เกริ่นก่อนเลย ดิฉันเป็นคุณเเม่ลูกหนึ่ง คะ ตอนนี้น้องได้ 1 ขวบกว่าๆเล้วคะ ก่อนหน้านี้ดิฉันอยู่กินกับสามี มา 5 ปีครบรอบ ปีเมื่อปีที่เเล้วคะ ย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน พอดิฉันเรียนจบ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ตัดสินใจไม่เรียนหนังสือเเละมาฟันฝ่าชีวิตที่เมืองกรุง คนเดียวโดยมีครอบครัวคอย Support เเละสามีตัดสินใจไปทำงานที่ชลบุรี **ช่วงเวลาก่อนมีน้อง ดิฉันทำงาน ขายน้ำดื่มที่ฟูด ในห้องดังเเห่งหนึ่งใน สมุทรปราการ โดยสามีก็ทำงานที่ จังหวัดชลบุรี เค้าเดินทางมาเยี่ยมดิฉัน บ้างในบางอาทิตย์ เเละบางอาทิตย์ฉันก็นั่งรถตู้ไปหาเค้าคะ ทำเเบบนี้อยู่ประมาน 7 เดือนเค้าก็ตัดสินใจออกจากงานเพื่อมาอยู่กับเราที่ สปก.ระหว่างนั้นเราก็ทำงานคะเเละเค้าก้หางานเเถวๆนั้น ก็ใช้ชีวิตคู่กันเเบบคู่อื่นปกติ(ก่อนหน้านี้ดิฉันเคยอาศัยที่บ้านเค้า มาก่อนช่วงเรียนหนังสือคะ) เหตุการณ์ก็คงคล้ายกับบางคู่ ระหว่างที่เรามี Relationship หรือความสัมพันธ์ อยู่กินฉันท์สามีภรรยา เค้าก็มีคนอื่นแและแอบมีอะไรกันกับหญิงอื่นตลอดเเละเราก้ให้อภัยเค้ามาตลอด บางครั้งก้ใช้กำลังตบตีกัน ตามประสาเด็กๆที่ยังไม่เดียงสา ตาปูดตาบวมไปทำงาน เละจนกระทั้งเค้าย้ายมาทำงานที่เดียวกับเราเเละเราย้ายไปทำงานที่บริษัท รถยนต์ โดยทำงานเป็นธุรการเเละอย่างที่เคยเราทะเลาะกันรุนเเรงเรื่องผู้หญิงของเค้า เป็นเเบบนี้มาตลอดหลายปีเเต่ความคิดของเราคือคิดว่าเค้าคือคนสุดท้ายเเละไม่คิดจะมีใครเเละรักใครได้อีก** จนผ่านมาถึงเมื่อ ปี 2560 ช่วงเดือน มิถุนายน ดิฉันได้ตั้งท้องกับเค้า ช่วงเเรกๆที่เราต้องไปฝากครรภ์หรือช่วงเราไปตรวจ การตั้งครรภ์ เค้าพาเราไปคะหลังๆเค้าอ้างว่าทำงานคะ เลิกงานดึก ช่วงที่เราท้องเป็นช่วงที่เรางี่เง่ามาก มากๆ จากทีงี่เง่าเป็นทุนเดิมอยู่เเล้วก็หนักเข้าไปใหญ่ เเต่ก้ยังอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่ได้มีเซกส์ กันตลอดที่ตั้งท้องเเละอย่างที่เคยบอกเค้าก็ไปมีเซกส์กับคนอื่น เรื่อยๆ เเละทะเลาะกัน บางครั้งเค้าทิ้งให้เราอยู่คนเดียว เป็นวันสองวัน เป็นเเบบนี้จนกระทั้ง อายุครรภ์ของเราได้ 8 เดือนกว่าๆใกล้คลอด เราลาคลอดไว้ 1 เดือนกว่าๆตรงกับช่วงท้ายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตาของเราเข้าโรงพยาบาลเเละเสียชีวิตเราก้ลาคลอดตั้งเเต่นั้นคะ ในวันนั้นเองวันที่เราต้องกลับบ้านเค้าก็อาสาไปส่งคะ โดยการนั่งรถบัส (เพราะเราตั้งใจไปคลอดอยู่บ้านคะ)
จนกระทั้ง เราถึงบ้านคะเค้ามีเวลาเเค่หนึ่งวัน ในการอยู่บ้านเพราะลางานไว้เเค่ 1 วัน เค้าส่งเราที่บ้านของเราเสร็จเค้าก้หายไป อยู่ที่บ้านของเค้าโดยที่ไม่ได้มีการดูเเลอะไรเลย เเม้เเต่เค้ากลับไปทำงานที่ สปก. ก็ไม่มีเเม้ข้อความสักข้อความบอกว่ากลับช่วงเวลาไหน เค้าถึง สกป. ก็หายไปเลยคะไม่ได้ติดต่อเราเราก็ยุ่งกับงานศพของคุณตาคะ จนกระทั้งก่อนวันเผาช่วงเย็นเค้าโทหาเราโดย**ก่อนหน้านี้เราโทรตามเค้าตลอดทุกวันเเต่ไม่ได้มีการตอบกลับเเต่อย่างใด
ในวันนั้นเค้าพูดให้เราตัดใจเรื่องเค้า เค้าบอกกับเราว่าอยากอยู่คนเดียว อยากเที่ยวอยากอยู่เงียบๆไม่มีใคร โดยทั้งๆที่ลูกของเค้ากับเรากำลังจะออกมาดูโลก เค้าบอกให้เราตัดใจ เราคือความรักเด็กๆที่เค้ามีเเละเคยรักมาก ที่เค้าพูดเช่นนี้ออกมาเพราะอยากเคลียตัวเองเพื่อจะได้มีชีวิตนำพาตัวเค้าเองไปอยู่กับผู้หญิงที่เค้าเพิ่งจะได้รู้จักกัน (เค้าใช้ชีวิตด้วยกันตั้งเเต่เรากลับบ้านไปคลอดโดยที่เราอยู่ที่ต่างจังหวัด) เราเสียใจมากจนอยากจะตายในคำพูดนั้นเราคุยเเละได้บอกเเม่ของเขาไปในคำพูดที่เค้าพูดกับเราออกมา เเละเเม่เค้าปลอบใจเราว่า ไม่มีอะไรหรอก เพื่อให้เราสบายใจไม่เครียดกับเรื่องนี้ เราก้บอกเลยเสียใจมากคะทั้งที่เค้าบอกว่าเค้ารักเรา เเล้วเค้าหายไปจนกระทั้งหลังจากเผาศพคุณตาไป 7 วัน เรามีน้ำคร่ำไหลออกทางช่องคลอด เราตกใจรีบบอกเเม่ของเราเเละเเม่ของเขา ในทันทีไม่กิน 30 นาที ทางปู่เเละย่าก็มาถึงบ้านของเราคะเเละได้นำพาเราไปที่โรงพยาบาลประจำตัวอำเภอ ในเวลานั้นเราทักเเชทติดต่อเค้าไปในทุกๆทางที่สามารถทำได้ว่า เรากำลังจะคลอดนะ ลูกกำลังจะออกมาดูโลก โดยที่มีความหวังว่าเค้าจะเห็นเเก่ลูก ของเราเเต่เค้าเงียบไป จนถึงโรงพยาบาลเเละได้ทำงานตรวจเช็คประวัติเบื้องต้น ในระหว่างนั้นคุณปู่กับคุณย่าก็คอยเราอยู่ข้างๆก่อนเข้าห้องคลอดด้วยวามดีอกดีใจมากๆเลยก็ว่าได้ ท่านรอเราตั้งเเต่ ตี 2 ที่พาเราไป รพ. จนกระทั้งเราคลอด เวลา 12.45 ของอีกวันโดยการให้ยาเร่งคลอดทางน้ำเกลือเเละกินยา ท่านทั้งสองรออย่างใจจดใจจ่อจนได้พบหลาน ในห้องรอคลอดจะมีเพียงคุณพ่อเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ซึ่งเราไม่มีเเละเตียงข้างๆเค้ามีคนคอยช่วยเราทรมานอยู่ในนั้นเพียงคนเดียวบวกกับคิดถึงพ่อของลูกว่าเมื่อไรเค้าจะตอบกลับมา คิดในเชิงบวกว่าเค้าคงรู้เเล้วเเละรีบมาหาเราทันทีเเน่ๆ ให้กำลังใจตัวเองว่า คลอดเสร็จเค้าคงจะถึงที่โรงพยาบาลเเล้ว เเต่มันไม่ใช่ เราคลอดเสร๊จพยาบาลพาเราไปห้องพักเเละฝึกให้เราอุ้มเเละให้นมลูก หลังคลอด 20 นาที จากนั้นญาติทางฝ่ายบ้านของเราก้เข้ามาให้กำลังใจพร้อมเเม่ของเราก็มาเช่นกัน ฉันยิ้มเเละดีใจมาก ที่ลูกออกมาครบสมบูรณ์ทุกประการ เเละทุกคนก็ยิ้มเเละยินดีเช่นกัน เราถามเเม่ย่าว่า สามีเรามาถึงเเล้วใช่ไหม เค้าตอบเราว่าเดี่ยวก็มายังคงหาเวลาลางานกลับมาหาเรากับลูกอยู่ ย่าเลือกห้องพักดูอาการหลังคลอดของเรา เป็นห้องพิเศษเพื่อเราจะได้รับเเขกได้สะดวก เเละดูเเละลูกได้โดยที่ไม่มีเสียงเด็กคนอื่นร้องรบกวน ย่าช่วยดูเเลเราในระหว่างคลอดสลับกับเเม่เเละเป็นเเบบนั้นตลอด เกือบ 5 วัน ก็ยังคงไม่เจอหน้าพ่อของลูก โทรไปส่งข้อความเฟสไปก็เงียบหาย เราเลยทักเฟสไปถามพี่ที่เรารู้จักเเละทำงานที่เดียวกันกับสามี เค้าพูกกับเราว่าให้เราทำใจสามีเราไปไกลเเล้ว ให้กำลังใจเราว่าให้สู้เพื่อลูก เเล้วบอกเราว่าเค้าลาไปดูลูกเเล้วเเต่เพียงว่าเค้าไม่มาหาลูกเค้าไปอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนนั้น จนออกจากโรงพยาบาลเราก็ตัดสินใจไปอาศัยอยู่ที่บ้านย่า เเละอยู่ไฟตามความเชื่อโบราณ โดยมีผู้ใหญ่ฝั่งย่าช่วยดูเเล หายาหาข้าวช่วยดูลูกให้ ซึ่งเราหาไม่ได้จากไหนเเต่ได้จากย่า ระหว่างนั้นเราก้พยายาม ทักเเชทไปเค้าก้ตอบกลับมาเฉพาะช่วงที่เค้า ค่าใช้จ่ายไม่พอใช้ก็ขอเราก้ให้ ตามประสาคนเป็นภรรยา กลัวสามีอดตาย จนกระทั้งลูกของเราได้อายุครบ 15 วัน เค้ากลับมาคะมาดูลูก โดยมีเวลา 1 คืนเท่านั้นเค้าก็ช่วยเเค่ บางเวลานอกนั้นเค้าใช้เวลาอยู่กับ โทรศัพท์เเละเกม หมกตัวเองอยู่ในห้องไม่ได้ใส่ใจ ถึงเวลาจะกลับก็รีบจองตั๋วกลับโดยที่ไม่ได้ร่ำลาเราเเต่อย่างใด เเละหลังจากนั้น 2 วัน เราก็มีความรู้สึกว่าทำไมเฟสบุ๊คเค้าไม่อัพเดทเราค้นไปค้นมาเจออีกเฟสที่เค้า ปิดบังเเละเปิดเผยตัวเค้าเองกับผู้หญิงอีกคน โดยที่เราไม่รู้เค้าลงรูปคู่กันทำทุกอย่างเเทนเราอยู่ด้วยกันบอกรักกัน เราก็เเคบไว้ เเละได้บอกกับทางย่าเราไม่ไหวนะ เราขอเอาลูกไปอยู่บ้านก็ปลอบใจเราอีกรอบว่าจะจัดการเค้าให้ เช้าของอีกวันเราตัดสินใจกลับโดยให้ทางย่ามาส่งลูกกับเราที่บ้าน เเละย่าได้บอกว่าจะให้เค้ามาขอขมา เราหลังจากที่เค้ากลับมาบวช ในไม่ช้านี้ เราด้วยความที่รักเค้ามากเลยยอมอยู่คนเดียวเเละรอเค้ากลับมา ใกล้ถึงวันที่เค้าจะกลับมา ย่าเป็นคนไปตามตัวเค้าเเละเก็บของในห้องเช่าของเรากับเค้ามาเพื่อตัดปัญหาไม่ให้เค้าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีกเเละนำเค้ากลับมาบวช ก่อนบวชเค้ามาขอขมาเรา เเละเเม่ เเละพาเรากลับไปอยู่บ้าน ในวันบวชย่าอาสามารับเราอยู่บ้านกับลูกเเละเเม่ไปงานบวชที่เค้าบวชทดเเทนคุณพ่อเเม่ ที่บ้านของย่าเค้า บวชให้ปู่ของเค้าเเละพ่อของเค้า คะ เค้าบวช15 วันโดยบางวันที่เราว่างจากการดูลูกเราก็ทำทำเพลไปถวายคะ บวชเสร๊จครบ 15 วันในวันที่เค้าสึกลาสิขา นั้นเค้าก้ต้องมาเเต่งงานกับเราคะโดยบ้านเรา ทำเพียงพิธีเซ่นไหว้ผี บรรพบุรุษเเละเราไปเเต่งที่บ้านของเค้าเข้าพิธีสู่ขวัญผูกเเขน จบวันงานเเต่งคะ เราก้ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆ คือต่างคนต่างไปลูก เราฝากย่าไว้คะ ก็อยู่กินกันปกติได้ 1 อาทิตย์ เราก็บอกเค้าว่าเราไปจดทะเบียนสมรสกันไหม เค้าบอกได้เพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจ เราสองคนจดทะเบียนกันเสร็จเเล้วอยู่กินกันสักพักเราก้ได้งานที่จังหวัดใกล้ๆ คะเราก้เดินทางไปทำงานที่นั่นโดยอาศัยอยู่ที่นั่น ระหว่างที่อยู่ต่างจังหวัดหรือตั้งเเต่ เค้ากลับลงมาอยู่ที่บ้านเค้าชัดเจนว่าไม่มีใคร เเต่เค้าไม่ค่อยใส่ใจเรา มัวเเต่เล่นเกมหามรุ่งหามค่ำ งานไม่ทำเล่นเเต่เกมอะไรไม่ทำไม่หา ขอเเต่เงินแม่บางที่เราเกรงใจย่าก้ปฏิเสธไม่ได้เพราะไม่มีรายได้ ทำงานที่นั่นได้ 1 เดือน เราก้ตัดสินใจไปทำงานที่สิงค์โปร์โดยการแอบทุกคนไป ไม่บอกใครไปทำงานโมเดลคะ หรือพี่อาร์เด็กนั่งดริ้ง นั่นเอง ทำอยู่ประมาน 26 วันคะ (ก่อนอื่นต้องบอกเลยคะเรามารู้ตัวเองว่าเราไม่สามารถ ไปมีเซกกับเค้าเเลัอยู่กับเค้าได้เพราะเรื่องความหลังที่ฝังใจเราทำใจในช่วงที่ทำงานต่างจังหวัดคะ จนไม่ได้รู้สึกรักเเต่พยายามอยู่เพื่อลูก เพื่อคำว่าครอบครัวเเละเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลทบทวนว่า จะตัดสินใจเช่นไหนคะ) ในระหว่างที่เราจะบินไป เราก้เเอบไปทำพาสปอตเเละให้ส่งในที่อยู่ของพี่ที่รู้จักคะ แอบไปโดยบอกกับทุกคนว่าเราไปทำงานช่วงปิดเทอมที่ กทม. คะ (หลังจากคลอดเราตัดสินใจเรียน ต่อ ชั้น ปวส. คะ) วันเเรกที่ไปถึงที่นั่นมีทั้งความกังวลหลายอย่างโดยเราคิดเพื่อปลอบใจตัวเองว่าทำเพื่อลูกหาเงินไปให้ลูก ทำครั้งเดียวเเละจะไม่ทำอีก ถ้าพ่อมันไม่หา คนเป็นเเม่ต้องดิ้น คิดเเค่ว่าลูกต้องมีเงินกินนม คืนเเรกที่เริ่มงาน เราก้หาดริ้งตามโต๊ะคะ ไปเจอโต๊ะหนึ่งที่ดูๆจะไม่ค่อยโอกับคนไทยเท่าไรคะเเต่เค้าก็ให้เราไปนั่งด้วยเเละมีการคุยกัน เป็นภาษาไทยบ้างเเละทางกูเกิ้ลเเปลภาษาบ้าง คุยอยู่โตะนั้นก็นานพอสมควรเเละเเลกไลน์ กันตามปกติที่ทำกับโตะอื่น เพื่อให้เค้ามาซื้อสายสะพายให้เราอีกคะ เเต่เราไม่รู้เลยว่าเริ่มต้นการสนทนาวันนั้น ทำให้เรารู้สึกชอบเค้า เค้าตามมาดูดเเลเราทุกๆคืนเปย์ให้เราทุกอย่าง 2 วันที่ทำงานที่นั่น ช่วงเลิกงานเเล้วเค้าชวนเราออกไปกินข้าวหลังเลิกงานเเละอาสาไปส่งเราคะ เค้าพาเราไปบ้านเค้า เเละปล่อยให้เรานอน เราไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยคะ เพราะในใจเราก้คิดว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์นั้นมาเราจะคิดสะว่าเเค่ one night stan เเต่เราคิดผิดเค้าไม่ทำไรเราคะหมือนลองใจมั้งเเค่นอนกอดจนส่างเมาเเละไปส่งที่บ้านพักคะ เเละกลับมานอนเอาเเรงสู้งานต่อในคืนนี้คะ เค้าก้ทักเเชทกับเราตลอดเเทบทั้งวันที่เราตื่นนอน มาถึงอีกคืนเราทำงานตามปกติ เเต่วันนี้เราเมามากกินผสมกันจนตัวเองไม่ไหวเพราะไม่เคยกินเหล้านาน เค้ามารอดูเเลเราเช่นเดียวกับทุกวันที่ผ่านมา วันนี้เค้าต้องไปส่งเราที่บ้านพักเเต่เราเมาจนไม่รู้เรื่องมากจนเค้ากังวลเเละบวกกับเค้าก็เมาอยู่นิดหน่อยเเต่สามารถขับรถยนต์ได้ ในคืนนั้นทั้งเค้าเเละเรามากันทั้งคู่ เเละได้มีอะไรเกินเลยกัน จนเช้าเราไม่พูดอะไร เค้าบอกเค้าจะรับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำลงไป บอกชอบเรา ไม่อยากให้เราคิดกับเค้าเพียงคนชั่วข้ามคืน เค้าไม่รู้ตัวว่าชอบเราตอนไหนเเต่เค้าเป็นห่วงเราตั้งเเต่วันเเรกที่เจอ เพราะหลายๆอย่างที่เราคุยกันเราไม่ได้ปัดใจเชื่อเเต่เราก็ตามน้ำคะ ตัดสินใจ เหมือนคบกัน ไปเที่ยวด้วยกันกินนอนด้วยกันทุกคืนหลังจากนั้นคะเค้ารับผิดชอบเราทุกอย่างเเละไปรับส่งเราทุกคืนเอาใจใส่เรา เราก็ชอบเค้านะคะเเต่ด้วยความที่ว่า เรามีสามีอยู่เเล้วเเต่ สามีเราไม่เคยใส่ใจกันเเม้เเต่โทหาก็ไม่มีคะระหว่างที่ห่างกัน เราก้เผื่อใจตัวเองว่าหากเรากลับไทยไปเราคงต้องตัดใจ ไปอยู่กับความถูกต้อง เรารักเค้าเข้าไปโดยไม่รู้ตัวบวกกับเเพ้ความเอาใจใส่ของผู้ชายคนนี้เราก็รู้ตัวเลยว่า ความรู้สกที่เราเคยใส่กับสามี มันไม่ใช่รักเเบบเดิมอีกเเล้ว ตอนเเรกเราลองใจตัวเองอยู่นานว่ารักใครกันเเน่ จนมารู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักสามีของเราอีกต่อไป ก่อนถึงวันกลับไทย เค้าบอกจะไปหาเราที่ไทย ที่ กทม. เราก้ได้เพียงรับฟังเเต่ยังไม่ปักใจเชื่อคะว่าเค้าจะไปจริงๆ ก่อนเรากลับเค้าใส่เงินมาในกระเป๋าตังเรา ประมา 500 เหรียญ หรือประมาน 12,000 บาทไทยโดยที่มารู้ตัวตอนอยู่บนเครื่องกลับไทยเเล้ว เราถึงไทยก้รีบโทหาเค้าทันที เเละคุยกันทุกวันหลังจากที่กลับโดยไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเราค่อยๆ ก่อมาเรื่อยๆ
ต้องการหย่ากับสามี เเต่สามีไม่ยอมเซ็นใบหย่าคะ EP1
จนกระทั้ง เราถึงบ้านคะเค้ามีเวลาเเค่หนึ่งวัน ในการอยู่บ้านเพราะลางานไว้เเค่ 1 วัน เค้าส่งเราที่บ้านของเราเสร็จเค้าก้หายไป อยู่ที่บ้านของเค้าโดยที่ไม่ได้มีการดูเเลอะไรเลย เเม้เเต่เค้ากลับไปทำงานที่ สปก. ก็ไม่มีเเม้ข้อความสักข้อความบอกว่ากลับช่วงเวลาไหน เค้าถึง สกป. ก็หายไปเลยคะไม่ได้ติดต่อเราเราก็ยุ่งกับงานศพของคุณตาคะ จนกระทั้งก่อนวันเผาช่วงเย็นเค้าโทหาเราโดย**ก่อนหน้านี้เราโทรตามเค้าตลอดทุกวันเเต่ไม่ได้มีการตอบกลับเเต่อย่างใด
ในวันนั้นเค้าพูดให้เราตัดใจเรื่องเค้า เค้าบอกกับเราว่าอยากอยู่คนเดียว อยากเที่ยวอยากอยู่เงียบๆไม่มีใคร โดยทั้งๆที่ลูกของเค้ากับเรากำลังจะออกมาดูโลก เค้าบอกให้เราตัดใจ เราคือความรักเด็กๆที่เค้ามีเเละเคยรักมาก ที่เค้าพูดเช่นนี้ออกมาเพราะอยากเคลียตัวเองเพื่อจะได้มีชีวิตนำพาตัวเค้าเองไปอยู่กับผู้หญิงที่เค้าเพิ่งจะได้รู้จักกัน (เค้าใช้ชีวิตด้วยกันตั้งเเต่เรากลับบ้านไปคลอดโดยที่เราอยู่ที่ต่างจังหวัด) เราเสียใจมากจนอยากจะตายในคำพูดนั้นเราคุยเเละได้บอกเเม่ของเขาไปในคำพูดที่เค้าพูดกับเราออกมา เเละเเม่เค้าปลอบใจเราว่า ไม่มีอะไรหรอก เพื่อให้เราสบายใจไม่เครียดกับเรื่องนี้ เราก้บอกเลยเสียใจมากคะทั้งที่เค้าบอกว่าเค้ารักเรา เเล้วเค้าหายไปจนกระทั้งหลังจากเผาศพคุณตาไป 7 วัน เรามีน้ำคร่ำไหลออกทางช่องคลอด เราตกใจรีบบอกเเม่ของเราเเละเเม่ของเขา ในทันทีไม่กิน 30 นาที ทางปู่เเละย่าก็มาถึงบ้านของเราคะเเละได้นำพาเราไปที่โรงพยาบาลประจำตัวอำเภอ ในเวลานั้นเราทักเเชทติดต่อเค้าไปในทุกๆทางที่สามารถทำได้ว่า เรากำลังจะคลอดนะ ลูกกำลังจะออกมาดูโลก โดยที่มีความหวังว่าเค้าจะเห็นเเก่ลูก ของเราเเต่เค้าเงียบไป จนถึงโรงพยาบาลเเละได้ทำงานตรวจเช็คประวัติเบื้องต้น ในระหว่างนั้นคุณปู่กับคุณย่าก็คอยเราอยู่ข้างๆก่อนเข้าห้องคลอดด้วยวามดีอกดีใจมากๆเลยก็ว่าได้ ท่านรอเราตั้งเเต่ ตี 2 ที่พาเราไป รพ. จนกระทั้งเราคลอด เวลา 12.45 ของอีกวันโดยการให้ยาเร่งคลอดทางน้ำเกลือเเละกินยา ท่านทั้งสองรออย่างใจจดใจจ่อจนได้พบหลาน ในห้องรอคลอดจะมีเพียงคุณพ่อเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ซึ่งเราไม่มีเเละเตียงข้างๆเค้ามีคนคอยช่วยเราทรมานอยู่ในนั้นเพียงคนเดียวบวกกับคิดถึงพ่อของลูกว่าเมื่อไรเค้าจะตอบกลับมา คิดในเชิงบวกว่าเค้าคงรู้เเล้วเเละรีบมาหาเราทันทีเเน่ๆ ให้กำลังใจตัวเองว่า คลอดเสร็จเค้าคงจะถึงที่โรงพยาบาลเเล้ว เเต่มันไม่ใช่ เราคลอดเสร๊จพยาบาลพาเราไปห้องพักเเละฝึกให้เราอุ้มเเละให้นมลูก หลังคลอด 20 นาที จากนั้นญาติทางฝ่ายบ้านของเราก้เข้ามาให้กำลังใจพร้อมเเม่ของเราก็มาเช่นกัน ฉันยิ้มเเละดีใจมาก ที่ลูกออกมาครบสมบูรณ์ทุกประการ เเละทุกคนก็ยิ้มเเละยินดีเช่นกัน เราถามเเม่ย่าว่า สามีเรามาถึงเเล้วใช่ไหม เค้าตอบเราว่าเดี่ยวก็มายังคงหาเวลาลางานกลับมาหาเรากับลูกอยู่ ย่าเลือกห้องพักดูอาการหลังคลอดของเรา เป็นห้องพิเศษเพื่อเราจะได้รับเเขกได้สะดวก เเละดูเเละลูกได้โดยที่ไม่มีเสียงเด็กคนอื่นร้องรบกวน ย่าช่วยดูเเลเราในระหว่างคลอดสลับกับเเม่เเละเป็นเเบบนั้นตลอด เกือบ 5 วัน ก็ยังคงไม่เจอหน้าพ่อของลูก โทรไปส่งข้อความเฟสไปก็เงียบหาย เราเลยทักเฟสไปถามพี่ที่เรารู้จักเเละทำงานที่เดียวกันกับสามี เค้าพูกกับเราว่าให้เราทำใจสามีเราไปไกลเเล้ว ให้กำลังใจเราว่าให้สู้เพื่อลูก เเล้วบอกเราว่าเค้าลาไปดูลูกเเล้วเเต่เพียงว่าเค้าไม่มาหาลูกเค้าไปอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนนั้น จนออกจากโรงพยาบาลเราก็ตัดสินใจไปอาศัยอยู่ที่บ้านย่า เเละอยู่ไฟตามความเชื่อโบราณ โดยมีผู้ใหญ่ฝั่งย่าช่วยดูเเล หายาหาข้าวช่วยดูลูกให้ ซึ่งเราหาไม่ได้จากไหนเเต่ได้จากย่า ระหว่างนั้นเราก้พยายาม ทักเเชทไปเค้าก้ตอบกลับมาเฉพาะช่วงที่เค้า ค่าใช้จ่ายไม่พอใช้ก็ขอเราก้ให้ ตามประสาคนเป็นภรรยา กลัวสามีอดตาย จนกระทั้งลูกของเราได้อายุครบ 15 วัน เค้ากลับมาคะมาดูลูก โดยมีเวลา 1 คืนเท่านั้นเค้าก็ช่วยเเค่ บางเวลานอกนั้นเค้าใช้เวลาอยู่กับ โทรศัพท์เเละเกม หมกตัวเองอยู่ในห้องไม่ได้ใส่ใจ ถึงเวลาจะกลับก็รีบจองตั๋วกลับโดยที่ไม่ได้ร่ำลาเราเเต่อย่างใด เเละหลังจากนั้น 2 วัน เราก็มีความรู้สึกว่าทำไมเฟสบุ๊คเค้าไม่อัพเดทเราค้นไปค้นมาเจออีกเฟสที่เค้า ปิดบังเเละเปิดเผยตัวเค้าเองกับผู้หญิงอีกคน โดยที่เราไม่รู้เค้าลงรูปคู่กันทำทุกอย่างเเทนเราอยู่ด้วยกันบอกรักกัน เราก็เเคบไว้ เเละได้บอกกับทางย่าเราไม่ไหวนะ เราขอเอาลูกไปอยู่บ้านก็ปลอบใจเราอีกรอบว่าจะจัดการเค้าให้ เช้าของอีกวันเราตัดสินใจกลับโดยให้ทางย่ามาส่งลูกกับเราที่บ้าน เเละย่าได้บอกว่าจะให้เค้ามาขอขมา เราหลังจากที่เค้ากลับมาบวช ในไม่ช้านี้ เราด้วยความที่รักเค้ามากเลยยอมอยู่คนเดียวเเละรอเค้ากลับมา ใกล้ถึงวันที่เค้าจะกลับมา ย่าเป็นคนไปตามตัวเค้าเเละเก็บของในห้องเช่าของเรากับเค้ามาเพื่อตัดปัญหาไม่ให้เค้าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีกเเละนำเค้ากลับมาบวช ก่อนบวชเค้ามาขอขมาเรา เเละเเม่ เเละพาเรากลับไปอยู่บ้าน ในวันบวชย่าอาสามารับเราอยู่บ้านกับลูกเเละเเม่ไปงานบวชที่เค้าบวชทดเเทนคุณพ่อเเม่ ที่บ้านของย่าเค้า บวชให้ปู่ของเค้าเเละพ่อของเค้า คะ เค้าบวช15 วันโดยบางวันที่เราว่างจากการดูลูกเราก็ทำทำเพลไปถวายคะ บวชเสร๊จครบ 15 วันในวันที่เค้าสึกลาสิขา นั้นเค้าก้ต้องมาเเต่งงานกับเราคะโดยบ้านเรา ทำเพียงพิธีเซ่นไหว้ผี บรรพบุรุษเเละเราไปเเต่งที่บ้านของเค้าเข้าพิธีสู่ขวัญผูกเเขน จบวันงานเเต่งคะ เราก้ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆ คือต่างคนต่างไปลูก เราฝากย่าไว้คะ ก็อยู่กินกันปกติได้ 1 อาทิตย์ เราก็บอกเค้าว่าเราไปจดทะเบียนสมรสกันไหม เค้าบอกได้เพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจ เราสองคนจดทะเบียนกันเสร็จเเล้วอยู่กินกันสักพักเราก้ได้งานที่จังหวัดใกล้ๆ คะเราก้เดินทางไปทำงานที่นั่นโดยอาศัยอยู่ที่นั่น ระหว่างที่อยู่ต่างจังหวัดหรือตั้งเเต่ เค้ากลับลงมาอยู่ที่บ้านเค้าชัดเจนว่าไม่มีใคร เเต่เค้าไม่ค่อยใส่ใจเรา มัวเเต่เล่นเกมหามรุ่งหามค่ำ งานไม่ทำเล่นเเต่เกมอะไรไม่ทำไม่หา ขอเเต่เงินแม่บางที่เราเกรงใจย่าก้ปฏิเสธไม่ได้เพราะไม่มีรายได้ ทำงานที่นั่นได้ 1 เดือน เราก้ตัดสินใจไปทำงานที่สิงค์โปร์โดยการแอบทุกคนไป ไม่บอกใครไปทำงานโมเดลคะ หรือพี่อาร์เด็กนั่งดริ้ง นั่นเอง ทำอยู่ประมาน 26 วันคะ (ก่อนอื่นต้องบอกเลยคะเรามารู้ตัวเองว่าเราไม่สามารถ ไปมีเซกกับเค้าเเลัอยู่กับเค้าได้เพราะเรื่องความหลังที่ฝังใจเราทำใจในช่วงที่ทำงานต่างจังหวัดคะ จนไม่ได้รู้สึกรักเเต่พยายามอยู่เพื่อลูก เพื่อคำว่าครอบครัวเเละเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลทบทวนว่า จะตัดสินใจเช่นไหนคะ) ในระหว่างที่เราจะบินไป เราก้เเอบไปทำพาสปอตเเละให้ส่งในที่อยู่ของพี่ที่รู้จักคะ แอบไปโดยบอกกับทุกคนว่าเราไปทำงานช่วงปิดเทอมที่ กทม. คะ (หลังจากคลอดเราตัดสินใจเรียน ต่อ ชั้น ปวส. คะ) วันเเรกที่ไปถึงที่นั่นมีทั้งความกังวลหลายอย่างโดยเราคิดเพื่อปลอบใจตัวเองว่าทำเพื่อลูกหาเงินไปให้ลูก ทำครั้งเดียวเเละจะไม่ทำอีก ถ้าพ่อมันไม่หา คนเป็นเเม่ต้องดิ้น คิดเเค่ว่าลูกต้องมีเงินกินนม คืนเเรกที่เริ่มงาน เราก้หาดริ้งตามโต๊ะคะ ไปเจอโต๊ะหนึ่งที่ดูๆจะไม่ค่อยโอกับคนไทยเท่าไรคะเเต่เค้าก็ให้เราไปนั่งด้วยเเละมีการคุยกัน เป็นภาษาไทยบ้างเเละทางกูเกิ้ลเเปลภาษาบ้าง คุยอยู่โตะนั้นก็นานพอสมควรเเละเเลกไลน์ กันตามปกติที่ทำกับโตะอื่น เพื่อให้เค้ามาซื้อสายสะพายให้เราอีกคะ เเต่เราไม่รู้เลยว่าเริ่มต้นการสนทนาวันนั้น ทำให้เรารู้สึกชอบเค้า เค้าตามมาดูดเเลเราทุกๆคืนเปย์ให้เราทุกอย่าง 2 วันที่ทำงานที่นั่น ช่วงเลิกงานเเล้วเค้าชวนเราออกไปกินข้าวหลังเลิกงานเเละอาสาไปส่งเราคะ เค้าพาเราไปบ้านเค้า เเละปล่อยให้เรานอน เราไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยคะ เพราะในใจเราก้คิดว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์นั้นมาเราจะคิดสะว่าเเค่ one night stan เเต่เราคิดผิดเค้าไม่ทำไรเราคะหมือนลองใจมั้งเเค่นอนกอดจนส่างเมาเเละไปส่งที่บ้านพักคะ เเละกลับมานอนเอาเเรงสู้งานต่อในคืนนี้คะ เค้าก้ทักเเชทกับเราตลอดเเทบทั้งวันที่เราตื่นนอน มาถึงอีกคืนเราทำงานตามปกติ เเต่วันนี้เราเมามากกินผสมกันจนตัวเองไม่ไหวเพราะไม่เคยกินเหล้านาน เค้ามารอดูเเลเราเช่นเดียวกับทุกวันที่ผ่านมา วันนี้เค้าต้องไปส่งเราที่บ้านพักเเต่เราเมาจนไม่รู้เรื่องมากจนเค้ากังวลเเละบวกกับเค้าก็เมาอยู่นิดหน่อยเเต่สามารถขับรถยนต์ได้ ในคืนนั้นทั้งเค้าเเละเรามากันทั้งคู่ เเละได้มีอะไรเกินเลยกัน จนเช้าเราไม่พูดอะไร เค้าบอกเค้าจะรับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำลงไป บอกชอบเรา ไม่อยากให้เราคิดกับเค้าเพียงคนชั่วข้ามคืน เค้าไม่รู้ตัวว่าชอบเราตอนไหนเเต่เค้าเป็นห่วงเราตั้งเเต่วันเเรกที่เจอ เพราะหลายๆอย่างที่เราคุยกันเราไม่ได้ปัดใจเชื่อเเต่เราก็ตามน้ำคะ ตัดสินใจ เหมือนคบกัน ไปเที่ยวด้วยกันกินนอนด้วยกันทุกคืนหลังจากนั้นคะเค้ารับผิดชอบเราทุกอย่างเเละไปรับส่งเราทุกคืนเอาใจใส่เรา เราก็ชอบเค้านะคะเเต่ด้วยความที่ว่า เรามีสามีอยู่เเล้วเเต่ สามีเราไม่เคยใส่ใจกันเเม้เเต่โทหาก็ไม่มีคะระหว่างที่ห่างกัน เราก้เผื่อใจตัวเองว่าหากเรากลับไทยไปเราคงต้องตัดใจ ไปอยู่กับความถูกต้อง เรารักเค้าเข้าไปโดยไม่รู้ตัวบวกกับเเพ้ความเอาใจใส่ของผู้ชายคนนี้เราก็รู้ตัวเลยว่า ความรู้สกที่เราเคยใส่กับสามี มันไม่ใช่รักเเบบเดิมอีกเเล้ว ตอนเเรกเราลองใจตัวเองอยู่นานว่ารักใครกันเเน่ จนมารู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักสามีของเราอีกต่อไป ก่อนถึงวันกลับไทย เค้าบอกจะไปหาเราที่ไทย ที่ กทม. เราก้ได้เพียงรับฟังเเต่ยังไม่ปักใจเชื่อคะว่าเค้าจะไปจริงๆ ก่อนเรากลับเค้าใส่เงินมาในกระเป๋าตังเรา ประมา 500 เหรียญ หรือประมาน 12,000 บาทไทยโดยที่มารู้ตัวตอนอยู่บนเครื่องกลับไทยเเล้ว เราถึงไทยก้รีบโทหาเค้าทันที เเละคุยกันทุกวันหลังจากที่กลับโดยไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเราค่อยๆ ก่อมาเรื่อยๆ