(No Spoil) เทศกาลสยอง / Midsommar (2019)
ตัวอย่างหนัง
https://youtu.be/su2wc_QRq6k
กับหนังอีกเรื่องที่ถือว่าเป็นการเปิดไปสู่โลกของหนังอีกแนวสำหรับผม เพราะปกติผมไม่นิยมดูหนังแนวสยองขวัญอะไรแบบนี้ ทำให้คิดอยู่นานมากจะดูดีหรือไม่ดูดี แถมรอบฉายก็ปาไปซะดึก 21.50 ซ้ำหนังยังยาวราวๆ 147 นาที (2 ชั่วโมงครึ่ง!!!) เห็นจะได้ นั่งนับนิ้วคำนวณเวลากว่าจะได้ก้าวขาออกมาจากโรงหนังคงไม่หนีเที่ยงคืนครึ่งแน่ๆ แต่พอได้ไล่อ่านกระแสแง่บวกของหนังเรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจ เอาก็เอา ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเองสักครั้งมันจะเป็นอะไรไป
เรื่องราวของ ดานี่ และ คริสเตียน คู่รักที่เดินทางมายังประเทศสวีเดนตามคำชักชวนของเพื่อนร่วมมหา’ลัย ที่นั่นพวกเขาและเพื่อนๆ วางแผนที่จะไปเที่ยวเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูร้อนในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลและร้างไร้ผู้คน เทศกาลนี้จะจัดขึ้นเพียง1ครั้งในรอบ 90 ปี เป็นเวลา 9 วัน และเป็น 9 วันที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน แต่ยิ่งพวกเขาคลุกคลีอยู่กับดินแดนที่เหมือนจะสดใสแห่งนี้เท่าไร ก็ยิ่งค้นพบเรื่องราวสุดแปลกประหลาด และชวนขนหัวลุกขึ้นเรื่อย ๆ และกว่าจะรู้ตัวก็แทบจะสายเกินไป
***หนังเรท ฉ. 20+ มีทั้งฉากชิ้นส่วนมนุษย์และโป๊เปลือง ชนิดไม่มีการใช้มุมกล้องหรือ censor ใดๆทั้งสิ้น***
บอกเอาไว้แต่เนิ่นๆเลยว่าเป็นหนังที่ใช้เวลาในการปูบทได้โคตรจะยาวนาน การดำเนินเรื่องเป็นไปแบบเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ สำหรับใครที่ไม่ชอบคงได้มีหาวกันหวอดสองหวอดบ้างล่ะ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ มันจะเรียกว่าน่าเบื่อก็ไม่ได้เต็มปากนะ ขอใช้คำว่าหน่วง ๆ ชวนอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกคงจะดีกว่า แต่นี่ก็นับเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้ได้เช่นกัน เพราะการที่เราเริ่มต้นการพูดถึงปมปัญหาของตัวละครหลัก ที่ได้เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้โดยแทบไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย เช่นเดียวกับเราคนดู ก่อนที่หนังจะค่อย ๆ เปิดปมให้เห็นถึงแนวความคิด การดำรงค์ชีวิตของวัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรมที่เราไม่เคยรู้จัก พร้อมกับสอดแทรกแง่คิดอะไรต่าง ๆ ให้เก็บนำมาตีความ ท่ามการธรรมชาติและแสงสีอันสวยงาม ทำให้เราค่อย ๆ ซึมซับไปกับมัน และยังต้องมาคอยลุ้นระทึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป ตอนไหน เมื่อไหร่ ทำให้เกิดความรู้สึกตามที่ว่าไปข้างต้น ...
ถึงจะเกริ่นนำขึ้นมาคล้ายคำชมขนาดนี้ ทว่าโดยรวมผมกลับรู้สึกว่าตัวหนังมันยังไปไม่สุดอย่างบอกไม่ถูก ฉากสยองที่พอมีบ้างก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกชวนสยองได้ขนาดนั้น เรียกว่ารู้สึกเฉย ๆ ก็ว่าได้ ไม่น่าเสียเวลาทำใจก่อนเข้าโรงดูซะตั้งนาน ทั้งๆที่ผมไม่ใช่คอหนังแนวนี้ หรือเสพหนังสยองมาจนตายด้าน เรียกได้ว่าหนังแนวนี้ที่ผมเคยดู อาจนับได้หมดด้วยด้วยมือข้างเดียวด้วยซ้ำไป แถมยังมีฉากตลกที่ทำให้คนหัวเราะลั่นออกมาทั้งโรง คนที่ไปดูมาแล้วก็คงจะรู้ว่าเป็นฉากไหน ที่โดยส่วนตัวคิดมันไม่ควรมีด้วยซ้ำ เพราะมันทำลายบรรยากาศโดยรวมของตัวหนังไปจนหมด อีกทั้งเกี่ยวกับข้อคิดอะไร ๆ ที่แฝงอยู่ในเรื่อง ที่คล้ายจะมีอะไร แต่กลับดูตื้นเขินไม่มีอะไร เนื่องด้วยขาดการขยี้ประเด็นที่มากพอ หรือผมเข้าไม่ถึงมันเองก็ไม่รู้นะ และสุดท้ายกับฉากจบที่ดูไม่เคลียในอะไรหลาย ๆ อย่าง และขัดใจผมมาก ทั้งที่หนังใช้เวลาปูเรื่องมานานครึ่งค่อนเรื่องขนาดนั้น
มาถึงในเรื่องของมุมกล้องและแสงสีในภาพกันบ้าง ตรงนี้ต้องยอมรับเลยว่าสำหรับผมแล้วมุมกล้องของหนังเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้แปลกตาดูมีเสน่ห์ดีมาก ผสมกับโทนสีของตัวหนังที่ฉีกธรรมเนียมสูตรสำเร็จที่ว่าหนังสยองขวัญต้องเป็นสีมืด ๆ ดำ ๆ ไปจนหมดสิ้น ทำให้ผมได้รู้ว่าถึงจะมีแสงแดด ดอกไม้ ต้นไม้ใบหญ้า ธรรมชาติสวยงาม มันก็ชวนให้รู้สึกกระอักกระอ่วนได้เหมือนกันนะ ตรงนี้ต้องขอปรบมือดัง ๆ ให้กับทีมงานสร้างหนังสัก 3 แปะ
สารภาพเลยว่าตั้งแต่รีวิวมาไม่เคยมีหนังเรื่องไหนให้คะแนนยากขนาดนี้มาก่อน มันจะดีก็ไม่เชิง มันจะแย่ก็ไม่ใช่ สนุกไหมก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น น่าเบื่อเหรอก็ไม่อีกนั่นแหละ มันเป็นอะไรที่มึน ๆ อึน ๆ จนบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าปิดไว้ที่ 5/10 คะแนนก็แล้วกันนะ
_________________________________
หากชอบหรือถูกใจการรีวิว ขอฝาก fanpage อีกหนึ่งช่องทางการรีวิวของผมไว้ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/ดูหนังตามใจฉัน-379497332705676/
[CR] เทศกาลสยอง / Midsommar (2019) (No Spoil)
ตัวอย่างหนัง https://youtu.be/su2wc_QRq6k
กับหนังอีกเรื่องที่ถือว่าเป็นการเปิดไปสู่โลกของหนังอีกแนวสำหรับผม เพราะปกติผมไม่นิยมดูหนังแนวสยองขวัญอะไรแบบนี้ ทำให้คิดอยู่นานมากจะดูดีหรือไม่ดูดี แถมรอบฉายก็ปาไปซะดึก 21.50 ซ้ำหนังยังยาวราวๆ 147 นาที (2 ชั่วโมงครึ่ง!!!) เห็นจะได้ นั่งนับนิ้วคำนวณเวลากว่าจะได้ก้าวขาออกมาจากโรงหนังคงไม่หนีเที่ยงคืนครึ่งแน่ๆ แต่พอได้ไล่อ่านกระแสแง่บวกของหนังเรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจ เอาก็เอา ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเองสักครั้งมันจะเป็นอะไรไป
เรื่องราวของ ดานี่ และ คริสเตียน คู่รักที่เดินทางมายังประเทศสวีเดนตามคำชักชวนของเพื่อนร่วมมหา’ลัย ที่นั่นพวกเขาและเพื่อนๆ วางแผนที่จะไปเที่ยวเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูร้อนในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลและร้างไร้ผู้คน เทศกาลนี้จะจัดขึ้นเพียง1ครั้งในรอบ 90 ปี เป็นเวลา 9 วัน และเป็น 9 วันที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน แต่ยิ่งพวกเขาคลุกคลีอยู่กับดินแดนที่เหมือนจะสดใสแห่งนี้เท่าไร ก็ยิ่งค้นพบเรื่องราวสุดแปลกประหลาด และชวนขนหัวลุกขึ้นเรื่อย ๆ และกว่าจะรู้ตัวก็แทบจะสายเกินไป
***หนังเรท ฉ. 20+ มีทั้งฉากชิ้นส่วนมนุษย์และโป๊เปลือง ชนิดไม่มีการใช้มุมกล้องหรือ censor ใดๆทั้งสิ้น***
บอกเอาไว้แต่เนิ่นๆเลยว่าเป็นหนังที่ใช้เวลาในการปูบทได้โคตรจะยาวนาน การดำเนินเรื่องเป็นไปแบบเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ สำหรับใครที่ไม่ชอบคงได้มีหาวกันหวอดสองหวอดบ้างล่ะ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ มันจะเรียกว่าน่าเบื่อก็ไม่ได้เต็มปากนะ ขอใช้คำว่าหน่วง ๆ ชวนอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกคงจะดีกว่า แต่นี่ก็นับเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้ได้เช่นกัน เพราะการที่เราเริ่มต้นการพูดถึงปมปัญหาของตัวละครหลัก ที่ได้เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้โดยแทบไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย เช่นเดียวกับเราคนดู ก่อนที่หนังจะค่อย ๆ เปิดปมให้เห็นถึงแนวความคิด การดำรงค์ชีวิตของวัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรมที่เราไม่เคยรู้จัก พร้อมกับสอดแทรกแง่คิดอะไรต่าง ๆ ให้เก็บนำมาตีความ ท่ามการธรรมชาติและแสงสีอันสวยงาม ทำให้เราค่อย ๆ ซึมซับไปกับมัน และยังต้องมาคอยลุ้นระทึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป ตอนไหน เมื่อไหร่ ทำให้เกิดความรู้สึกตามที่ว่าไปข้างต้น ...
ถึงจะเกริ่นนำขึ้นมาคล้ายคำชมขนาดนี้ ทว่าโดยรวมผมกลับรู้สึกว่าตัวหนังมันยังไปไม่สุดอย่างบอกไม่ถูก ฉากสยองที่พอมีบ้างก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกชวนสยองได้ขนาดนั้น เรียกว่ารู้สึกเฉย ๆ ก็ว่าได้ ไม่น่าเสียเวลาทำใจก่อนเข้าโรงดูซะตั้งนาน ทั้งๆที่ผมไม่ใช่คอหนังแนวนี้ หรือเสพหนังสยองมาจนตายด้าน เรียกได้ว่าหนังแนวนี้ที่ผมเคยดู อาจนับได้หมดด้วยด้วยมือข้างเดียวด้วยซ้ำไป แถมยังมีฉากตลกที่ทำให้คนหัวเราะลั่นออกมาทั้งโรง คนที่ไปดูมาแล้วก็คงจะรู้ว่าเป็นฉากไหน ที่โดยส่วนตัวคิดมันไม่ควรมีด้วยซ้ำ เพราะมันทำลายบรรยากาศโดยรวมของตัวหนังไปจนหมด อีกทั้งเกี่ยวกับข้อคิดอะไร ๆ ที่แฝงอยู่ในเรื่อง ที่คล้ายจะมีอะไร แต่กลับดูตื้นเขินไม่มีอะไร เนื่องด้วยขาดการขยี้ประเด็นที่มากพอ หรือผมเข้าไม่ถึงมันเองก็ไม่รู้นะ และสุดท้ายกับฉากจบที่ดูไม่เคลียในอะไรหลาย ๆ อย่าง และขัดใจผมมาก ทั้งที่หนังใช้เวลาปูเรื่องมานานครึ่งค่อนเรื่องขนาดนั้น
มาถึงในเรื่องของมุมกล้องและแสงสีในภาพกันบ้าง ตรงนี้ต้องยอมรับเลยว่าสำหรับผมแล้วมุมกล้องของหนังเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้แปลกตาดูมีเสน่ห์ดีมาก ผสมกับโทนสีของตัวหนังที่ฉีกธรรมเนียมสูตรสำเร็จที่ว่าหนังสยองขวัญต้องเป็นสีมืด ๆ ดำ ๆ ไปจนหมดสิ้น ทำให้ผมได้รู้ว่าถึงจะมีแสงแดด ดอกไม้ ต้นไม้ใบหญ้า ธรรมชาติสวยงาม มันก็ชวนให้รู้สึกกระอักกระอ่วนได้เหมือนกันนะ ตรงนี้ต้องขอปรบมือดัง ๆ ให้กับทีมงานสร้างหนังสัก 3 แปะ
สารภาพเลยว่าตั้งแต่รีวิวมาไม่เคยมีหนังเรื่องไหนให้คะแนนยากขนาดนี้มาก่อน มันจะดีก็ไม่เชิง มันจะแย่ก็ไม่ใช่ สนุกไหมก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น น่าเบื่อเหรอก็ไม่อีกนั่นแหละ มันเป็นอะไรที่มึน ๆ อึน ๆ จนบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าปิดไว้ที่ 5/10 คะแนนก็แล้วกันนะ
_________________________________
หากชอบหรือถูกใจการรีวิว ขอฝาก fanpage อีกหนึ่งช่องทางการรีวิวของผมไว้ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/ดูหนังตามใจฉัน-379497332705676/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้