จากเมื่อวานที่ได้เล่าเรื่องการอาบัติปราชิกของผมให้ฟัง เรื่องก็คือเจตนาเอาเงินจากบัตรเครดิตเพื่อนพระไปใช้โดยไม่บอกและมีเจตนาที่จะคืนเข้าบัญชีโดยไม่บอกเหมือนกันแต่สุดท้ายเพื่อนพระรู้ก่อน ซึ่งผมเป็นสามเณรนักเรียนทุน แต่ตอนนี้เป็นพระมาจะเดือนแล้ว และคิดว่าทุนจะออกทันเอาคืน แต่ทุนที่ว่าเขาเลื่อนเลยทำให้เอาคืนไม่ทัน ก็เลยเป็นเหตุให้มาปรึกษานักปราชผู้รู้ทั้งหลาย ซึ่งวันนี้ผมได้ปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ผมบอกทุกอย่างที่ผมทำไปแต่ชาวบ้านกับผู้ใหญ่บ้านบอกไม่เป็นไรหรอกถ้าคืนเงินเขามันก็ไม่เป็นไรแล้วท่านอ่ะคิดมากไปเคร่งเกินไป พระที่ทำมากกว่าท่านก็มีเยอะเขายังอยู่เลย
ใช่นั่นคนอื่นไม่ใช่ผม เขาอาจจะไม่กลัวบาปกรรมที่เขาธรรม แต่ผมยังมีความเกรงกลัวต่อบาปอยู่ ซึ่งผมก็ได้พลั้งพลาดไปหลายครั้งแล้ว ตอนเป็นเด็กวัดก็เคยขโมยเงินหลวงตา พระในวัด พอบวชเรียนก็ยังมีอยู่บ้างที่แอบขโมยเงินเพื่อน ตอนนี้ผมบวชพระได้ไม่นานผมตั้งใจว่าจะไม่บวชพระแล้วเรียนมันยาก กะว่าจะบวชหลังเรียนจบ จะได้ปฏิบัติเต็มที่เพราะจะได้ไม่มีภาระให้ต้องคิดเหมือนตอนนี้ แต่ผมก็ต้องบวชอยู่ดีสุดท้ายก็กลายเป็นแบบนี้ (ไปถามอุปชาอุปชาก็บอกโอ้ยเรื่องแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก )อีกอย่างผมอยู่มหานิกาย ซึ่งไม่ได้เคร่งเท่าธรรมยุต ผมรู้สึกไม่ดีเอาเลย บอกแม่ออกว่าจะสึกเขาก็บอกอยู่ไปเถอะไม่เป็นไรหรอก เรียนให้จบก่อน เรื่องนี้ทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า เพราะไม่มีสติยับยั้งกิเลสได้เลย
อาบัติปราชิกของผมข้อ 1 จากเมื่อวาน (ขโมยของๆผู้อื่น)
ใช่นั่นคนอื่นไม่ใช่ผม เขาอาจจะไม่กลัวบาปกรรมที่เขาธรรม แต่ผมยังมีความเกรงกลัวต่อบาปอยู่ ซึ่งผมก็ได้พลั้งพลาดไปหลายครั้งแล้ว ตอนเป็นเด็กวัดก็เคยขโมยเงินหลวงตา พระในวัด พอบวชเรียนก็ยังมีอยู่บ้างที่แอบขโมยเงินเพื่อน ตอนนี้ผมบวชพระได้ไม่นานผมตั้งใจว่าจะไม่บวชพระแล้วเรียนมันยาก กะว่าจะบวชหลังเรียนจบ จะได้ปฏิบัติเต็มที่เพราะจะได้ไม่มีภาระให้ต้องคิดเหมือนตอนนี้ แต่ผมก็ต้องบวชอยู่ดีสุดท้ายก็กลายเป็นแบบนี้ (ไปถามอุปชาอุปชาก็บอกโอ้ยเรื่องแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก )อีกอย่างผมอยู่มหานิกาย ซึ่งไม่ได้เคร่งเท่าธรรมยุต ผมรู้สึกไม่ดีเอาเลย บอกแม่ออกว่าจะสึกเขาก็บอกอยู่ไปเถอะไม่เป็นไรหรอก เรียนให้จบก่อน เรื่องนี้ทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า เพราะไม่มีสติยับยั้งกิเลสได้เลย