.....ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเป็นคนที่ชอบความสะดวกสบาย เอาเป็นว่าถ้าบินไกล ๆ ก็อยากจะตื่นมาเฟรช ๆ สบายที่สุด เพื่อที่จะทำภารกิจต่อในต่างแดนได้อย่างเต็มที่ หรือเป็นผู้เป็นคนที่สุด ไม่อยากแลนดิ้งแล้วเป็นซอมบี้ก็เลยเลือกที่จะนอนไป ส่วนตัวเป็นคนคิดทุกอย่างเป็นตัวเลขไว้ก่อน เลยเลือกใช้บริการของแต่ละสายการบินเพื่อเปรียบเทียบดู ทั้งสายการบินราคาประหยัดอย่าง แอร์เอเชีย และสายการบินลำดับต้น ๆ ของไทยอย่าง การบินไทย ซึ่งราคาไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ โดยนั่งชั้นสูงสุดของสายการบินแอร์เอเชีย และนั่งชั้นกลางของสายการบินไทย เราลองมาดูกันว่าในแต่ละอย่างนั้นเป็นยังไงกันบ้าง อิอิ
เริ่มที่....
.....1. ที่นั่งกันก่อนเลย สำหรับผมนั้นที่นั่งของ royal silk ดูดีกว่า เพราะถ้านั่งติดหน้าต่างจะเป็นที่นั่งเดี่ยว ถ้ามาสองคนจะได้นั่งตรงกลางซึ่งเป็นที่นั่งคู่กัน การเอนเบาะ และการเหยียดเท้า royal silk ก็ดีกว่านะครับ เพราะเบาะเอนได้แนวราบก็คือ 180 องศา แถมมีที่วางเท้าที่ยาวพอสมควร คนสูงประมาณ 180 เหยียดได้ตรงสบายพอดีนะครับ ส่วน Premium Flatbed นั้นผมนั่ง 1A ผมสูง 158 เซนติเมตรเหยียดขาก็สุดพอดี คิดว่าคนที่ขายาวกว่าผมคงจะเหยียดขาสุดไม่ได้ อีกอย่างนึงคือ Premium Flatbed ไม่มีจอให้ดูด้วยนะครับ แต่ royal silk มีครับผม อ่อเรื่องปลั๊กก็มีให้เสียบให้ใช้ทั้งคู่นะครับ
2. เรื่องการบริการ royal silk มีผ้าร้อนและเวลคัมดริ้งให้ พนักงานดูแลใส่ใจเราดีมาก ซึ่งเราไม่ต้องเอ่ยปากขอเลย เหมือนเขารู้ใจเราอยู่แล้ว ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเองและให้เกียรติเรามาก ๆ ส่วน Premium Flatbed นั้นมีเพียงแค่ผ้าร้อนให้ ไม่มีเวลคัมคริ้ง พนักงานดูแลใส่ใจดี แทบจะคลานเข่าเข้ามาหา (เอ๊ะหรือเราไม่คุ้นก็ไม่รู้) ฮ่า ๆ แต่แอบเสียใจนิดนึงคือเนื่องจากโซนที่เรานั่งไม่มีคนไทยเลย จากจุดนี้เองที่อาจจะทำให้เขาลืมนำใบ ตม มาให้เราเขียน ซึ่งตอนนั้นเราก็อ๊อง ๆ แลนดิ้งเสร็จถึงไปถามหาใบ ตม กับลูกเรือ เขาก็ขอโทษเรานะ เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรไม่ใช่เรื่องใหญ่ สรุปเรื่องการบริการก็ให้ royal silk ดีกว่านะครับ
3. เรื่องอาหาร
สำหรับผมก็ให้ royal silk ดีกว่ามาก ๆ ครับ
4. เรื่องสิทธิประโยชน์นั้นก็ตามเงื่อนไขของสายการบินนะครับ สำหรับผมนั้นให้อยู่ในระดับเท่า ๆ กัน ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก
5. การบริการภาคพื้นดิน royal silk มีบริการรับกระเป๋าก่อน มีห้องรับรองบริการให้อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถนั่งพักได้ไม่จำกัดเวลา ส่วนของ premium fatbed นั้นไม่มีบริการภาคพื้นดินใด ๆ ต้องซื้อบริการเพิ่ม และห้องรับรองจะเป็นของสนามบินนะครับ ก็โอเคระดับนึง แต่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อที่จะได้ไปนั่งพักในห้องรับรอง อีกอย่างนึงตอนเขึ้นเรื่องไม่ได้เลี้ยวซ้ายเลยครับ แต่ตอนลงก็ลงแยกจากชั้น economy อยู่นะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันครับ
6. เรื่องราคา royal silk ราคาประมาณ 3 เท่าของราคา premium flatbed นะครับ องค์ประกอบรวมต่าง ๆ สำหรับผมก็คุ้มค่าคุ้มราคาทั้งคู่นะครับ แต่แอบเสียใจตรง premium flatbed เครื่องเสี่ยงต่อการดีเลย์มากครับ เพราะตอนที่บินวันนั้นเครื่องดีเลย์ประมาณ 5 ชั่วโมง โดยสายการบินไม่ได้มีการรับผิดชอบใด ๆ เลย ให้เพียงแค่วอชเชอร์แมคโดนัลมา 1 เซ็ตเองครับ ลองคิดดูนะ ถ้าเกิดว่ามีผู้โดยสารที่ต้องไปธุระให้ตรงเวลา เขาอาจจะสูญเสียเงินให้อาจจะขาดทุนจากการไปสายก็ได้ ดังนั้นเรื่องราคา ถ้าเกิดไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินมากมายก็ควรใช้สายการบินที่ตรงเวลาดีกว่าครับ อย่าเสียน้อยเสียยากแล้วเสียมากเสียง่ายเลย ไม่คุ้มจริง ๆ ครับ แต่ถ้าไปเที่ยวชิว ๆ ไม่ซีเรียสก็แนะนำอันที่ถูกนะครับ จะได้นำเงินที่เหลือไปชอปปิ้งคลายเครียดกัน ฮ่าๆ
สำหรับการรีวิวก็นึกออกคร่าว ๆ เท่านี้ครับ หากใครมีอะไรสงสัยก็ถามได้นะครับ ยินดีอย่างยิ่ง
สุดท้ายขอบคุณที่ทุกคนเข้ามาอ่านกระทู้นะครับ ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจครับ
[CR] [รีวิวเปรียบเทียบ] Premium Flatbed ของ Thai AirAsia X กับ Royal Silk (Business class) ของ Thai Airways
เริ่มที่....
.....1. ที่นั่งกันก่อนเลย สำหรับผมนั้นที่นั่งของ royal silk ดูดีกว่า เพราะถ้านั่งติดหน้าต่างจะเป็นที่นั่งเดี่ยว ถ้ามาสองคนจะได้นั่งตรงกลางซึ่งเป็นที่นั่งคู่กัน การเอนเบาะ และการเหยียดเท้า royal silk ก็ดีกว่านะครับ เพราะเบาะเอนได้แนวราบก็คือ 180 องศา แถมมีที่วางเท้าที่ยาวพอสมควร คนสูงประมาณ 180 เหยียดได้ตรงสบายพอดีนะครับ ส่วน Premium Flatbed นั้นผมนั่ง 1A ผมสูง 158 เซนติเมตรเหยียดขาก็สุดพอดี คิดว่าคนที่ขายาวกว่าผมคงจะเหยียดขาสุดไม่ได้ อีกอย่างนึงคือ Premium Flatbed ไม่มีจอให้ดูด้วยนะครับ แต่ royal silk มีครับผม อ่อเรื่องปลั๊กก็มีให้เสียบให้ใช้ทั้งคู่นะครับ
2. เรื่องการบริการ royal silk มีผ้าร้อนและเวลคัมดริ้งให้ พนักงานดูแลใส่ใจเราดีมาก ซึ่งเราไม่ต้องเอ่ยปากขอเลย เหมือนเขารู้ใจเราอยู่แล้ว ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเองและให้เกียรติเรามาก ๆ ส่วน Premium Flatbed นั้นมีเพียงแค่ผ้าร้อนให้ ไม่มีเวลคัมคริ้ง พนักงานดูแลใส่ใจดี แทบจะคลานเข่าเข้ามาหา (เอ๊ะหรือเราไม่คุ้นก็ไม่รู้) ฮ่า ๆ แต่แอบเสียใจนิดนึงคือเนื่องจากโซนที่เรานั่งไม่มีคนไทยเลย จากจุดนี้เองที่อาจจะทำให้เขาลืมนำใบ ตม มาให้เราเขียน ซึ่งตอนนั้นเราก็อ๊อง ๆ แลนดิ้งเสร็จถึงไปถามหาใบ ตม กับลูกเรือ เขาก็ขอโทษเรานะ เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรไม่ใช่เรื่องใหญ่ สรุปเรื่องการบริการก็ให้ royal silk ดีกว่านะครับ
3. เรื่องอาหาร
สำหรับผมก็ให้ royal silk ดีกว่ามาก ๆ ครับ
4. เรื่องสิทธิประโยชน์นั้นก็ตามเงื่อนไขของสายการบินนะครับ สำหรับผมนั้นให้อยู่ในระดับเท่า ๆ กัน ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก
5. การบริการภาคพื้นดิน royal silk มีบริการรับกระเป๋าก่อน มีห้องรับรองบริการให้อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถนั่งพักได้ไม่จำกัดเวลา ส่วนของ premium fatbed นั้นไม่มีบริการภาคพื้นดินใด ๆ ต้องซื้อบริการเพิ่ม และห้องรับรองจะเป็นของสนามบินนะครับ ก็โอเคระดับนึง แต่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อที่จะได้ไปนั่งพักในห้องรับรอง อีกอย่างนึงตอนเขึ้นเรื่องไม่ได้เลี้ยวซ้ายเลยครับ แต่ตอนลงก็ลงแยกจากชั้น economy อยู่นะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันครับ
6. เรื่องราคา royal silk ราคาประมาณ 3 เท่าของราคา premium flatbed นะครับ องค์ประกอบรวมต่าง ๆ สำหรับผมก็คุ้มค่าคุ้มราคาทั้งคู่นะครับ แต่แอบเสียใจตรง premium flatbed เครื่องเสี่ยงต่อการดีเลย์มากครับ เพราะตอนที่บินวันนั้นเครื่องดีเลย์ประมาณ 5 ชั่วโมง โดยสายการบินไม่ได้มีการรับผิดชอบใด ๆ เลย ให้เพียงแค่วอชเชอร์แมคโดนัลมา 1 เซ็ตเองครับ ลองคิดดูนะ ถ้าเกิดว่ามีผู้โดยสารที่ต้องไปธุระให้ตรงเวลา เขาอาจจะสูญเสียเงินให้อาจจะขาดทุนจากการไปสายก็ได้ ดังนั้นเรื่องราคา ถ้าเกิดไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินมากมายก็ควรใช้สายการบินที่ตรงเวลาดีกว่าครับ อย่าเสียน้อยเสียยากแล้วเสียมากเสียง่ายเลย ไม่คุ้มจริง ๆ ครับ แต่ถ้าไปเที่ยวชิว ๆ ไม่ซีเรียสก็แนะนำอันที่ถูกนะครับ จะได้นำเงินที่เหลือไปชอปปิ้งคลายเครียดกัน ฮ่าๆ
สำหรับการรีวิวก็นึกออกคร่าว ๆ เท่านี้ครับ หากใครมีอะไรสงสัยก็ถามได้นะครับ ยินดีอย่างยิ่ง
สุดท้ายขอบคุณที่ทุกคนเข้ามาอ่านกระทู้นะครับ ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้