ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า...
เราเป็นคนที่ชอบสระผมหรือไปไดร์ผมที่ร้านตลอด เพราะสระเองทีไรแล้วหัวฟูมากกกกก
ดูไม่ได้เลย ซึ่งก็ลำบากมากเวลาไปเที่ยวหรือไปค้างคืนที่ไหนหลายๆวัน
เพราะต้องคอยหาร้านสระผมอยู่ตลอดๆ ถามว่าทำไมต้องจริงจังขนาดนั้น ก็เพราะว่า
ผู้หญิงอ่ะเนอะ เวลาไปไหนมาไหน อ่ะ ก็ต้องเซลฟี่ ถ่ายรูป โดยเฉพาะเวลาที่ไปเที่ยว
ฉะนั้นเราก็ต้องอยากดูดี ผมสลวย สวยๆเริ่ดๆไว้ก่อนอ่ะจริงมะ
จะให้มาสระผมเองแล้วต้องหัวฟูไปทั้งวันมันก็ไม่ใช่ไง!!!
ฉะนั้น เมื่อเราต้องไปเที่ยวญี่ปุ่น
และต้องไปเป็นสิบๆวันด้วย มีหรือที่คนอย่างเราจะพลาดหาร้านสระผมซักร้านนน
ตอนแรกก็คิดหลายอย่างนะ ว่ามันจะมีมั้ยนะแถวที่ที่เราไปพัก และราคา!!!!
เท่าที่รู้ๆมา คือน้ำที่ญี่ปุ่นนี่ก็แพงใช่ย่อยเลยนะคะ แล้วคิดดูว่า
การสระผมนั้นต้องใช้น้ำปริมาณมากแค่ไหนนน เอาวะ
เราก็ไม่พลาดที่จะต้องเสิร์ชหาข้อมูล หาดูพวกรีวิวก่อนไป
แต่ก็ไม่ค่อยมีคนมารีวิวเลยค่ะ เท่าที่หาๆดูก็ราคาแพงใช้ได้เลยล่ะค่ะ
แต่ก็ผู้หญิงอ่ะเนอะ ยังไงความสวยก็ต้องมาก่อนน คิดในใจแล้วล่ะว่า ถึงจุดนั้นแล้ว
เสียเท่าไหร่ก็ยอมมม
และแล้ววันที่(ไม่)รอคอยก็มาถึงงง~
เราอยู่ญี่ปุ่นมา 4 วันแล้ว ไปเที่ยว กิน นู่น
นี่ นั่น มาเยอะแยะมากมาย ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่เราจะต้องสระผม!!!!! เพราะวันรุ่งขึ้น
จะต้องเดินทางไปดิสนี่แลนด์แต่เช้า ฉะนั้น วันนี้ฉันต้องได้สระ!!!!
และแล้วเราก็เริ่มเสิร์ชหาร้านเลยจ่ะ ดูจากแผนที่ใน google map นั่นแหล่ะ
(วันนั้นเราพักอยู่ย่านอากิฮาบาระ ย่านคนพลุกพล่านพอสมควร ก็คิดว่าน่าจะหาไม่ยาก)
และแล้วก็มีร้านที่ใกล้ที่สุดโชว์ขึ้นมา อ้ะ! ร้านปิดสองทุ่ม
และตอนนั้นก็น่าจะทุ่มนิดๆแล้วล่ะ เราเลยรีบตาม google map ไปเลยจ่ะ
เดิน เดิน เดิน และก็เดินเท้านั้นน เดินมาได้ซักพัก จนมาถึงหน้าร้านเท่านั้นแหละ
ร้านปิด!!!!! ได้แต่อึ้งบวกผิดหวังเล็กน้อย และตอนนั้นก็จะค่ำแล้วด้วย
กลัวร้านเค้าจะปิดหมด ก็เลยรีบหาเป้าหมายต่อไปปป ดูไปดูมา เอ๊ะ
มีอยู่ร้านนึงใกล้ๆนี้นี่เอง ร้านก็ดูเล็กๆ น่ารักๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่แพงมาก ก็เลย
โอเคคค รีบตรงดิ่งไปยังร้านนี้เลยทันที เดินตาม google map ไปเรื่อยๆ
เรื่อยๆ จนถึง!!!!!! แต่เอ๊ะ แล้วร้านมันอยู่ตรงไหนฟระ... เดินวน ไปๆ มาๆ รอบตึกแถวนั้นดูหลายรอบมาก
แล้วก็มาสะดุดตาตรงป้ายกระดานดำเล็กๆ ที่เขียนด้วยชอล์คสีเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนน อยู่ตรงประตู ซึ่งข้างในเป็นบันไดขึ้นไปชั้นบนของตึก
ในตอนนั้น คิดในใจอยู่ซักพักว่าจะลองเดินขึ้นไปดีมั้ยนะ จะใช่รึเปล่านะ... (ยืนหนาวอยู่ตรงนั้นซักพัก)
แต่เอาเถอะ!!! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
ลองเดินขึ้นไปดูก่อนละกันน และแล้วเราก็เดินขึ้นบันไดไปแบบกล้าๆกลัวๆ พอเดินขึ้นมาถึงข้างบนปุ๊ป
ก็เจอกับประตูทางเข้าร้านเลยจ้าา รีบตรงดิ่งเข้าไปทันที พอเดินเข้าไป ก็จะเห็นการตกแต่งร้านแบบน่ารักๆ ผู้หญิงๆ
สีชมพูทั้งร้านเลยย (เออ ชั้นมาถูกที่แล้วล่ะ หึหึ)
และแล้วก็มีพนักงานผู้หญิงคนนึงเดินมาหาเรา
น่าตาน่ารักมากกก หุ่นก็ดี ผิวก็ขาว แถมแต่งชุดคอสเพลย์แบบแม่บ้านสาวญี่ปุ่นด้วยแกรรร
แล้วเค้าก็กล่าวทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็พยายามที่จะสื่อสารกับเค้าด้วยภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆอ่ะเนอะ...5555
ก็บอกเค้าไปประมาณว่า ฉันอยากจะสระผม แต่เค้าบอกว่ามันต้องรอนานนะ คุณจะรอไหม ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า
ฉันรอได้!!!! อ่ะ และแล้วพนักงานก็ไปหยิบเมนูมาให้ดู อื้อหืออ
มีแต่ภาษาญี่ปุ่นจ้า เมนูก็จะมี2แผ่น แผ่นแรกเป็นเมนูแชมพู
พนักงานก็พยายามอธิบายโดยใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่น!!!
ก็พอจะเข้าใจได้ว่า สระผมแบบธรรมดา ด้วยแชมพู 1 รอบ ราคา 2,000 เยน (ประมาณ 600 บาท)
มีแบบสระด้วยแชมพู 2 รอบ และนวดหัวแบบผ่อนคลาย ราคา 4,000 เยน (ประมาณ 1,200 บาท)
มีแบบ วีไอพี สระด้วยแชมพูกลิ่นหอมสปา 6,000 เยน (ประมาณ 1,800 บาท)
แล้วก็มีสปานวดหนังศีรษะ 10,000 เยน (ประมาณ 3,000 บาท) ประมาณนี้
ซึ่งเราก็เลือกอันที่ถูกที่สุดแหละค่ะ สระธรรมดาก็พอ555
ส่วนอีกแผ่นจะเป็นเมนูตัดผม ซึ่งราคาก็โหดอยู่พอสมควร
แล้วเค้าก็ไปเอากระดาษแผ่นเล็กๆ ซึ่งก็จะมีให้เขียนชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล วันที่
แล้วก็เป็นรายการเมนูต่างๆให้เลือก
แล้วเราก็วงกลมตรงเมนูที่เราจะทำ จากนั้นก็เอาให้พนักงานและนั่งรอวนไปปป
และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง...
มีผู้ชายคนนึง เดินออกมาจากข้างใน โอ้โห หล่อและดูดีมากแกรรร
แล้วเค้าก็หันมาเห็นเรา ละก็ยิ้มให้ด้วยอ่าา นั่งจิกโซฟาอยู่ซักพัก
ก็มีพนักงานสาวเดินออกมา แล้วก็คุยไรกันมิรู้ ประมาณว่าเช็คบิลอ่ะแหละ ทีนี้ก็ตาเราละจ้าา พนักงานเดินมาเชิญให้เข้าไปข้างใน
และก็ขออนุญาตนำกระเป๋าเราไปเก็บ แล้วก็มีการถอดเสื้อโค้ทไปแขวนให้ด้วย
เฮ้ย คือดียยยย์ และแล้วเมื่อเดินเข้ามาข้างใน ก็มาเจอกะอีลุงคนนึง
กำลังนั่งตัดผมอยู่ ซึ่งข้างในก็จะเป็นห้องไม่ใหญ่มาก มีมุมสระผม เป็นเก้าอี้นอน
และมีผ้าม่านบางๆกั้น (ซึ่งก็จะแอบเห็นอีตาลุงคนนั้นนั่งตัดผมอยู่หน่อยๆ)
พนักงานก็เชิญให้นั่งบนเก้าอี้สระ แล้วก็นำผ้ามาคลุมไว้ตรงไหล่เรา จากนั้นก็ขออนุญาติปรับเบาะเก้าอี้นอนลง
(คือพนักงานจะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นเลย เราก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่ก็พอเดาๆได้จากกิริยาและภาษามือ)
จากนั้นก็เริ่มสระ พนักงานค่อยๆเปิดน้ำเบาๆ แล้วก็ค่อยๆรดให้ผมเราเปียก พนักงานก็จะคอยถามว่าน้ำอุ่นมั้ย
โอเครึยัง ซึ่งทางเราก็ได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว555 พอผมเปียกแล้วก็มาถึงขั้นตอนการใส่แชมพู
พนักงานก็จะประมาณว่า ขออนุญาตใส่แชมพูนะค้า อะไรอย่างงี้ (เค้าเหมือนขออนุญาติเราก่อนทุกครั้งเลยค่ะ
เวลาจะทำอะไรกะเรา ย้ำว่า ทุกขั้นตอนจริงๆ) จากนั้นก็เริ่มสระจ้า อื้อหือออ
เป็นการสระที่สมูทมากแกรร มือนี่เบามากกก ซึ่งต่างจากบ้านเรา เกาทีนี่หนังหัวแทบหลุด(แต่ก็สะใจดี)
แต่นี่เค้าแบบเหมือนกลัวเราเจ็บอ่ะ ซึ่งอยากจะบอกว่าที่จริงไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้
เกาแรงๆได้เลย พอสระๆไปใกล้จะเสร็จ เค้าก็นวดศีรษะเบาๆให้เราด้วยค่ะ เคลิ้มสุดๆ
(เห็นเป็นผู้หญิงสวยน่ารักๆ แบบนี้มาทำให้ ไอ้เราก็แอบเขินเหมือนกันนะเนี่ย
ถ้าเป็นผู้ชายจะฟินขนาดไหนน) เอาล่ะ หลังจากสระเสร็จ
เราก็ย้ายมานั่งที่เก้าอี้หน้ากระจกค่ะ พนักงานเดินเอาผ้ามาคลุมขาให้ด้วย จากนั้นก็เริ่มไดร์ผมจ้าา
หันไปข้างๆอีลุงคนนั้นก็ยังตัดผมไม่เสร็จ เห็นคุยสนุกสนานกับสาวๆที่กำลังตัดผมให้อยู่
(พนักงานในร้านมีประมาน 4-5 คน ซึ่งพนักงานแต่ละคนก็จะแต่งชุดคอสเพลย์เหมือนกันหมด)
ตอนนั้นก็เริ่มคิดแล้วล่ะว่า ทำไมร้านนี้มันมีแต่ผู้ชายมาตัดฟระ อืม... แต่ก็ช่างเหอะ
แล้วพนักงานก็ไดร์ๆ ผมต่อไปเรื่อยๆ และก็อีกเช่นเคย มือเบามากกก
ไดร์แบบกลัวเราเจ็บอีกแล้วจ้า(เราก็แอบกังวลอยู่นะว่าถ้าไดร์เบาขนาดนี้
ผมเราน่าจะไม่อยู่อ่ะ) และแล้วก็... เป็นแบบนั้นจริงๆ555 หัวฟูจ้า ก็เลยบอกเค้าว่า
ขอหนีบผมด้วยละกัน(น่าจะดีขึ้นหน่อย) เฮ่ออ... เริ่มไม่มั่นใจแล้วล่ะ
ว่าพรุ่งนี้จะได้ไปถ่ายรูปสวยๆมั้ย จากนั้นก็เริ่มหนีบผมจ้า
เค้าก็แบ่งชั้นผมละเอียดอยู่นะ ค่อยๆหนีบแบบเบามือไปที่ละนิด ๆ แต่ก็รู้สึกนะว่า
ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบ จะไม่ค่อยร้อนเหมือนบ้านเราเท่าไหร่ แค่พออุ่นๆ
(เพราะไฟฟ้าบ้านเค้าจะใช้แค่110v แต่บ้านเราใช้ตั้ง220v) และแล้วก็หนีบผมจนเสร็จ...
เอ้อ ค่อยดูได้ขึ้นมานิดนึง จากนั้นเราก็เดินออกมาจากห้องสระผม
พนักงานก็เดินตามออกมา และเดินไปหยิบเสื้อโค้ทมาสวมให้เรา เสร็จแล้วก็เดินไปหยิบกระเป๋ามายื่นให้อย่างนอบน้อม
และพนักงานเค้าก็ยื่นบัตรมาให้ใบนึง เหมือนเป็นบัตรสะสมแต้มอะไรงี้ เขียนชื่อมาให้เราด้วยล่ะค่ะ
เราก็เอากระเป๋าตังค์ออกมา หยิบเงินจ่ายให้พนักงาน 2000 เยน
และก็ยื่นทิปให้เค้า 500 เยน (เพราะบริการเค้าค่อนข้างดีมาก ก็แอบประทับใจตรงนี้อยู่)
แต่พนักงานไม่รับทิป และเค้ายังพยายามที่จะพิมแปลภาษาในมือถือมาให้เราอ่าน
ประมาณว่าขอบคุณมาก ไว้มาอีกนะคะ อะไรประมาณนี้ แล้วเค้าก็เดินมาส่งตรงหน้าประตู
และเปิดประตูให้เราค่ะ เราก็เดินออกมาด้วยความประทับใจ เดินลงบันไดมาแล้วก็โบกมือบ๊ายบายเค้า
เค้าก็บ๊ายบายกลับ แล้วก็พูดประมาณว่าขอบคุณอะไรทำนองนี้ พูดๆๆจนเราเดินลับตาออกไป
นี่แหละค่ะ จะว่าเป็นการเล่าความประทับใจก็ว่าได้นะคะ เรายอมรับเลยว่าคนญี่ปุ่นเค้าบริการดีมากๆเลยค่ะ
เวลาพูดก็จะก้มหัวนอบน้อมตลอด ขออนุญาตตลอด ปล.เราเพิ่งมารู้ที่หลังว่า
คนญี่ปุ่นเค้าจะไม่รับทิปกัน มันเหมือนกับเป็นการดูถูกเค้าอะไรประมาณนี้ (แอบรู้สึกผิดเลยเหมือนกันนะเนี่ย...)
นี่เป็นรูปสาวๆในร้านค่าา ไปเอาจากไอจีเค้ามาา (ตอนสระไม่กล้าถ่ายเท่าไหร่ กลัวเสียมารยาท555)
จบแล้วค่ะสำหรับกระทู้นี้ เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเรา และเป็นกระทู้ที่ยาวมากก555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ไว้กระทู้หน้าจะมารีวิวที่เที่ยวบ้าง รีวิวเบียร์ที่ญี่ปุ่นบ้างนะคะ รอติดตามกันได้ค่ะ 😊
[CR] แชร์ประสบการณ์ & รีวิว ร้านสระผมที่ญี่ปุ่น ย่านอากิฮาบาระ โตเกียว ที่สาวๆในร้านแต่งชุดคอสเพลย์น่ารักมากกกก ><
เราเป็นคนที่ชอบสระผมหรือไปไดร์ผมที่ร้านตลอด เพราะสระเองทีไรแล้วหัวฟูมากกกกก
ดูไม่ได้เลย ซึ่งก็ลำบากมากเวลาไปเที่ยวหรือไปค้างคืนที่ไหนหลายๆวัน
เพราะต้องคอยหาร้านสระผมอยู่ตลอดๆ ถามว่าทำไมต้องจริงจังขนาดนั้น ก็เพราะว่า
ผู้หญิงอ่ะเนอะ เวลาไปไหนมาไหน อ่ะ ก็ต้องเซลฟี่ ถ่ายรูป โดยเฉพาะเวลาที่ไปเที่ยว
ฉะนั้นเราก็ต้องอยากดูดี ผมสลวย สวยๆเริ่ดๆไว้ก่อนอ่ะจริงมะ
จะให้มาสระผมเองแล้วต้องหัวฟูไปทั้งวันมันก็ไม่ใช่ไง!!!
ฉะนั้น เมื่อเราต้องไปเที่ยวญี่ปุ่น
และต้องไปเป็นสิบๆวันด้วย มีหรือที่คนอย่างเราจะพลาดหาร้านสระผมซักร้านนน
ตอนแรกก็คิดหลายอย่างนะ ว่ามันจะมีมั้ยนะแถวที่ที่เราไปพัก และราคา!!!!
เท่าที่รู้ๆมา คือน้ำที่ญี่ปุ่นนี่ก็แพงใช่ย่อยเลยนะคะ แล้วคิดดูว่า
การสระผมนั้นต้องใช้น้ำปริมาณมากแค่ไหนนน เอาวะ
เราก็ไม่พลาดที่จะต้องเสิร์ชหาข้อมูล หาดูพวกรีวิวก่อนไป
แต่ก็ไม่ค่อยมีคนมารีวิวเลยค่ะ เท่าที่หาๆดูก็ราคาแพงใช้ได้เลยล่ะค่ะ
แต่ก็ผู้หญิงอ่ะเนอะ ยังไงความสวยก็ต้องมาก่อนน คิดในใจแล้วล่ะว่า ถึงจุดนั้นแล้ว
เสียเท่าไหร่ก็ยอมมม
และแล้ววันที่(ไม่)รอคอยก็มาถึงงง~
เราอยู่ญี่ปุ่นมา 4 วันแล้ว ไปเที่ยว กิน นู่น
นี่ นั่น มาเยอะแยะมากมาย ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่เราจะต้องสระผม!!!!! เพราะวันรุ่งขึ้น
จะต้องเดินทางไปดิสนี่แลนด์แต่เช้า ฉะนั้น วันนี้ฉันต้องได้สระ!!!!
และแล้วเราก็เริ่มเสิร์ชหาร้านเลยจ่ะ ดูจากแผนที่ใน google map นั่นแหล่ะ
(วันนั้นเราพักอยู่ย่านอากิฮาบาระ ย่านคนพลุกพล่านพอสมควร ก็คิดว่าน่าจะหาไม่ยาก)
และแล้วก็มีร้านที่ใกล้ที่สุดโชว์ขึ้นมา อ้ะ! ร้านปิดสองทุ่ม
และตอนนั้นก็น่าจะทุ่มนิดๆแล้วล่ะ เราเลยรีบตาม google map ไปเลยจ่ะ
เดิน เดิน เดิน และก็เดินเท้านั้นน เดินมาได้ซักพัก จนมาถึงหน้าร้านเท่านั้นแหละ
ร้านปิด!!!!! ได้แต่อึ้งบวกผิดหวังเล็กน้อย และตอนนั้นก็จะค่ำแล้วด้วย
กลัวร้านเค้าจะปิดหมด ก็เลยรีบหาเป้าหมายต่อไปปป ดูไปดูมา เอ๊ะ
มีอยู่ร้านนึงใกล้ๆนี้นี่เอง ร้านก็ดูเล็กๆ น่ารักๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่แพงมาก ก็เลย
โอเคคค รีบตรงดิ่งไปยังร้านนี้เลยทันที เดินตาม google map ไปเรื่อยๆ
เรื่อยๆ จนถึง!!!!!! แต่เอ๊ะ แล้วร้านมันอยู่ตรงไหนฟระ... เดินวน ไปๆ มาๆ รอบตึกแถวนั้นดูหลายรอบมาก
แล้วก็มาสะดุดตาตรงป้ายกระดานดำเล็กๆ ที่เขียนด้วยชอล์คสีเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนน อยู่ตรงประตู ซึ่งข้างในเป็นบันไดขึ้นไปชั้นบนของตึก
ในตอนนั้น คิดในใจอยู่ซักพักว่าจะลองเดินขึ้นไปดีมั้ยนะ จะใช่รึเปล่านะ... (ยืนหนาวอยู่ตรงนั้นซักพัก)
แต่เอาเถอะ!!! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
ลองเดินขึ้นไปดูก่อนละกันน และแล้วเราก็เดินขึ้นบันไดไปแบบกล้าๆกลัวๆ พอเดินขึ้นมาถึงข้างบนปุ๊ป
ก็เจอกับประตูทางเข้าร้านเลยจ้าา รีบตรงดิ่งเข้าไปทันที พอเดินเข้าไป ก็จะเห็นการตกแต่งร้านแบบน่ารักๆ ผู้หญิงๆ
สีชมพูทั้งร้านเลยย (เออ ชั้นมาถูกที่แล้วล่ะ หึหึ)
และแล้วก็มีพนักงานผู้หญิงคนนึงเดินมาหาเรา
น่าตาน่ารักมากกก หุ่นก็ดี ผิวก็ขาว แถมแต่งชุดคอสเพลย์แบบแม่บ้านสาวญี่ปุ่นด้วยแกรรร
แล้วเค้าก็กล่าวทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็พยายามที่จะสื่อสารกับเค้าด้วยภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆอ่ะเนอะ...5555
ก็บอกเค้าไปประมาณว่า ฉันอยากจะสระผม แต่เค้าบอกว่ามันต้องรอนานนะ คุณจะรอไหม ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า
ฉันรอได้!!!! อ่ะ และแล้วพนักงานก็ไปหยิบเมนูมาให้ดู อื้อหืออ
มีแต่ภาษาญี่ปุ่นจ้า เมนูก็จะมี2แผ่น แผ่นแรกเป็นเมนูแชมพู
พนักงานก็พยายามอธิบายโดยใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่น!!!
ก็พอจะเข้าใจได้ว่า สระผมแบบธรรมดา ด้วยแชมพู 1 รอบ ราคา 2,000 เยน (ประมาณ 600 บาท)
มีแบบสระด้วยแชมพู 2 รอบ และนวดหัวแบบผ่อนคลาย ราคา 4,000 เยน (ประมาณ 1,200 บาท)
มีแบบ วีไอพี สระด้วยแชมพูกลิ่นหอมสปา 6,000 เยน (ประมาณ 1,800 บาท)
แล้วก็มีสปานวดหนังศีรษะ 10,000 เยน (ประมาณ 3,000 บาท) ประมาณนี้
ซึ่งเราก็เลือกอันที่ถูกที่สุดแหละค่ะ สระธรรมดาก็พอ555
ส่วนอีกแผ่นจะเป็นเมนูตัดผม ซึ่งราคาก็โหดอยู่พอสมควร
แล้วเค้าก็ไปเอากระดาษแผ่นเล็กๆ ซึ่งก็จะมีให้เขียนชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล วันที่
แล้วก็เป็นรายการเมนูต่างๆให้เลือก
แล้วเราก็วงกลมตรงเมนูที่เราจะทำ จากนั้นก็เอาให้พนักงานและนั่งรอวนไปปป
และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง...
มีผู้ชายคนนึง เดินออกมาจากข้างใน โอ้โห หล่อและดูดีมากแกรรร
แล้วเค้าก็หันมาเห็นเรา ละก็ยิ้มให้ด้วยอ่าา นั่งจิกโซฟาอยู่ซักพัก
ก็มีพนักงานสาวเดินออกมา แล้วก็คุยไรกันมิรู้ ประมาณว่าเช็คบิลอ่ะแหละ ทีนี้ก็ตาเราละจ้าา พนักงานเดินมาเชิญให้เข้าไปข้างใน
และก็ขออนุญาตนำกระเป๋าเราไปเก็บ แล้วก็มีการถอดเสื้อโค้ทไปแขวนให้ด้วย
เฮ้ย คือดียยยย์ และแล้วเมื่อเดินเข้ามาข้างใน ก็มาเจอกะอีลุงคนนึง
กำลังนั่งตัดผมอยู่ ซึ่งข้างในก็จะเป็นห้องไม่ใหญ่มาก มีมุมสระผม เป็นเก้าอี้นอน
และมีผ้าม่านบางๆกั้น (ซึ่งก็จะแอบเห็นอีตาลุงคนนั้นนั่งตัดผมอยู่หน่อยๆ)
พนักงานก็เชิญให้นั่งบนเก้าอี้สระ แล้วก็นำผ้ามาคลุมไว้ตรงไหล่เรา จากนั้นก็ขออนุญาติปรับเบาะเก้าอี้นอนลง
(คือพนักงานจะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นเลย เราก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่ก็พอเดาๆได้จากกิริยาและภาษามือ)
จากนั้นก็เริ่มสระ พนักงานค่อยๆเปิดน้ำเบาๆ แล้วก็ค่อยๆรดให้ผมเราเปียก พนักงานก็จะคอยถามว่าน้ำอุ่นมั้ย
โอเครึยัง ซึ่งทางเราก็ได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว555 พอผมเปียกแล้วก็มาถึงขั้นตอนการใส่แชมพู
พนักงานก็จะประมาณว่า ขออนุญาตใส่แชมพูนะค้า อะไรอย่างงี้ (เค้าเหมือนขออนุญาติเราก่อนทุกครั้งเลยค่ะ
เวลาจะทำอะไรกะเรา ย้ำว่า ทุกขั้นตอนจริงๆ) จากนั้นก็เริ่มสระจ้า อื้อหือออ
เป็นการสระที่สมูทมากแกรร มือนี่เบามากกก ซึ่งต่างจากบ้านเรา เกาทีนี่หนังหัวแทบหลุด(แต่ก็สะใจดี)
แต่นี่เค้าแบบเหมือนกลัวเราเจ็บอ่ะ ซึ่งอยากจะบอกว่าที่จริงไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้
เกาแรงๆได้เลย พอสระๆไปใกล้จะเสร็จ เค้าก็นวดศีรษะเบาๆให้เราด้วยค่ะ เคลิ้มสุดๆ
(เห็นเป็นผู้หญิงสวยน่ารักๆ แบบนี้มาทำให้ ไอ้เราก็แอบเขินเหมือนกันนะเนี่ย
ถ้าเป็นผู้ชายจะฟินขนาดไหนน) เอาล่ะ หลังจากสระเสร็จ
เราก็ย้ายมานั่งที่เก้าอี้หน้ากระจกค่ะ พนักงานเดินเอาผ้ามาคลุมขาให้ด้วย จากนั้นก็เริ่มไดร์ผมจ้าา
หันไปข้างๆอีลุงคนนั้นก็ยังตัดผมไม่เสร็จ เห็นคุยสนุกสนานกับสาวๆที่กำลังตัดผมให้อยู่
(พนักงานในร้านมีประมาน 4-5 คน ซึ่งพนักงานแต่ละคนก็จะแต่งชุดคอสเพลย์เหมือนกันหมด)
ตอนนั้นก็เริ่มคิดแล้วล่ะว่า ทำไมร้านนี้มันมีแต่ผู้ชายมาตัดฟระ อืม... แต่ก็ช่างเหอะ
แล้วพนักงานก็ไดร์ๆ ผมต่อไปเรื่อยๆ และก็อีกเช่นเคย มือเบามากกก
ไดร์แบบกลัวเราเจ็บอีกแล้วจ้า(เราก็แอบกังวลอยู่นะว่าถ้าไดร์เบาขนาดนี้
ผมเราน่าจะไม่อยู่อ่ะ) และแล้วก็... เป็นแบบนั้นจริงๆ555 หัวฟูจ้า ก็เลยบอกเค้าว่า
ขอหนีบผมด้วยละกัน(น่าจะดีขึ้นหน่อย) เฮ่ออ... เริ่มไม่มั่นใจแล้วล่ะ
ว่าพรุ่งนี้จะได้ไปถ่ายรูปสวยๆมั้ย จากนั้นก็เริ่มหนีบผมจ้า
เค้าก็แบ่งชั้นผมละเอียดอยู่นะ ค่อยๆหนีบแบบเบามือไปที่ละนิด ๆ แต่ก็รู้สึกนะว่า
ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบ จะไม่ค่อยร้อนเหมือนบ้านเราเท่าไหร่ แค่พออุ่นๆ
(เพราะไฟฟ้าบ้านเค้าจะใช้แค่110v แต่บ้านเราใช้ตั้ง220v) และแล้วก็หนีบผมจนเสร็จ...
เอ้อ ค่อยดูได้ขึ้นมานิดนึง จากนั้นเราก็เดินออกมาจากห้องสระผม
พนักงานก็เดินตามออกมา และเดินไปหยิบเสื้อโค้ทมาสวมให้เรา เสร็จแล้วก็เดินไปหยิบกระเป๋ามายื่นให้อย่างนอบน้อม
และพนักงานเค้าก็ยื่นบัตรมาให้ใบนึง เหมือนเป็นบัตรสะสมแต้มอะไรงี้ เขียนชื่อมาให้เราด้วยล่ะค่ะ
เราก็เอากระเป๋าตังค์ออกมา หยิบเงินจ่ายให้พนักงาน 2000 เยน
และก็ยื่นทิปให้เค้า 500 เยน (เพราะบริการเค้าค่อนข้างดีมาก ก็แอบประทับใจตรงนี้อยู่)
แต่พนักงานไม่รับทิป และเค้ายังพยายามที่จะพิมแปลภาษาในมือถือมาให้เราอ่าน
ประมาณว่าขอบคุณมาก ไว้มาอีกนะคะ อะไรประมาณนี้ แล้วเค้าก็เดินมาส่งตรงหน้าประตู
และเปิดประตูให้เราค่ะ เราก็เดินออกมาด้วยความประทับใจ เดินลงบันไดมาแล้วก็โบกมือบ๊ายบายเค้า
เค้าก็บ๊ายบายกลับ แล้วก็พูดประมาณว่าขอบคุณอะไรทำนองนี้ พูดๆๆจนเราเดินลับตาออกไป
นี่แหละค่ะ จะว่าเป็นการเล่าความประทับใจก็ว่าได้นะคะ เรายอมรับเลยว่าคนญี่ปุ่นเค้าบริการดีมากๆเลยค่ะ
เวลาพูดก็จะก้มหัวนอบน้อมตลอด ขออนุญาตตลอด ปล.เราเพิ่งมารู้ที่หลังว่า
คนญี่ปุ่นเค้าจะไม่รับทิปกัน มันเหมือนกับเป็นการดูถูกเค้าอะไรประมาณนี้ (แอบรู้สึกผิดเลยเหมือนกันนะเนี่ย...)
นี่เป็นรูปสาวๆในร้านค่าา ไปเอาจากไอจีเค้ามาา (ตอนสระไม่กล้าถ่ายเท่าไหร่ กลัวเสียมารยาท555)
จบแล้วค่ะสำหรับกระทู้นี้ เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเรา และเป็นกระทู้ที่ยาวมากก555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ไว้กระทู้หน้าจะมารีวิวที่เที่ยวบ้าง รีวิวเบียร์ที่ญี่ปุ่นบ้างนะคะ รอติดตามกันได้ค่ะ 😊
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้