ถามว่า ไปจมปลักอยู่กับสังขาร แล้วก็ไปหลงว่าสังขารเป็นทุกข์ ไปแก้ผิดจุด ไม่แก้ที่จิตใจตนไปหลงสังขาร คิดแต่จะไปแก้ที่สังขาร สังขารแก้ไม่ได้เพราะเป็นอนัตตา ทำให้จิตตนเป็นทุกข์ เพราะไปแก้สังขารไม่ได้ก็รู้ว่าทุกข์แต่ไม่รู้ว่าจะแก้ทุกข์อย่างไร เพราะไปหลงว่าสังขารเป็นทุกข์ กำหนดทุกข์ไม่ได้ ละสาเหตุแห่งทุกข์ไม่ถูกที่ถูกทาง ไม่รู้มรรค ดับทุกข์ไม่ถูก
ตอบว่า อันนี้เป็นความเข้าใจผิดนะว่า สิ่งที่ควรเป็น คือ สังขารเป็นอนัตตา แม้แต่จิตก็ยังเป็นอนัตตา ฉะนั้น "สังขาร" กับ "จิต" เป็นอนัตตา
สิ่งที่ไม่ให้เกิดทุกข์ ต้องเข้าใจทุกข์ ไม่เข้าใจทุกข์ ไม่ว่าจิตหรือสังขารเป็นทุกข์ได้ทั้งนั้น
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
จมปลักที่สังขาร
ตอบว่า อันนี้เป็นความเข้าใจผิดนะว่า สิ่งที่ควรเป็น คือ สังขารเป็นอนัตตา แม้แต่จิตก็ยังเป็นอนัตตา ฉะนั้น "สังขาร" กับ "จิต" เป็นอนัตตา
สิ่งที่ไม่ให้เกิดทุกข์ ต้องเข้าใจทุกข์ ไม่เข้าใจทุกข์ ไม่ว่าจิตหรือสังขารเป็นทุกข์ได้ทั้งนั้น
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต