อาชีพที่พ่อแม่หวังไว้กับผู้จัดการที่เราใฝ่ฝันไว้
คือตอนนี้หนูอายุ 25 จบปริญญาตรีมา
เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่
คือตอนนี้หนูทำงานร้านอาหารอยู่ที่นึง
ทำมาได้ 2 ปีแล้วเงินเดือน 15,000 บาทโดยมีสวัสดิการคือประกันสังคม
กับรถมอเตอร์ไซค์อีก 1 คัน
ผู้จัดการร้านเป็นอาชีพที่เรา
ใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่สมัยเรียน
เพราะเราชอบงานบริการ
แต่พอมาถึงวันนี้ความฝันของเรา
ที่เราคิดไว้มันก็เริ่มจะสลาย
เมื่อพ่อแม่บังคับให้เป็นราชการ
โดยมีญาติห่างๆของป้าฝากเป็นคนฝากไว้
เรารู้สึกว่าเราโดนที่บ้าน
บังคับทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอด
แต่ถ้าถามอีกใจนึงดีไหมมันก็ดีนะ
แต่แม่บอกว่าราชการมันดีกว่า
ผู้จัดการร้านอาหารเขามีสวัสดิการให้เรา
โดยที่เราทำงานร้านอาหารอยู่ตอนนี้เหมือนกับเราไม่มีสวัสดิการอะไรเลย
ลาหยุดก็ไม่มีลาพักร้อนก็ไม่มี
หยุดราชการก็ไม่ได้ 2 แรง
วันหยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว
เราก็เข้าใจในความคิดของพ่อกับแม่นะ
แต่เราเครียดเราหนักใจมากกว่า
เราไม่รู้จะเลือกอะไรเลือกยังไง
คือเถ้าแก่เราออกรถมอเตอร์ไซค์ให้ 1 คัน
โดยที่พ่อกับแม่เรายังไม่รู้ว่าเรามีรถมอเตอร์ไซค์เพราะว่าพ่อกับแม่ไม่ให้
ขับมอเตอร์ไซค์เด็ดขาดเขากลัวอันตรายแต่ด้วยความดื้อของเรามันก็ห้ามเราไม่ได้หรอกโดยมีข้อแม้กับเถ้าแก่อยู่อย่างนึงเขาบอกว่าต้องอยู่กับเขา 5 ปีรถมอเตอร์ไซค์ที่เขาซื้อให้ราคา 30,000 บาทแต่ถ้าเราอยู่ไม่ครบ 5 ปีก็แค่ผ่อน เขาไปแต่ตอนนี้เล่มเขียวเขายึดไว้อยู่สรุปคือเราจะเอายังไงดีใจนึงก็งานที่เรารักใจนึงก็เป็นอาชีพที่มั่นคง
จะเลือกทางไหนดีระหว่างข้าราชการ ที่พ่อแม่หวังไว้กับผู้จัดการที่เราใฝ่ฝันไว้
คือตอนนี้หนูอายุ 25 จบปริญญาตรีมา
เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่
คือตอนนี้หนูทำงานร้านอาหารอยู่ที่นึง
ทำมาได้ 2 ปีแล้วเงินเดือน 15,000 บาทโดยมีสวัสดิการคือประกันสังคม
กับรถมอเตอร์ไซค์อีก 1 คัน
ผู้จัดการร้านเป็นอาชีพที่เรา
ใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่สมัยเรียน
เพราะเราชอบงานบริการ
แต่พอมาถึงวันนี้ความฝันของเรา
ที่เราคิดไว้มันก็เริ่มจะสลาย
เมื่อพ่อแม่บังคับให้เป็นราชการ
โดยมีญาติห่างๆของป้าฝากเป็นคนฝากไว้
เรารู้สึกว่าเราโดนที่บ้าน
บังคับทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอด
แต่ถ้าถามอีกใจนึงดีไหมมันก็ดีนะ
แต่แม่บอกว่าราชการมันดีกว่า
ผู้จัดการร้านอาหารเขามีสวัสดิการให้เรา
โดยที่เราทำงานร้านอาหารอยู่ตอนนี้เหมือนกับเราไม่มีสวัสดิการอะไรเลย
ลาหยุดก็ไม่มีลาพักร้อนก็ไม่มี
หยุดราชการก็ไม่ได้ 2 แรง
วันหยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว
เราก็เข้าใจในความคิดของพ่อกับแม่นะ
แต่เราเครียดเราหนักใจมากกว่า
เราไม่รู้จะเลือกอะไรเลือกยังไง
คือเถ้าแก่เราออกรถมอเตอร์ไซค์ให้ 1 คัน
โดยที่พ่อกับแม่เรายังไม่รู้ว่าเรามีรถมอเตอร์ไซค์เพราะว่าพ่อกับแม่ไม่ให้
ขับมอเตอร์ไซค์เด็ดขาดเขากลัวอันตรายแต่ด้วยความดื้อของเรามันก็ห้ามเราไม่ได้หรอกโดยมีข้อแม้กับเถ้าแก่อยู่อย่างนึงเขาบอกว่าต้องอยู่กับเขา 5 ปีรถมอเตอร์ไซค์ที่เขาซื้อให้ราคา 30,000 บาทแต่ถ้าเราอยู่ไม่ครบ 5 ปีก็แค่ผ่อน เขาไปแต่ตอนนี้เล่มเขียวเขายึดไว้อยู่สรุปคือเราจะเอายังไงดีใจนึงก็งานที่เรารักใจนึงก็เป็นอาชีพที่มั่นคง