ไทยโป้ด .. ช่วงเวลาคับขัน ช่วงขาลง ความผิดพลาด ไม่ชอบมาพากลต่างๆผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจนหลังเลือกตั้งร่วม 5-6 เดือน ทีมงานพ่อยก-แม่ยกต้องช่วยกันเป็นระวิง ทุกเรื่องมันย้อนแย้งกับเหตุผลที่คนปกติทั่วไปยอมรับ แต่เมื่อใดที่ความเป็นสลิ่ม หรือ กปปส. เข้าครอบงำใครจนกลายร่างเป็นมนุดสลิ่ม ความคิด วิธีสร้างกระแสฝืดๆ ตรรกะบิดเบี้ยวก็ถูกนำมาใช้เพื่อชี้นำสังคมอย่างผิดๆ ซ้ำๆ เพราะคิดว่าคือหนทางแห่งชัยชนะ เหมือนที่ผ่านมา แต่กลายเป็นตัวตลก เสียผู้เสียคน ทำให้คนอื่นเห็นความกลวง

เหตุผลความถูกต้อง มันไม่เกี่ยวกับความเป็นอจ. รุ่นไหน ? สาขาอะไร ? สื่อค่ายไหน ? เพราะถ้าไร้เหตุผล ชื่อเสียงของคนๆนั้นก็จะเสื่อม เวทีสลิ่มทำให้หลายๆคนที่เคยถูกยกย่อง เปลี่ยนเป็น ตัวตลกทางการเมือง มานักต่อนัก

การแจ้งบ/ช หุ้น กับ การปฏิญานตนตาม รธน. เพื่อรับตำแหน่งสำคัญ เรื่องไหน คือมีสาระ น้ำหนักความสำคัญมากกว่า คนปกติทั่วโลกเขาย่อมทราบกันดี แต่ถ้าความเป็นสลิ่มเข้าครอบงำความคิด จะมองความสำคัญและเหตุผลเป็นตรงกันข้ามกับคนปกติ

การกล่าวคำปฏิญานตนถือเป็นพิธีการสำคัญ และต้องกล่าวตามที่ รธน. กำหนด มิใช่จะคิดประดิษฐ์วาทกรรมขึ้นมาเองได้ตามใจชอบ หรือจะเลือกกล่าวแค่บางส่วน คนทั่วไปที่พอรู้กฏหมาย หรือ นศ. สาขา นิติฯคงไม่มีใครไม่รู้ ยิ่งถ้าเป็น อจ. ด้านนิติฯไม่รู้ มันขายหน้าไปทั้งโลกได้

ส่วนเรื่องแจ้งเรื่องการถือหุ้นมันเป็นระเบียบทั่วไป ของการสมัครเป็น สส. จะไปเทียบการกล่าวคำปฏิญานรับตำแหน่งสำคัญของประเทศได้อย่างไร ?