สวัสดีคะ่ จากกระทู้เดิม
https://ppantip.com/topic/38761785 ตอนนั้น พี่คิดจะลาออกมาหาธุรกิจส่วนตัวรองรับก่อนเกษียณ หลังรับโบนัส พี่ลาออกเลยค่า จะมาขายประกันรถ online เพราะไม่ต้องลงทุนกับค่าเช่าหน้าร้าน ค่าสต๊อคสินค้า ไม่อยากเอาเงินเก็บมาเสี่ยงค่ะ
เหตุที่เลือกขายประกันรถยนต์ ?
- ก่อนหน้านี้ เป็นพนักงานธนาคาร ก็พอรู้ว่าการเป็นนายหน้าประกันรถยนต์ สามารถสร้างรายได้สะสมที่เกิดจากการที่ลูกค้าซื้อประกันในปีแรก จะซื้อประกันต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป การสร้างรายได้สะสมนี้ สามารถสะสม ต่อเนื่องจนสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ปัจจุบ้น การเป็นนายหน้าประกันรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน เราสามารถสร้างเพจ facebook ฟรี เพื่อเป็นช่องทางในการนำเสนอประกันได้ เมื่อไม่มีต้นทุนค่าเช่าหน้าร้าน ช่วยให้เราเดินไปได้ง่ายขึ้นนะคะ
เมื่อตัดสินใจว่าจะเป็นนายหน้าประกันรถยนต์แล้ว คำถามต่อมาคือจะสมัครเป็นนายหน้ากับ บ.ประกันโดยตรง หรือสมัครเป็น sub-broker กับบ.นายหน้าล่ะ ?
- ถ้าสมัครเป็นนายหน้ากับบ.ประกัน - ปกติลูกค้าที่ซื้อประกันรถ ก็จะเลือกซื้อกับบ.ประกันต่างๆ กันไป เราก็ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่บ.ประกันหลายบริษัท อาจถึง 20 บริษัท แต่ละบริษัทก็มีขั้นตอนการทำงานต่างกัน หุหุ ... แค่คิดก็เหนื่อยแระ
ถ้าสมัครเป็น sub-broker น่าจะทำงานง่ายกว่า เพราะติดต่อที่เดียว ได้หลายบ.ประกัน แล้วเราจะสมัครเป็น sub-broker กับบริษัทไหนดีล่ะ ?
- จากคำถามดังกล่าว อากู๋ก็ช่วยให้เจอคลิปเฮียศรีกรุง แกพูดว่า "เรามีบ.ประกันชั้นนำให้เลือกกว่า 35 บริษัท และมีทีมงานสนับสนุนการทำงานให้ตัวแทน" แหม ฟังแล้ว รู้สึกตอบโจทย์ อยากติดต่อจุดเดียว ส่งได้หลายบริษัท จึงเลือกสมัครเป็นสมาชิกกับบ.ศรีกรุงค่ะ
คนขายประกันรถยนต์ เขามีรายได้กันยังไง ?
รายได้จากการขายประกันรถยนต์จะต้องใช้เวลาในการสะสมลูกค้าค่ะ สะสมกันปึต่อปี แรกๆ รายได้จะน้อย แต่ก็พอเป็นรายได้เสริมได้ พี่ยกตย. เป็นตัวเลขกลมๆ เพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆ นะคะ
ปีที่ 1 - ถ้าเราหาลูกค้าได้ ประมาณ 10 ราย / เดือน
ค่าเบี้ยต่อราย ประมาณ 10,000 บ.
ค่าเบี้ยรวม 100,000 บ.
ค่าคอม ประมาณตัวเลขกลมๆ 10%
เราจะมีรายได้ประมาณ 10,000 บ. ในแต่ละเดือนในปีแรก
ปีที่ 2 - เราหาลูกค้าใหม่ 10 ราย / เดือน เท่าเดิม แต่เราจะมีลูกค้าต่ออายุจากปีที่ 1 อีก 10 ราย รวมเป็น 20 ราย
เราจะมีรายได้ประมาณ 20,000 บ. ในแต่ละเดือนในปีที่ 2
ปีที่ 3 - เรายังคงหาลูกค้าใหม่ 10 ราย / เดือน เท่าเดิม แต่เราจะมีลูกค้าต่ออายุจากปีที่ 1 และปีที่ 2 อีก 20 ราย รวมเป็น 30 ราย
เราจะมีรายได้ประมาณ 30,000 บ. ในแต่ละเดือนในปีที่ 3
ปีที่ 4 และปีที่ 5 เรายังคงหาลูกค้าใหม่เท่าเดิมค่ะ แต่เราจะมีลูกค้าในปีที่ 4 = 40 ราย และปีที่ 5 = 50 ราย
เราจะมีรายได้ประมาณ 40,000 บ. และ 50,000 บ.
เป็นรายได้แบบไม่มีเพดานค่ะ แต่ในช่วงแรก รายได้จะยังไม่มาก แต่ก็พอเป็นรายได้เสริมได้ค่ะ เหมาะกับผู้ที่มีรายได้หลัก พอมีเวลาว่าง และต้องการหารายได้เสริมค่ะ
พี่ทำมาได้ไม่นานค่ะ รายได้ตอนนี้ก็ยังไม่มาก ต้องใข้เวลาในการสะสมรายได้ตามที่เล่ามา ถ้าคุณกำลังมองหารายได้เสริม ที่สามารถเติบโตขึ้นเป็นรายได้หลัก ก็สามารถสอบถามได้ค่า (ต้องขออภัยล่วงหน้า หากตอบช้าไปบ้าง แต่จะตอบให้ทุกท่านคะ)
ขอบคุณค่า
แชร์รายได้เสริม จากการขายประกันรถยนต์ และพรบ.ค่ะ
เหตุที่เลือกขายประกันรถยนต์ ?
- ก่อนหน้านี้ เป็นพนักงานธนาคาร ก็พอรู้ว่าการเป็นนายหน้าประกันรถยนต์ สามารถสร้างรายได้สะสมที่เกิดจากการที่ลูกค้าซื้อประกันในปีแรก จะซื้อประกันต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป การสร้างรายได้สะสมนี้ สามารถสะสม ต่อเนื่องจนสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ปัจจุบ้น การเป็นนายหน้าประกันรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน เราสามารถสร้างเพจ facebook ฟรี เพื่อเป็นช่องทางในการนำเสนอประกันได้ เมื่อไม่มีต้นทุนค่าเช่าหน้าร้าน ช่วยให้เราเดินไปได้ง่ายขึ้นนะคะ
เมื่อตัดสินใจว่าจะเป็นนายหน้าประกันรถยนต์แล้ว คำถามต่อมาคือจะสมัครเป็นนายหน้ากับ บ.ประกันโดยตรง หรือสมัครเป็น sub-broker กับบ.นายหน้าล่ะ ?
- ถ้าสมัครเป็นนายหน้ากับบ.ประกัน - ปกติลูกค้าที่ซื้อประกันรถ ก็จะเลือกซื้อกับบ.ประกันต่างๆ กันไป เราก็ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่บ.ประกันหลายบริษัท อาจถึง 20 บริษัท แต่ละบริษัทก็มีขั้นตอนการทำงานต่างกัน หุหุ ... แค่คิดก็เหนื่อยแระ
ถ้าสมัครเป็น sub-broker น่าจะทำงานง่ายกว่า เพราะติดต่อที่เดียว ได้หลายบ.ประกัน แล้วเราจะสมัครเป็น sub-broker กับบริษัทไหนดีล่ะ ?
- จากคำถามดังกล่าว อากู๋ก็ช่วยให้เจอคลิปเฮียศรีกรุง แกพูดว่า "เรามีบ.ประกันชั้นนำให้เลือกกว่า 35 บริษัท และมีทีมงานสนับสนุนการทำงานให้ตัวแทน" แหม ฟังแล้ว รู้สึกตอบโจทย์ อยากติดต่อจุดเดียว ส่งได้หลายบริษัท จึงเลือกสมัครเป็นสมาชิกกับบ.ศรีกรุงค่ะ
คนขายประกันรถยนต์ เขามีรายได้กันยังไง ?
รายได้จากการขายประกันรถยนต์จะต้องใช้เวลาในการสะสมลูกค้าค่ะ สะสมกันปึต่อปี แรกๆ รายได้จะน้อย แต่ก็พอเป็นรายได้เสริมได้ พี่ยกตย. เป็นตัวเลขกลมๆ เพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆ นะคะ
ปีที่ 1 - ถ้าเราหาลูกค้าได้ ประมาณ 10 ราย / เดือน
ค่าเบี้ยต่อราย ประมาณ 10,000 บ.
ค่าเบี้ยรวม 100,000 บ.
ค่าคอม ประมาณตัวเลขกลมๆ 10%
เราจะมีรายได้ประมาณ 10,000 บ. ในแต่ละเดือนในปีแรก
ปีที่ 2 - เราหาลูกค้าใหม่ 10 ราย / เดือน เท่าเดิม แต่เราจะมีลูกค้าต่ออายุจากปีที่ 1 อีก 10 ราย รวมเป็น 20 ราย
เราจะมีรายได้ประมาณ 20,000 บ. ในแต่ละเดือนในปีที่ 2
ปีที่ 3 - เรายังคงหาลูกค้าใหม่ 10 ราย / เดือน เท่าเดิม แต่เราจะมีลูกค้าต่ออายุจากปีที่ 1 และปีที่ 2 อีก 20 ราย รวมเป็น 30 ราย
เราจะมีรายได้ประมาณ 30,000 บ. ในแต่ละเดือนในปีที่ 3
ปีที่ 4 และปีที่ 5 เรายังคงหาลูกค้าใหม่เท่าเดิมค่ะ แต่เราจะมีลูกค้าในปีที่ 4 = 40 ราย และปีที่ 5 = 50 ราย
เราจะมีรายได้ประมาณ 40,000 บ. และ 50,000 บ.
เป็นรายได้แบบไม่มีเพดานค่ะ แต่ในช่วงแรก รายได้จะยังไม่มาก แต่ก็พอเป็นรายได้เสริมได้ค่ะ เหมาะกับผู้ที่มีรายได้หลัก พอมีเวลาว่าง และต้องการหารายได้เสริมค่ะ
พี่ทำมาได้ไม่นานค่ะ รายได้ตอนนี้ก็ยังไม่มาก ต้องใข้เวลาในการสะสมรายได้ตามที่เล่ามา ถ้าคุณกำลังมองหารายได้เสริม ที่สามารถเติบโตขึ้นเป็นรายได้หลัก ก็สามารถสอบถามได้ค่า (ต้องขออภัยล่วงหน้า หากตอบช้าไปบ้าง แต่จะตอบให้ทุกท่านคะ)
ขอบคุณค่า