[CR] รีวิวเที่ยว Ireland ดินแดนแห่งดอกไม้สีสะท้อนแสงและก้อนหินสีเขียวปุกปุย

ขอตั้งชื่อกระทู้ว่า ไอร์แลนด์ ดินแดนดอกไม้สีสะท้อนแสง เพราะดอกไม้เค้าสีสดใสจริงๆ ตัดกับ Background ของสิ่งแวดล้อมที่นี่ ที่มักจะออกแนวทึมๆ หม่นๆเก่าๆ โดยเฉพาะท้องฟ้าที่ครึ้มตลอดเลยค่ะ 

ในขณะที่ยุโรปส่วนใหญ่ร้อนระอุในเดือนกรกฏาคม ที่ไอร์แลนด์อากาศกำลังดีค่ะ เป็นหน้าร้อนของเค้า แต่อากาศอยู่ประมาณ 18-20 องศา ลมพัดมาทีนี่คือหนาวมาก แน่นอนว่าประเทศนี้ฝนตกได้ตลอดทั้งปี ตกวันเว้นวัน นักท่องเที่ยวอย่างเราก็ต้องทำใจอย่างเดียว ไม่แนะนำให้วางแผนการเที่ยวไว้แน่นๆเพราะยากจะเป็นไปได้ตามแผน ออกตัวก่อนว่าภาพถ่ายด้วยกล้องมือถือธรรมดา เร่งๆรีบๆบ้าง ไม่เน้นภาพสวยนะคะกระทู้เรา 

......และก้อนหินสีเขียวปุกปุย คือภาพก้อนหินและต้นไม้ที่ถูกมอสปกคลุมจนดูเหมือนขนนิ่มๆที่คุณจะได้เห็นทั่วไปในพื้นที่ป่าในไอร์แลนด์ คาดว่าเกิดจากสภาพอากาศที่เย็นชื้นมากตลอดทั้งปี

                  ไอร์แลนด์คงไม่ใช่ Destination หลักของคนไทยหลายๆคน รวมถึงเราด้วย ไม่เคยคิดจะไปมาก่อนเลย แต่ทริปนี้เห็นโปรตั๋วเครื่องบินราคาถูก 22,000 เองค่ะ และถือโอกาสไปเยี่ยมคุณน้าที่อาศัยอยู่ที่ดับลินเสียด้วยเลย แต่ถ้าคาดหวังจะได้เห็นโบสถ์หรือพระราชวังที่อลังการตระการตา เมืองและอาคารสวยงามดั่งในนิยาย ไอร์แลนด์คงไม่ใช่คำตอบค่ะ เดาว่าเพราะไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวยมาก่อน ความหรูหราอลังการงานสร้างจึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมเช่นหลายๆประเทศในยุโรป  แต่ถ้าคุณเที่ยวมาหลายประเทศแล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากเห็นประสาทยุคกลางตั้งตระหง่านตัดกับภูเขาเนินหญ้าสีเขียวอันกว้างใหญ่ อยากสัมผัสเมืองเล็กๆที่ซ่อนความน่ารักไว้ วิวธรรมชาติแปลกตา จังหวะดนตรีที่รื่นเริงและเบียร์ดำอันโด่งดัง  Ireland ก็เป็นประเทศอีกหนึ่งทางเลือกค่ะ นอกจากนี้ คนไอริชขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่เป็นมิตรที่สุดในโลกอีกด้วย 

วางแผนการเดินทาง จากการศึกษาข้อมูลเท่าที่หาได้จากใน Pantip และเว็บไซต์อื่นๆ เราก็วางแผนขับรถเที่ยว ดังนี้

Day 1  เดินทางโดย Qatar Airlines ถึงดับลินเวลา 08.05 in Dublin Airport Terminal 1, Pick up rental car เราตัดสินใจเช่าที่สนามบินเลย สะดวกกว่าที่จะไปรับในเมืองค่ะ เสียเวลาเที่ยว 
           Sightseeing in Dublin - Grafton Shopping Street, Trinity University - Book of Kell, Temple Bar Street, Christ Church Cathedral, Saint Patrick Church, Teeling whiskey or Jameson
Day 2  Sightseeing in Dublin by Hop on Hop Off Bus Tour, EPIC Irish Immigration Museum, Vaults Live, Glasnevin Cemetery, Guinness Store House
Day 3  Morning - Leave Dublin at 08.30 to Rock of Cashel (2 Hrs Drive) + Cahir Castle (30 mins Drive)
            Afternoon - Arrive in Cobh city and visit Titanic Museum (1 hr drive) then 40 min drive to Cork, Check in at Lancaster Lodge
Day 4   Morning - Sightseeing in Cork, The English Market Nano Museum, Elizabeth Fort and Leave Cork at 11.00 to Killarney (1 hr 30 min drive)
            Afternoon - Sightseeing in Killarney National Park, Visit Muckross House and Ladie's view
Day 5   Morning - Depart hotel at 9.30 to Cliff of Moher (2hr40min - 3hr drive)
             Afternoon - Visit Burren Birds of prey (35min drive) and 1hr drive to Galway,
             Evening - Trad on the prom show 20.30-22.30
Day 6    Morning - Sightseeing in Galway
             Afternoon - Drive Back to Dublin (2hr 30 min)
Day 7    Visit Farmleigh house and estate, Newbridge house farm , Westend shopping park
Day 8   วันกลับ เดินทางไปสนามบินตี 5 เพื่อคืนรถก่อน เครื่องออกประมาณ 8 โมงเช้า

การเตรียมเอกสารและการจองต่างๆ
1.เตรียมตัวขอวีซ่า ดูกระทู้ที่เราเขียนไว้ก่อนไปค่ะ https://ppantip.com/topic/39012925
2.ซื้อตั๋วเครื่องบินและประกันการเดินทาง
ก่อนจะขอวีซ่าเราซื้อตั๋วเครื่องบิน ซึ่งทริปนี้เดินทางกับ Qatar Airways ได้ตั๋วมาราคาคนละ 22,000 บาท นับว่าถูกมากทีเดียว หากไม่จำกัดวันเดินทางมาก โปรโมชั่นราคานี้หาได้เรื่อยๆค่ะ เวลาของไฟล์ทก็ดี ออกเดินทางกลางคืน ไปถึงเช้า และ Stopover ที่ Doha เพียง 1-2 ชม.เท่านั้น ยังไม่ทันจะช้อปเสร็จก็ต่อเครื่องแล้ว ปลายปีที่แล้วเราก็ไปยุโรปกับ Qatar ตอนนั้นเครื่องว่างมาก นอนกันสบายเลย แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เครื่องเต็มมาก หรือจะแล้วแต่เดือนที่เดินทางด้วยก็ไม่รู้ค่ะ ส่วนประกันซื้อ MSIG ราคาแค่คนละ 580 เท่านั้นเอง แบบเริ่มต้นอ่ะนะ
3.จองที่พัก
Booking.com เป็นเว็บไซต์ช่วยชีวิตมากเนื่องจากไม่ต้องจ่ายเงินก่อนและยัง Free Cancellation อีกด้วย ที่พักที่ Ireland ราคาสูงค่ะ หากทำเลดีหน่อยจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 พันบาทหรือมากกว่านั้นสำหรับ B&B แต่ถ้าเป็นโรงแรมก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก สำหรับเรา Hostel คงไม่ใช่ทางเลือก
4.จองรถ
มีบางคนบอกว่าจองกับ Irish car rental ถูกสุดแต่ช่วงที่เราไปเราเช็คราคาใน carrental.com ถูกกว่า รถแบบเกียร์ธรรมดาอยู่ที่วันละ 1,000 บาทค่ะ และเราซื้อประกันภัยเพิ่มให้ cover ทุกอย่างไปเลยอีก 3 พันกว่าบาท รวมประมาณหมื่นนิดๆ สำหรับ 7 วัน บริษัท Payless ค่ะ
5.ซื้อ Dublin Day Pass ซึ่งเราซื้อแบบ 2 วัน ผ่าน tripadvisor.com ค่ะ มีแจก code ส่วนลด 10% ด้วย และสามารถพริ้นตั๋วออกมาใช้ได้เลยหรือจะเซฟไว้ในมือถือ ไม่ต้องไปรับให้ยุ่งยาก
6.แลกเงินยูโร ช่วงนี้ค่าเงินตก เป็นสวรรค์ของนักเที่ยวจริงๆ 

ช่วงนี้สนามบินสุวรรณภูมิน่าจะมีเครื่องบินลงเยอะ สังเกตุว่าเครื่องบินจะดีเลย์ตลอดไม่ว่าสายการบินใดหรือจะบินไปไหนก็ตาม ตอนขาไปเราก็เจอเครื่องดีเลย์ไปครึ่งชั่วโมง โชคดีที่ระยะเวลา Transit ที่ Doha ชั่วโมงครึ่ง ไม่งั้นมีลุ้นว่าจะต่อเครื่องไม่ทัน ขอแนะนำว่าอย่าจองตั๋วที่ Transit แค่ 1 ชั่วโมง เพราะมีโอกาสสูงที่คุณจะตกเครื่อง ถ้าตัวไม่ตก กระเป๋าก็อาจตกได้ เราไม่ได้มีรูปในเครื่องบินมาให้ดู ก็ดีงามตามฉบับสายการบินตะวันออกกลาง หนังเยอะ มี Amenity kit แจก แต่อาหารคิดว่าสู้ Emirate ไม่ได้ ไฟล์ทที่เราบินคนเต็มลำ หมดหวังจะได้นอนเหยียดยาว

และแล้วก็มาถึงแล้ววววว สนามบินดับลิน (เป็นสนามบินเล็กๆเก่าๆอย่าหวังอะไรทั้งสิ้น 55) ตม.ก็สัมภาษณ์ละเอียดมาก คิวเลยยาว สอบถามอะไรแต่ละคนยาวนานเหลือเกิน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มาคนเดียวค่ะจะคุยนานเป็นพิเศษ แต่ตอนเราเข้าไปก็ถามว่าจะไปเที่ยวเมืองไหนบ้าง มาครั้งแรกเหรอ ไม่ได้ขอดูเอกสารอะไรก็แสตมป์ให้ผ่าน

ระหว่างเดินออกมาจุดรับกระเป๋า จอใหญ่สวยดีค่ะ แสดงภาพธรรมชาติอันสวยงามของไอร์แลนด์ 

ใกล้กับประตูทางออกสนามบินจะมีบูธเช่ารถหลายเจ้าแบบนี้ เราก็คิดว่าต้องยื่นใบจองที่นี่ แต่พอเอาใบจองไปให้ เค้าก็บอกว่าให้ไปที่รับรถได้เลย โดยไปขึ้นรถบัสด้านนอกไปศูนย์เช่ารถ ออกประตูไปเลี้ยวขวานะคะ

ตรงข้ามกับบูธรถเช่าด้นบนมีบูธนี้ค่ะ ไปหยิบแผนที่เที่ยวดับลินฟรีได้

ออกประตูมาให้มองไปที่เกาะกลางถนนขวามือ จะเห็นจุดรอรถบัสไปศูนย์รถเช่า เราก็ดูรถบัสหรือรถตู้คันที่มีป้ายบริษัทที่เราเช่ารถค่ะ


เราเช่ากับ Payless จึงขึ้นคันนี้

นั่งรถไปประมาณ 10 นาทีค่ะ ก็จะไปจอดใกล้ๆออฟฟิตแบบนี้ 

เข้าไปด้านใน ติดต่อเคาน์เตอร์ไหนก็ได้ ต่อแถวมีแถวเดียว ตอนแรกก็งงๆว่าแถวไหนสำหรับเคาน์เตอร์ไหน แสดงว่าบริษัทเดียวกันหมดเลย เพราะเราจอง Payless แต่ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ Avis ได้ เจ้าหน้าที่จะขอข้อมูลที่อยู่ เบอร์โทร อีเมลเพิ่มเติม มีการรูดบัตรเครดิตค่าประกันน้ำมัน ประมาณ 100 กว่ายูโร อันนี้คงขึ้นกับจำนวนวันที่เช่า และค่าประกันรถ 1,500 ยูโรค่ะ ให้เซ็นสัญญา แล้วก็จะให้ใบปลิววิธีการจ่ายค่าทางด่วน กุญแจรถ แจ้งเลขที่จอดรถบนลาน เดินไปเอารถเองเลย

รถที่เราได้คือคันนี้ ยี่ห้อ Dacia ค่ะ ไม่เคยได้ยินมาก่อน รถเล็กๆประมาณแจ๊สได้ กว่าจะยัดกระเป๋าเดินทางได้ก็แทบแย่ โชคดีที่ท้ายใหญ่กว่าแจ้สอยู่ค่ะ อันนี้ไม่ใช่ภาพตรงลานจอดนะ ขับมาแล้วพอดีเพิ่งมาถ่ายค่ะ

จากนั้นขับเข้าที่พักค่ะ ซึ่งเราจองเป็นคอนโด 2 ห้องนอน ชื่อ Leon Residence พักได้มากสุดถึง 6 คน เราได้ราคาถือว่าถูกเพราะช่วงนั้นอาคารภายนอกมีการปรับปรุงอยู่ คืนละ 108 ยูโร ค่าทำความสะอาด 50 ยูโร คิดครั้งเดียว ทำเลดีมาก Foley Street สามารถจอดรถได้บนถนนใกล้ๆฟรี 

ครัวใหญ่มาก ซื้ออาหารจากซุปเปอร์มาทานได้สบายค่ะ ใกล้ๆก็มีหลายซุปเปอร์ แต่ที่เข้าท่าหน่อยจะชื่อ Supervalu

สิ่งที่ต้องเตือนคือ ขนาดเตียงของประเทศนี้จะเล็กกว่าปกติ มาตรฐานคือเล็กกว่า 5 ฟุตค่ะ ใครนอนดิ้น นอนกรนก็หลับยากหน่อย แต่ห้องนี้มีโซฟาด้านนอกกางมานอนได้อีก


สำหรับการเที่ยวในดับลิน สามารถเดินไปได้เกือบทั่ว แต่ถ้าจะซื้อบัตรรถบัส เราแนะนำว่าซื้อ 1 Day Pass ราคา EUR 10 ไปเลยจะสะดวกกว่า
(https://about.leapcard.ie) เพราะการซื้อตั๋วกับคนขับต้องบอกจุดที่จะลงแล้วจ่ายตามระยะทางค่ะ ซึ่งไม่รับแบ็งค์และไม่ทอนเงินอีกต่างหาก หรือใครจะสะดวกซื้อบัตรแบบเติมเงินก็ได้เช่นกัน โดยบัตร 1 ใบใช้กี่คนก็ได้ บอกจำนวนคนกับคนขับได้เลย (Dublin pass ไม่รวมรสบัส แต่รวม Hop on Hop Off 1 วัน)

เดินเล่น Henry Street ถนนช้อปปิ้ง คนเดินเยอะมาก ดูปฏิมากรรมแท่งแหลมนี่แล้วก็เสียวดี ไม่รู้คิดได้ไง 555

สำหรับสภาพอาคารบ้านเรือนโดยรวม วิจารณ์ตรงๆก็ไม่ได้มีความสวยงามพิเศษเท่าไหร่ เทียบเมืองแบบ ปารีส บูดาเปสต์ เวียนนา ฯลฯ ไม่ติดค่ะ
   
เค้าว่าคนไอริชภูมิใจกับรูปปั้นของเค้ามาก มีกระจายไปทั่วเมือง ส่วนเจ้านกตัวแสบก็จองที่บนหัวทุกรูปปั้นเลยทีเดียว ทำรูปปั้นหัวขาวอีกด้วย


ดูนังนกมันช่างมีความสุข


อาคาร General Post Office ที่เค้าว่าเป็นอาคารสวยที่สุดแห่งหนึ่งของดับลิน ....นะ แอบมองบนนิสสสนุง 

ไปเที่ยวต่อกันที่ Dublin Castle ค่ะ .....เรียกปราสาท....ก็เล็กไปนะถามเรา ไม่ได้มีอะไรน่าว๊าววว แต่ Dublin Pass เข้าฟรีก็เข้าไปเถ้อะ เอาตั๋วไปให้เค้าสแกนตรงจุดขายตั๋วก่อนเข้านะคะ 
  [img]https://f.ptcdn.info/308/065/000/pvlsbg2cfS4R14HiQcw-o.
ชื่อสินค้า:   เที่ยวไอร์แลนด์ Ireland (Dublin - Cork - Killarney - Galway)
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่