- เราเดินทางด้วย Daily bus จาก Stepantsminda

-  เป็น Daily bus ของ Mountain Freaks เดินจากจุดจอดรถมินิบัส (ที่มาจาก tbilisi) ไปประมาณ 200 เมตร สามารถซื้อตั๋วรถได้เฉพาะที่สำนักงานค่ะ ไม่รับจองออนไลน์ แต่ถ้าอยากซื้อทัวร์ขึ้นไป Mount Kazbek กับ Elbrus สามารถจองล่วงหน้าได้

- รถมีแค่ 2 รอบ/วัน คือ ไป 9.00 กลับ 16.00 และ ไป 11.00 กลับ 18.00

- แนะนำซื้อตั๋วรถล่วงหน้า 1 วันก่อนวันที่เราจะไป hiking

- ราคา 30 Lari (ราคานี้ คือ ไปและกลับ)

- นั่งรถประมาณ 20 นาที

- Daily bus ยังมีไป Juta ราคาและเวลาเดียวกัน

ถ้าใครเดินทางมาหลายคนยังสามารถเรียก Taxi จากหมู่บ้าน หรือติดต่อจาก Guest house ราคา (อ้างจิงจากที่พัก) ประมาณ 100-130 Lari

การเตรียมตัวก่อนการ hiking ที่ Truso

- ซื้ออาหารและน้ำติดกระเป๋าไปด้วย เพราะระหว่างทางเดินไม่มีร้านค้า

- มีโรคประจำตัวควรพกยาติดกระเป๋าเอาไว้

- พกเสื้อหนาวติดกระเป๋า เพราะช่วงเย็นอากาศจะเย็นลงนะคะ

เส้นทาง hiking ที่ Truso

- เส้นทางนี้มีระยะทาง 22 กม. (ไป 11 กลับ 11 ค่ะ) เป็นทางลูกรังมีน้ำบางจุด ใช้เวลาเดินไปและเดินกลับ 6 ชั่วโมง แต่เราเดินแค่ 15 กม. 5 ชั่วโมงเพราะเดินไม่ไหวค่ะ TT

ในเส้นทางมีทั้งหมด 7 จุด

จุดเริ่มต้น Kvemo Okrokana

จุดที่ 2 Bridge

จุดที่ 3 Travertine – สันหินอ่อน

จุดที่ 4 Geyser – แอ่งน้ำแร่

จุดที่ 5 Ketrisi – ป้อมและหมู่บ้านโบราณ

จุดที่ 6 Abano monastery

จุดสุดท้าย Zakagori fortress – ป้อมปราการตรงชายแดนค่ะ

Daily Bus จะมาส่งเราที่ Kvemo Okrokana เป็นหมู่บ้านเลี้ยงสัตว์ขนาดย่อม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้ค่ะ เรามารอบ 11 โมงค่ะคนจองรอบนี่เต็มรถ ตอนลงจากรถก็คุยกันว่าพวกเรา 7 คนจะเดินไปด้วยกัน ส่วนคนขับรถที่มาส่งเราก็แจ้งว่าจะมารอพวกตอน 5 โมงเย็น (มาก่อนเวลา 1 ชั่วโมง) พี่ผู้ชายกระเป๋าน้ำเงินเป็นคนโปแลนด์ค่ะ (เดินไวมากๆ)

ยังอยู่กันที่จุดที่ 1 ระหว่างทางเดินจะล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำเป็นตัวบอกเส้นทางเรา

จากจุดที่ 1 ไปจุดที่ 2 ประมาณ 3 กิโลเมตรค่ะ

เดินผ่านหุบเขาออกมาจะเจอกับพื้นที่โล่ง ตรงนี้เป็นจุดที่ 3 พื้นดินจะมีลักษณะเป็นหินอ่อน ถ้ามาหน้าหนาวพื้นที่แถบนี้จะปกคลุมไปด้วยหิมะ

มองออกไปสุดสายตามากค่ะ ภาพที่เห็นสวยกว่าภาพถ่ายมากกก (ภาพทั้งหมดเป็นภาพจากมือถือค่ะ)

เดินข้ามสะพานมาถึง Cafe เราออกนอกเส้นทางมาอีกด้านค่ะ (เดินผิดนั่นเอง TT) แต่ขอบอกว่าวิวนอกเส้นทางตรงนี้สวยมากค่ะ

เดินออกมาประมาณกิโลกว่าๆได้

แอ่งน้ำแร่จุดนอกเส้นทางค่ะ

น้องวัวออกมาทักทายที่จุดนอกเส้นทาง

ดอกไม้ช่วงหน้าร้อน สวยงามมากค่ะ แบบโมเมนต์นั้นเดินมาเหนื่อยขนาดไหน เห็นวิวแบบนี้หายเหนื่อยเลยค่ะ

เราเดินวกกลับไปจุดเดิมค่ะ ฝูงแกะเริ่มเดินกันขวักไขว่ วิวด้านในเหมือนเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ต่างจากข้างนอกที่หุบเขา รถจะมาถึงแค่จุดที่ 4 นะคะสำหรับคนที่นั่งแทกซี่มา

จุดที่ 3 ไปจุดที่ 4 ค่อนข้างไกลมาก เดินต่อไปเรื่อยๆ ตามทางไปเลยค่ะ เหมือนแดดจะร้อน แต่อากาศจริงๆประมาณ 15 องศาเองค่ะ อากาศกำลังสบาย

เดินมาถึงจุดที่ 4 เป็นแอ่งน้ำแร่สีส้ม เริ่มมองเห็นหมู่บ้านจุดที่ 5 ชัดขึ้น

จุดที่ 5 มาถึงแล้วค่ะเป็นหมู่บ้านโบราณ มาถึงจุดนี้เท้าเริ่มปวด

(ก่อนหน้ามา Truso 1 วันเราไปเดินขึ้น Gergeti Trinity Church ที่ความสูง 2170 เมตร ระยะทาง 7 กม.ไปกลับ รู้สึกว่าเท้าตัวเองเริ่มระบม เลยถอดมาดูคือเล็บม่วงเลยยย TT)

มีป้ายบอกทางจากจุดที่ 5 ไปจุดที่ 7 ระยะทางต่อจากนี้ 3 กม.ค่ะ แต่เราเดินต่อไม่ไหวแล้ว ทั้งกลัวกลับไม่ทันรถมารับ เลยตัดสินใจเดินกลับ

(ตอนนั้นประมาณ 3 โมงเย็นค่ะ)

วิวจากจุดที่ 5 จะเห็นจุดสุดท้าย (ทางด้านขวามือ) จุดที่ 7 ป้อมปราการติดชายแดนบนเขา (ตรงหมู่บ้านเล็กๆ ขวามือด้านหน้าภูเขาเขาคือ จุดที่ 6 Abano)

เดินย้อนกลับมาจุดเริ่มต้นประมาณ 2 ชม.ค่ะ ไวกว่าขามา เพราะขามาคือแวะถ่ายรูปเกือบทุกจุด

เราเดินกลับมาถึงจุดแรกประมาณ 5 โมงเย็น Daily bus ก็มารอรับกลับพอดีค่ะ คนโปแลนด์เค้าเดินไปสุดค่ะ เดินไวมาก 5 ชม. 22 กม. ยอมใจเลยค่ะ

จบแล้วค่ะสำหรับการรีวิว Truso Valley ถ้าเพื่อนมีข้อสงสัยสอบถามได้เลยนะคะ ยินดีให้ข้อมูลค่ะ ^^

สุดท้ายท้ายสุดขอฝากเพจของเราเองนะคะ (เราเขียนจอร์เจียแบบเจาะลึกไปหลายตอนแล้วกำลังเขียนตอนใหม่อยู่ค่ะ)

https://www.facebook.com/youtravelaroundtheworld/

ขอบคุณค่า <3