ผมทำงานที่โรงแรมที่หนึ่งในต่างจังหวัด ซึ่งผมเข้ากะดึก เมื่อคืนตอนมาต่อเวรได้รับแจ้งว่ามีแขก 1 ท่าน ไปใช้บริการสปาแต่มีปัญหาไม่ถูกใจ แต่ทางผู้จัดการได้แก้ปํญหาโดยการไม่ได้คิดเงินไปแล้ว แขกไม่ได้ออกจากโรงแรมไปแต่กลับมานั่งที่ล๊อบบี้ จนกระทั่งเวลา 5 ทุ่ม ผู้จัดการได้เข้าไปสอบถามลูกค้าท่านนั้นว่าอยากให้ช่วยเรียกแท็กซี่แต่ลูกค้าไม่ตอบใดๆกลับมา ทางผู้จัดการจึงขออนุญาตทราบเบอร์ดทรศัพท์ของญาติแขกเพื่อที่จะได้ติดต่อให้มารับ 

พอผู้จัดการได้เบอร์มาก็โทรไป ปรากฏว่าปลายสายเป็นพระ แจ้งว่าเคยรู้จักกับลูกค้าทานนี้เพราะเคยมาวิปัสสนาที่วัด และมีอาการไบโพล่า พระท่านไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ ผู้จัดการจึงไปขอเบอร์ญาติอีกครั้งจากรู้ค้า

คราวนี้ได้ปลายสายน่าจะเป็นญาติหรือคนรู้จักจริงๆ ทางผู้จัดการแจ้งว่าให้มารับลูกค้าท่านนี้ด้วย เพราะว่าไม่สามารถอยู่ในบริเวณโรงแรมในยามวิกาลไม่ได้
ปลายสายรับปากว่าจะมารับตอนตี 3 แต่ตอนนี้ตี 5 ยังไม่มีใครมารับเลย

ผู้จัดการบอกว่า ได้ดูกล้องวงจรปิดแล้ว ลูกค้ามาถึงโรงแรมด้วยแท็กซี่ เวลา 7.30 น. โดยประมาณ และเดินวนในบริเวณของโรงแรม (โรงแรมมีสวนและส่วนกิจกรรม) ก่อนจะไปใช้สปา และมาจบที่นอนตรงล๊อบบี้

-มีใครเคยเจอเรื่องแบบนี้บ้างไหมครับ เราควรทำอย่างไรดี
-หากเขามีอาการป่วยทางจิต ญาติเขาทำไมปล่อยให้ออกไปไหนมาไหนคนเดียว

เราเคยเจอเรื่องลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อครั้งนั้น แขกไปใช้บริการห้องอาหารและแจ้งว่าจะเซ็นค่าอาหารเข้าห้องไว้จ่ายทีเดียวตอนเช็คเอาท์ แต่ยังไม่ได้มาเปิดห้องพักเลย ตอนมาคุยกับเราก็งงๆ บอกว่าจองมาแล้วผ่านบริษัท ของบัตรประชาชนลงทะเบียนก็ให้เหมือนจดหมายรับรองจากบริษัทมาเฉย พอรุ่งเช้าก็ไม่ยอมจ่ายค่าห้อง เดินไปเดินมา จนต้องขอเบอร์เรียกให้ครอบครัวมารับ สรุปมีเป็นผู้ป่วยทางจิตแต่ครอบครัวปล่อยให้ไปไหนมาไหนเอง

ปล.หากใช้แท็กผิดต้องขอโทษล่วงหน้านะครับ