๓. ธรรมวิหาริกสูตรที่ ๑
[๗๓] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่าผู้อยู่ในธรรมๆ ดังนี้ ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม
ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเรียนธรรมคือ สุตตะ เคยยะ <--------------------------------------------------- A
เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการเรียนธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่าเป็นผู้มากด้วยการเรียน
ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมแสดงธรรมตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้ว แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร <--------------------------------- B
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการแสดงธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่าเป็นผู้มากด้วยการแสดงธรรม ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมกระทำการสาธยายธรรมตามที่ได้สดับมาแล้วตามที่ได้เรียนมาแล้ว โดยพิสดาร <--------------------------- C
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการสาธยายธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่า เป็นผู้มากด้วยการสาธยาย
ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ
อีกประการหนึ่ง
ภิกษุย่อมตรึกตาม ตรองตาม เพ่งตามด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้ว <------------------- D
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไปละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการตรึกตามธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่า เป็นผู้มากด้วยการตรึกธรรม
ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถาอุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ <----------- E
เธอย่อมไม่ปล่อยให้วันคืนล่วงไป ไม่ละการหลีกออกเร้นอยู่ ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการเล่าเรียนธรรมนั้น ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรมอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุ เราแสดง
ภิกษุผู้มากด้วยการเล่าเรียนธรรม <----------- A
แสดง
ภิกษุผู้มากด้วยการแสดงธรรม <-------------- B
แสดง
ภิกษุผู้มากด้วยการสาธยายธรรม <----------- C
แสดง
ภิกษุผู้มากด้วยการตรึกธรรม <---------------- D
แสดง
ภิกษุผู้อยู่ในธรรม <----------------------------- E
ด้วยประการฉะนี้ ดูกรภิกษุ กิจใดอันศาสดาผู้หวังประโยชน์เกื้อกูลอนุเคราะห์ อาศัยความเอ็นดู พึงกระทำแก่สาวกทั้งหลาย
กิจนั้นเราได้ทำแก่เธอทั้งหลายแล้ว
ดูกรภิกษุ นั่นโคนต้นไม้ นั่นเรือนว่าง เธอจงเพ่งฌาน อย่าประมาท อย่าเป็นผู้มีความเดือดร้อนในภายหลัง <---------------- Conclusion
นี้เป็นอนุสาสนีของเราเพื่อเธอทั้งหลาย ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=22&A=2024&Z=2057
ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรมอย่างนี้แล......(2)
[๗๓] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่าผู้อยู่ในธรรมๆ ดังนี้ ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม
ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเรียนธรรมคือ สุตตะ เคยยะ <--------------------------------------------------- A
เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการเรียนธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่าเป็นผู้มากด้วยการเรียน ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมแสดงธรรมตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้ว แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร <--------------------------------- B
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการแสดงธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่าเป็นผู้มากด้วยการแสดงธรรม ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมกระทำการสาธยายธรรมตามที่ได้สดับมาแล้วตามที่ได้เรียนมาแล้ว โดยพิสดาร <--------------------------- C
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการสาธยายธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่า เป็นผู้มากด้วยการสาธยาย ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมตรึกตาม ตรองตาม เพ่งตามด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้ว <------------------- D
เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไปละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการตรึกตามธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่า เป็นผู้มากด้วยการตรึกธรรม ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถาอุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ <----------- E
เธอย่อมไม่ปล่อยให้วันคืนล่วงไป ไม่ละการหลีกออกเร้นอยู่ ประกอบความสงบใจในภายใน
เพราะการเล่าเรียนธรรมนั้น ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรมอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุ เราแสดงภิกษุผู้มากด้วยการเล่าเรียนธรรม <----------- A
แสดงภิกษุผู้มากด้วยการแสดงธรรม <-------------- B
แสดงภิกษุผู้มากด้วยการสาธยายธรรม <----------- C
แสดงภิกษุผู้มากด้วยการตรึกธรรม <---------------- D
แสดงภิกษุผู้อยู่ในธรรม <----------------------------- E
ด้วยประการฉะนี้ ดูกรภิกษุ กิจใดอันศาสดาผู้หวังประโยชน์เกื้อกูลอนุเคราะห์ อาศัยความเอ็นดู พึงกระทำแก่สาวกทั้งหลาย
กิจนั้นเราได้ทำแก่เธอทั้งหลายแล้ว
ดูกรภิกษุ นั่นโคนต้นไม้ นั่นเรือนว่าง เธอจงเพ่งฌาน อย่าประมาท อย่าเป็นผู้มีความเดือดร้อนในภายหลัง <---------------- Conclusion
นี้เป็นอนุสาสนีของเราเพื่อเธอทั้งหลาย ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=22&A=2024&Z=2057