พุทธศาสนา กล่าวถึงการเวียนว่ายตายเกิดจริงเหรอ?

อยากทราบข้อมูลครับ....กำลังหมกมุ่นกับการศึกษาพุทธประวัติ555+ ระหว่างศึกษาก็ต้องเอาหลักธรรมต่างๆนำมาง  ... ผมมองเห็นว่าคำสอนทางพุทธศาสนาเป็นจริงทุกประการ พิสูจน์ได้ มีเหตุและมีผล  ... .. แต่บางคำสอน หรือคำกล่าวของพระพุทธองค์ต้องยอมรับว่าถ้าไม่ปฏิบัติจะเข้าใจยากจริงๆ และมีหลายๆสิ่งที่ไม่เข้าใจ.... อย่างเช่นนิพพาน การเวียนว่ายตายเกิด ภพภูมิ ...
สภาวะการศึกษายืนยันจุดนี้ไม่ได้เลย ว่ามีจริง เป็นของจริง   พอถามใครๆ ก็บอกเชื่อว่ามีจริง เป็นความจริง ...แต่อธิบายไม่ได้... ไม่เข้าใจ หรือยากที่จะเข้าถึง เป็นต้น
....ปัญหาคือเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีผู้ใดเข้าถึงคำสอนนี้ได้ เท่าที่รู้ ในประเทศไทยไม่มีความชัดเจนของสาวกที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้หายแคลงใจ ให้คนธรรมดาเข้าใจได้ ไม่มีใครเลย หรืออาจจะไม่มีใครรู้  บางคนบอกว่าเป็นเรื่องที่รับรู้และเข้าถึงยาก ต้องปฏิบัติสมาธิขั้นสูง ต้องวางจิตให้นิ่ง ฯลฯ
... .. เข้าเรื่องละกันครับ จริงๆพุทธศาสนากำเนิดยุคที่พราหมณ์กำลังรุ่งเรือง ..สมัยนั้นเหล่ามุณีต่างละทางโลกเพื่อหาความจริงของชีวิต หนีความโศกเศร้า แสวงหาทางพ้นทุกข์ และหลุดจากการเวียนว่ายตายเกิด   ด้วยวิธีต่างๆเช่น ทรมานร่างกายเพราะเชื่อว่าการอยู่กับทุกข์ทรมาณจะทำให้ไม่ต้องเกิดมาพบทุกข์อีก..... หรือ การเพลิดเพลินในกามเพื่อให้เกิดการเบื่ิอหน่ายและพบทางหลุดพ้น...หรือการทำโยคะ... แต่จุดมุ่งหมายสูงสุดของพราหมณ์เชื่อว่าเป็นการหลอมรวมวิญญาณเข้ากับพรหมและเป็นสุขนิรันดร์
.....แสดงว่า  การเวียนว่ายตายเกิด กรรม ภพ ชาติ เทวดา ฯลฯ มีในหลักความเชื่อของศาสนาพราห์ม มาก่อนหน้าแล้ว   ....ซึ่งเจ้าชายสิทธัตถะก็เกิดข้อสงสัยเช่น ทำไมต้องเกิด ต้องแก่ ต้องตาย ตายแล้วไปไหน  ความจริงแท้คืออะไร พระเจ้ามีอยู่จริงไหม มีหนทางหลุดพ้นไหมฯลฯ จนพระองค์ตรัสรู้ คือรู้ทุกอย่างในธรรมชาติ รู้ทุกอย่างของจิต และตัดสินใจเผยแพร่คำสอนเพื่อมวลมนุษย์ชาติ
..... สิ่งที่ผมอยากรู้คือ การเวียนว่ายตายเกิด กรรม ภพภูมิ ทางพุทธศาสนาสอนเหมือนกับทางพรหมณ์ไหม หรือเป็นหลักของพราหมณ์แต่สาวกนำมาปะปน(พระไตรปิฎกเขียนหลังจากศาสดานิพพานไปแล้วตั้งนาน) หรือแค่ใช้คำๆเดียวกันแต่ความหมายต่างกัน เพราะหลักธรรมต่างๆของพุทธล้วนเป็นเหตุและผลและไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า...ซึ่งต่างกับพราหมที่เชื่อว่ามีพระเจ้าบันดาลทุกอย่าง (ซึ่งผมก็ไม่ได้ศึกษาพระเวทจริงจัง แค่อ่านผ่านๆมาบ้าง)
..... ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ อยู่กับวิทยาศาสตร์มาตลอด แต่ก็ศรัทธาพุทธศาสนามาก และคิดว่าเราควรตั้งข้อสงสัยในคำสอน เหมือนที่สงสัยวิทยาศาสตร์ ในฐานะที่เรานับถือ ..ก็ควรที่จะสงสัย ศึกษาหาคำตอบ
....ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ก็ปวดหัวกับพฤติกรรมต่างๆของธรรมชาติ เช่น ควอนตัม ความประหลาดของสิ่งที่เล็กจิ๋ว ที่เคยปฏิวัติโลกมาแล้ว  วิทยาศาสตร์เจอทางตันของบางปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว.... ไม่ต่างกันกับการหาคำตอบ ความเข้าใจทางจิต ความลับของการเข้าถึงคำสอนที่แท้จริงของศาสนา มันลึกซึ้ฃงมากไป หรือจริงๆแล้วมันเป็นแค่ความเชื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่