ขออนุญาตแชร์บทความสั้นๆ ในการพัฒนาจิตใจ เพื่อปลด "หนี้" อารมณ์นะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ ท่าน

ที่มา
https://www.facebook.com/dungtrin/posts/2446500835407060

Dungtrin
August 6 at 7:25 AM · 

ถ้าบริหารให้กำไรมากกว่าหนี้
ยิ่งเกินไปเท่าไร
เจ้าของกิจการยิ่งสบายใจขึ้นเท่านั้น
คำว่า ‘กลัวหมดตัว’
จะไม่เข้ามาอยู่ในหัวเลย

เช่นกัน
หากจัดหาอารมณ์ชนิดที่เป็นกำไร
มาสู่ใจได้มากกว่าอารมณ์ที่เป็นหนี้หรือขาดทุน
คุณจะไม่มีทางถึงวันที่
รู้สึกใกล้จะหมดตัว ไม่มีอะไรเหลือ
ต่อให้ทรัพย์สินหายสูญไปทั้งหมด
เพราะสิ่งที่ติดตัวคนเราอย่างแท้จริง
คืออารมณ์ อันเป็นของภายใน
หาใช่สิ่งอื่นใดภายนอก

คิดง่ายๆ นักบวชผู้พร้อมบวชจริง
สละเรือนเข้าสู่ป่า
เหลือแค่ผ้าพันตัวผืนเดียว
ยังยิ้มใส เหมือนมีกำไรไพศาลเกินตัว
นั่นเพราะท่านได้สมบัติใหม่
อันได้แก่อารมณ์วิเวก
อันเกิดจากการสละเรือน
เป็นผู้ไม่ต้องมีอะไรแบกไว้
เพื่อไม่ต้องเป็นผู้ล้มละลายทางอารมณ์

เบื้องต้นแค่สังเกตและจดจำไว้ง่ายๆ
อารมณ์ไหนช่วยให้ตัวเบา ใจเบา
อารมณ์นั้นเรียกว่า ‘กำไร’
อารมณ์ไหนกดให้ตัวหนัก ใจหนัก
อารมณ์นั้นเรียกว่า ‘ขาดทุน’
อารมณ์ไหนตรึงให้ติดค้าง คาใจ
อารมณ์นั้นคือ ‘หนี้’
อารมณ์ไหนแกะให้หลุดจากอาการติดค้าง
อารมณ์นั้นคือการ ‘ปลดหนี้’

แค่นั้นแหละ 
คุณรอพบกับความมหัศจรรย์ได้เลย
แค่สองสามวัน
ที่เรียกชื่ออารมณ์หนึ่งๆได้ถูก ณ ขณะที่มันปรากฏ
จะเกิดสิ่งใหม่ขึ้นในชีวิต
นั่นคือ ความมั่งคั่งทางอารมณ์สุข
ชนิดที่ไม่มีภาวะเศรษฐกิจใดๆ
มากดขี่ให้รู้สึกยากจนข้นแค้นได้

ซึ่งเหตุผลก็เพราะ ‘สติรู้อารมณ์ทั้งปวง’
จะมาเป็นนายใหญ่แทน ‘โมหะหลงอารมณ์ทั้งปวง’
ถึงจุดนั้น
คุณจะรู้สึกเหมือนคิดได้แบบที่ไม่เคยได้คิด
เช่น ทำไมต้องหวงหนี้ทางใจก้อนนี้ไว้ด้วย
แค่ทิ้ง แค่เลิกแบก แค่ปล่อยมันไว้ข้างหลัง
โลกก็โล่ง ใจก็ว่าง 
ห่างจากอารมณ์หมดตัวล้มละลายออกมาไกลแล้ว

ตรงข้าม 
หากยังจมจ่อม หลงยึด หลงหวงอารมณ์ขาดทุนไว้ไม่เลิก
ต่อให้มีทรัพย์สินศฤงคารบานตะไท
หลายคนก็อยากฆ่าตัวตาย หายไปจากโลกนี้กันได้แล้ว!