คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 33
ความคิดเห็น 31 เขาหวังดีนะพี่
สินค้าพี่มีจุดอ่อนหลายอย่าง พี่เริ่มทำสินค้ามีปริมาณเยอะ มีวันหมดอายุ ต้องจ้างเขาทำเกือบทุกขั้นตอน
มันเป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ที่สำคัญคือพี่ยังไม่มีฐานลูกค้าเลยมันจะลำบากมาก
ถ้าเป็นหนูคงลงทุนต่อ พอได้สินค้ามาแล้ว ถ่ายรูปสินค้าหลายๆแบบ สวยๆ ชัดๆ คิดคอนเทนต์ที่จะเขียนให้กระชับ น่าสนใจ
อ่านแล้วได้ใจความ ไม่เวิ่นเว้อ วางแผนสร้างเพจ จากนั้นซื้อโฆษณาอัดในเเฟสบุ๊ค
ส่วนราคาขายน่าเป็นราคาทุน+กำไรน้อยๆ เพราะต้องการระบายสินค้าออกมาเป็นเงินคืนกลับมาให้ได้มากที่สุด ต้องแข่งกับเวลานะพี่เนื่องจากมันมีวันหมดอายุ ยิ่งวันหมดอายุเหลือน้อยเท่าไรก็ขายยากมากขึ้นไปอีก
ฉะนั้นพี่ต้องรีบขายออกเอาทุนกลับมาให้มากที่สุด กำไรอย่าเพิ่งไปคิดเยอะ
ถ้าลองขายแล้วสินค้าตัวนี้มันไปได้ หมดล็อตนี้พี่จะทำเริ่มใหม่แล้วดันราคาขึ้นก็ย่อมได้
อีกเรื่องคือ ลองมองกลับกันนะ พี่ลองสมมุติว่าตัวเองเป็นคนซื้อ เวลาพี่เห็นสินค้าของพี่แล้วพี่รู้สึกอยากซื้อมั้ย
เพราะอะไรต้องซื้อ มันดีกว่ายี่ห้ออื่น หรือผู้ผลิตเจ้าอื่นยังไง ลองมานั่งในใจคนซื้อแบบไม่เข้าข้างตัวเอง
หรืออีกทางนึงไหนๆก็ไหนๆแล้วลองเข้าไปเสนอสินค้ากับทาง 7/11 ดูค่ะ ถ้าเข้าไปได้ล่ะเยี่ยมเลย
ขั้นตอนการเสนอสินค้าเผื่อวางขายพี่ลองหลังไมค์ไปถาม CC 7/11 ในพันทิปน้องเขาน่าจะแนะนำขั้นตอนได้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สินค้าพี่มีจุดอ่อนหลายอย่าง พี่เริ่มทำสินค้ามีปริมาณเยอะ มีวันหมดอายุ ต้องจ้างเขาทำเกือบทุกขั้นตอน
มันเป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ที่สำคัญคือพี่ยังไม่มีฐานลูกค้าเลยมันจะลำบากมาก
ถ้าเป็นหนูคงลงทุนต่อ พอได้สินค้ามาแล้ว ถ่ายรูปสินค้าหลายๆแบบ สวยๆ ชัดๆ คิดคอนเทนต์ที่จะเขียนให้กระชับ น่าสนใจ
อ่านแล้วได้ใจความ ไม่เวิ่นเว้อ วางแผนสร้างเพจ จากนั้นซื้อโฆษณาอัดในเเฟสบุ๊ค
ส่วนราคาขายน่าเป็นราคาทุน+กำไรน้อยๆ เพราะต้องการระบายสินค้าออกมาเป็นเงินคืนกลับมาให้ได้มากที่สุด ต้องแข่งกับเวลานะพี่เนื่องจากมันมีวันหมดอายุ ยิ่งวันหมดอายุเหลือน้อยเท่าไรก็ขายยากมากขึ้นไปอีก
ฉะนั้นพี่ต้องรีบขายออกเอาทุนกลับมาให้มากที่สุด กำไรอย่าเพิ่งไปคิดเยอะ
ถ้าลองขายแล้วสินค้าตัวนี้มันไปได้ หมดล็อตนี้พี่จะทำเริ่มใหม่แล้วดันราคาขึ้นก็ย่อมได้
อีกเรื่องคือ ลองมองกลับกันนะ พี่ลองสมมุติว่าตัวเองเป็นคนซื้อ เวลาพี่เห็นสินค้าของพี่แล้วพี่รู้สึกอยากซื้อมั้ย
เพราะอะไรต้องซื้อ มันดีกว่ายี่ห้ออื่น หรือผู้ผลิตเจ้าอื่นยังไง ลองมานั่งในใจคนซื้อแบบไม่เข้าข้างตัวเอง
หรืออีกทางนึงไหนๆก็ไหนๆแล้วลองเข้าไปเสนอสินค้ากับทาง 7/11 ดูค่ะ ถ้าเข้าไปได้ล่ะเยี่ยมเลย
ขั้นตอนการเสนอสินค้าเผื่อวางขายพี่ลองหลังไมค์ไปถาม CC 7/11 ในพันทิปน้องเขาน่าจะแนะนำขั้นตอนได้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ควรจะลงทุนต่อมั้ยคะ แม่ฟูลไทม์ลงทุนครั้งแรก ด้วยเงินเก็บที่เก็บมา 4 ปี
เป็นแม่ฟูลไทม์ค่ะ สามีจะให้เงินเดีอน แต่เราก็อยากทำงาน แม่ๆฟูลไทม์ที่ออกจากงานมาน่าจะเข้าใจค่ะ ว่ากลับไปทำงานออฟฟิตมันไม่ได้แล้ว ประสบการณ์ที่หายไปเป็น 4-5 ปี กลับไปเงินเดีอนน้อยนิดเท่าคนจบใหม่ เลยอยากหาธุรกิจทำค่ะ พอตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรก็เลยลองคิดคำนวณเงินทุน ว่าที่เรลมีมันพอมั้ย แล้วเหลีอมั้ย หรีอหมดเกลี้ยงเลย
เงินเก็บ ประมาณ 400000 บาทค่ะ
ลงทุนไป 300000กว่าบาท เหลีอเงินอยู่ประมาณ 50000 ค่ะ คอนนี้ (ใช้สอยอย่างอี่นไปด้วยค่ะ )
ใช้เวลาปีกว่า ไหนจะขอ อย. ขอข้อมูลโภชนาการ ขออะไรต่างๆ รอวัตถุดิบ ตกลงเรี่องแพคเกจจิ้ง กินเวลาไปปีกว่าค่ะ
ตอนนี้ของออกมาล็อตแรก งงมึนหนักมาก ตอนแรกที่คิดไว้ปีที่แล้ว กะจะขายในเนต ตอนนี้งงมากค่ะ ว่าคิดได้ยังไง
มันขายยากมาก ไหนจะต้องโฆษณา ให้คนรัวิว คีอมันแพงมากเลยค่ะ ตังไม่พอค่ะ เครียดมาก เริ่มขายไปเมื่อ2 วันก่อน ยังไม่มีใคนสนใจเลยค่ะ
หรีอมันเร็วไปคะ เครียดมากเลยค่ะ เราไม่ได้ศึกษาการตลาดก่อน จะขายใคร ขายที่ไหน กลุ่มเป้าหมายคือใคร
คีอตอนนั้นคิดแค่อยากมีธุรกิจ อยากออกจาก comfort zone ปกติจะงก เก็บเงินอย่างเดียว อยากเอาเงินมาลงทุนบ้างค่ะ
ไม่อยากเกาะสามี อยากแบ่งเบาภาระ ลูกก็โตแล้ว มีเวลาบ้างค่ะ
คำถามคือ ตอนนี้มีสินค้ารอบรรจุอยู่ค่ะ แต่บรรจุภัณฑ์ไม่พอ จะต้องลงทุนอีก เพราะสินค้ามีวันหมดอายุ (เป็นอาหาร)
จะลงทุนต่อกลัวเงินหมดค่ะ เอาไงดีคะ ลงไปทำให้สุดๆ สักตั้ง หรือหยุดก่อนดีคะ ถ้าลงทุนเพิ่มก็จะเสียค่าแพจเกจจิ้งเพิ่มอีก 40000
ถ้าหากหยุด ก็จะเสียค่าสินค้าที่ผลิตออกมาแล้วไปฟรีๆ ค่ะ
งบมีจำกัดทำอะไรก็เครียด เครียดกับงบที่มี มันบานปลาย มากเลยค่ะ
หากลงทุนต่อ จะเสียค่าแพจเกจจิ้ง 40000 กว่าบาท และค่ามัดจำสินค้าอีก 20000 ค่ะ
แต่หากหยุด พอแล้ว เราจะเสียค่าวัตถุดิบไป 20000 ที่รอบรรจุอยู่ ก็จะเสียฟรี ที่ทำไปทั้งหมด ปีกว่าก็จะศูนย์ ไม่รู้จะเดินหน้าต่อหรีอหยุดดีค่ะ
เพิ่มค่ะ เผื่อคนมาอ่านใหม่จะได้อ่านทีเดียว
ลงทุนไปประมาณ 300000
- มัดจำสินค้า 70000++ (สินค้าที่ใส่ซองไปแล้ว ประมาณ 30000 บาท)
- ซองที่ทำผิดไป 60000
- ค่ากล่อง - 30000
- ค่าขอ อย ค่าออกแบบ โภชนาการ 100000
>>>หากเลิกผลิต ไม่ทำซองใหม่ จะต้องจ่ายค่าสินค้าที่เหลือ 56000 บาท หักจากมัดจำที่เหลือจากการจ่ายครั้งแรก 40000 ก็จะต้องจ่ายอีก 16000 บาท แล้วของก็ทิ้งไปเลย
>>>หากผลิตต่อ จะเสีบค่าผลิตซองใหม่ 30000 รวมค่าบรรจุและมัดจำที่เหลือทั้งหมดเป็น 70000+ แต่ได้ของมา มีอายุ ปีคึ่ง จะต้องขายให้ได้ภายใน 1 ปี
****ลืมบอกว่า หากหยุดไม่ได้เสียแค่ 16000 ค่าของที่เหลือ แต่จะเสียเวลา ไป ๅปีกว่ากับการติดต่อ หาทางจะขาย และผลิตสินค้านี้ และยังเสีบค่าออกแบบ อย อะไรต่างๆ รวม 300000 กว่าบาท ***
แต่ถ้าไปต่อก็เสียอีก 70000 กว่าบาทเพื่อทำให้เสร็จค่ะ TVT
ขอบคุณคำตอบล่วงหน้าค่ะ
เพิ่มเติมค่ะ
ขอบคุณทุกคนมากๆเลยค่ะ น่ารักมากๆ ตอนนี้ตัดสินใจลุยต่อนะคะ ไม่อยากคาใจค่ะ ลงทุนไปแล้วเสียดายด้วยค่ะ หากไม่ประสบความสำเร็จก็ถือว่าได้ลองทำ หากทำอะไรต่อไปจะได้รอบคอบ คิดให้มากกว่านี้นะคะ
ขอให้ทฺกคนประสบความสำเร็จถ้าคิดจะทำอะไรนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ