สวัสดีค่ะ แฟนๆ การ์ตูนพันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ทุกท่าน
พบกับเราอีกแว้ว คนดีคนเดิม (ใครแว๊)
หลังจากที่ห่างหายจากการตั้งกระทู้ในห้องการ์ตูนไปซะนาน เพราะมัวแต่บ้าบอลและนักบอลในห้องศุภชลาศัย
ตอนนี้เรากลับมาแล้วค่ะ เรากลับมาเพื่อทวงคืนพื้นที่สื่อในห้องการ์ตูน ให้กับเนเวอร์แลนด์ของเรา เฮ้
ตั้งท่า อิลิลาโป อิลิลาโป โว๊เย โว๊เย ว่าพรือ ว่าพรือ
ความจริงคือหาอ่านกระทู้ เนเวอร์แลนด์ไม่ได้เลย เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ไถแล้วไถอีก ก็ไม่เจอมู้ใหม่ๆ
อินี่ก็เลย ตั้งเองดีกว่า เพื่อความสบายใจ ง่าย ครบ จบปิ๊ง >.<
ที่เกริ่นๆ มาข้างบนคือไร้สาระค่ะ ข้ามๆ ไปอ่านสาระสำคัญของกระทู้นี้ที่พารากราฟล่างกันค่ะ let's go
:: The Promised Neverland ::
Cr. ubackground.com
บทนำ
พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ เป็นการ์ตูนที่ถือว่าครบรสมากๆ เรื่องหนึ่ง เห็นปกครั้งแรกนึกว่าเป็นการ์ตูนเด็กน้อย จิบิๆ ปุอิ๊ง ใสๆ คาวาอี้ วิ่งเล่นในทุ่งดอกกระเจียว ปรากฏว่าผิดถนัดค่ะ นิยามของการ์ตูนเรื่องนี้จะบอกว่าเริ่มอย่างใสจบอย่างศพก็คงไม่ผิดนัก เพราะตลอดทั้งเรื่องในทุกๆ ตอน แทบจะไม่มีตอนไหนเลยที่ผู้อ่านจะอ่านได้แบบสบายใจ มีแต่เรื่องให้หลังหัก ตับแตก หลอกแล้วหลอกอีก พลิกแพลงไปมาสารพัด แฟนๆ เรื่องนี้ถ้าไม่สตรองอยู่ไม่ได้นะคะ แถมยังต้องเป็นคนที่เก็บรายละเอียดเก่ง เพราะ ตัวอักษรทุกตัว คำบรรยายทุกบรรทัด ภาพทุกภาพ มักจะมีสิ่งสำคัญต่อเนื้อเรื่องซ่อนและบอกใบ้กลายๆ อยู่
ปัจจุบันเรื่องราวของพันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ก็ได้ดำเนินมาถึงส่วนสำคัญที่สุดของเรื่องแล้ว และกำลังเปิดม่านเข้าสู่ภาคสงครามกลางนครหลวงอย่างเต็มตัว อาจจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทุกฝ่ายที่ต้องพบกับความสูญเสีย หรืออาจจะไม่มีการนองเลือดเกิดขึ้นเลยก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้เขียนที่จะรังสรรค์และพลิกแพลงเนื้อเรื่องมาให้พวกเราแฟนๆ ได้ตามกันต่อไป ซึ่งขอบอกเลยว่าเราจะติดตามต่อไปจนถึงตอนจบของเรื่อง เพราะเราเชื่อว่าต่อให้ตอนจบจะไม่เป็นไปในแบบที่เราอยากให้เป็น ไม่ได้มีตอนจบแบบแฮปปี้เอนด์ หรือต้องตับแตกอีกซักกี่ครั้ง แต่หลายสิ่งหลายอย่างของการ์ตูนเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้มันคุ้มค่าและมีคุณค่าต่อการติดตามมากจริงๆ และไม่ว่าจะจบอย่างไรการ์ตูนเรื่องนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งการ์ตูนในดวงใจและเป็นการ์ตูนขึ้นหิ้งของเราอีกเรื่องแน่นอนค่ะ
สรุปเนื้อเรื่องและประเด็นสำคัญ
(1) ภาคอดีต
• เมื่อ 1,000 ปีก่อน ก่อนที่โลกแห่งนี้จะถูกแบ่งเป็นสองโลก คือ โลกมนุษย์ และโลกปิศาจ (เนเวอร์แลนด์) โลกแห่งนี้มีสองเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกันตามธรรมชาติ คือ มนุษย์ และ ปิศาจ (ยักษ์) มนุษย์เป็นหนึ่งในอาหารที่ล้ำค่าของปิศาจ ส่วนปิศาจก็เป็นศัตรูที่เป็นอันตรายในฐานะนักล่าของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความเกลียดชังและนำไปสู่การทำสงคราม และทำให้มนุษย์กับปิศาจสู้รบและเข่นฆ่ากันมาช้านาน
• เพื่อความสงบสุขและสันติสุขของมวลมนุษย์ชาติ เผ่าพันธุ์มนุษย์จึงได้จัดตั้งกองกำลังทางการทหาร เพื่อต่อกรกับเผ่าปิศาจ โดยในหนึ่งกองทัพจะมีผู้บังคับบัญชาการหนึ่งคน ทุกกองกำลังมีเป้าหมายร่วมกันคือกำจัดปิศาจทั้งหมด ไขว่คว้าหาชัยชนะและสร้างสันติสุข ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ต้องการที่แท้จริง โดยหนึ่งในผู้บังคับบัญชามีชื่อว่า จูเลียส ราทรี (เราเดาว่าเขาเป็นอดีตชาติของ นอร์แมน) ได้เสนอความคิดยกมนุษย์ส่วนหนึ่งให้เป็นอาหารของปิศาจเพื่อเป็นการยุติสงคราม แต่เพื่อนๆ ผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ (อดีตชาติของเอมม่า เรย์ กิลด้า และดอน) ไม่เห็นด้วย เพราะทุกคนมองว่าเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป และขัดต่อศีลธรรม นอกจากนั้นคงไม่เพียงพอต่อความต้องการของพวกปิศาจ และตกลงกันว่าจะร่วมมือกันต่อสู้อีกครั้ง
• แต่แล้วกองกำลังของจูเลียสก็ต้องพบเจอกับความน่าสะพรึงที่สุดหวาดหวั่น ฐานที่มั่นและกองกำลังของเขาถูก อาร์ชดยุก เลวิส ทำลายย่อยยับในพริบตา ด้วยความที่เลวิสแข็งแกร่งเกินไปและความเบื่อหน่ายต่อการสู้รบและหลายๆ เรื่อง จูเลียสจึงได้ทำข้อตกลงกับเลวิส ขอเข้าพบประมุขของเหล่าปิศาจ เพื่อทำการเจรจา ภายหลังจากที่การเจรจาเสร็จสิ้นลง จูเลียสได้วางแผนกลับไปหาเพื่อนๆ ผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ เขาเสนอแนวความคิดเดิมอีกครั้ง แต่ลงท้ายทุกคนก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนั้นเหมือนเดิม จูเลียสจึงได้หักหลังทุกคน เขาพาปิศาจเข้ามาและจับเพื่อนๆ ไปเป็นปศุสัตว์กลุ่มแรก
• หลังจากทำพันธสัญญากันระหว่างมนุษย์และปิศาจ ว่าจะไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข่นฆ่าอีกฝ่ายอีก จูเลียสและดยุกไอเวอร์ค จึงได้เข้าไปทำพันธสัญญากับเจ้าแห่งปิศาจ (ชื่อเป็นอักษรปิศาจ) ที่ กำแพงทั้ง 7 เพื่อขอแบ่งแยกโลกออกเป็นสองโลก คือโลกมนุษย์ และโลกปิศาจ เจ้าแห่งปิศาจตอบรับคำขอนั้น โดยขอเนื้อชั้นดีที่สุดจากดยุกไอเวอร์ค และขอให้จูเลียสไปเป็นคนเฝ้าประตูระหว่างสองโลก เป็นของตอบแทน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตระกูลราทรีจึงเป็นตัวแทนของมนุษย์ที่ต้องรับหน้าที่นี้ไปตลอดกาล เพื่อเป็นรากฐานของความสงบสุข
(2) ภาคปัจจุบัน
• เนเวอร์แลนด์ซึ่งเป็นดินแดนของปิศาจในยุคปัจจุบัน ได้มีฟาร์มเพาะเลี้ยงมนุษย์ และโรงงานเพาะพันธุ์ที่จะทำการทดลองและเพาะพันธุ์ปศุสัตว์เด็กขึ้นเพื่อใช้เป็นอาหารของปิศาจ โดยปิศาจมีความจำเป็นต้องกินมนุษย์เพื่อรักษาอัตลักษณ์อันประกอบไปด้วยรูปร่างและสติปัญญาไม่ให้เสื่อมถอยกลับไปเป็นสัตว์ประหลาด
• ประมุขของปิศาจในปัจจุบัน คือ ควีนเรกราวาลิม่า (พี่สาวของเลวิส) และตระกูลห้าอุปราช ประกอบด้วย (1) ตระกูลลอร์ดดอซซ่า ครอบครัวของลูเซ่ (2) ตระกูลลอร์ดบายอน (บายอนคนลูกเป็นหัวหน้าตระกูลคนล่าสุด) (3) ตระกูลลอร์ดพูโพ (4) ตระกูลเลดี้โนวอุม ครอบครัวของสองพี่น้องโนอัสกับโนวมา และ (5) ตระกูลดยุกไอเวอร์ค
• หัวหน้าตระกูลราทรีในปัจจุบัน 'ปีเตอร์ ราทรี' ได้ให้ความร่วมมือกับพวกปิศาจตระกูลราชวงศ์และพวกตระกูลห้าอุปราช จัดตั้งฟาร์มเพาะพันธุ์และโรงงานเพาะเลี้ยงปศุสัตว์เด็กทั้งหมด และมอบหมายการดูแลฟาร์มแต่ละที่ให้กับเครือข่ายและลูกน้องใต้อาณัติ ซึ่งฟาร์มระดับพิเศษคือ แลมด้า 7214, ฟาร์มระดับสูงที่ส่งออกเนื้อคุณภาพเยี่ยมมี 4 แห่ง ประกอบด้วย เกรซฟิลด์ กลอรี่เบล แกรนด์วัลเล่ และกู๊ดวิลริดจ์ (ทำไมคลับคล้ายคลับคลาว่ามี 5 แห่ง ขึ้นต้นด้วยตัว g เหมือนกัน แต่เรานึกไม่ออก หรือว่าอีกแห่งจะเป็นโกลดี้ พอนด์ รึเปล่า), และโรงงานทดลองเพาะพันธุ์ปศุสัตว์เด็กคุณภาพกลางไปจนถึงต่ำอีกมากมาย
• พี่ชายของปีเตอร์ ราทรี ซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อน 'เจมส์ ราทรี' หรือนามปากกาว่า 'วิลเลี่ยม มิเนอร์ว่า' ผู้ที่แต่งหนังสือบันทึกการผจญภัยของอูโก้ ได้คอยช่วยเหลือปศุสัตว์เด็กแต่ละรุ่นมาตลอดเพื่อที่จะให้ปศุสัตว์เด็กสามารถหลบหนีมายังโลกมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย (ประตูมาสู่โลกมนุษย์ อยู่ภายในเกรซฟิลด์เฮาส์) โดยเขาได้มอบปากกาด้ามหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในไอเทมสำคัญให้กับซิสเตอร์โครเน่ เพื่อหวังว่ามันจะช่วยเหลือเหล่าปศุสัตว์เด็กในอนาคตได้
• ปศุสัตว์เด็กตัวเอกของเรื่อง อันประกอบด้วย เอมม่า นอร์แมน เรย์ กิลด้า และ ดอน เติบโตมาภายในเกรซฟิลด์เฮาส์ ภายใต้การดูแลของหม่าม๊า อิสซาเบลล่า พวกเขาเข้าใจมาตลอดว่าสถานที่ที่พวกเขาเติบโตมานั้นคือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า วาดฝันว่าวันหนึ่งเมื่ออายุครบ 12 ปี จะได้ออกไปใช้ชีวิตภายนอกเฮาส์กับพ่อแม่อุปถัมภ์คนใหม่ แต่แล้ววันหนึ่งความจริงก็ปรากฎ เมื่อรู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นฟาร์มส่งออกเนื้อมนุษย์ชั้นเลิศให้กับปิศาจ และโลกในทุ่งลาเวนเดอร์ไม่มีอยู่จริง ทุกคนจึงได้วางแผนหนีออกจากเฮาส์นี้ ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกคน แผนการของนอร์แมน และการช่วยเหลือของซิสเตอร์โครเน่ (ตอนที่รู้ตัวว่าต้องถูกแกรนด์หม่าม๊ากำจัด) จึงทำให้พวกเอมม่า เรย์ ดอน กิลด้า และเด็กๆ บางส่วนหนีรอดออกมาได้ แม้ว่าจะต้องสูญเสียเพื่อนคนสำคัญอย่างนอร์แมนที่ถูกเก็บเกี่ยว ส่งตัวออกไปให้กับปิศาจในวันนั้นพอดี และสัญญากับเด็กน้อยอีกส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถหนีออกมาได้ว่าจะกลับมาช่วยและพาหนีไปที่โลกมนุษย์ภายในเวลา 2 ปี
• พวกเอมม่าได้ออกมาสู่โลกภายนอกซึ่งเป็นดินแดนของพวกปิศาจ ผจญภัยในป่าปิศาจ เอาชีวิตรอดจากปิศาจสัตว์ประหลาดในป่า และหลบหนีการตามล่าของปิศาจผู้ดูแลเกรซฟิลด์ จนได้รับการช่วยเหลือจากปิศาจเลือดต้องสาป 'มูสิก้า' ที่ไม่ต้องกินเนื้อมนุษย์ก็สามารถคงอัตลักษณ์ไว้ได้โดยไม่เสื่อมถอย กับเพื่อนร่วมเดินทางของเธอ 'ซองจู' (คาดการณ์ว่าน่าจะดื่มเลือดของมูสิก้า ทำให้ไม่ต้องกินมนุษย์เช่นกัน) ได้สอนการเอาตัวรอดในป่า และการหาอาหารให้กับพวกเด็กๆ และบอกว่าวิธีการที่จะหนีไปที่โลกมนุษย์ได้นั้น ต้องไปตามหากำแพงทั้ง 7
• ต่อมาพวกเอมม่าได้เดินทางตามคำใบ้ของปากกาจนไปพบกับเชลเตอร์ B06-32 ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ที่มิเนอร์ว่าเตรียมไว้ให้ พวกเขาได้พบกับ ยูโก้ และได้ร่วมกันออกเดินทางไปค้นหามิเนอร์ว่าตามคำใบ้ของปากกาที่ โกลดี้ พอนด์ (เอมม่า เรย์ และ ยูโก้ เดินทางไปกัน 3 คน) ระหว่างเดินทาง เอมม่า ถูกพวกปิศาจในสวนแห่งการล่าจับตัวไป และเธอได้ไปพบกับเหล่าปศุสัตว์เด็กจากแกรนด์วัลเล่ ที่ถูกจับตัวมาที่นี่ โดยมีลูคัส (จากกลอรี่เบล) เป็นหัวหน้า เอมม่าได้พบความจริงว่ามิเนอร์ว่าไม่ได้อยู่ที่นี่ และทั้งหมดจึงร่วมมือกันวางแผนกำจัดเจ้าของสวนแห่งการล่า ที่อยู่ในความครอบครองของปิศาจทั้ง 5 ตน คือ ลอร์ดบายอน (คนพ่อ) อาร์ชดยุกเลวิส ลูเซ่ โนอัส และโนวมา เพื่อปลดปล่อยปศุสัตว์เด็กให้เป็นอิสระ ด้วยแผนการและความร่วมมือกันของปศุสัตว์เด็กทุกคนทำให้กำจัดปิศาจไปได้ 4 ตน และเมื่อเรย์ กับยูโก้ ตามมาสมทบกับเอมม่าอีกครั้ง จึงทำให้สามารถกำจัดเลวิส และทำลายสวนแห่งการล่าได้สำเร็จ ยูโก้ได้พาทุกคนกลับไปรักษาตัวที่เชลเตอร์ B06-32 รวมถึงเอมม่าที่บาดเจ็บสาหัสจากการโดนเลวิสกะซวกไส้ จนสุดท้ายก็กลับมาหายดีและใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข
[ Spoil ] The Promised Neverland | สรุปเนื้อเรื่องและประเด็นสำคัญจนถึงตอนล่าสุด สาวกเนเวอร์แลนด์มาร่วมพูดคุยกันค่ะ