ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า ของการเดินทางไปพื้นที่สีแดงของ 3 จังหวัดชายแดน จุดมุ่งหมายอยู่ที่ วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

>> การเดินทางของเราในครั้งนี้เพื่อเดินทางไปกราบหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ โดยเฉพาะ<<
ครั้งแรกที่ได้ยินเพื่อนชวนไปวัดช้างให้กับกูหน่อย ก็ร้องทันที ห้ะ... แล้วก็ถามนางกลับว่าจะไปทำไม ก็ได้ความว่า เมื่อ 13 ปีก่อน นางไปอธิฐานในใจบอกกล่าวท่านไว้ ตอนนี้มีศักยภาพที่พอจะมาแก้บนได้ก็อยากจะมาให้ได้ ไอ้เราก็ย้อนกลับไปว่า ใครใช้ให้ไปบนที่นู้น ถ้าจะแก้บนก็ไปที่วัดห้วยมงคลก็พอ หลวงปู่ท่านก็รับรู้เหมือนกัน นางก็ไม่ยอมแล้วหรือตลอด จนกระทั่งแอร์เอเซียดันมีตั๋วถูกแล้วก็ดันจองได้เที่ยวไปและกลับในราคาที่เหมาะสมอีก แต่เป็นการจองล่วงหน้าเป็นเดือนนะ การเดินทางครั้งนี้จะเริ่มขึ้น 

_วางแผนเสร็จสรรพ ก็หารายชื่อรถเช่าในพันทิพนี่ล่ะ ว่าเจ้าไหนบริการดี จนกระทั่งตกลงใจกับบริษัทเช่ารถบริษัทหนึ่ง ไม่ต้องมีมัดจำ ให้ยุ่งยาก แค่ไฟล์บินให้บริษัทรู้ว่า มีการเดินทางไปจริงๆ แค่นี้ก็เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาการเดินทางคอนเฟริมกับรถอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยัน  บริษัทรถเช่าก็จะส่งรายละเอียดมาว่ารถจะจอดอยู่ตรงไหนเมื่อถึงสนามบินแล้วให้ออกประตูไหน เดินไปยังไง เอิ่ม ดีมาก ไม่ต้องถามให้วุ่นวาย 

_ ก่อนเดินทาง_ ข่าวสารการยิงการวางระเบิดของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีมาเรื่อยๆให้ได้เห็น ยิ่งใกล้วันเดินทางข่าวก็เยอะใจคอก็สั่น เลยตัดสินไม่รับรู้ข่าวสารอะไรเพิ่มเติมทั้งสิ้น แม้จะมีการบอกกล่าวว่าแถวนั้นไม่มีอะไรหรอก แต่นะ ...เราไม่ใช่คนแถบนั้น การเกิดความกังวลใจจึงเป็นเรื่องธรรมดา

_เมื่อถึงวันเดินทาง_ถึงสนามบินปุ๊บรถเช่าก็โทรมาทันที เป็นการบริการที่ดีมาก เราเช่ารถรุ่นอัลติส ขับสบายไป สี่คน นั่งหลวมๆดี แต่ๆๆๆ.... ก่อนการเดินทางมีการตกลงกันว่าจะขับไปและกลับให้เร็วที่สุดจะไม่อยู่ที่นั่นนานและจะไม่แวะกินอะไรระหว่างทางเด็ดขาดให้ซื้อทุกอย่างมากินบนรถ เมื่อรับรถที่สนามบินหาดใหญ่เราเริ่มเดินทางทันที เรื่องอาหารมื้อเช้าไม่ต้องพูดถึงฝากท้องไว้กับ 7 เพราะต้องกินไประหว่างทางที่ขับรถ

ก่อนหน้าานั้นได้หาข้อมูลมาเบื้องต้นแล้วว่าต้องวิ่งเส้นทางหมายเลข 43 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเท่านั้น ห้ามออกนอกเส้นทางเด็ดขาด ซึ่งปรากฏว่าทางที่ขับไปนั้นเป็นถนนใหญ่มีรถวิ่งสวนไปมาตลอดเวลา แต่เเค่ระหว่างทางจะมีด่านตรวจตั้งอยู่เป็นระยะๆ และเมื่อเข้าเขตปัตตานีก็จะมีด่านทหารตั้งอยู่เรื่อยๆ ระหว่างทางที่ขับไปก็เหยียบไม่ต่ำกว่า 120 เพราะอยากถึงเร็วๆ ... เส้นทางที่ไปก็ดูเหมือนปกติเหมือนจังหวัดอื่นๆที่เคยไป ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด แม้จะเข้าสู่ อ.โคกโพธิ์ ซึ่งเป็นอำเภอพื้นที่สีแดง ที่เพิ่งจะมีการยิงกันไม่กี่วันก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ทุกอย่างกลับดูปกติดี อาจเป็นเพราะไม่ได้เข้าไปในพื้นที่สีแดงแบบจริงๆ แต่ขับไปก็ต้องคอยมองกระจกข้างกระจกหลังอยู่ตลอดเวลาอยู่ดี เผื่อมีอะไรผิดปกติ  

!! เอาล่ะ ถึงแล้ววัดช้างไห้ หยิบกล้องรีบลงรถทันที ไม่รอช้า (ให้ภาพเล่าเรื่อง) เข้าไหว้หลวงปู่บอกกล่าวทุกอย่างเสร็จสรรพ ขอให้ขากลับปลอดภัยนะหลวงปู่ ไหว้เสร็จก็เดินไปเช่าพระต่อ ...บรรยากาศในวัดเงียบสงบมาก อาจเป็นเพราะไปวันธรรมดาคนเลยไม่เยอะ เดินชมรอบวัดอยู่นาน ซึ่งถึงจุดนี้ ลืมสิ่งที่บอกไว้เลยว่าจะกลับเร็วๆ เพราะอยู่ในสถานที่เช่าพระของวัดนานมากก อยู่เป็นชั่วโมงเพราะเลือกไม่ได้ว่าจะเช่ารุ่นไหนบ้าง(ไม่บอกก็รู้ว่าเช่ามาเยอะขนาดไหน) ดูไปดูมาหันมาเจอพี่ทหารถือปืนกระบอกยาวเข้ามาเช่าด้วย ในวัดก็มีพี่ทหารคอยยืนรักษาความปลอดภัยอยู่สามสี่คน ไอ้เราก็ได้แต่โบกมือทักทายแล้วพูดว่ารักษาตัวนะพี่ เอาแค่ทักทายพอไม่ขออยู่ใกล้พี่ล่ะกันนะ

เสร็จจากตรงนี้ ก็ไปจุดประทัดตรงสธูปของหลวงปู่เพื่อบอกกล่าวและขอลากลับ พร้อมกับเดินลอดท้องช้างเพื่อเป็นสิริมงคล 


ยังๆ ยังไม่กลับ เพราะสิ่งที่ไม่พลาดต่อมาคือต้องถ่ายกับ สถานีรถไฟโคกโพธิ์ ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของที่นี่เมื่อมาวัดช้างไห้ต้องถ่าย เอาล่ะ ได้เวลากลับแล้วอยู่ที่วัดมานานเกินล่ะ 

>>การเดินทางมาปัตตานีครั้งนี้ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เส้นทางดี สะดวกสบาย แต่ถ้าถามว่าให้กลับไปอีกไหม คงขอไหว้หลวงปู่ที่วัดห้วยมงลคลแทนดีกว่านะคะ 
จบทริปอย่างสวยงาม ปลอดภัย ครบถ้วน 32ไม่ขาดไม่เกินจ้าาาา