หลังจากทราบข่าวเส้นทางข้ามประเทศใหม่เดินทางจากจังหวัดน่านสู่ หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกของประเทศลาว ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง!!!เราและครอบครัวเลยจัดทริปเลยจร้าและครั้งนี้เป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของเรา ที่เราเลือกเที่ยวลาวเพราะว่า ภาษา อาหาร และวัฒนธรรมหลายอย่างเหมือนบ้านเรามากทริปนี้ เราเดินทางผ่านชายแดนห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่านค่ะ เข้าทางเราเลย บ้านเราอยู่ที่จังหวัดน่านพอดี
โดยทริปนี้เราไปกัน 3 วัน 2 คืน แพลนที่เราปักหมุดไว้ ก็จะประมาณนี้
- วัดพระธาตุพูสี
- ตลาดมืด
- ตักบาตรข้าวหนียว
- ร้านกาแฟประชานิยม
- ตลาดเช้า
- น้ำตกตาดกวางสี
- วัดเขียงทอง (วัดเซียงทอง)

Day 1 มาเริ่มกันเลยค่ะ
28/07/2562
เราเริ่มออกจากบ้านเราที่บ้านฝายมูลอ.ท่าวังผา จ.น่าน เวลาประมาณ 6.00 น.ไปถึงด่านชายแดนห้วยโก๋นเวลา 7.30 น.ถามเจ้าหน้าที่ที่ประจำหน้าด่านบอกว่าด่านเปิดทำการ 08.00 น.ครอบครัวเราไปกัน 5 คน เลยมีเวลาทำธุระส่วนตัว กินข้าวและเตรียมสัมภาระเป้คนละใบ ทริปนี้เราแพลนไว้คือ ฝากรถยนต์ของเราไว้ที่หน้าด่าน แล้วขึ้นรถขนส่งจากเมืองเงินไปต่อไชยบุรีและปลายทางที่หลวงพระบางค่ะ
เวลา 08.00 น.ด่านเริ่มเปิดทำการจะมีชาวลาวเดินทยอยกันมาเรื่อยๆ ( ไม่รู้มาจากไหนกันค่ะ) เราเลยเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องขั้นตอนการเดินเอกสารมั่ง สรุปเริ่มที่ไปเริ่มประทับวีซ่าก่อนค่ะ ( วีซ่าท่องเที่ยวอยู่ที่ลาวได้ไม่เกิน 30 วัน ฟรีค่ะ )
จากนั้นเราก็เดินไปขึ้นรถกระเปาะ( ไม่รู้พิมพ์ถูกไหม ) ที่จอดรออยู่หน้าด่าน เราสอบถามค่าบริการก่อนว่าจะไปหน้าด่านเมืองเงินเท่าไหร่ ลุงแกบอก “ 20 บาท “ ตอบเป็นเงินบาทเลยจ้า ตรงกับข้อมูลที่เราหามาเลย ( ราคาเท่ากัน ) โอเคขึ้นรถลุงไปจอดที่ ตม.ด่านเมืองเงินค่ะ
พอไปถึงที่ด่านก็จะมีเจ้าหน้าที่ ตม.นำแบบฟอร์มมาให้กรอก เรียบร้อยแล้วก็ไปต่อแถวประทับวิซ่า และถ่ายรูป
วันที่เราไปที่เป็นวันอาทิตย์ค่ะ ต้องจ่ายค่าผ่านด่านคนละ 10,000 กีบ ถ้าแลกเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ประมาณ 35.57 บาทค่ะ ( แต่เจ้าหน้าที่ที่ด่านเก็บคนละ 40 บาทค่ะ ) ช่วงที่เราไปยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเยอะสักเท่าไหร่เลยไม่ต้องรอคิวนาน
จากนั้นเราไปขึ้นรถกระเปาะคันเดิมที่นั่งมาจากชายแดนห้วยโก๋นค่ะ ลุงก็จะขับพาเราไปที่ ขนส่ง เมืองเงิน
เรามาถึงที่ด่านเมืองเงินประมาณ 08.22 น.ทำการซื้อตั๋วรถเพื่อไปลงที่เมือง ไชยะบุรี ค่าตั๋ว 5 คน 45,000 กีบ ( เงินไทยคนละ 160 บาท ) เจ้าหน้าที่บอกว่ารถทัวร์จะมาประมาณ 10.30 น. เพราะว่ารถรอบแรกออกไปแล้ว ตอน 08.00 น.( ฮือๆเราช้าไปนิ้สสสสสนึงเอง ) สักพักมีคนขับรถตู้มาถามเราว่า “สนใจเหมารถจากเมืองเงินไปถึงหลวงพระบางเลยไหม” ค่าบริการเหมา 5 คน 5 พันบาท หืออออ!!เรามาคำนวณแล้วตกคนละ 1,000 บาทแน่ะ เพราะถ้าเรานั่งจากเมืองเงิน 160 บาท และไปต่อรถที่ไชยะบุรีอีกคนละ สามร้อยกว่าบาทรวมแล้วน่าจะไม่เกิน คนละ 6 ร้อยบาทเอง เลยบอกว่าแพงเกินไป ขอรอรถทัวร์ดีกว่าค่ะ ช่วงเวลารอรถทัวร์เราเลยไปแลกเงินกีบทีร้านพี่บัวจันทร์อยู่ด้านหลังขนส่งเลยค่ะ มีขายซิมเน็ตด้วยนะค่ะ คนละ 25,000 กีบ ( 95฿ ) เราแลกเงินที่พี่บัวจันทร์ 5 พันบาท ได้เงินกีบมา 1,425,000 กีบค่ะ โอ้ว!!!แม่เจ้าถือเงินเยอะมาก ( ช่วงที่เราไปค่าเงินบาทเราแข็งตัวพอดีเราเลยแลกได้เยอะ ) ฟลุคค่ะฟลุค ใครมีโอกาสผ่านไปแวะแลกเงินที่พี่บัวจันทร์ได้นะค่ะ พี่บัวจันทร์น่ารักแถมเป็นกันเองมากกกกก ถ้าเงินเหลือจากการเที่ยวพี่เค้ารับแลกคืนได้อัตราเดิมเลยค่ะ
ระหว่างที่เราเปลี่ยนซิมเน็ต และ แลกเงินอยู่ คนขับรถตู้คนเดิมเดินเข้ามาถาม บอกว่า “มีคนไทยจะไปหลวงพระบาง 3 คน สนใจไปด้วยกันเลยไหม ราคาเหมาคนละ 700 บาท” จากรอบแรกครอบครัวเรา 5 คน 5 พันบาท เรามาลองคำนวณถ้าเราขึ้นรถไปต่อที่เมืองไชยบุรีอีกประมาณ 3 ร้อยกว่าบาท รวมแล้วก็ 6 ร้อยกว่าบาท เราเลยโอเครเหมารถตู้ไปที่หลวงพระบางเลย ( จะได้ไม่ลำบากต่อหลายรอบค่ะ )
เราออกจากเมืองเงิน เวลา 10.12 น.ระหว่างทางคนขับรถตู้พาเราไปทางใหม่ แต่เป็นทางลาดชันและโค้งขึ้นเขา
ตอนแรกเรากับครอบครัวแพลนว่าจะเอารถข้ามมา แต่พอมาเจอทางแล้วเราคิดในใจว่าคิดถูกแล้วที่ไม่เอารถมาเองค่ะ นอกจากพวงมาลัยจะอยู่คนละฝั่งกับเราแล้วถนนก็อยู่กันคนละฝั่งเช่นกันค่ะ ถ้าเรามัวแต่มาดูแผนที่แล้วไหนจะขับไม่ถนัดอีกโอ้ว ไม่รอดค่ะ555 ( เราว่านั่งในรถตู้ดูบรรยากาศชิวๆดีกว่าค่ะ ) ระหว่างทางคนขับรถตู้พาเราแวะถ่ายรูปที่โรงไฟฟ้าหงสาค่ะ อลังการมาก โรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสา เป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงหลัก มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 1,878 เมกะวัตต์ โดยจะผลิตไฟฟ้าเพื่อขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นหลัก
จากนั้นเราก็มาแวะที่ปั๊ม ปตท.ที่มีนายทุนเป็นคนไทยค่ะ ( แอบถามน้องพนักงานที่ขายของในมินิมาร์ทจิฟฟี่มาค่ะ ) ราคากาแฟที่อเมซอนที่นี่ราคาจะแพงกว่าที่ไทยมากกว่า 5 บาทค่ะ
ถึงแล้วววววว สบายดีหลวงพระบาง เวลา 14.15 น.
เราจองที่พักไว้ล่วงหน้าผ่าน booking.com ค่ะ (( จริงๆแล้วถ้าไปกันสองคนไม่ต้องจองล่วงหน้าก็ได้ เพราะที่หลวงพระบางจะมีที่พักเยอะมากกกกก แต่ครั้งนี้เราแบกลูกสาวไปด้วย เลยต้องจองล่วงหน้าไว้ )) ที่ซุกหัวนอนของเราทริปนี้คือ วิลลา มหาสุข โฮเต็ล ( Villa mahasok hotel ) อยู่ใจกลางเมือง เราจองไว้ 2 ห้องค่ะ เป็นห้อง 3 เตียง และห้อง 2 เตียงค่ะ 2 คืน ราคา 4,338 บาทเองค่ะ เฉลี่ยคืนละ 1,090 บาท มีสระว่ายน้ำ และอาหารเช้าด้วยค่ะ ( ราคานี้ที่ไทยหาไม่ค่อยจะได้เลยค่ะ )
มี Welcome drink(อาหารตอนรับ) ด้วยนะค่ะน่ารักมาก
เวลา 17.30 น.หลังจากพักผ่อนแล้ว เราก็เริ่มออกเที่ยวตามแพลนที่เราวางไว้ ( ดูคึกมากค่ะ )
ที่แรก เราไปที่ วัดพระธาตุพูสี
ตามรีวิวที่เราเคยดูมาบอกว่า จะต้องขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกที่วัดพระธาตุพูสี จะเห็นพระอาทิตย์ตกดินแบบสวยมากและได้เห็นวิวหลวงพระบางแบบ360องศาอีกด้วย ไม่รอช้าพาไปชมภาพกันค่ะ
บรรยากาศด้านล่างเมืองหลวงพระบางค่ะ
พระธาตุพูสีค่ะ
พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า
หลังจากพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ก็ได้เวลาอาหารเย็น ทางลงจากพระธาตุพูสีจะมาเจอกับตลาดมืดพอดี อาหารมื้อนี้เราคงต้องฝากท้องไว้ที่นี่ค่ะ
ตลาดมืด คือ ตลาดกลางคืนที่เปิดตั้งแต่ เวลา 17.00 น. - 23.00 น. จะมีสินค้างานฝีมือของชาวบ้านมาวางขาย สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นผ้าถุงและงานฝีมือต่างๆ ส่วนโซนอาหารจะอยู่ในซอยเล็กๆซ้ายมือ ปากซอยทางเข้าจะมีร้านน้ำปั่นแม่ค้าพูดไทยได้ชัดแป๊ะมากเลยค่ะ
ค่าอาหาร 156,000 กีบ ( กินไปเป็นแสนเลยหรอ ?? ป่าวหรอกเงินไทยประมาณ 555 บาทเองค่ะ กินไปตั้ง 8 อย่างแน่ะ )

******เดี๋ยวมาต่อนะ*******