาววววววว
พอรอครบหนึ่งเดือนแรก
แพรไม่รู้ว่าได้ทุกคนรึเปล่านะคะ
แต่ของแพรคือทาง ICA จะส่งอีเมลล์มาบอกว่า
เค้าต่อพาสปอร์ตให้เราอัติโนมัติ เราไม่ต้องไป ICA เพื่อต่อพาสปอร์ตในเดือนนี้แล้ว
เราก็แค่ต้องปริ๊นอีเมลล์ตัวนี้มาพับแนบใส่ไว้ในพาสปอร์ตของเราค่ะ
ส่วนเดือนถัดๆไป ในเคสแพรคือรอยาวๆที่สิงคโปร์
แพรก็จะไปต่อพาสปอร์ตที่ ICA ทุกเดือน
โดยต้องกรอกแบบฟอร์มการขออยู่ต่อ (FORM 14)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเอาพาสปิร์ตตัวจริงของเรา เอาคุณสามี+ICของคุณสามี เอาใบสมรสตัวจริง ไปด้วยทุกครั้งค่ะ
เอา 4 อย่างนี้ไปเข้าคิวกับเราตรง Information Counter ICA ชั้น 4
เค้าก็จะเช็คข้อมูล ถึงจะให้บัตรคิวเรามาค่ะ
พอถึงคิวก็ยื่นทุกอย่าง รวมถึงพาสปอร์ตเราเอง
เนี่ยแหละค่ะ ก็ต่อวนๆไปอย่างนี้จนครบ 4 เดือน
และในที่สุดเค้าก็ส่งอีเมลล์มาบอกว่า approved จ้าาาา เฮ่ออออออ ปาดเหงื่อ
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อยื่นขอรับบัตร
โอเค พอได้มาปุ๊ป เราก็ต้องรีบไปจองคิวออนไลน์ เพื่อรับบัตรทันทีค่ะ
เพราะคิวยาวมาก ลากข้ามเดือนกันเลยทีเดียว
โชคดีที่มีพี่ที่สิงทักมาบอก ไม่งั้นรอยาวกว่านี้แน่ๆ
พอจองคิวเสร็จก็ค่อยไปตรวจสุขภาพค่ะ
ค่าตรวจของแพรอยู่ที่ s$56 รอสองวันได้ค่ะ
จากนั้นก็ปริ๊นทุกอย่างตามที่อีเมลล์บอก
เอกสารอันที่มีบาร์โค้ดต้องปริ๊น 2 ชุดนะคะ
เพราะอันนึงให้คลินิคตอนตรวจสุขภาพ อีกอันให้ ica ตอนรับบัตรค่ะ
เตรียมเอกสารตามที่เอกสารที่มีบาร์โค้ดอันนี้ระบุไว้
กรอกรายละเอียดในเอกสารที่ปริ๊นออกมา และเซนต์ให้เรียบร้อย
แล้วก็รอวันรับบัตรค่ะ
พอถึงวันนัดก็ไปที่ ICA ชั้น 4 เหมือนเดิมค่ะ
แต่ไม่ต้องไปเข้าคิวเพื่อรับบัตรคิว
ให้ไปที่ตู้ Kiosk กดเลข ID ที่อยู่บนหน้านัดหมายเข้าไป
รอแปป แล้วมันก็จะออกบัตรคิวมาให้
และทั้งหมดมีสามรอบในการรับบัตรค่ะ
รอบแรก รอคิว ได้คิว ยื่นเอกสาร รอเรียกสแกนนิ้วมือ
รอบสอง รอเรียก ได้คิว สแกนนิ้วหัวแม่มือทั้งสอง และรอเรียกรับบัตร
รอบสาม รอเรียก (เกือบชั่วโมง คนเยอะมวากกก) ได้คิว สแกนหัวแม่มือข้างขวาอีกรอบ รับบัตร เช็คความถูกต้องของบัตร
และก็ Mission completed จ้าาาาา โอยยยย ซักทีนะ ปาดเหงื่ออีกรอบ
เพื่อนๆพี่ๆเข้าไปเช็คข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บของ ICA ตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยนะคะ
https://www.ica.gov.sg/pass/LTVP/pass_LTVP_apply_ssc
ข้อมูลขาดตกบกพร่องตรงไหน ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยน้าาาา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้