ทริปนี้จะเป็นอีกทริปที่เราจะพาทุกคนมุ่งลงใต้ สู่บ้านเกิดของเรา คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทริปนี้เราจะพาไปเที่ยวเมืองแห่งขุนเขาที่สุดแสนจะเขียวชอุ่ม ได้แก่ อำเภอคีรีรัฐนิคมและอำเภอบ้านตาขุน มาดูกันว่านอกเหนือจากเขื่อนรัชชประภา หรือที่รู้จักกันในนาม
กุ้ยหลินเมืองไทยแล้ว ละแวกนี้มีอะไรให้เราท่องเที่ยวกันบ้าง มาดูไปพร้อมๆกันเลย
.
.
.
สถานที่แรกที่เราไปกัน คือ สะพานแขวนเขาพัง ภูเขาเขารูปหัวใจ สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งในไฮไลท์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สะพานแขวนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่หลังวัดเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน อยู่ใกล้ ๆ กันกับทางเข้าเขื่อนรัชชประภา
สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามคลองพระแสง อำนวยความสะดวกแก่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งคลองในการขนพืชผลทางการเกษตร
ระหว่างทางมุ่งตรงภูเขารูปหัวใจหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเขาเทพพิทักษ์
บริเวณสะพานแขวนเขาพังบางช่วงน้ำก็จะแห้ง นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเดินบริเวณแก่งหินหรือเล่นน้ำบริเวณใต้สะพานได้ และมีบางช่วงที่ทางเขื่อนจะปล่อยน้ำลงมาทำให้ทิวทัศน์สวยงามยิ่งขึ้น แต่ช่วงที่ทางเขื่อนปล่อยน้ำไม่ควรลงเล่นน้ำเพราะน้ำค่อนข้างจะไหลแรง
ตอนที่เราเดินข้ามไปยังฝั่งชุมชนบ้านเขาเทพพิทักษ์ น้ำแห้ง ทำให้มองเห็นแก่งหินต่างๆได้อย่างชัดเจน
เมื่อเดินข้ามมายังฝั่งชุมชนบ้านเขาเทพพิทักษ์แล้ว จะเป็นสวนผลไม้ต่างๆของชาวบ้าน เช่นทุเรียน เงาะ มังคุด เป็นต้น
ในหน้าทุเรียนสุกจะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวรับประทานทุเรียนสด ๆ จากสวน โดยจะมีทุเรียนคลองแสงซึ่งเป็นทุเรียนบ้านที่ขึ้นชื่อมีอายุนับ 100 ปี ให้ได้รับประทานกันด้วย
เราไปมาตอนช่วงกลางเดือนกรกฎาที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหน้าผลผลิตของทุเรียนคลองแสงพอดี พอเดินลงสะพานมาปุ๊ป พี่คนนี้เรียกให้เรากินทุเรียนจากสวนของเขา ให้กินฟรีไม่ต้องซื้อของเขาก็ได้ ใจดีมาก
ทุเรียนที่พี่เขาให้มา
เดินเข้าไปอีกนิด จะเป็นส่วนของตลาดที่จะขายสินค้า OTOP ของที่นี่ เรียกกันว่า หลาดคลองแสง
ภายในตลาดมีการทำหลามข้าวปลายอก ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านสมัยก่อน เป็นเมนูจากป่าของคนสุราษฎร์ ที่แนะนำให้ทุกคนที่มาที่นี่ต้องมาลองกัน
เดินเล่นฝั่งชุมชน ชิมผลไม้และอาหารพื้นเมืองกันเสร็จแล้ว เราก็เดินข้ามกลับมาฝั่งวัดเขาพัง ตั้งใจจะลงไปถ่ายรูปกับแก่งหินด้านล่างสะพาน แต่พอเดินมาถึงฝั่งนี้ ทางเขื่อนปล่อยน้ำลงมาพอดี ทำให้เราได้แต่ถ่ายรูปกันอยู่ริมฝั่งเท่านั้น
ก่อนจะกลับซูมกันชัดๆกันอีกสักรูปกับภูเขาหัวใจ (เขาเทพพิทักษ์)
ต้องบอกก่อนเลยว่าถนนที่เชื่อมต่อตั้งแต่อำเภอคีรีรัฐนิคมไปจนถึงอำเภอบ้านตาขุน มีทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงามมาก โอบล้อมไปด้วยภูเขาเกือบตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งถ้าขับเลยไปถึงอำเภอพนมจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมาก
มาต่อกันที่สถานที่ต่อไปของเรา คือ ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ต้นน้ำธรรมชาติ เป็นลำธารขนาดเล็กที่น้ำใสมาก
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ตั้งอยู่ที่บ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม เดินทางเข้ามาจากถนนหลักจากกิโลเมตรที่ 44 เข้ามาประมาณ 10 กิโล เข้ามาสักพักจะเจอต้นไม้ใหญ่อยู่กลางถนนแบบนี้ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ
แนะนำสำหรับใครที่จะมาเที่ยวที่ ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ให้มาช่วงวันธรรมดา หรือ มาตั้งแต่เช้า คนจะน้อย น้ำจะใสมาก ที่นี่เปิดให้ท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 9 โมง
ใสจนเห็นปลากันเลย
ที่ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เล่นน้ำและส่วนของการภายเรือ
ส่วนแรก คือ ส่วนสระที่ให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำ เช้าๆคนน้อยน้ำยังใสอยู่
ส่วนที่สองคือส่วนของการพายเรือชมธรรมชาติของป่าไม้และแหล่งน้ำแห่งนี้ ระยะทางประมาณ 1 กิโลครึ่ง จะเลือกพายเองก็ได้ราคาค่าบริการ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท หรือใครที่ไม่อยากพายเองทางป่าต้นน้ำก็มีมัคคุเทศก์ตัวน้อยพายให้โดยจ่ายเพิ่มอีกลำละ 50 บาท เรือแต่ละลำนั่งได้ประมาณ 3 คน
เริ่มต้นการพายเรือของเรากันเลย
ธรรมชาติตลอดการเส้นทางของการภายเรือร่มรื่นมาก น้ำใสเห็นพื้นดินด้านล่างและที่สำคัญน้ำไม่ลึกไม่จมแน่นอน
ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์
ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์จนเราพายเรือมาเจอเข้ากับลูกงู!!!
พายกันมาสักพักจนถึงจุดชมวิวหน้าผาให้เราได้แวะถ่ายรูปกัน
จะพายเดี่ยวพายคู่ พายทั้งครอบครัว ก็ได้หมดทั้งนั้นจ้า แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหนเลย
เราพายเรือไปจนถึงจุดชมวิวหน้าผา แล้วพายกลับ เพราะเราต้องไปน้ำตกกันต่อ
น้ำตกที่ว่าอยู่ห่างจากป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดไปเพียง 3 กิโลเมตร น้ำตกนั้นก็คือ น้ำตกธารทอง
น้ำตกธารทอง เป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่เล็กไปไม่ใหญ่ไป ตั้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน เป็นต้นน้ำไหลเชื่อมต่อไปยังป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด น้ำตกไหลตลอดทั้งปี
ตอนเราไป ไม่มีคนเลยอาจจะเป็นเพราะฝนตก เราเลยไม่ได้ข้ามไปจนถึงฝั่งนู้นเพราะค่อนข้างจะลื่น
บรรยากาศสวยงามร่มรื่นคล้ายน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี
ออกจากน้ำตกธารทองกันมา มาตามทางในหมู่บ้านทำเนียบกันเรื่อยๆ ฟ้าหลังฝนมีหมอกสวยดี แวะถ่ายสักรูป
เราจะพาไปต่อกันที่ หินพัด ก้อนหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ลักษณะนั้นราวกับมีใครไปปั้นซะงั้น
เส้นทางมุ่งหน้าสู่บ้านยวนสาว ที่ตั้งของหินพัด
เมื่อมาถึงให้จอดรถไว้ที่ลานจอดทางขึ้นไปยังหินพัดเป็นเส้นทางออฟโรดลาดชัน จะมีรถของชาวบ้านให้บริการ ราคาอยู่ที่ประมาณ 200-300บาท นั่งได้ 10 คน
ด้านบนหินพัดจะมองเห็นทิวทัศน์ของทั้งอำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอบ้านตาขุน หากมาช่วงหลังฝนตกใหม่ๆ หรือช่วงเช้าจะมีทะเลหมอกด้วย
อีกทั้งยังสามารถมาชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ที่หินพัดแห่งนี้
หลังจากเที่ยวกันมาอย่างจุใจแล้ว ไปทำบุญกันบ้างดีกว่า ที่วัดถ้ำสิงขร ถ้ามาจากหินพัดให้ใช้เส้นทางหมายเลข 4247 ตรงสู่วัดถ้ำสิงขรได้เลย ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร
แต่ระหว่างทางไปวัดถ้ำสิงขร เราได้เจอกับป้ายคลองน้ำร้อน เลยแวะกันสักหน่อย
คลองน้ำร้อน เป็นเหมือนบ่อน้ำพุร้อนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ริมถนนเลย สามารถมาแช่ตัว คลายอาการปวดเมื่อยตามร่างกายกันได้ ที่นี่ยังไม่มีผู้คนรู้จักมากนัก นอกจากชาวบ้านละแวกนั้น
เดี๋ยวมาต่อกันที่คอมเม้นด้านล้างกันเลยนะ
⬇
⬇
⬇
[CR] " คีรีรัฐนิคม-บ้านตาขุน เมืองแห่งขุนเขา จ.สุราษฎร์ธานี "
กุ้ยหลินเมืองไทยแล้ว ละแวกนี้มีอะไรให้เราท่องเที่ยวกันบ้าง มาดูไปพร้อมๆกันเลย
.
.
.
สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามคลองพระแสง อำนวยความสะดวกแก่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งคลองในการขนพืชผลทางการเกษตร
ส่วนแรก คือ ส่วนสระที่ให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำ เช้าๆคนน้อยน้ำยังใสอยู่
น้ำตกที่ว่าอยู่ห่างจากป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดไปเพียง 3 กิโลเมตร น้ำตกนั้นก็คือ น้ำตกธารทอง
แต่ระหว่างทางไปวัดถ้ำสิงขร เราได้เจอกับป้ายคลองน้ำร้อน เลยแวะกันสักหน่อย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้