3 Idiots (2009): เป้าหมายของการศึกษา-คุณค่าของชีวิต


ความรู้สึกแรกหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ ผมนึกถึงกลิ่นไอหนังหลายเรื่องของดาราผู้ล่วงลับ Robin Williams โดยเฉพาะ Dead Poets Society (1989) และ Patch Adams (1998)

สารภาพว่าได้ยินคุณความดีของหนังเรื่องนี้และหนังจากอินเดียอีกหลายเรื่อง แต่ก็ดองไว้มาหลายปี อาจเพราะเคยได้ผ่านตากับคลิปและละครจากแดนภารตะมาหลายครั้งแล้วรู้สึกไม่ถูกจริต นี่จึงเป็นหนังอินเดียเรื่องแรกที่ได้ตั้งใจดูอย่างจริงจังในชีวิต

ผลลัพธ์คือตลอด 2 ชั่วโมง 50 นาทีที่ Rajkumar Hirani ผู้กำกับบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตเพื่อนสนิท 3 คนในรั้วมหาวิทยาลัย นำโดย Rancho (Aarmir Khan) สลับกับชีวิตในปัจจุบันในการตามหาเพื่อนที่หายไปนั้น ไม่มีความน่าเบื่อสักช่วง สามารถออกแบบวิธีทางภาพยนตร์มาใช้ได้แยบคาย สื่อสาระหลักของเรื่องได้ชัดเจน สนุก ตลก เคล้าน้ำตา และแน่นอนว่ามาพร้อมกับการเต้นและเพลง (แต่ไม่ล้นและรู้สึกอิหลักอิเหลื่อสักนิด)

หาก Dead Poets Society มีประเด็นของเรื่องในการกล้าทำตามฝัน ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายไม่ขึ้นกับกฎเกณฑ์ด้วยแง่งาม, Patch Adams บอกเล่าเรื่องความหมายของการศึกษาและเป้าหมายที่แท้จริงของอาชีพเช่นแพทย์, 3 Idiots ก็เล่าประเด็นเหล่านี้ไม่ต่างกัน เปลี่ยนจากสเน่ห์การแสดงของ Williams เป็น Khan ขยายความด้วยเรื่องราวของมิตรภาพจากวันเรียนสู่วัยทำงาน เพิ่มมิติของเรื่องด้วยแง่มุมของหลายตัวละครรวมไปถึงวายร้ายของเรื่อง และคลุกเคล้าด้วยสเน่ห์ของบอลลีวูดอย่างกลมกล่อม งานภาพฉากชีวิตของอินเดียที่หาชมไม่ได้จากที่อื่น (แม้หลายฉากจังหวะภาพและเสียงทำให้นึกถึงละครไทยไปบ้าง(ฮา)) จนเชื่อว่ายากจะหาใครไม่รู้สึกดีหรือรักหนังเรื่องนี้

Hirani ที่ทั้งเขียนบทและกำกับมุ่งตรงไปยังสองคำถามชัดเจนว่า "อะไรคือเป้าหมายของการศึกษา?" และ "เราควรใช้ชีวิตแบบไหนจึงมีคุณค่าและความหมาย?" เขาตีโจทย์นี้แตกสนิทด้วยการผูกปมและเฉลยความจริงของชีวิตตัวเอกอย่าง Rancho ผู้ซึ่งมองชีวิตถึงสาระมากกว่ารูปแบบ เรียนรู้เพราะใฝ่รักมากกว่าหวังแข่งขันได้เกรดหรืองาน มีอิสระโดยไม่ขึ้นกับกฎเกณฑ์ไร้เหตุผล ศึกษาเพื่อเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ถูกสร้างให้ออกไปแก่งแย่งทรัพยากรรับใช้องค์กร

การเลือกจะเรียนเพราะชอบเพราะอยาก ตั้งตำถามสงสัยในสิ่งที่อาจารย์สอนไม่ใช่เออออ เลือกทำงานที่รักโดยไม่สนสังคมจะมอง ใช้ชีวิตด้วยสำนึกที่ถูกไม่ใช่ด้วยกฎจากใครมาบังคับ สิ่งเหล่านี้ล้วนเข้าทางจริตวิถีชีวิตผมและอีกหลายคนที่อาจเป็นคนอิเดียทแปลกแยกในโลกของความจริง นี่เองที่หนังเรื่องนี้จึงเป็นความพิเศษ

หากคุณหลงรักภาพยนต์ ชื่นชอบหนังดี ๆ สักเรื่อง คิดถึงความรู้สึกของไฟในชีวิตที่อาจอ่อนแรงไป อยากยิ้มทั้งน้ำตากับตัวละครที่แทนมิตรภาพและคนรอบตัวเราในชีวิตจริง พาคุณให้ทบทวนตัวเองและออกไปใช้ชีวิตด้วยมุมมองบวก หนังเรื่องนี้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบเช่นดังหนังหลายเรื่องในอดีตที่หาชมได้ยากขึ้นในปัจจุบัน

10/10 All is Well!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่