เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ซื้อรถกับเต้นท์หนึ่งเมื่อ 2-3 ปีก่อน โดยในสัญญาซื้อขายระบุว่าหาพบว่ารถคันนั้น มีการตัดต่อ ชนหนัก หรือน้ำท่วม จะยินดีซื้อคืน 100%
แต่แล้วโป๊ะก็แตกตอนที่เราจะขายรถนะสิ
เพราะไม่ว่าจะพารถไปเต้นท์ไหนก็ตาม ปรากฏว่า แต่ละที่กลับส่ายหน้า ไม่รับซื้อ หรือแม้กระทั่งรับเทิร์น เนื่องจากบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "โดนเข้าให้แล้ว" คือส่วนหน้ารถโดนชนหนักมา ฝากระโปรงเคยซ่อม เครื่องเคยถอด กะโหลกโช็คเคยเคาะทำสี รวมถึงร่องรอยน่าสงสัยต่างๆมากมาย
"เขาขายให้พี่ได้ยังไง" "ไฟแนนซ์ได้ตรวจรถหรือไม่" (ผมอาจโดนวิธีที่เขาเรียกว่าตรวจนอก) "เอาไปคืนเขาเถอะ" และอื่นๆอีกมากมาย เล่นเอาเราหน้าหงาย รีบวิ่งกลับไปเต้นท์เดิม ให้ช่วยดู
ปรากฎว่า ไม่พบร่องรอยอย่างที่ใครเขาพูดกัน "ไม่มีชนหนัก" "ทำมาแค่ส่วนนี้นิดเดียว" "กะโหลกโช็คเขาอาจทำสีเฉยๆเพราะ บลา บลา" แต่ยินดีรับเทิร์นนะ ด้วยราคาที่ไม่ได้ต่างกับที่อื่นมาก แบบไม่เกิน 20,000 บาท
ด้วยความไม่สบายใจ ก็เลยเช็คทุกวิธี แบบที่เต้นท์เขาใช้กันนั่นแหละ คือตรวจสอบประวัติการเครมย้อนหลังไปจนถึงปีที่ออกรถป้ายแดง
พบว่า
มีอุบัติเหตุตั้งแต่ปีแรกถึง 2 ครั้ง ค่าซ่อม 8 หมื่นกว่าบาท
ก็เลยทำการพูดคุยกับเจ้าของเต้นท์ว่าเราตรวจสอบแล้วเป็นแบบนี้ แล้วกลับได้การอ้างถึงประวัติศูนย์บริการว่าไม่มีประวัติการซ่อมหนัก
"มีแค่การเคาะซ่อม ทำสีกะโหลกซุ้มล้อ (ตรงที่ติดตั้งโช็คหน้า) โอเคอันนี้จริงเพราะผมไปตรวจสอบมาเมื่อเช้าเช่นกัน
แล้วรายการเครม 8 หมื่นกว่าบาทนั้นหล่ะ แปลว่าไม่ได้ซ่อมศูนย์ในเวลาที่เกิดเหตุ เพื่อรักษาประวัติหรือไม่?
ยังไงก็แล้วแต่ก็ต้องขอย้อนกลับไปในเนื้อความในสัญญา และคำโฆษณา ว่า "รับประกันซื้อคืน 100% หากพบว่า ชนหนัก ตัดต่อ น้ำท่วม"
ผมก็พบร่องรอยแล้วนะครับ แต่ติดอยู่การไม่ยอมรับผิด เฉไฉ ทั้งลูกน้องและเจ้านาย
เหตถการณ์เริ่มจากการที่เราอยากขายรถแต่ขายไม่ได้ เพราะเรื่องราวข้างต้น
และอยากเรียกร้องหาความรับผิดชอบ
จึงขอถามผู้รู้ว่าจะดำเนินการเช่นไรได้บ้าง
ปล.ในสัญญาซื้อขาย มีวรรคเพิ่มระบุถึงการให้ยอมรับสภาพรถ ณ วันซื้อ ซึ่งตอนั้นผมขอไม่รับเงื่อนไขนี้และไม่ลงนาม เนื่องจากขัดกับการรับประกันของทางผู้ขาย
หากชนหนัก ตัดต่อ น้ำท่วม รับซื้อรถคืน 100% มีจริงไหม กับเต้นท์รถมือสอง ที่ว่า "สมบูรณ์ที่สุด"
แต่แล้วโป๊ะก็แตกตอนที่เราจะขายรถนะสิ
เพราะไม่ว่าจะพารถไปเต้นท์ไหนก็ตาม ปรากฏว่า แต่ละที่กลับส่ายหน้า ไม่รับซื้อ หรือแม้กระทั่งรับเทิร์น เนื่องจากบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "โดนเข้าให้แล้ว" คือส่วนหน้ารถโดนชนหนักมา ฝากระโปรงเคยซ่อม เครื่องเคยถอด กะโหลกโช็คเคยเคาะทำสี รวมถึงร่องรอยน่าสงสัยต่างๆมากมาย
"เขาขายให้พี่ได้ยังไง" "ไฟแนนซ์ได้ตรวจรถหรือไม่" (ผมอาจโดนวิธีที่เขาเรียกว่าตรวจนอก) "เอาไปคืนเขาเถอะ" และอื่นๆอีกมากมาย เล่นเอาเราหน้าหงาย รีบวิ่งกลับไปเต้นท์เดิม ให้ช่วยดู
ปรากฎว่า ไม่พบร่องรอยอย่างที่ใครเขาพูดกัน "ไม่มีชนหนัก" "ทำมาแค่ส่วนนี้นิดเดียว" "กะโหลกโช็คเขาอาจทำสีเฉยๆเพราะ บลา บลา" แต่ยินดีรับเทิร์นนะ ด้วยราคาที่ไม่ได้ต่างกับที่อื่นมาก แบบไม่เกิน 20,000 บาท
ด้วยความไม่สบายใจ ก็เลยเช็คทุกวิธี แบบที่เต้นท์เขาใช้กันนั่นแหละ คือตรวจสอบประวัติการเครมย้อนหลังไปจนถึงปีที่ออกรถป้ายแดง
พบว่า
มีอุบัติเหตุตั้งแต่ปีแรกถึง 2 ครั้ง ค่าซ่อม 8 หมื่นกว่าบาท
ก็เลยทำการพูดคุยกับเจ้าของเต้นท์ว่าเราตรวจสอบแล้วเป็นแบบนี้ แล้วกลับได้การอ้างถึงประวัติศูนย์บริการว่าไม่มีประวัติการซ่อมหนัก
"มีแค่การเคาะซ่อม ทำสีกะโหลกซุ้มล้อ (ตรงที่ติดตั้งโช็คหน้า) โอเคอันนี้จริงเพราะผมไปตรวจสอบมาเมื่อเช้าเช่นกัน
แล้วรายการเครม 8 หมื่นกว่าบาทนั้นหล่ะ แปลว่าไม่ได้ซ่อมศูนย์ในเวลาที่เกิดเหตุ เพื่อรักษาประวัติหรือไม่?
ยังไงก็แล้วแต่ก็ต้องขอย้อนกลับไปในเนื้อความในสัญญา และคำโฆษณา ว่า "รับประกันซื้อคืน 100% หากพบว่า ชนหนัก ตัดต่อ น้ำท่วม"
ผมก็พบร่องรอยแล้วนะครับ แต่ติดอยู่การไม่ยอมรับผิด เฉไฉ ทั้งลูกน้องและเจ้านาย
เหตถการณ์เริ่มจากการที่เราอยากขายรถแต่ขายไม่ได้ เพราะเรื่องราวข้างต้น
และอยากเรียกร้องหาความรับผิดชอบ
จึงขอถามผู้รู้ว่าจะดำเนินการเช่นไรได้บ้าง
ปล.ในสัญญาซื้อขาย มีวรรคเพิ่มระบุถึงการให้ยอมรับสภาพรถ ณ วันซื้อ ซึ่งตอนั้นผมขอไม่รับเงื่อนไขนี้และไม่ลงนาม เนื่องจากขัดกับการรับประกันของทางผู้ขาย