เพิ่งกลับจากสิงคโปร์เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นการไปประเทศนี้ครั้งแรกจากที่ไม่เคยคิดจะไป เพราะไม่ชอบเมืองที่เป็นแบบมนุษย์สร้างแหล่งท่องเท่ียวอะไรแบบนี้ แต่เหตุที่ไปเพราะตอนนั้น Westlife ประกาศจัดทัวร์เอเชีย มีข่าวมาไทยแต่ไม่เปิดจองบัตรสักที สาวกอย่างเราทนรอไม่ไหว ซื้อตั๋วคอนฯ และตั๋วเครื่องบินกะว่าไปดูที่นั่นเลย สุดท้ายเปิดขายตั๋วในไทยจ้า เลยซื้อตั๋วดูในไทยแทนโชคดีได้แถวหน้าสุดฟินกันไป ส่วนตั๋วที่สิงคโปร์ขายต่อทาง Viagogo นี่ยังไม่ได้เงินเลยรอเงินเข้าระบบอยู่
มาต่อกันที่ประสบการณ์ที่เจอมาเขียนเป็นข้อ ๆ ขออภัยที่ไม่มีรูปให้ดูนะคะ
- เราบินไปกลับไลอ้อนแอร์ลง Terminal 3 ไปกัน 3 คนพ่อแม่ลูก 6 ขวบ เราอ่านมาว่าสามารถขอบัตร child consesion card ให้เด็กใช้ขึ้นรถไฟฟรีได้ เดิน
ออกมาจากทางออกตามป้ายไป train to city จนไปเจอบูธ passenger service ticket เสียเวลาไปต่อแถวอยู่นาน พอจะถึงคิวเราถึงเห็นป้ายกระดาษแปะไว้ตรงบูธว่าบัตรเด็กเนี่ย เธอต้องไปขอที่ Terminal 2 นะจ๊ะ อย่ามาต่อแถวนี้ เรานี่เงิบเลย เดินออกมาจากแถวอย่างงง ๆ เสียเวลาต่อไป 10 นาทีไม่ได้อะไรเลย ตาเหลือบไปเห็นป้ายเครื่องขายตั๋วรถไฟรายเที่ยว เดินไปซื้อตั๋ว เอาแบงค์ 10 ดอล หยอดเท่าไหร่มันก็เด้งคืน คนสิงฯ ข้างหลังคงสมเพช เอาเหรียญตัวเองมาหยอดให้เรา ประกอบกับเรามีแบงค์ 2 ดอลอยู่ 3 ใบ เลยพอซื้อตั๋วได้เที่ยวนึงไปจนถึงไชน่าทาวน์ที่โรงแรมที่พักได้
- Terminal 3 กับห้าง Jewel ที่มีน้ำตกยักษ์ไม่ไกลกันเลย สามารถเดินทางเชื่อมไปถ่ายรูปได้ แต่คนล้านแปดมาก ถ่ายตรงไหนก็ติดคน ถ้าจะถ่ายมุมดี ๆ ชั้นบนสุดมีเสียตังค์ค่าเข้าไปถ่ายรูปต่างหากอีก
- เราไป Sentosa โดยทีแรกจะไปถ่ายรูปกับสิงโตพ่นน้ำที่นั่น แต่ด้วยความงกไม่ยอมเสียเงินค่ารถไฟข้ามเกาะใช้เดินทางเชื่อมไป กว่าจะถึงร้อนและไกลทีเดียว พอถึงหน้า Universal เปิดกูเกิ้ลแมพจะเดินไปสิงโต มันบอกว่าเราต้องเดินอีก 25 นาที เลยพับแผนเดินกลับไม่ไปมันละ สรุปคือถ้าใครจะไปให้ถึงเมอไลอ้อนบนเกาะเซนโตซ่า ยอมเสียตังค์นั่งรถไฟเหอะทีเดียวจบเลย
- H&M บนห้าง Vivo city เห็นติดป้ายลดราคา เลยแวะไปดูเสื้อผ้าให้ลูก แต่ของที่ลดคือของที่เหลือคละไซส์แล้ว ไม่ลดจริงจังเหมือนญี่ปุ่นช่วง Sale เลย แถมตอนจ่ายตังค์ฟังพนง.ถามไม่รู้เรื่อง นางมีทำหน้าเหวี่ยงวีนกลับมาอีก
- เมอไลอ้อนตรงใกล้สถานี Raffle place คนเยอะล้านแปดมาก ถ่ายยังไงก็ติดคน เราไปถึงประมาณ 10 โมงเช้า ไม่รู้ว่าถ้าไปเช้ากว่านี้มาก ๆ คนจะน้อยลงไหม
- ถ้าพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้ เที่ยวประเทศนี้เราว่ายากเหมือนกัน เพราะทุกคนที่เราเจอพูดภาษาอังกฤษได้ พอเราฟังไม่ทัน มีทำหน้าเหวี่ยงวีนมาหลายคน ไม่ใช่เราอ่อนภาษาอังกฤษนะ แต่ภาษาอังกฤษสำเนาสิงคโปร์นี่มันฟังยากทีเดียว
- ตม.ที่นี่ใจดี มีการถามเราเป็นภาษาอังกฤษว่าคำว่า นิ้วโป้ง 2 นิ้วเวลาพิมพ์มือตอนผ่านเข้าประเทศภาษาไทยพูดว่าอะไร เราบอกว่าพูดว่า "นิ้วโป้ง 2 นิ้ว" ตม.อีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหันมาถามว่า แล้วพูดว่า 2 นิ้วโป้งได้ไหม เราเลยตอบว่าได้เหมือนกัน ฮาไปอีกแบบ
- การซื้อตั๋วรถไฟรายเที่ยวที่นี่เราว่าระบบมันห่วย ๆ ยังไงไม่รู้ จากประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นจนพรุน ระบบที่ญี่ปุ่นมันง่ายมาก หยอดแบงค์ 100 เยนเครื่องมันยังทอน แต่ที่นี่หยอดได้แค่แบงค์ 5 ดอล เกินกว่านี้มันไม่รับ เคยต่อแถวยาวมาก ๆ พอถึงคิวเราหยอดแบงค์เครื่องไม่ดูดแบงค์ ต้องย้ายไปต่อตู้ใหม่ที่คนยาวพอกัน (เราไม่ซื้อ Eazy link เพราะเสียดายค่ามัดจำบัตรเพราะไม่ได้คิดจะมาประเทศนี้อีก)
- ตอนเดินเข้าเกทที่ Ter 3 งงมาก เพราะมีการสแกนกระเป๋าอีกรอบเป็นจุดสแกนกระเป๋าที่ตั้งอยู่ปากทางเข้า เกท 21 (ถ้าจำไม่ผิด) คือเรามีน้ำดื่ม 2 ขวด กับน้ำชากระป๋อง 1 กระป๋อง เราสแกนเสร็จโดนยึดชากระป๋องเฉยเลย ทั้งที่มันไม่ควรจะยึดเพราะคุณปล่อยเราเดินผ่านดิวตี้ฟรี และร้านค้าหลากหลายก่อนจะเข้ามานั่งรถตรงเกท 21 ผ่านตม.ก็ผ่านมาแล้ว สแกนกระเป๋าก่อนตม.ก็ทำแล้ว แต่มายึดของกินทีหลังอีก ฝากเตือนเพื่อน ๆ ไม่แน่ใจอย่าซื้ออะไรที่สุ่มเสี่ยงอาจโดนทิ้งจุดสุดท้ายไม่กี่ก้าวก่อนเดินขึ้นเครื่องเลย แต่น้ำเปล่าดันให้เรามาได้ งงดิ
สุดท้าย Plaza Premium Lounge ที่ Ter 1 เราอยากลองใช้ดูมีบัตร 2 ใบกะสามี แต่ลูก 6 ขวบไม่มีอยู่แล้ว ทีแรกเคยอ่านว่าเด็ก 6 ขวบเข้าฟรีที่สิงคโปร์ แต่เราไปหน้างานไม่ฟรีนะจ๊ะ เสียค่าเข้าของเด็ก 31 ดอลล่าร์ด้วย และต้องเผื่อเวลาเพราะไลอ้อนแอร์ออก Ter 3 เราใช้เวลา 20 นาทีในการเดินทางจาก Ter 1 ไป Ter 3 เพื่อขึ้นเครื่องกลับ
บอกเล่าทริปสิงคโปร์ครั้งแรกในชีวิต กับประสบการณ์ที่พบเจอ
มาต่อกันที่ประสบการณ์ที่เจอมาเขียนเป็นข้อ ๆ ขออภัยที่ไม่มีรูปให้ดูนะคะ
- เราบินไปกลับไลอ้อนแอร์ลง Terminal 3 ไปกัน 3 คนพ่อแม่ลูก 6 ขวบ เราอ่านมาว่าสามารถขอบัตร child consesion card ให้เด็กใช้ขึ้นรถไฟฟรีได้ เดิน
ออกมาจากทางออกตามป้ายไป train to city จนไปเจอบูธ passenger service ticket เสียเวลาไปต่อแถวอยู่นาน พอจะถึงคิวเราถึงเห็นป้ายกระดาษแปะไว้ตรงบูธว่าบัตรเด็กเนี่ย เธอต้องไปขอที่ Terminal 2 นะจ๊ะ อย่ามาต่อแถวนี้ เรานี่เงิบเลย เดินออกมาจากแถวอย่างงง ๆ เสียเวลาต่อไป 10 นาทีไม่ได้อะไรเลย ตาเหลือบไปเห็นป้ายเครื่องขายตั๋วรถไฟรายเที่ยว เดินไปซื้อตั๋ว เอาแบงค์ 10 ดอล หยอดเท่าไหร่มันก็เด้งคืน คนสิงฯ ข้างหลังคงสมเพช เอาเหรียญตัวเองมาหยอดให้เรา ประกอบกับเรามีแบงค์ 2 ดอลอยู่ 3 ใบ เลยพอซื้อตั๋วได้เที่ยวนึงไปจนถึงไชน่าทาวน์ที่โรงแรมที่พักได้
- Terminal 3 กับห้าง Jewel ที่มีน้ำตกยักษ์ไม่ไกลกันเลย สามารถเดินทางเชื่อมไปถ่ายรูปได้ แต่คนล้านแปดมาก ถ่ายตรงไหนก็ติดคน ถ้าจะถ่ายมุมดี ๆ ชั้นบนสุดมีเสียตังค์ค่าเข้าไปถ่ายรูปต่างหากอีก
- เราไป Sentosa โดยทีแรกจะไปถ่ายรูปกับสิงโตพ่นน้ำที่นั่น แต่ด้วยความงกไม่ยอมเสียเงินค่ารถไฟข้ามเกาะใช้เดินทางเชื่อมไป กว่าจะถึงร้อนและไกลทีเดียว พอถึงหน้า Universal เปิดกูเกิ้ลแมพจะเดินไปสิงโต มันบอกว่าเราต้องเดินอีก 25 นาที เลยพับแผนเดินกลับไม่ไปมันละ สรุปคือถ้าใครจะไปให้ถึงเมอไลอ้อนบนเกาะเซนโตซ่า ยอมเสียตังค์นั่งรถไฟเหอะทีเดียวจบเลย
- H&M บนห้าง Vivo city เห็นติดป้ายลดราคา เลยแวะไปดูเสื้อผ้าให้ลูก แต่ของที่ลดคือของที่เหลือคละไซส์แล้ว ไม่ลดจริงจังเหมือนญี่ปุ่นช่วง Sale เลย แถมตอนจ่ายตังค์ฟังพนง.ถามไม่รู้เรื่อง นางมีทำหน้าเหวี่ยงวีนกลับมาอีก
- เมอไลอ้อนตรงใกล้สถานี Raffle place คนเยอะล้านแปดมาก ถ่ายยังไงก็ติดคน เราไปถึงประมาณ 10 โมงเช้า ไม่รู้ว่าถ้าไปเช้ากว่านี้มาก ๆ คนจะน้อยลงไหม
- ถ้าพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้ เที่ยวประเทศนี้เราว่ายากเหมือนกัน เพราะทุกคนที่เราเจอพูดภาษาอังกฤษได้ พอเราฟังไม่ทัน มีทำหน้าเหวี่ยงวีนมาหลายคน ไม่ใช่เราอ่อนภาษาอังกฤษนะ แต่ภาษาอังกฤษสำเนาสิงคโปร์นี่มันฟังยากทีเดียว
- ตม.ที่นี่ใจดี มีการถามเราเป็นภาษาอังกฤษว่าคำว่า นิ้วโป้ง 2 นิ้วเวลาพิมพ์มือตอนผ่านเข้าประเทศภาษาไทยพูดว่าอะไร เราบอกว่าพูดว่า "นิ้วโป้ง 2 นิ้ว" ตม.อีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหันมาถามว่า แล้วพูดว่า 2 นิ้วโป้งได้ไหม เราเลยตอบว่าได้เหมือนกัน ฮาไปอีกแบบ
- การซื้อตั๋วรถไฟรายเที่ยวที่นี่เราว่าระบบมันห่วย ๆ ยังไงไม่รู้ จากประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นจนพรุน ระบบที่ญี่ปุ่นมันง่ายมาก หยอดแบงค์ 100 เยนเครื่องมันยังทอน แต่ที่นี่หยอดได้แค่แบงค์ 5 ดอล เกินกว่านี้มันไม่รับ เคยต่อแถวยาวมาก ๆ พอถึงคิวเราหยอดแบงค์เครื่องไม่ดูดแบงค์ ต้องย้ายไปต่อตู้ใหม่ที่คนยาวพอกัน (เราไม่ซื้อ Eazy link เพราะเสียดายค่ามัดจำบัตรเพราะไม่ได้คิดจะมาประเทศนี้อีก)
- ตอนเดินเข้าเกทที่ Ter 3 งงมาก เพราะมีการสแกนกระเป๋าอีกรอบเป็นจุดสแกนกระเป๋าที่ตั้งอยู่ปากทางเข้า เกท 21 (ถ้าจำไม่ผิด) คือเรามีน้ำดื่ม 2 ขวด กับน้ำชากระป๋อง 1 กระป๋อง เราสแกนเสร็จโดนยึดชากระป๋องเฉยเลย ทั้งที่มันไม่ควรจะยึดเพราะคุณปล่อยเราเดินผ่านดิวตี้ฟรี และร้านค้าหลากหลายก่อนจะเข้ามานั่งรถตรงเกท 21 ผ่านตม.ก็ผ่านมาแล้ว สแกนกระเป๋าก่อนตม.ก็ทำแล้ว แต่มายึดของกินทีหลังอีก ฝากเตือนเพื่อน ๆ ไม่แน่ใจอย่าซื้ออะไรที่สุ่มเสี่ยงอาจโดนทิ้งจุดสุดท้ายไม่กี่ก้าวก่อนเดินขึ้นเครื่องเลย แต่น้ำเปล่าดันให้เรามาได้ งงดิ
สุดท้าย Plaza Premium Lounge ที่ Ter 1 เราอยากลองใช้ดูมีบัตร 2 ใบกะสามี แต่ลูก 6 ขวบไม่มีอยู่แล้ว ทีแรกเคยอ่านว่าเด็ก 6 ขวบเข้าฟรีที่สิงคโปร์ แต่เราไปหน้างานไม่ฟรีนะจ๊ะ เสียค่าเข้าของเด็ก 31 ดอลล่าร์ด้วย และต้องเผื่อเวลาเพราะไลอ้อนแอร์ออก Ter 3 เราใช้เวลา 20 นาทีในการเดินทางจาก Ter 1 ไป Ter 3 เพื่อขึ้นเครื่องกลับ