สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง "I AM MOTHER - หุ่นเหล็ก โลกเรียกแม่" ทางไปเพจผมครับ -->
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
“I AM MOTHER” หนังดูเรื่อยๆเรียบๆ แต่ฟาดเรียบเพราะพล๊อตฉลาด ดึงผู้ชมให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องราวได้ดี
————————
ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ก่อนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมตีความไปแล้วว่า มันจะต้องเป็นหนังแอ็คชั่น-ไซไฟ ให้อารมณ์ว่าเป็นการปะทะกันของมนุษย์และหุ่นยนต์ อันมีสาเหตุมาจากการถูกหุ่นยนต์ยึดโลกแถมเอามนุษย์ไปทดลองอะไรบางอย่าง แต่แล้วกลับมี มนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์บุกเข้ามาในรังหุ่นยนต์เพื่อหวังจะล้างแค้นทวงเอาโลกของพวกเขาคืน นอกจากนี้ หนังยังมีประเด็นเกี่ยวกับความผูกพันของการเลี้ยงดูมนุษย์จากหุ่นยนต์มาเป็นตัวสร้างความแตกต่างให้น่าสนใจมากขึ้น มันเลยทำให้ผมไม่รีรอที่จะตีตั๋วเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่แล้ว สิ่งที่เจอก็ไม่เป็นไปตามสิ่งที่คิด (ซะทีเดียว) เพราะหนังไม่ได้ใช้ความเป็นแอ็คชั่นสร้างความบันเทิงให้ผู้ชม แต่กลับเล่นกับผู้ชมด้วยความไม่น่าไว้วางใจ ตัวหนังสร้างความสับสนให้กับผมอยู่ตลอดว่าฝ่ายไหนน่าเชื่อถือที่สุด เพราะตัวละครนอกจากจะมีท่าทีที่ไม่น่าไว้วางใจแล้วอยู่แล้ว ยังจะใช้คำพูดโจมตีอีกฝ่ายอย่างเป็นเหตุเป็นผลและฟังขึ้นด้วย ไฮไลต์ของหนังจึงตกมาที่ตัวละครที่รับบทเป็นลูก (หรือแม้กระทั่งผมที่เป็นผู้ชมภาพยนตร์) ว่าจะเลือกเชื่อใคร ซึ่งฟีลของหนังนั้นสามารถทำให้ผมและตัวละครไขว้เขวไปมาอยู่ตลอด ซึ่งมันเป็นความเพลิดเพลินที่มาแทนที่ความบันเทิงจากประเด็นแอ็คชั่นที่หนังแทบไม่มีให้เห็นมากนัก ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย
มาในส่วนของข้อเสียที่อาจทำให้ I Am Mother ดูจะไม่โอเคกับผู้ชมส่วนใหญ่ ก็คือการที่หนังมีความเป็นดราม่า แทรกทริลเลอร์หน่อยๆ บทสนทนาอะไรต่อมิอะไรมันเลยเยอะแยะมากมาย การดำเนินเรื่องก็ดูช้าๆเนิบๆ แต่ก็เข้าใจได้เพราะหนังต้องการปูเรื่องราวเพื่อสร้างสตอรี่ให้ผู้ชมได้มีส่วนไขว้เขว ซึ่งความเนิบนาบของการดำเนินเรื่องนี่เอง ที่อาจเป็นหนึ่งในจุดอ่อนที่ทำให้ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกไม่ประทับใจกับตัวหนังเท่าที่ควร ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงท้ายของหนังกับการขมวดบทสรุปและปริศนาของเรื่องราว หนังกลับดำเนินเรื่องอย่างฉับไวซะเหลือเกิน (ต่างจากตอนต้นกับกลางที่เนิบมาก) ทำให้หลายคนที่กำลังเหวอกับเรื่องราวตอนท้ายเรื่องอาจอุทานออกมาว่า “อิหยังวะ” ก็เป็นได้ แค้ถ้าใครพอเข้าใจก็จะรู้สึกได้ว่าหนังแม้งล่ำลึกมาก มาเรียบๆแต่ตอนจบนี่เฟียร์ซไปอีก
เอาเป็นว่า ใครที่ได้ชมแล้วจะรู้สึกที่ประทับใจ หรือใครที่ชมแล้วชอบเพราะได้ครุ่นคิด ได้มีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวที่พลิกไปมา ผมก็ไม่แปลกใจเลย เพราะหนังลักษณะมักนี้มี feedback ออกมา 2 มุมแบบนี้เสมอ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชม ผมแนะนำให้ลองไปชมเองเลยครับ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าหนังก็ไม่ได้แย่ และก็ไม่ได้ดีจนเอาไปนอนเพ้อละเมอสามวันเจ็ดวันขนาดนั้น มันพอดูได้แบบเพลินๆ ประมาณว่าจบคือจบ ไม่ได้เสียดายเงิน เสียดายเวลาอะไร ผมให้คะแนนกลางๆค่อนไปทางดีหน่อย ซัก 7.5 เต็ม 10 แล้วกันครับ
——————————
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
[SR] Movies Feedback - ”I AM MOTHER” หนังดูได้เรื่อยๆ แต่ฟาดเรียบเพราะพล๊อตฉลาด ดึงผู้ชมให้เข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องราวได้ดี
“I AM MOTHER” หนังดูเรื่อยๆเรียบๆ แต่ฟาดเรียบเพราะพล๊อตฉลาด ดึงผู้ชมให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องราวได้ดี
————————
ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ก่อนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมตีความไปแล้วว่า มันจะต้องเป็นหนังแอ็คชั่น-ไซไฟ ให้อารมณ์ว่าเป็นการปะทะกันของมนุษย์และหุ่นยนต์ อันมีสาเหตุมาจากการถูกหุ่นยนต์ยึดโลกแถมเอามนุษย์ไปทดลองอะไรบางอย่าง แต่แล้วกลับมี มนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์บุกเข้ามาในรังหุ่นยนต์เพื่อหวังจะล้างแค้นทวงเอาโลกของพวกเขาคืน นอกจากนี้ หนังยังมีประเด็นเกี่ยวกับความผูกพันของการเลี้ยงดูมนุษย์จากหุ่นยนต์มาเป็นตัวสร้างความแตกต่างให้น่าสนใจมากขึ้น มันเลยทำให้ผมไม่รีรอที่จะตีตั๋วเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่แล้ว สิ่งที่เจอก็ไม่เป็นไปตามสิ่งที่คิด (ซะทีเดียว) เพราะหนังไม่ได้ใช้ความเป็นแอ็คชั่นสร้างความบันเทิงให้ผู้ชม แต่กลับเล่นกับผู้ชมด้วยความไม่น่าไว้วางใจ ตัวหนังสร้างความสับสนให้กับผมอยู่ตลอดว่าฝ่ายไหนน่าเชื่อถือที่สุด เพราะตัวละครนอกจากจะมีท่าทีที่ไม่น่าไว้วางใจแล้วอยู่แล้ว ยังจะใช้คำพูดโจมตีอีกฝ่ายอย่างเป็นเหตุเป็นผลและฟังขึ้นด้วย ไฮไลต์ของหนังจึงตกมาที่ตัวละครที่รับบทเป็นลูก (หรือแม้กระทั่งผมที่เป็นผู้ชมภาพยนตร์) ว่าจะเลือกเชื่อใคร ซึ่งฟีลของหนังนั้นสามารถทำให้ผมและตัวละครไขว้เขวไปมาอยู่ตลอด ซึ่งมันเป็นความเพลิดเพลินที่มาแทนที่ความบันเทิงจากประเด็นแอ็คชั่นที่หนังแทบไม่มีให้เห็นมากนัก ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย
มาในส่วนของข้อเสียที่อาจทำให้ I Am Mother ดูจะไม่โอเคกับผู้ชมส่วนใหญ่ ก็คือการที่หนังมีความเป็นดราม่า แทรกทริลเลอร์หน่อยๆ บทสนทนาอะไรต่อมิอะไรมันเลยเยอะแยะมากมาย การดำเนินเรื่องก็ดูช้าๆเนิบๆ แต่ก็เข้าใจได้เพราะหนังต้องการปูเรื่องราวเพื่อสร้างสตอรี่ให้ผู้ชมได้มีส่วนไขว้เขว ซึ่งความเนิบนาบของการดำเนินเรื่องนี่เอง ที่อาจเป็นหนึ่งในจุดอ่อนที่ทำให้ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกไม่ประทับใจกับตัวหนังเท่าที่ควร ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงท้ายของหนังกับการขมวดบทสรุปและปริศนาของเรื่องราว หนังกลับดำเนินเรื่องอย่างฉับไวซะเหลือเกิน (ต่างจากตอนต้นกับกลางที่เนิบมาก) ทำให้หลายคนที่กำลังเหวอกับเรื่องราวตอนท้ายเรื่องอาจอุทานออกมาว่า “อิหยังวะ” ก็เป็นได้ แค้ถ้าใครพอเข้าใจก็จะรู้สึกได้ว่าหนังแม้งล่ำลึกมาก มาเรียบๆแต่ตอนจบนี่เฟียร์ซไปอีก
เอาเป็นว่า ใครที่ได้ชมแล้วจะรู้สึกที่ประทับใจ หรือใครที่ชมแล้วชอบเพราะได้ครุ่นคิด ได้มีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวที่พลิกไปมา ผมก็ไม่แปลกใจเลย เพราะหนังลักษณะมักนี้มี feedback ออกมา 2 มุมแบบนี้เสมอ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชม ผมแนะนำให้ลองไปชมเองเลยครับ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าหนังก็ไม่ได้แย่ และก็ไม่ได้ดีจนเอาไปนอนเพ้อละเมอสามวันเจ็ดวันขนาดนั้น มันพอดูได้แบบเพลินๆ ประมาณว่าจบคือจบ ไม่ได้เสียดายเงิน เสียดายเวลาอะไร ผมให้คะแนนกลางๆค่อนไปทางดีหน่อย ซัก 7.5 เต็ม 10 แล้วกันครับ
——————————
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่ https://www.facebook.com/FeedbackMovies
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้