ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนครอบครัวเรามีความสุขมาก สามีดูแลดิฉันกับลูกๆ ดีมากที่สุด ใครๆ ก็บอกว่าดิฉันโชคดีมากที่มีสามีที่ดี แต่ความสุขนั้นอยู่กับเราไม่นาน เมื่อสามีอยากก้าวหน้าในหน้าที่การงานโดยการไปสอบเป็นผู้บริหาร เขาเปลี่ยนไปมากอย่างเห็นได้ชัด มีความมุ่งมั่นที่จะสอบให้ได้ เพราะเคยสอบมาสองครั้งแล้วพลาดไป แต่ครั้งที่สามนี่แหล่ะที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงกับชีวิตครอบครัวของเรา เขาขอไปติวก่อนสอบทุกสัปดาห์ บอกกับดิฉันว่าจะกลับมาเมื่อสอบเสร็จ ก่อนวันสอบเจอเพื่อนที่จะสอบพร้อมกับสามี เพื่อนบอกว่าไม่มีชื่อสามีมาสมัครสอบนะ พอกลับมาก็ถามเขาว่าโกหกทำไม เขาบอกว่าขอไปสอบที่บ้านเกิด อยากดูแลพ่อแม่เพราะตั้งแต่เด็กไม่เคยได้ดูแลพ่อแม่เลย
วันไปส่งตัวที่ทำงานใหม่มีเพียงเราสามคนแม่ลูกกับเพื่อนสนิทอีกไม่กีคน ทุกคนถามว่าทำไมไม่อยู่กับลูก ลูกคนโต 10 ขวบ คนเล็ก 1 ขวบ เขาไปทำงานได้ 1 สัปดาห์ก็เป็นวันปีใหม่ ดิฉันโทรถามว่าจะเดินทางกลับถึงบ้านกี่โมง เขาตอบว่าจะไม่กลับไปอีกแล้ว ขอหย่า อยู่กับเราไปไม่มีความสุข แล้วลูกจะอยู่ยังไง คำตอบคือไม่ทิ้งลูกแน่นอน คนเราคุยกับปกติทุกวันไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ยอมรับว่าตอนทีรู้ว่าโกหกเรื่องไปสอบก็ทะเลาะกัน เพราะลูกยังเล็ก
อีก 1 สัปดาห์เขาเปิดตัวเป็นติวเตอร์กับทีมงานของเขาที่รู้จักกันตอนไปติว ซึ่งมีเพียงคนเดียวที่เป็นทีมงาน หลังจากที่ไปจากชีวิตพวกเราเขาหายไป ติดต่อไม่ได้ บล๊อกโทรศัพท์ ทุกการสื่อสาร ที่สำคัญไม่ได้ส่งเสียลูกเลย อ้างว่าไปติวไม่ได้เงินมากนัก เราลำบากกับการใช้ชีวิตมากๆ ต้องปรับตัวอยู่ให้ได้โดยไม่มีเขา เขาไม่เคยกลับมาจริงๆ
จนครบ 1 ปีที่ไป วันปีใหม่มีผู้หวังดีส่งภาพเขาอยู่ในงานปีใหม่กับครอบครัวทีมงานคนเดียวของเขา การแต่งกายดูแล้วเหมือนอยู่กับบ้านตัวเองและผู้ที่ลงเฟสคือลูกสาวของฝ่ายหญิง เขายังเล่าอีกว่าสามีไปบ้านผญ.คนนี้เกือบทุกวันหยุด ในขณะที่เขาไม่ส่งเสียลูกๆ ของตัวเอง (ระยะทางที่ต้องขับรถไปหา 3 ชม.กว่า) ไปเที่ยวกับครอบครัวผญ. แต่ไม่ลงภาพคู่ รู้ว่าไปด้วยกันแน่นอน ที่สำคัญให้ลูกๆ ของผญ.เรียกว่า พ่อ ความสัมพันธ์ก็คงไม่ปกติแล้วใช่มั้ยคะ
ช่วงหลังสงกรานต์เขาติดต่อมากว่าจะมาเยียม แต่เขาพาพ่อแม่ ญาติพีน้องมาเต็มรถ เพื่อจะมาคุยเรื่องหย่า เหตุผลคือไม่มีความสุขที่อยุ่ด้วยกัน มีผญ.คนใหม่ใช่มั้ย คำตอบคือ ไม่มี งั้นขอเงินค่าหย่า 2 ล้าน และถ้ามีจะฟ้องหย่าให้ออกจากงาน เขาโกรธมากและกลับไปพร้อมกับความผิดหวัง
จากวันนี้จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว เขากลับมาเพียง 2 ครั้ง เราก็ยังไม่ได้หย่ากันหรือเราควรจะหย่าให้มันจบๆ ไปดี
ถ้าเป็นคุณ จะดำเนินชีวิตต่อไปยังไง
วันไปส่งตัวที่ทำงานใหม่มีเพียงเราสามคนแม่ลูกกับเพื่อนสนิทอีกไม่กีคน ทุกคนถามว่าทำไมไม่อยู่กับลูก ลูกคนโต 10 ขวบ คนเล็ก 1 ขวบ เขาไปทำงานได้ 1 สัปดาห์ก็เป็นวันปีใหม่ ดิฉันโทรถามว่าจะเดินทางกลับถึงบ้านกี่โมง เขาตอบว่าจะไม่กลับไปอีกแล้ว ขอหย่า อยู่กับเราไปไม่มีความสุข แล้วลูกจะอยู่ยังไง คำตอบคือไม่ทิ้งลูกแน่นอน คนเราคุยกับปกติทุกวันไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ยอมรับว่าตอนทีรู้ว่าโกหกเรื่องไปสอบก็ทะเลาะกัน เพราะลูกยังเล็ก
อีก 1 สัปดาห์เขาเปิดตัวเป็นติวเตอร์กับทีมงานของเขาที่รู้จักกันตอนไปติว ซึ่งมีเพียงคนเดียวที่เป็นทีมงาน หลังจากที่ไปจากชีวิตพวกเราเขาหายไป ติดต่อไม่ได้ บล๊อกโทรศัพท์ ทุกการสื่อสาร ที่สำคัญไม่ได้ส่งเสียลูกเลย อ้างว่าไปติวไม่ได้เงินมากนัก เราลำบากกับการใช้ชีวิตมากๆ ต้องปรับตัวอยู่ให้ได้โดยไม่มีเขา เขาไม่เคยกลับมาจริงๆ
จนครบ 1 ปีที่ไป วันปีใหม่มีผู้หวังดีส่งภาพเขาอยู่ในงานปีใหม่กับครอบครัวทีมงานคนเดียวของเขา การแต่งกายดูแล้วเหมือนอยู่กับบ้านตัวเองและผู้ที่ลงเฟสคือลูกสาวของฝ่ายหญิง เขายังเล่าอีกว่าสามีไปบ้านผญ.คนนี้เกือบทุกวันหยุด ในขณะที่เขาไม่ส่งเสียลูกๆ ของตัวเอง (ระยะทางที่ต้องขับรถไปหา 3 ชม.กว่า) ไปเที่ยวกับครอบครัวผญ. แต่ไม่ลงภาพคู่ รู้ว่าไปด้วยกันแน่นอน ที่สำคัญให้ลูกๆ ของผญ.เรียกว่า พ่อ ความสัมพันธ์ก็คงไม่ปกติแล้วใช่มั้ยคะ
ช่วงหลังสงกรานต์เขาติดต่อมากว่าจะมาเยียม แต่เขาพาพ่อแม่ ญาติพีน้องมาเต็มรถ เพื่อจะมาคุยเรื่องหย่า เหตุผลคือไม่มีความสุขที่อยุ่ด้วยกัน มีผญ.คนใหม่ใช่มั้ย คำตอบคือ ไม่มี งั้นขอเงินค่าหย่า 2 ล้าน และถ้ามีจะฟ้องหย่าให้ออกจากงาน เขาโกรธมากและกลับไปพร้อมกับความผิดหวัง
จากวันนี้จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว เขากลับมาเพียง 2 ครั้ง เราก็ยังไม่ได้หย่ากันหรือเราควรจะหย่าให้มันจบๆ ไปดี