One Spring Night
สายใยคืนใบไม้ผลิ

ใครที่เคยดู Something in the Rain มาก่อนแล้วมาดูเรื่องนี้คงจะรู้สึก เอ๊ะ หลายสิ่งหลายอย่างมากแน่ๆ นั่นก็เพราะจะมีความรู้สึกว่าทำไมทั้งสองเรื่องนี้ถึงได้คล้ายกันในหลายจุดขนาดนี้ ก็จะไม่ให้รู้สึกเช่นนั้นได้อย่างไรในเมื่อเป็นผลงานของผู้กำกับคนเดียวกัน อันซันซอก และคนเขียนบทก็คนเดียวกัน คิมอึน แล้วไหนจะนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากเรื่องก่อนอีก โดยเฉพาะพระเอกของเรื่อง จองแฮอิน ที่คราวนี้ได้เล่นคู่กับ ฮันจีมิน ส่วนชื่อเรื่องภาษาอังกฤษก็ไม่วายต้องเกี่ยวกับฤดูอีกเหมือนเดิม

นางเอกเป็นบรรณารักษ์ทั้งสวยและเก่งมีแฟนที่กำลังคบกันอยู่ทำงานธนาคาร เรียกว่า การงานดี ครอบครัวดี สมบูรณ์แบบ จัดเป็นแฟนเกรดเอที่ไม่ว่าใครก็คงอยากได้ ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานพอสมควร แต่ก็ยังไม่ลงเอยแต่งงานกันสักทีและดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะอยู่ในช่วงระหองระแหง ไม่หวานชื่นแบบเมื่อก่อน เมื่อนางเอกสาวได้พบกับพระเอกที่เป็นเภสัชกรร้านยาเข้าจึงเกิดสปาร์ครักกัน ทั้งสองตกหลุมรักกันอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแต่ก็ไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ได้อย่างราบรื่นเพราะนางเอกยังมีแฟนที่คบอยู่ และสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีกเมื่อพระเอกมีสถานะเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกติดอยู่หนึ่งคน จึงเป็นเรื่องยากที่คนรอบตัวนางเอกจะยอมรับ

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเรื่องนี้มีความคล้ายกับเรื่องก่อน Something in the Rain หลายสิ่งมาก อย่างแรกก็คือ เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอกที่มีอุปสรรคขวางกั้นให้ความรักของทั้งสองคนยุ่งยากวุ่นวาย อย่างเรื่องก่อนมีปัญหาที่นางเอกอายุเยอะกว่าพระเอก แต่กับเรื่องนี้ยุ่งยากมากกว่าตรงที่นางเอกยังมีแฟนค้างอยู่และพระเอกก็มีลูกติด แต่ถึงจะดราม่าชวนเหนื่อยใจเพียงใด ความโรแมนติกก็ยังต้องมีอยู่เพราะอันที่จริงแล้วแก่นเรื่องของมันก็คือเรื่องราวความรักที่ชวนซาบซึ้งต่างหาก

สิ่งหนึ่งที่จัดว่าโดดเด่นเลยก็ว่าได้ที่ทั้งสองเรื่องหยิบเอาประเด็นเกี่ยวกับปัญหาของผู้หญิงมาเล่าผ่านตัวละครในเรื่อง อย่างในเรื่องก่อนมีเรื่องการถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน ส่วนในเรื่องนี้เป็นเรื่องของบทบาทของผู้หญิงในครอบครัว ดังจะเห็นได้จากตัวละครพี่สาวของนางเอกถูกบังคับคลุมถุงชนแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักและโชคร้ายได้สามีที่แม้จะมีหน้าที่การงานดี มาจากครอบครัวดี แต่สันดานไม่ดี ตัวเองก็เลยต้องทุกข์ใจและทรมานกายเป็นเวลานานหลายปีกว่าที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเอง แม้ว่าเนื้อหาในส่วนนี้จะไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องแต่ก็ช่วยสร้างสีสันที่ชวนกดดันและน่าอึดอัดให้กับซีรีส์รักโรแมนติกนี้ได้เยอะทีเดียว เป็นการสะท้อนภาพสังคมของเกาหลีทั้งด้านครอบครัว การทำงานและสังคมได้เป็นอย่างดี

การเดินเรื่องทำได้ดีจึงทำให้ออกมาชวนติดตามทุกตอน ในขณะที่จังหวะการเล่าเรื่องก็ทำได้ดีเช่นกันจึงช่วยทำให้ดูสนุก มีอารมณ์ขันแทรกอยู่บ้างแต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจดูจริงๆอาจจะพลาดได้เพราะไม่ใช้ดนตรีประกอบช่วยเน้นให้คนดูมีอารมณ์ร่วมเหมือนเรื่องอื่นๆ ขนาดดนตรีประกอบทั่วไปก็ยังไม่ใส่มาเลย แต่ตั้งใจใช้เพลงประกอบใส่เข้ามาแทน เพลงเพราะดีงาม ขับเน้นอารมณ์ตัวละครได้ดี และก็เช่นเคย เลือกใช้เพลงภาษาอังกฤษเหมือนเรื่องก่อนเป๊ะ

ขบเคี้ยวหนัง
#OneSpringNight #NetflixTH