สวัสดีเพื่อนๆ ฉันอายุ 25 ปี แต่ไม่มีอารัยยเปนชิ้นเปนอันสักอย่าง
แค่อยากจะบ่นเรื่องราวชีวิตตัวเองเปนบทเรียนให้คนที่อ่าน อยากให้เดกรุ่นใหม่ได้เขามาอ่านจะได้รู้ว่า #อย่าทำ
พึ่งเคยเขียนเปนครั้งเเรก
ชีวิตฉันเกินอยู่ในครอบครัวปานกลาง แต่เพราะความที่พ่อเปนคนขยัน ฉันได้ทุ่นสิ้งที่ฉันอยากได้ (ฉันเปนเดกต่างจังหวัด)
ตอนเรียน มอต้น เราก็เรียนเหมือนเดกทั่วไป แต่เราเปนคนดื้อ นิสัยเหมือนผู้ชาย
มอสาม เราเริ่มโดนเรียนไปกินเหล้ากับเพื่อน เรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่สนิทมากกกกก
พอ มอสี่ เรากับเพื่อนเรียนต่อโรงเรียนเดียวกัน เรากับเพื่อนสอบได้สายวิทย์-คณิตทั้งคู่ แต่ไม่ไดอยู่ห้องเดียวกัน เราทั้งคู่เลยขอย้านห้อง ไปเรียนห้องเดียวกับแต่ครูไม่อนุญาติ เราสองคนเลยย้ายารการเรียนไปเรียน สาศิลป์-เทคโน
เราได้อยู่ห้องเดียวกันกับเพื่อน ศิลป์-เทคโนห้องที่ไป มีเพื่อน 35 คน ผู้หญิง 5 คน ด้วยความที่เรากับเพื่อนมีพื้นฐานที่ดื้ออยู่เเล้ว แล้วชอบเล่นกับเพื่อนผู้ชาย เราไปเรียนห้องนั้น
เราไปสนิทกับเพื่อผู้ชายกลุ่มหนึ่ง มี4คน สองคนหนึ่งเขาเรียนซ้ำชั้น (ประมาณมันดื้อมาก) เราสนิทกับเพื่อนพวกนี้มาก ถึงมากทีุ่ด #สนิทแบบเพื่อนจริงๆ เราก็มีแฟนล่ะ แต่เราก็เข้าใจไม่มีใครอยากให้แฟนไปเล่นกับเพื่อนผู้ชายหรอ
เพื่อนเราก็รู้ว่าแฟนเราไม่อยากให้เราไปเ่นกับพวกมัน แต่เราเือกเพื่อน เราเลิกกับแฟน (ป.รักเพื่อนมากกกก)
เราเรียน มอสี่ แบบที่ว่าเรียนบ้างไม่เรียนบ้าง วันไหนไม่อยากเรียนก็ไปดูหนัง ไปเที่ยว มีงานบุญที่ไหนเราไปหมดขอเเค่เพื่อนไป เราจบมอสี่ แต่เรียนกับเพื่อนหกคนติดเกือบสิบตัว (ความที่ไม่เข้าเรียนเปนธรรมดา)
เพื่อนู้ผู้ชายสองคนย้ายไปต่อ มอห้า โรงเรียนใหม่ อีคนหนึ่งออกไปเรียนใหม่ที่เทคนิค อีกคนเรียนมอสี่ซ้ำ ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีกคนย้านไปเรียนมอห้าแถวบ้าน #เราเรียนในตัวอำเภอแต่เพื่อนเราทั้หมดอยู่บ้านโซนเดียวกันหมดมีเราคนเดียวที่อยู่ไกลจากเพื่อน ่วนเรารู้ว่าเพื่อนย้ายโรงเรียนหมดแล้ว ขอแม่ย้ายไปเรียนกับเพื่อนผู้ชายสองคน แม่ไม่ให้ไป #โรงเรียนที่เพื่อนสองคนย้ายไปเปนปรมาณว่ามแต่เดกที่เกเรถึงไปเรียน เราตัดสินใจไม่ไปเรียน นอนยุบ้านไม่ทำไรเลย
จนเปิดเรียนเราออกมาหน้าบ้านเหนเพื่อนใส่ชุดนักเรียนแล้วอยากกลับไปเรียน ตัดสินใจไปขอแม่ช่วนนั้นโรงเรียนก็เปิดหมดแล้ว แม่เลยบอกว่างั้นไปเรียนวิลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
แต่คนละจังหวัดกับเรานะ เราตอบตกลงจะไปเรียน วันที่เราไปสมัครแม่เอาแค่เงินให้แล้วเราไปสมัครเรียนคนเดียวไปเองโดนที่เราเคยไปที่วลัยนั้นเลย แม่แค่บอกว่าลงรถตรงนี้ ต่อรถสายนี้ก็จะเจอ เราก็ไปแบบไม่รู้อะไร ไปสมัครเรียนเสร็จ เราก็ซื้อชุดนักเรียน อุปกนณืการเรียนทั้งหลายแหล่ วันรุ่งขึ้นเราก็มาเรียน ก็ดูจะตั้งใจเรียนเหมือนเดกทั่วไป
บังเอิญเรียนไปจับฉลากได้ทำงานกับเพื่อผู้หญิงกลุ่มหนึ่งสามคน เขาเออประมาณว่าเรียนซ้ำชั้นมาเหมือนเรา คุยอีสานเหมือนเรา #วิลัยที่เราไปเรียนเปนเเเบบพวกลูกคนหูคุยภาษากลางอวดนั้นอวดนี้
เราได้สนิทกับเพื่อนกุ่มนี้มากขึ้น เหมือนเดิมพากันโดนเรียนเหมือนเดิม เรียนไปได้ หนึ่งเทอมกับอีกสองเดือน เพื่อนสามคนนี้ก็เริ่มหาไปรู้อีกที่ตอนเพื่อนสามคนมาลาออก
ด้วยความที่เราไม่มีเพื่อนเราเลยบอกแม่ว่าไม่อยากเรียนแล้ว เราก็ไม่ไปเรียนเลย ด้วยความที่เราเปนคนเอาแต่ใจ เราก็ไม่ไปเรียนก็นอนยุบ้านเฉยๆไม่ทำไรสักอย่าง
แต่อย่างนี้แม่ก็ยังภูมิใจว่า เราไม่ได้มีลูกมีผัวให้ท่านเลี้ยง #เพราะช่วงเวลานั้นเด็กแถวบ้านรุ่นเกิดก่อนเราหรือเกิดที่หลังเราระวหว่าง สาม-สี่ปี มีลูกจึงออกโรงเรยนกันหมด 555555 พ่อแม่ภูมิใจอยู่เรียนเดียว
ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ น้าที่เปนน้องสาวของแม่กลับบ้าน แม่เลยเล่าเรื่องของเราให้น้าฟัง น้าเลยบอกว่าจะเอาเราไปอยู่ด้วย เอาเรียนไปเรียนด้วย (ปล.น้าครูเปนครูสอนที่แถวเมืองหลวง) เราตัดใจมา แต่แม่เราเปนคนส่งเงินให้น้าไปมาณว่าให้น้าดูแลเรา
แต่ดวยความที่เรามีพื้นฐานดื้น เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร เรามาเรียน มอสี่ใหม่กกับน้าเรา เราก็ทำตัวเหมือนเดิม ไม่เข้าเรียน น้าก็พุดไรไม่ได้เพราะเราเปนคที่ไม่ฟังใครไม่สนใครทั้งนั้นเรียนได้เทอมกว่าๆ เราโทรบอกแม่ว่าอยากไปยุบ้าน แม่เราบอกอยากมาก็มา ช่วนนี้ล่ะที่เราเราทำอาชีพค้าขาย ปล.ทำไรขายไม่บอกหรอก แต่เราทำเปนหมดนะ เราเลยตัดสิ้นใจมาอยู่บ้านทำของขายให้พ่อกับแม่โดยที่พ่อกับแม่มีหน้าที่ขายอย่างเดียว เราทำเองทุกอย่าง ทำทุกวัน ตอนนั้นเราอายุ18 ปี เพื่อนรุ่นเดียวกันที่อยู่บ้านตรงข้ามรอบครัวเขาลำบากมากเขาเรียนจบมอหก อยากเรียนต่อแต่พ่อเขาไม่เงินส่ง เราเหนเขาร้องไไห้ขอพ่อไปเรียนต่อมหาลัย มันทำให้เรารุ้สึกอยากเรียนอีกครัง
ต่อมาเราขอโอกาสจากแม่ว่าอยากกลับไปเรียนอีกครั้ง เรียนมอสี่นะจ่ะ แม่เราให้โอกาสนั้น โดยสังคมแถวบ้านบอกแม่เราว่าจะส่งมันทำไม ส่งไปก็ไม่จบหรอก ว่าเราดื้อ แต่แม่บอกคนแถวบ้านว่าไม่ให้โอกาสลูกแ้วจะให้โอกาสใคร
เราไปเรียนมอสี่ใหม่ ในอายุ18 ปี ถามว่าอายมั้ย.......ในใจก็อายนะมาเรียนกับรุ่นน้อง แต่แม่บอกว่าจะอายทำไมให้เมื่อทุกอย่างเปนผลจากการกระทำของตัวเองโอกาสก็ได้มากกว่าคนอื่น
แต่คาวนี้เราเรียน จบ มอหก นะ5555555
เราจบมอหกตอนอายุ 21 ปี แม่อยากให้ต่อมหาลัย แต่บังเอิญว่าช่วงปีใหม่เพื่อนที่อยู่บ้านตรงข้ามมันกลับมาบ้าน เาก็ไปหาไเล่นด้วย เหนพ่อของเพื่อนเดินมาขอเงินลูกเเล้วเพื่อนเอาให้พ่อของเขา ไปงานเลี้ยงรุ่นออกเงินกินเหล้า เราก็เดินไปขอแม่ แต่เราเหนเพื่อนเราเปนคนให้พ่อ เราเลยตัดสิ้นใจ จบมอหกจะไปหางานทำ.............
พอจบมอหกปุ๊บ แม่อยากให้เราเรียนต่อ แต่เราไม่อยากเรียน เราขอแม่ไปทำงานกับเพื่อนแถวชลบุรี แต่พ่อกับแม่ไม่ยอมให้ไป เราร้องไห้บอกว่าอยากปทำงานเปนอาทิตย์ สุดท้ายพ่อกับแม่คงลำคาน่ะเยให้เราไป แม่ไปส่งเราถึงชลบุรี ซื้อของให้เอา atm ไว้ให้เอาเงินติดตัวให้สามวันแรกเรายังไม่ได้งาน เราชวนเพื่อนไปเที่ยว เพื่อนเราตอบว่าไม่มีเงินเราบอกเพื่อนว่ากลัวไร กูมีสะอย่าง เราไปเที่ยวกับเพื่อนประมาณห้าวันติ ตอนเช้าขี่รถมอไซไปหาสมัครงาน #ป.แม่เอารถมอไซมาให้ขี่ด้วยประมาณสามวันเราได้งานเรากล้าพูดว่เวลาเราตั้งใจทำอะไรเราทำอย่างเต็มที่ แต่เลิกงานมาเราก็ยังเที่ยวเหมือนเดิม จนเราทำงานได้เดือนครึ่ง พอดีงานที่เราทำเงินเดือนออกเปนวิค วันนั้นเพื่อนเราเข้ากะ เราเลิกงานมาสองทุ่มครึ่ง เราเลยเล่นเฟสบุ๊ค เลยเหนเพื่อนน้องที่เียนจบ มอหกด้วยกัน อัฟรูปใส่ชุดมหาลัย ด้วยความที่เราเหนปุ๊บความรู้สึกเราถามตัวเองว่าทำไมกูไม่เรียนต่อ
สามทุ่ม เราโทรหาแม่ เราโทรไปขอโอกาสจากแม่ให้โอกาสกลับไปเรียนต่อได้มั้ยขอแค่สองปี ขออีกแค่สองปีเท่านั้น แม่บอกว่ขอถามพ่อก่อนเพราะพ่อเปนคนหาตัง
#เหตุผลที่เราขอกับมาเรียนต่อเราถามเพื่อนว่าทำงานมาสามปีได้อะไรบ้างเพื่อนตอบว่าไม่มีอะไรสักอย่างเงินออกส่งกลับบ้านแถวเปนหนี้อีกตั้งหาก เราเลยมีความรู้สึกว่าแล้วกูมาทำไรอยู่ที่นี้ทำไมกูไม่กลับไปเรียนต่อ
สามทุ่มกว่าแม่โทรมาบอกว่าพ่อให้โอกาส เราเข้าไปเชคว่ามีวิลัยไหนยังเปิดรับอยู่มั้ย เทคนิค หรืออาชีวะปิดรับสมัครหมดแล้ว เหลือแต่วัยเอกชนที่เาไปเรียนตอนช่วง ปวช เราโทรบอกแม่ แม่ตอบว่าแ้วแต่เรา เราโทรหาพี่ชาย (พี่ชายเราทำงานยุกับน้าที่สมุทรปราการ) วันต่อมาพี่ชายเรามารับโดยที่เพื่อนเราเลิกงานมาถึงรู้ว่าจะกลับไปเรียนต่อ เราเอารถมอไซให้พี่ชายไว้ขี่ เรากลับบ้านมาแค่กระเป๋าใบเดียว
เรากลับมาบ้าน เราโทรถามวิลัยว่ายังเปิดมั้ยเขาตอบว่าเปิดเราก็ไปสมัครเรียน เราเลือกเรียนสาขาช่างเทคนิคการผลิต โดยที่ทั้งแผนกมีเราเปนผู้หญิงแค่คนเดียว แต่เราไม่สน เราก้เรียนของเรา เรียนไปเรียนมา วิลัยเราเรียนห้าเทอม เราเรียนเทอมแรกนี้ถือว่าตั้งใจเรียนมาก เเล้วเข้ากับเพื่อในห้องไได้ แต่ด้วยความที่เราเปนผู้หญิงอยู่หอคนเดีวไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย เราเล่นกับเพื่อนผู้ชายเฉพาะในวิลัย เลิกเรียนเราก็กลับห้อง ด้วยความที่เราไม่มีเพื่อผู้หญิงเราเลยกินข้าวเย็นคนเดียวทุกวัน ...........เรียนไปได้เทอมกว่าๆ เรารู้สึกไม่อยากเรียนแล้ว เราขอแม่กลับไยุบ้าน เราให้เหหผลแม่ว่าเบื่อ
จนเราไมม่ยอมไปเรียนเปนเทอม บังเอิญมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งทักเฟสมาหาเราบอกว่าเจ้คิดฮอด กลับมาเรียน ชื่อเรายังไม่ออกจากระบบ ทำให้เราลุกขึ้นอยากกลับมาเรียนอีกครั้ง เราปลุกแม่แล้วขอแม่กลับไปเรียนแม่ตอบว่าไปขอพ่อ (ปลใแม่บอกว่าถึงพ่อไม่ให้เรียนแม่ก็ให้เรียนเหมือนเดิมเพราะแม่มีเงินสามารถส่งเราเรียนได้) สรุปว่าพ่อไม่ให้โอกาส วันต่อมาแม่โทรไปหาพี่ชายบอกว่าพ่อไม่ให้นอกกลับไปเรียนแล้ว พี่ชายโทรมาหาพ่อบอกว่าน้องเปนผู้หญิงถ้าน้องไม่เรียนจะให้น้องไปทำอะไร พ่อเลยใจอ่อน พ่อบอกว่าให้โอกาสครั้งนี้เปนครั้งสุดท้าย เราเลยโทรหาอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์เลยเขาไปคุยให้ แต่เราต้องลงซัมเอร์เทอมที่เราไม่มาเรียน #ปล.ค่าหน่อยกิตแพงมากกกกกก
เราจ่ายค่าเทอมจ่ายค่าต่างๆนาๆครบทุกอย่าง #ปล.ครูทีปรึกษาโทรไปบอกค่าใช้จ่ายกับแม่ครบทุกอย่าง55555
เราก็กลับมาเรียน
พอถึงช่วงฝึกงานพอดีเรางซัมเมอร์ไว้ อาจารย์เลยบอกให้เราฝึกงานที่วิยลัย จะได้ไม่มีปัญหา เวลาเรียนซัมเมอร์
พอฝึกงานวันแรกอาจารย์ให้เราไปทำความสะอาดช็อป เรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์ เราโทรหาน้าบอกว่าจะไปฝึกงานที่บริษัทที่น้าทำงานอยู่ เราบอกให้น้าส่งใบตอบรับการฝึกงานมาให้ น้าก็ส่งมาให้ ปล.น้าเปนผู้จัดการฝ่ายบุคคล เราเลยไปถามอาจารย์หัวหน้าแผนกว่าไม่อยากฝึกที่วิลัย อาจารย์หัวหน้าแผนกตอบว่าแล้วมาบอกตอนนี้จะทันมั้ย เราเอาเอกสารที่น้าตอบรับการฝึกงานให้อาจารย์หัวหน้าแผนกดู อาจารย์ถามว่าจะมาเรีนซัมเมอร์ได้ยังไงไปฝึกงานไกลขนาดนั้น เราเยบอกว่าเราลางานได้ อาจารย์เลนบอกว่างั้นก็ไปติมต่อวิชาการ ติดต่อห้องวิชาการเสดเรากับบ้านมาบอกแม่ว่าจะไปฝึกงานกับน้า ตอนเย็นแม่ก็พาเราาส่งกับน้าเลย
เรามาถึงบ้านน้าตอนเช้า เช้าวันนั้นเราก็แต่ตัวไปรายงานตัวที่โรงงานเลย แต่เราไปแค่รายงานตัวเฉยๆนะ วันต่อมาเราก็ไม่ไปทำงงานนอนยุบ้านเฉยๆ
ผ่านไปประมาณสองอาทิตย์อาจารย์ที่ปึกษาเหนเราไม่อัฟเฟสบุ๊คเลย เลยโทรมาหาเราว่าไปทำงานจริงเปล่า ถ้าไม่ทำกลับมาทำรายงานส่งไม่ได้นะ55555
เราเลยบอกน้าว่าจะไปทำงาน เราไปทำเปนคิวซี เราเชคงานส่งงาน ทำทุกอย่างเต็มที่ ฝึกงานได้สักสองอาทิตย์อาจารย์โทรมาบอกให้กลับมาเรียนซัมเมอร์ เราก็กลับมาเรียนซัมเมอร์หนึ่งอาทิตย์ แล้วกลับไปทำงาน
ฝึกงานเสด เราก็กับมาเรียน เรียนจบ เราก็คิดจะไปหางานทำ
น้าโทรมาบอกว่าโรงงานอยากได้เรากลับไปช่วยงาน เราเลยตัดสิ้นใจกลับมาทำงาน
เราทำงานเต็มที่นะ ให้แต่บังเอิญว่าเราเปนคนเอา part ไปส่งได้คุยกับลูกค้า เรากับมาที่โรงงาน เอาคำพูดของูกค้ามาบอกหัวหน้า แต่หัวหน้าไม่เคยฟังเราเลย มันเลยเกิดการโต้เถียง เรายอมรับว่าเราเดก แต่เราเปนนคนรับเรื่องจากลูกค้า ทำไม่ไม่ฟังเราบ้าน ถ้าไม่แก้ไขตามูกค้าบอกก็เอางานไปส่งเองเราบอก มันทำคำพูดที่เราบอกหัวห้าไปถึงหูน้า น้าเลยเรียนเราไปอบรมกับเดกนักศึกษาสองคนที่อยู่ในแผนกเดียวกับเรา เขาเลยด่าประมาณว่าไม่พอใจก็ออกไปเลย พูดประมาณสักสองสามรอบนี้ล่ะ เราเลยคิดว่าสงสัยว่าเราเพราะเดกนักศึกษาสองคนนี้มันออกไม่ได้อยู่แล้ว คนที่ออกได้มีแค่เราคนเดียว เราเลยตัดสินใเขียนใบลาออกแล้วกับไปนอนยุบ้าน55555
.
.
.
.
ช่วยบอกหน่อยว่าเราควรเอาไงต่อ จะไปทำงานกับเพื่อน เพื่อนก็มีผัวหมดแล้ว
.................ปล.เราไปทำงานที่เกาหลีจะดีมั้ย
นางสาวผู้ได้โอกาสมากมาย แต่ยังทำตัวแย่ ควรทำไงดี......?
แค่อยากจะบ่นเรื่องราวชีวิตตัวเองเปนบทเรียนให้คนที่อ่าน อยากให้เดกรุ่นใหม่ได้เขามาอ่านจะได้รู้ว่า #อย่าทำ
พึ่งเคยเขียนเปนครั้งเเรก
ชีวิตฉันเกินอยู่ในครอบครัวปานกลาง แต่เพราะความที่พ่อเปนคนขยัน ฉันได้ทุ่นสิ้งที่ฉันอยากได้ (ฉันเปนเดกต่างจังหวัด)
ตอนเรียน มอต้น เราก็เรียนเหมือนเดกทั่วไป แต่เราเปนคนดื้อ นิสัยเหมือนผู้ชาย
มอสาม เราเริ่มโดนเรียนไปกินเหล้ากับเพื่อน เรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่สนิทมากกกกก
พอ มอสี่ เรากับเพื่อนเรียนต่อโรงเรียนเดียวกัน เรากับเพื่อนสอบได้สายวิทย์-คณิตทั้งคู่ แต่ไม่ไดอยู่ห้องเดียวกัน เราทั้งคู่เลยขอย้านห้อง ไปเรียนห้องเดียวกับแต่ครูไม่อนุญาติ เราสองคนเลยย้ายารการเรียนไปเรียน สาศิลป์-เทคโน
เราได้อยู่ห้องเดียวกันกับเพื่อน ศิลป์-เทคโนห้องที่ไป มีเพื่อน 35 คน ผู้หญิง 5 คน ด้วยความที่เรากับเพื่อนมีพื้นฐานที่ดื้ออยู่เเล้ว แล้วชอบเล่นกับเพื่อนผู้ชาย เราไปเรียนห้องนั้น
เราไปสนิทกับเพื่อผู้ชายกลุ่มหนึ่ง มี4คน สองคนหนึ่งเขาเรียนซ้ำชั้น (ประมาณมันดื้อมาก) เราสนิทกับเพื่อนพวกนี้มาก ถึงมากทีุ่ด #สนิทแบบเพื่อนจริงๆ เราก็มีแฟนล่ะ แต่เราก็เข้าใจไม่มีใครอยากให้แฟนไปเล่นกับเพื่อนผู้ชายหรอ
เพื่อนเราก็รู้ว่าแฟนเราไม่อยากให้เราไปเ่นกับพวกมัน แต่เราเือกเพื่อน เราเลิกกับแฟน (ป.รักเพื่อนมากกกก)
เราเรียน มอสี่ แบบที่ว่าเรียนบ้างไม่เรียนบ้าง วันไหนไม่อยากเรียนก็ไปดูหนัง ไปเที่ยว มีงานบุญที่ไหนเราไปหมดขอเเค่เพื่อนไป เราจบมอสี่ แต่เรียนกับเพื่อนหกคนติดเกือบสิบตัว (ความที่ไม่เข้าเรียนเปนธรรมดา)
เพื่อนู้ผู้ชายสองคนย้ายไปต่อ มอห้า โรงเรียนใหม่ อีคนหนึ่งออกไปเรียนใหม่ที่เทคนิค อีกคนเรียนมอสี่ซ้ำ ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีกคนย้านไปเรียนมอห้าแถวบ้าน #เราเรียนในตัวอำเภอแต่เพื่อนเราทั้หมดอยู่บ้านโซนเดียวกันหมดมีเราคนเดียวที่อยู่ไกลจากเพื่อน ่วนเรารู้ว่าเพื่อนย้ายโรงเรียนหมดแล้ว ขอแม่ย้ายไปเรียนกับเพื่อนผู้ชายสองคน แม่ไม่ให้ไป #โรงเรียนที่เพื่อนสองคนย้ายไปเปนปรมาณว่ามแต่เดกที่เกเรถึงไปเรียน เราตัดสินใจไม่ไปเรียน นอนยุบ้านไม่ทำไรเลย
จนเปิดเรียนเราออกมาหน้าบ้านเหนเพื่อนใส่ชุดนักเรียนแล้วอยากกลับไปเรียน ตัดสินใจไปขอแม่ช่วนนั้นโรงเรียนก็เปิดหมดแล้ว แม่เลยบอกว่างั้นไปเรียนวิลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
แต่คนละจังหวัดกับเรานะ เราตอบตกลงจะไปเรียน วันที่เราไปสมัครแม่เอาแค่เงินให้แล้วเราไปสมัครเรียนคนเดียวไปเองโดนที่เราเคยไปที่วลัยนั้นเลย แม่แค่บอกว่าลงรถตรงนี้ ต่อรถสายนี้ก็จะเจอ เราก็ไปแบบไม่รู้อะไร ไปสมัครเรียนเสร็จ เราก็ซื้อชุดนักเรียน อุปกนณืการเรียนทั้งหลายแหล่ วันรุ่งขึ้นเราก็มาเรียน ก็ดูจะตั้งใจเรียนเหมือนเดกทั่วไป
บังเอิญเรียนไปจับฉลากได้ทำงานกับเพื่อผู้หญิงกลุ่มหนึ่งสามคน เขาเออประมาณว่าเรียนซ้ำชั้นมาเหมือนเรา คุยอีสานเหมือนเรา #วิลัยที่เราไปเรียนเปนเเเบบพวกลูกคนหูคุยภาษากลางอวดนั้นอวดนี้
เราได้สนิทกับเพื่อนกุ่มนี้มากขึ้น เหมือนเดิมพากันโดนเรียนเหมือนเดิม เรียนไปได้ หนึ่งเทอมกับอีกสองเดือน เพื่อนสามคนนี้ก็เริ่มหาไปรู้อีกที่ตอนเพื่อนสามคนมาลาออก
ด้วยความที่เราไม่มีเพื่อนเราเลยบอกแม่ว่าไม่อยากเรียนแล้ว เราก็ไม่ไปเรียนเลย ด้วยความที่เราเปนคนเอาแต่ใจ เราก็ไม่ไปเรียนก็นอนยุบ้านเฉยๆไม่ทำไรสักอย่าง
แต่อย่างนี้แม่ก็ยังภูมิใจว่า เราไม่ได้มีลูกมีผัวให้ท่านเลี้ยง #เพราะช่วงเวลานั้นเด็กแถวบ้านรุ่นเกิดก่อนเราหรือเกิดที่หลังเราระวหว่าง สาม-สี่ปี มีลูกจึงออกโรงเรยนกันหมด 555555 พ่อแม่ภูมิใจอยู่เรียนเดียว
ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ น้าที่เปนน้องสาวของแม่กลับบ้าน แม่เลยเล่าเรื่องของเราให้น้าฟัง น้าเลยบอกว่าจะเอาเราไปอยู่ด้วย เอาเรียนไปเรียนด้วย (ปล.น้าครูเปนครูสอนที่แถวเมืองหลวง) เราตัดใจมา แต่แม่เราเปนคนส่งเงินให้น้าไปมาณว่าให้น้าดูแลเรา
แต่ดวยความที่เรามีพื้นฐานดื้น เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร เรามาเรียน มอสี่ใหม่กกับน้าเรา เราก็ทำตัวเหมือนเดิม ไม่เข้าเรียน น้าก็พุดไรไม่ได้เพราะเราเปนคที่ไม่ฟังใครไม่สนใครทั้งนั้นเรียนได้เทอมกว่าๆ เราโทรบอกแม่ว่าอยากไปยุบ้าน แม่เราบอกอยากมาก็มา ช่วนนี้ล่ะที่เราเราทำอาชีพค้าขาย ปล.ทำไรขายไม่บอกหรอก แต่เราทำเปนหมดนะ เราเลยตัดสิ้นใจมาอยู่บ้านทำของขายให้พ่อกับแม่โดยที่พ่อกับแม่มีหน้าที่ขายอย่างเดียว เราทำเองทุกอย่าง ทำทุกวัน ตอนนั้นเราอายุ18 ปี เพื่อนรุ่นเดียวกันที่อยู่บ้านตรงข้ามรอบครัวเขาลำบากมากเขาเรียนจบมอหก อยากเรียนต่อแต่พ่อเขาไม่เงินส่ง เราเหนเขาร้องไไห้ขอพ่อไปเรียนต่อมหาลัย มันทำให้เรารุ้สึกอยากเรียนอีกครัง
ต่อมาเราขอโอกาสจากแม่ว่าอยากกลับไปเรียนอีกครั้ง เรียนมอสี่นะจ่ะ แม่เราให้โอกาสนั้น โดยสังคมแถวบ้านบอกแม่เราว่าจะส่งมันทำไม ส่งไปก็ไม่จบหรอก ว่าเราดื้อ แต่แม่บอกคนแถวบ้านว่าไม่ให้โอกาสลูกแ้วจะให้โอกาสใคร
เราไปเรียนมอสี่ใหม่ ในอายุ18 ปี ถามว่าอายมั้ย.......ในใจก็อายนะมาเรียนกับรุ่นน้อง แต่แม่บอกว่าจะอายทำไมให้เมื่อทุกอย่างเปนผลจากการกระทำของตัวเองโอกาสก็ได้มากกว่าคนอื่น
แต่คาวนี้เราเรียน จบ มอหก นะ5555555
เราจบมอหกตอนอายุ 21 ปี แม่อยากให้ต่อมหาลัย แต่บังเอิญว่าช่วงปีใหม่เพื่อนที่อยู่บ้านตรงข้ามมันกลับมาบ้าน เาก็ไปหาไเล่นด้วย เหนพ่อของเพื่อนเดินมาขอเงินลูกเเล้วเพื่อนเอาให้พ่อของเขา ไปงานเลี้ยงรุ่นออกเงินกินเหล้า เราก็เดินไปขอแม่ แต่เราเหนเพื่อนเราเปนคนให้พ่อ เราเลยตัดสิ้นใจ จบมอหกจะไปหางานทำ.............
พอจบมอหกปุ๊บ แม่อยากให้เราเรียนต่อ แต่เราไม่อยากเรียน เราขอแม่ไปทำงานกับเพื่อนแถวชลบุรี แต่พ่อกับแม่ไม่ยอมให้ไป เราร้องไห้บอกว่าอยากปทำงานเปนอาทิตย์ สุดท้ายพ่อกับแม่คงลำคาน่ะเยให้เราไป แม่ไปส่งเราถึงชลบุรี ซื้อของให้เอา atm ไว้ให้เอาเงินติดตัวให้สามวันแรกเรายังไม่ได้งาน เราชวนเพื่อนไปเที่ยว เพื่อนเราตอบว่าไม่มีเงินเราบอกเพื่อนว่ากลัวไร กูมีสะอย่าง เราไปเที่ยวกับเพื่อนประมาณห้าวันติ ตอนเช้าขี่รถมอไซไปหาสมัครงาน #ป.แม่เอารถมอไซมาให้ขี่ด้วยประมาณสามวันเราได้งานเรากล้าพูดว่เวลาเราตั้งใจทำอะไรเราทำอย่างเต็มที่ แต่เลิกงานมาเราก็ยังเที่ยวเหมือนเดิม จนเราทำงานได้เดือนครึ่ง พอดีงานที่เราทำเงินเดือนออกเปนวิค วันนั้นเพื่อนเราเข้ากะ เราเลิกงานมาสองทุ่มครึ่ง เราเลยเล่นเฟสบุ๊ค เลยเหนเพื่อนน้องที่เียนจบ มอหกด้วยกัน อัฟรูปใส่ชุดมหาลัย ด้วยความที่เราเหนปุ๊บความรู้สึกเราถามตัวเองว่าทำไมกูไม่เรียนต่อ
สามทุ่ม เราโทรหาแม่ เราโทรไปขอโอกาสจากแม่ให้โอกาสกลับไปเรียนต่อได้มั้ยขอแค่สองปี ขออีกแค่สองปีเท่านั้น แม่บอกว่ขอถามพ่อก่อนเพราะพ่อเปนคนหาตัง
#เหตุผลที่เราขอกับมาเรียนต่อเราถามเพื่อนว่าทำงานมาสามปีได้อะไรบ้างเพื่อนตอบว่าไม่มีอะไรสักอย่างเงินออกส่งกลับบ้านแถวเปนหนี้อีกตั้งหาก เราเลยมีความรู้สึกว่าแล้วกูมาทำไรอยู่ที่นี้ทำไมกูไม่กลับไปเรียนต่อ
สามทุ่มกว่าแม่โทรมาบอกว่าพ่อให้โอกาส เราเข้าไปเชคว่ามีวิลัยไหนยังเปิดรับอยู่มั้ย เทคนิค หรืออาชีวะปิดรับสมัครหมดแล้ว เหลือแต่วัยเอกชนที่เาไปเรียนตอนช่วง ปวช เราโทรบอกแม่ แม่ตอบว่าแ้วแต่เรา เราโทรหาพี่ชาย (พี่ชายเราทำงานยุกับน้าที่สมุทรปราการ) วันต่อมาพี่ชายเรามารับโดยที่เพื่อนเราเลิกงานมาถึงรู้ว่าจะกลับไปเรียนต่อ เราเอารถมอไซให้พี่ชายไว้ขี่ เรากลับบ้านมาแค่กระเป๋าใบเดียว
เรากลับมาบ้าน เราโทรถามวิลัยว่ายังเปิดมั้ยเขาตอบว่าเปิดเราก็ไปสมัครเรียน เราเลือกเรียนสาขาช่างเทคนิคการผลิต โดยที่ทั้งแผนกมีเราเปนผู้หญิงแค่คนเดียว แต่เราไม่สน เราก้เรียนของเรา เรียนไปเรียนมา วิลัยเราเรียนห้าเทอม เราเรียนเทอมแรกนี้ถือว่าตั้งใจเรียนมาก เเล้วเข้ากับเพื่อในห้องไได้ แต่ด้วยความที่เราเปนผู้หญิงอยู่หอคนเดีวไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย เราเล่นกับเพื่อนผู้ชายเฉพาะในวิลัย เลิกเรียนเราก็กลับห้อง ด้วยความที่เราไม่มีเพื่อผู้หญิงเราเลยกินข้าวเย็นคนเดียวทุกวัน ...........เรียนไปได้เทอมกว่าๆ เรารู้สึกไม่อยากเรียนแล้ว เราขอแม่กลับไยุบ้าน เราให้เหหผลแม่ว่าเบื่อ
จนเราไมม่ยอมไปเรียนเปนเทอม บังเอิญมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งทักเฟสมาหาเราบอกว่าเจ้คิดฮอด กลับมาเรียน ชื่อเรายังไม่ออกจากระบบ ทำให้เราลุกขึ้นอยากกลับมาเรียนอีกครั้ง เราปลุกแม่แล้วขอแม่กลับไปเรียนแม่ตอบว่าไปขอพ่อ (ปลใแม่บอกว่าถึงพ่อไม่ให้เรียนแม่ก็ให้เรียนเหมือนเดิมเพราะแม่มีเงินสามารถส่งเราเรียนได้) สรุปว่าพ่อไม่ให้โอกาส วันต่อมาแม่โทรไปหาพี่ชายบอกว่าพ่อไม่ให้นอกกลับไปเรียนแล้ว พี่ชายโทรมาหาพ่อบอกว่าน้องเปนผู้หญิงถ้าน้องไม่เรียนจะให้น้องไปทำอะไร พ่อเลยใจอ่อน พ่อบอกว่าให้โอกาสครั้งนี้เปนครั้งสุดท้าย เราเลยโทรหาอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์เลยเขาไปคุยให้ แต่เราต้องลงซัมเอร์เทอมที่เราไม่มาเรียน #ปล.ค่าหน่อยกิตแพงมากกกกกก
เราจ่ายค่าเทอมจ่ายค่าต่างๆนาๆครบทุกอย่าง #ปล.ครูทีปรึกษาโทรไปบอกค่าใช้จ่ายกับแม่ครบทุกอย่าง55555
เราก็กลับมาเรียน
พอถึงช่วงฝึกงานพอดีเรางซัมเมอร์ไว้ อาจารย์เลยบอกให้เราฝึกงานที่วิยลัย จะได้ไม่มีปัญหา เวลาเรียนซัมเมอร์
พอฝึกงานวันแรกอาจารย์ให้เราไปทำความสะอาดช็อป เรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์ เราโทรหาน้าบอกว่าจะไปฝึกงานที่บริษัทที่น้าทำงานอยู่ เราบอกให้น้าส่งใบตอบรับการฝึกงานมาให้ น้าก็ส่งมาให้ ปล.น้าเปนผู้จัดการฝ่ายบุคคล เราเลยไปถามอาจารย์หัวหน้าแผนกว่าไม่อยากฝึกที่วิลัย อาจารย์หัวหน้าแผนกตอบว่าแล้วมาบอกตอนนี้จะทันมั้ย เราเอาเอกสารที่น้าตอบรับการฝึกงานให้อาจารย์หัวหน้าแผนกดู อาจารย์ถามว่าจะมาเรีนซัมเมอร์ได้ยังไงไปฝึกงานไกลขนาดนั้น เราเยบอกว่าเราลางานได้ อาจารย์เลนบอกว่างั้นก็ไปติมต่อวิชาการ ติดต่อห้องวิชาการเสดเรากับบ้านมาบอกแม่ว่าจะไปฝึกงานกับน้า ตอนเย็นแม่ก็พาเราาส่งกับน้าเลย
เรามาถึงบ้านน้าตอนเช้า เช้าวันนั้นเราก็แต่ตัวไปรายงานตัวที่โรงงานเลย แต่เราไปแค่รายงานตัวเฉยๆนะ วันต่อมาเราก็ไม่ไปทำงงานนอนยุบ้านเฉยๆ
ผ่านไปประมาณสองอาทิตย์อาจารย์ที่ปึกษาเหนเราไม่อัฟเฟสบุ๊คเลย เลยโทรมาหาเราว่าไปทำงานจริงเปล่า ถ้าไม่ทำกลับมาทำรายงานส่งไม่ได้นะ55555
เราเลยบอกน้าว่าจะไปทำงาน เราไปทำเปนคิวซี เราเชคงานส่งงาน ทำทุกอย่างเต็มที่ ฝึกงานได้สักสองอาทิตย์อาจารย์โทรมาบอกให้กลับมาเรียนซัมเมอร์ เราก็กลับมาเรียนซัมเมอร์หนึ่งอาทิตย์ แล้วกลับไปทำงาน
ฝึกงานเสด เราก็กับมาเรียน เรียนจบ เราก็คิดจะไปหางานทำ
น้าโทรมาบอกว่าโรงงานอยากได้เรากลับไปช่วยงาน เราเลยตัดสิ้นใจกลับมาทำงาน
เราทำงานเต็มที่นะ ให้แต่บังเอิญว่าเราเปนคนเอา part ไปส่งได้คุยกับลูกค้า เรากับมาที่โรงงาน เอาคำพูดของูกค้ามาบอกหัวหน้า แต่หัวหน้าไม่เคยฟังเราเลย มันเลยเกิดการโต้เถียง เรายอมรับว่าเราเดก แต่เราเปนนคนรับเรื่องจากลูกค้า ทำไม่ไม่ฟังเราบ้าน ถ้าไม่แก้ไขตามูกค้าบอกก็เอางานไปส่งเองเราบอก มันทำคำพูดที่เราบอกหัวห้าไปถึงหูน้า น้าเลยเรียนเราไปอบรมกับเดกนักศึกษาสองคนที่อยู่ในแผนกเดียวกับเรา เขาเลยด่าประมาณว่าไม่พอใจก็ออกไปเลย พูดประมาณสักสองสามรอบนี้ล่ะ เราเลยคิดว่าสงสัยว่าเราเพราะเดกนักศึกษาสองคนนี้มันออกไม่ได้อยู่แล้ว คนที่ออกได้มีแค่เราคนเดียว เราเลยตัดสินใเขียนใบลาออกแล้วกับไปนอนยุบ้าน55555
.
.
.
.
ช่วยบอกหน่อยว่าเราควรเอาไงต่อ จะไปทำงานกับเพื่อน เพื่อนก็มีผัวหมดแล้ว
.................ปล.เราไปทำงานที่เกาหลีจะดีมั้ย