พระศาสดาว่า..การด่าบริภาษเจ้าลัทธิอื่นผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม...นั้นไม่ควร ไม่ต้องกล่าวถึงผู้สมบูรณ์ด้วยทิฐิ..เลย

[๗๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว

          - ศาสดาชื่อว่าสุเนตตะเป็นเจ้าลัทธิ ปราศจากความกำหนัดในกาม ก็สุเนตตศาสดานั้นมีสาวกอยู่หลายร้อยคน
            เธอแสดงธรรมให้สาวกฟัง เพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก

            สาวกเหล่าใด เมื่อสุเนตตศาสดากำลังแสดงธรรมเพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดา <================================== A 
            ชั้นพรหมโลก ไม่ยังจิตให้เลื่อมใส สาวกเหล่านั้น เมื่อตายไปได้เข้าถึงอบาย
            ทุคติ วินิบาต นรก

             ส่วนสาวกเหล่าใด เมื่อสุเนตตศาสดากำลังแสดงธรรมเพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก ยังจิตให้เลื่อมใส  <========= B
             สาวกเหล่านั้นเมื่อตายไป ได้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ฯ

         ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว
            - ศาสดาชื่อว่ามูคปักขะ ฯลฯ
            - ศาสดาชื่อว่าอรเนมิ ฯลฯ
            - ศาสดาชื่อว่ากุททาละ ฯลฯ
            - ศาสดาชื่อว่าหัตถิปาละ ฯลฯ
            - ศาสดาชื่อว่าโชติปาละ ฯลฯ
            - ศาสดาชื่อว่าอรกะ เป็นเจ้าลัทธิ ปราศจากความกำหนัดในกาม ก็อรกศาสดานั้น มีสาวกอยู่หลายร้อยคน
              เธอแสดงธรรมให้สาวกฟัง เพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก

             สาวกเหล่าใด เมื่ออรกศาสดากำลังแสดงธรรมเพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก ไม่ยังจิตให้เลื่อมใส <========= A
             สาวกเหล่านั้น เมื่อตายไป ได้เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก

            ส่วนสาวกเหล่าใด เมื่ออรกศาสดากำลังแสดงธรรมเพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก ยังจิตให้เลื่อมใส <======== B
            สาวกเหล่านั้น เมื่อตายไป ได้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน

ผู้ใดมีจิตประทุษร้าย พึงด่า พึงบริภาษศาสดาเจ้าลัทธิทั้ง ๗ นี้ ผู้เป็นเจ้าลัทธิ ปราศจากความกำหนัดในกาม <================= A
มีบริวารหลายร้อยคน พร้อมด้วยหมู่สาวก ผู้นั้นจะพึงประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมากหรือ

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า อย่างนั้นพระเจ้าข้า ฯ

พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดมีจิตประทุษร้าย พึงด่า พึงบริภาษศาสดาเจ้าลัทธิทั้ง ๗ นี้ ผู้เป็นเจ้าลัทธิ ปราศจากความกำหนัดในกาม
มีบริวารหลายร้อยคน พร้อมด้วยหมู่สาวก ผู้นั้นพึงประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก

แต่ผู้ใดมีจิตประทุษร้ายด่าบริภาษบุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยทิฐิคนเดียว ผู้นี้ย่อมประสบกรรมมิใช่บุญมากกว่านั้นอีก  <======= AAAAA...
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร

เพราะเราไม่กล่าวความอดทนเห็นปานนี้ โดยเฉพาะในเพื่อนพรหมจรรย์ภายนอกจากธรรมวินัยนี้ <========================= C

ดูกรภิกษุทั้งหลายเพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักไม่มีจิตประทุษร้ายในเพื่อนพรหมจรรย์เลย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=23&A=2794&Z=2826
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่