มหาดไทย จัดใหญ่ "งานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2562" อลังการสินค้าเอกลักษณ์ โชว์สุดยอดงานผ้าและหัตถศิลป์ไทย กระจายรายได้สู่ชุมชน ระหว่างวันที่ 10 – 18 สิงหาคม 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี
วันนี้ 3 สิงหาคม 2562 เวลา 13.30 น. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน "ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี" 2562 โดยมีนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแถลงข่าว ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต โดยงานจัดระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม 2562 รวม 9 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กรมการพัฒนาชุมชน โดยกระทรวงมหาดไทย ได้จัดงานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2562 ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2562 ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพ และโครงการโอทอป ภายใต้แนวคิด "ภูมิปัญญาคู่แผ่นดิน หัตถศิลป์แห่งแพรพรรณ" โดยในปีนี้นำเสนองานในรูปแบบ "Less is more" มางานเดียวครบทุกความต้องการ โดยรูปแบบการจัดงานเน้นความเรียบหรู ดูดีอย่างมีอัตลักษณ์ เผยเอกลักษณ์ เสน่ห์ภูมิปัญญาวัฒนธรรม หนึ่งในอารยธรรมแห่งโลกตะวันออก ผ่านรูปแบบกิจกรรมที่พร้อมสะกดทุกสายตา
แนวคิดการจัดงานในปีนี้ จะเน้นภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และภูมิปัญญาไทยผ่านสินค้าโอทอป ที่โดดเด่น สะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และความสามารถด้านหัตถศิลป์ของคนไทย ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศาสตร์และศิลป์แห่งโลกตะวันออกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสร้างชื่อเสียงในระดับสากล สอดคล้องกับกลยุทธ์ "Less is more" ซึ่งเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ และผู้คนในสังคมเมืองที่แสวงหาไลฟ์สไตล์เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็น ทั้งด้านศิลปะ แฟชั่น รวมถึงสินค้าและบริการแบบครบวงจรในที่เดียว ดังนั้นแนวคิดการจัดงานในครั้งนี้จึงไม่ได้หมายถึงตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแสดงถึงกระบวนการทางความคิด รวมถึงการบริการ ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การหีบห่อ กระทั่งได้รับการคัดสรรให้เป็นของขวัญของฝากสุดพิเศษ มีการประยุกต์ใช้ผ้าทอไทยในสไตล์ Mix & Match ที่ร่วมสมัย พร้อมอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหารพื้นถิ่น พร้อมเชื่อมโยงหมู่บ้านศิลปาชีพกับหมู่บ้านท่องเที่ยวนวัตวิถีเข้าด้วยกัน
ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับไฮไลท์กิจกรรมภายในงาน จะถูกแบ่งเป็น 10 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 : กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยน้อมนำพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในด้านการสืบสาน รักษา ต่อยอด งานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โซนที่ 2 : นิทรรศการช่างสิบหมู่ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลงานของสำนักช่างสิบหมู่ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนผลงานศิลปกรรมแขนงต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและปลุกจิตสำนึกของคนในชาติให้เห็นความสำคัญในการร่วมมือกันดูแลรักษาและสืบทอดงานศิลปะไทย โซนที่ 3 : การจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ซึ่งมีการนำผลิตภัณฑ์ผ้าปักชาวเขา ฝ้ายทอมือจากผลงานของดีไซน์เนอร์ ครูช่างศิลปหัตถกรรม และชุมชนต่างๆมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน โซนที่ 4 : อลังการหมู่บ้านท่องเที่ยวงานศิลปาชีพ และหมู่บ้านท่องเที่ยวนวัตวิถี อีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนที่เรียบง่ายมีเอกลักษณ์เฉพาะชุมชน โซนที่ 5 : ก้าวทันโลกแฟชั่น สีสันผ้าทอไทยสไตล์ Mix & Match เทรนด์ผ้าไทยที่กำลังมาแรงในปี 2019 ผ่านการแต่งตัวของเซเลบ หรือ เหล่านางเอก และบุคคลที่มีชื่อเสียงแถวหน้าเมืองไทย อาทิเช่น แพนเค้ก-เขมนิจ , แพรี่พาย , เดียร์น่า ฟลีโป และ นุ่น ศิรพันธ์ ซึ่งต่างหันมาสวมใส่ผ้าไทยแบบประยุกต์ออกงานต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้สามารถเปลี่ยนทัศนคติ และปลุกกระแสคนไทยให้เริ่มหันมาสนใจ สวมใส่ชุดผ้าไทย สไตล์ Mix & Match กันมากขึ้น โซนที่ 6 : ชมผ้าเก่าเปิดกรุหนึ่งเดียวในโลกครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อนำเสนอความงดงามของผ้าไทยที่เลื่องลือ สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาวัฒนธรรมของคนไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ลวดลายบนผืนผ้าได้บ่งบอกความรุ่งเรืองทางภูมิปัญญาของช่างทอไทยที่น่าภาคภูมิใจ อาทิเช่น บ้านคำปุน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี คุณเถ่า-มีชัย แต้สุจริยา ซึ่งเป็นทายาทเจ้าของและเป็นผู้ที่ดูแลบ้านคำปุน อีกทั้งยังเป็นศิลปินดีเด่นจังหวัดอุบลราชธานีปี 2544 และครูศิลปะของแผ่นดินปี 2559 ซึ่งเป็นผู้คิดค้นผ้าทอมือเทคนิคเฉพาะทาง และเป็นผู้คิดค้นเทคนิคและออกแบบ ผ้าลายกาบบัว จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ระดับชาติไปจนถึงระดับโลก หรือ ผ้าทอยกทองจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ จากหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทอง จันทร์โสมา ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ บ้านท่าสว่าง โดยมี อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เป็นแกนนำและเป็นผู้รวบรวมชาวบ้านท่าสว่าง มารวมกลุ่มกันทำงานทอผ้ายามว่าง เป็นต้น โซนที่ 7 : ตระการตาผ้าทออาเซียน เพื่อเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมแห่งแห่งโลกตะวันออก กับผลิตภัณฑ์ผ้าของกลุ่มประเทศอาเซียน ประกอบด้วย ไทย , ลาว , กัมพูชา , เมียนมา , เวียดนาม , สิงคโปร์ , มาเลเซีย , อินโดนีเซีย , บรูไน และฟิลิปปินส์ เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ของผ้า และเครื่องแต่งกายที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของความเป็นชาติของประเทศสมาชิก ได้มีโอกาสศึกษา เรียนรู้ และรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่มีความโยงใยระหว่างกันของกลุ่มชนในภูมิภาคอาเซียนแต่ครั้งในอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน โซนที่ 8 : Gift for mom ของขวัญสุดพิเศษเพื่อแม่ การให้ความสำคัญกับบุพการี โดยเฉพาะวันพิเศษอย่างวันแม่แห่งชาติปีนี้ ไม่ควรพลาดหาซื้อของขวัญแทนรักมอบแด่คุณแม่ อาทิ เครื่องประดับสวยๆ กระเป๋าสะพายดีๆสักใบ รองเท้าเพื่อสุขภาพสักคู่ หรือจะเป็นสินค้าแฟชั่นผ้าไทย อาหารเพื่อสุขภาพ ก็มีให้เลือกอย่างครบครัน โซนที่ 9 : สุดยอดผลิตภัณฑ์โอทอป 4 ภาคทั่วไทยกว่า 1,800 บูท ภาคเหนือ , ภาคกลาง , ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ และภาคใต้ โดยมีผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร มาจัดขายให้ผู้เข้าร่วมงานได้เข้ามาเลือกซื้อ และ โซนที่ 10 : อาหารพื้นถิ่นรสไทยแท้ และ โอทอปชวนชิม ให้ผู้เข้าชมได้เข้ามาลิ้มรสอาหารอร่อย เมนูเด็ด เมนูเด่นจาก โอทอปชวนชิมที่รวมอาหารดี 4 ภาคจากทั่วประเทศมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสรับประทานโดยไม่ต้องเดินทางไกล นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นถิ่นรสไทยแท้ต้นตำรับหาทานยาก พร้อมเสิร์ฟความอร่อยในรสชาติที่ทุกท่านถวิลหาท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยงานหัตถศิลป์อันทรงคุณค่าแห่งยุคสมัย
ในส่วนของกิจกรรมการแสดงประจำวัน และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพลิดเพลินกับกิจกรรมการแสดงประจำวัน พบกับศิลปินดังในยุคต่างๆ ทั้ง 60-70-80-90 ที่ยกขบวนมามอบความบันเทิงทั้งคอเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง และร่วมสมัย อาทิเช่น มนต์สิทธิ์ คำสร้อย, ไชยา มิตรชัย, เจินเจิน บุญสูงเนิน, หญิง ธิติกานต์, อ๊อฟ ศุภณัฐ, กันต์ เดอะสตาร์, นุ่น ซุปเปอร์วาเลนไทน์, ข้าวทิพย์ ธิดาดินและวงแฮมเมอร์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงพิเศษจากดุริยางค์เหล่าทัพ ที่จัดมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิเช่น กิจกรรมนาทีทอง ซื้อสินค้าราคาพิเศษประจำวัน และกิจกรรมลุ้นโชค ลุ้นรับผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่า อาทิเครื่องทองโบราณหลากหลายรูปแบบ มีทั้งรางวัลใหญ่ รางวัลประจำวัน และรางวัลพิเศษอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมรณรงค์ใส่ผ้าไทย ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาคู่พร้อมครอบครัว คนรัก พ่อแม่ หรือเพื่อน ก็มีโอกาสลุ้นรางวัลทุกท่าน หากใครสวมใส่ผ้าไทยมา โปรดรับรู้ว่า "เรากำลังจับตา ไม่แน่ว่าผู้โชคดีอาจเป็นคุณ" ขอเชิญชวนประชาชนร่วมช้อป ชิม ชม ในงาน "ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี" 2562 ระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม 2562 รวม 9 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี จัดโดย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้าย...
มหาดไทย แถลงข่าวจัดใหญ่ “งานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2562” 10 – 18 ส.ค.62 ณ อิมแพค เมืองทองธานี
วันนี้ 3 สิงหาคม 2562 เวลา 13.30 น. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน "ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี" 2562 โดยมีนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแถลงข่าว ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต โดยงานจัดระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม 2562 รวม 9 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กรมการพัฒนาชุมชน โดยกระทรวงมหาดไทย ได้จัดงานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2562 ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2562 ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพ และโครงการโอทอป ภายใต้แนวคิด "ภูมิปัญญาคู่แผ่นดิน หัตถศิลป์แห่งแพรพรรณ" โดยในปีนี้นำเสนองานในรูปแบบ "Less is more" มางานเดียวครบทุกความต้องการ โดยรูปแบบการจัดงานเน้นความเรียบหรู ดูดีอย่างมีอัตลักษณ์ เผยเอกลักษณ์ เสน่ห์ภูมิปัญญาวัฒนธรรม หนึ่งในอารยธรรมแห่งโลกตะวันออก ผ่านรูปแบบกิจกรรมที่พร้อมสะกดทุกสายตา
แนวคิดการจัดงานในปีนี้ จะเน้นภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และภูมิปัญญาไทยผ่านสินค้าโอทอป ที่โดดเด่น สะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และความสามารถด้านหัตถศิลป์ของคนไทย ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศาสตร์และศิลป์แห่งโลกตะวันออกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสร้างชื่อเสียงในระดับสากล สอดคล้องกับกลยุทธ์ "Less is more" ซึ่งเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ และผู้คนในสังคมเมืองที่แสวงหาไลฟ์สไตล์เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็น ทั้งด้านศิลปะ แฟชั่น รวมถึงสินค้าและบริการแบบครบวงจรในที่เดียว ดังนั้นแนวคิดการจัดงานในครั้งนี้จึงไม่ได้หมายถึงตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแสดงถึงกระบวนการทางความคิด รวมถึงการบริการ ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การหีบห่อ กระทั่งได้รับการคัดสรรให้เป็นของขวัญของฝากสุดพิเศษ มีการประยุกต์ใช้ผ้าทอไทยในสไตล์ Mix & Match ที่ร่วมสมัย พร้อมอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต อาหารพื้นถิ่น พร้อมเชื่อมโยงหมู่บ้านศิลปาชีพกับหมู่บ้านท่องเที่ยวนวัตวิถีเข้าด้วยกัน
ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับไฮไลท์กิจกรรมภายในงาน จะถูกแบ่งเป็น 10 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 : กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยน้อมนำพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในด้านการสืบสาน รักษา ต่อยอด งานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โซนที่ 2 : นิทรรศการช่างสิบหมู่ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลงานของสำนักช่างสิบหมู่ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนผลงานศิลปกรรมแขนงต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและปลุกจิตสำนึกของคนในชาติให้เห็นความสำคัญในการร่วมมือกันดูแลรักษาและสืบทอดงานศิลปะไทย โซนที่ 3 : การจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ซึ่งมีการนำผลิตภัณฑ์ผ้าปักชาวเขา ฝ้ายทอมือจากผลงานของดีไซน์เนอร์ ครูช่างศิลปหัตถกรรม และชุมชนต่างๆมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน โซนที่ 4 : อลังการหมู่บ้านท่องเที่ยวงานศิลปาชีพ และหมู่บ้านท่องเที่ยวนวัตวิถี อีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนที่เรียบง่ายมีเอกลักษณ์เฉพาะชุมชน โซนที่ 5 : ก้าวทันโลกแฟชั่น สีสันผ้าทอไทยสไตล์ Mix & Match เทรนด์ผ้าไทยที่กำลังมาแรงในปี 2019 ผ่านการแต่งตัวของเซเลบ หรือ เหล่านางเอก และบุคคลที่มีชื่อเสียงแถวหน้าเมืองไทย อาทิเช่น แพนเค้ก-เขมนิจ , แพรี่พาย , เดียร์น่า ฟลีโป และ นุ่น ศิรพันธ์ ซึ่งต่างหันมาสวมใส่ผ้าไทยแบบประยุกต์ออกงานต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้สามารถเปลี่ยนทัศนคติ และปลุกกระแสคนไทยให้เริ่มหันมาสนใจ สวมใส่ชุดผ้าไทย สไตล์ Mix & Match กันมากขึ้น โซนที่ 6 : ชมผ้าเก่าเปิดกรุหนึ่งเดียวในโลกครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อนำเสนอความงดงามของผ้าไทยที่เลื่องลือ สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาวัฒนธรรมของคนไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ลวดลายบนผืนผ้าได้บ่งบอกความรุ่งเรืองทางภูมิปัญญาของช่างทอไทยที่น่าภาคภูมิใจ อาทิเช่น บ้านคำปุน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี คุณเถ่า-มีชัย แต้สุจริยา ซึ่งเป็นทายาทเจ้าของและเป็นผู้ที่ดูแลบ้านคำปุน อีกทั้งยังเป็นศิลปินดีเด่นจังหวัดอุบลราชธานีปี 2544 และครูศิลปะของแผ่นดินปี 2559 ซึ่งเป็นผู้คิดค้นผ้าทอมือเทคนิคเฉพาะทาง และเป็นผู้คิดค้นเทคนิคและออกแบบ ผ้าลายกาบบัว จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ระดับชาติไปจนถึงระดับโลก หรือ ผ้าทอยกทองจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ จากหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทอง จันทร์โสมา ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ บ้านท่าสว่าง โดยมี อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เป็นแกนนำและเป็นผู้รวบรวมชาวบ้านท่าสว่าง มารวมกลุ่มกันทำงานทอผ้ายามว่าง เป็นต้น โซนที่ 7 : ตระการตาผ้าทออาเซียน เพื่อเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมแห่งแห่งโลกตะวันออก กับผลิตภัณฑ์ผ้าของกลุ่มประเทศอาเซียน ประกอบด้วย ไทย , ลาว , กัมพูชา , เมียนมา , เวียดนาม , สิงคโปร์ , มาเลเซีย , อินโดนีเซีย , บรูไน และฟิลิปปินส์ เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ของผ้า และเครื่องแต่งกายที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของความเป็นชาติของประเทศสมาชิก ได้มีโอกาสศึกษา เรียนรู้ และรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่มีความโยงใยระหว่างกันของกลุ่มชนในภูมิภาคอาเซียนแต่ครั้งในอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน โซนที่ 8 : Gift for mom ของขวัญสุดพิเศษเพื่อแม่ การให้ความสำคัญกับบุพการี โดยเฉพาะวันพิเศษอย่างวันแม่แห่งชาติปีนี้ ไม่ควรพลาดหาซื้อของขวัญแทนรักมอบแด่คุณแม่ อาทิ เครื่องประดับสวยๆ กระเป๋าสะพายดีๆสักใบ รองเท้าเพื่อสุขภาพสักคู่ หรือจะเป็นสินค้าแฟชั่นผ้าไทย อาหารเพื่อสุขภาพ ก็มีให้เลือกอย่างครบครัน โซนที่ 9 : สุดยอดผลิตภัณฑ์โอทอป 4 ภาคทั่วไทยกว่า 1,800 บูท ภาคเหนือ , ภาคกลาง , ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ และภาคใต้ โดยมีผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร มาจัดขายให้ผู้เข้าร่วมงานได้เข้ามาเลือกซื้อ และ โซนที่ 10 : อาหารพื้นถิ่นรสไทยแท้ และ โอทอปชวนชิม ให้ผู้เข้าชมได้เข้ามาลิ้มรสอาหารอร่อย เมนูเด็ด เมนูเด่นจาก โอทอปชวนชิมที่รวมอาหารดี 4 ภาคจากทั่วประเทศมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสรับประทานโดยไม่ต้องเดินทางไกล นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นถิ่นรสไทยแท้ต้นตำรับหาทานยาก พร้อมเสิร์ฟความอร่อยในรสชาติที่ทุกท่านถวิลหาท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยงานหัตถศิลป์อันทรงคุณค่าแห่งยุคสมัย
ในส่วนของกิจกรรมการแสดงประจำวัน และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพลิดเพลินกับกิจกรรมการแสดงประจำวัน พบกับศิลปินดังในยุคต่างๆ ทั้ง 60-70-80-90 ที่ยกขบวนมามอบความบันเทิงทั้งคอเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง และร่วมสมัย อาทิเช่น มนต์สิทธิ์ คำสร้อย, ไชยา มิตรชัย, เจินเจิน บุญสูงเนิน, หญิง ธิติกานต์, อ๊อฟ ศุภณัฐ, กันต์ เดอะสตาร์, นุ่น ซุปเปอร์วาเลนไทน์, ข้าวทิพย์ ธิดาดินและวงแฮมเมอร์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงพิเศษจากดุริยางค์เหล่าทัพ ที่จัดมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิเช่น กิจกรรมนาทีทอง ซื้อสินค้าราคาพิเศษประจำวัน และกิจกรรมลุ้นโชค ลุ้นรับผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่า อาทิเครื่องทองโบราณหลากหลายรูปแบบ มีทั้งรางวัลใหญ่ รางวัลประจำวัน และรางวัลพิเศษอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมรณรงค์ใส่ผ้าไทย ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาคู่พร้อมครอบครัว คนรัก พ่อแม่ หรือเพื่อน ก็มีโอกาสลุ้นรางวัลทุกท่าน หากใครสวมใส่ผ้าไทยมา โปรดรับรู้ว่า "เรากำลังจับตา ไม่แน่ว่าผู้โชคดีอาจเป็นคุณ" ขอเชิญชวนประชาชนร่วมช้อป ชิม ชม ในงาน "ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี" 2562 ระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม 2562 รวม 9 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี จัดโดย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้าย...